Girl, I’ll Teach You Cultivation – ฉันจะสอนเธอบ่มเพาะเอง - ตอนที่ 249
บทที่ 249
มาถึงตามกล่าว
หยิงน้อยไม่เชื่อคำพูดของเจียงซิ่ว แม้ว่าความปลอดภัยตามสาธารณะของอโกลล์นั้นจะไม่ดีเท่าจีน เธอก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นอันตรายถึงแบบนั้นได้ เธอรู้สึกว่าเขากำลังพยายามไล่เธอออกไปซะมากกว่า หลังจากทั้งหมดแล้ว รูปลักษณ์ของเธอ ก็ไม่สามารถเทียบกับหลงหยิงชิงที่มากับเขาได้ “อย่าโกหก โอเคไหม? ไปสนุกด้วยกันเถอะ เรายังมีที่สำหรับทำบาร์บีคิวด้วย…”
เจียงซิ่วเริ่มเดินไปทางภูเขาพุ้มเลเบลล์พร้อมกับหลงหยิงชิง ออกไปไกลเท่าที่ระยะสายตาเห็น สีเขียวชอุ่มปกคลุมเทือกเขา ซากปรักหักพังของปราสาทที่พังทลายสามารถมองเห็นได้จากยอดเขา ตามหนังสือประวัติศาสตร์ของอโกลล์ สงครามแตกหักสองครั้งได้เกิดขึ้นที่นี่ในอดีต และปราสาทนี้ก็ถูกทำลายไปในระหว่างนั้น มันให้กลิ่นอายของประวัติศาสตร์ที่แน่หนา
ผู้ชายกล่าว “หยิงน้อย ปล่อยไปเถอะ ทำไมเธอถึงต้องพยายามเข้าใกล้เขา ทั้งๆ ที่เขาไม่สนใจเธอ?”
“นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า ‘เท่ห์’ นายคงจะไม่เข้าใจหรอก” หยิงน้อยตอบ
“เขาก็ไม่ใช่แค่ว่าเขาแค่หล่อนิดหน่อย? ใช่คำนั้นหมายความว่าไง? ปัจจุบันนี้ พื้นหลังและสินทรัพย์มีความสำคัญมากกว่า ครอบครัวของฉันมีฟาร์มทำไวน์ในอโกลล์ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 100 ล้านตามราคาตลาด”
“พ่อแม่ของฉันสนใจเงินของนาย แต่ฉันไม่สนใจ ฉันชอบผู้ชายหล่อๆ ความหล่อคือความยุติธรรม! เข้าใจ?”
ผู้ชายพึมพำ “ฉันผิดที่ฉันเป็นคนน่าเกลียดสินะ”
สายตาของหยิงน้อยมองตามภาพเงาของเจียงซิ่วซึ่งอยู่ระยะที่ห่างออกไป เธอไม่สามารถทำอย่างไรได้ ได้แต่อุทานออกมาอย่างชื่นชม “สมบูรณ์แบบเกินไปแล้ว เขาเป็นเหมือนเทพที่สมบูรณ์แบบ และหลุดออกมาจากตำนาน”
“หยิงน้อย เธอยังเด็กเกินไปและสับสนกับสิ่งเร้าภายนอกเหล่านี้ ของเหล่านี้จะหายไปเมื่อตอนพวกเขาแก่ จะมองผู้คน ต้องมองไปที่ความสามารถของพวกเขา มันจะได้ไม่หายไปตามอายุ”
“ฉันมองไอสิ่งที่เรียกว่าความสามารถเมื่อตอนที่ฉันอายุ 40 ปีก็ได้”
“เธอคงไม่ได้วางแผนที่จะคุยกับไอดอลชายวัยรุ่น เมื่อตอนที่เธออายุ 40 ใช่มั้ย?”
หยิงน้อยไม่ตอบกลับ เนื่องจากเธอรู้สึกว่ามีโอกาสสูงที่จะเกิดขึ้น
ความหล่อคือทุกสิ่ง!
หยิงน้อยกล่าว “เจียนหรง ทำไมนายไม่ยอมแพ้ซักที? ฉันไม่ชอบนาย แม้ว่านายกับฉันจะมาอยู่ด้วยกัน ฉันก็จะชอบนายที่เงิน ไม่ใช่ตัวนาย”
ผู้ชายพยักหน้าอย่างตื่นเต้น “แค่ชอบเงินของฉันก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องชอบความสามารถของฉันก็ได้!”
หยิงน้อยกรอกตาใส่เขา จากนั้นก็ไม่สนใจเขาอีก รถของพวกเขาขับเข้าไปในเมืองอย่างช้าๆ และเมื่อพวกเขาไปถึงที่นั่น พวกเขาเกือบจะกลายเป็นโง่เนื่องจากความตกใจ เทปคำเตือนสีแดงถูกติดอยู่ในหลายพื้นที่ และมีเจ้าหน้าที่ติดอาวุธถือปืนยืนอยู่ทุกที่ มีรถยนต์มากมายและผู้คนก็มากกว่าจำนวนรถ ยิ่งไปกว่านั้น รถยนต์ทุกคันก็ยังมีราคาแพง ออฟโรส เบนซ์ เอสยูวี ของพวกเขาไม่สามารถเปรียบเทียบกับพวกมันได้เลย
เมื่อมีข่าวลือว่าเจียงโหลวเซี่ยกำลังจะไปยังประตูสวรรค์แพร่กระจายออกไป มันก็ไม่ใช่แค่ตระกูลลีจากเกาหลีที่ต้องรีบไปเพราะเขาเกลียดเขา แต่นักสู้จากประเทศจีนและญี่ปุ่นเองก็เช่นกัน ผู้เชี่ยวชาญชาวยุโรป และผู้คนจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฮ่องกง และไต้หวันเองก็รีบเร่งเช่นกัน
เรื่องนี้ค่อนข้างจริงจัง ประตูสวรรค์ไม่เคยได้รับความอับอายเช่นนี้มาก่อน และเซียนที่รวบรวมมามีจำนวนไม่น้อยกว่า 50 คน ปัจจุบันมีผู้ชายรวมตัวกันกว่า 10,000 คนในเมืองเล็กๆ แห่งนี้
กระทรวงกลาโหมของอโกลล์เคร่งเครียดและส่งกองกำลังทั้งหมดที่มีมาโดยที่มีผู้เชี่ยวชาญเป็นคนนำ
“กะ เกิดอะไรขึ้น?”
หยิงน้อยตกตะลึงจนถึงที่สุดและไม่สามารถทำอย่างไรได้ ได้แต่นึกย้อนไปยังคำพูดที่เจียงซิ่วกล่าวออกมา ผู้ชายก็มึนงงเช่นกัน “ฉันมาที่นี่หลายครั้ง แต่ไม่เคยเห็นฉากแบบนี้เลย”
เธอกล่าว“บางทีคนจากรัฐบาลที่มีฐานันดรศักดิ์ อาจะฃจะมาที่นี่เพื่อสนุก?”
ทุกสิ่งที่ผู้ชายเห็นก็คือรถยนต์ราคาแพง รวมถึงบุคคลสำคัญจำนวนมากที่ถูกคุ้มกันโดยบอดี้การ์ดในชุดสูทสีดำ “โอ้อวดกันดีจริงๆ”
หยิงน้อยแสดงความคิดเห็น “บางทีอโกลล์อาจจะอยู่ในภาวะสงคราม”
มีคนเดินเข้ามาและพูดภาษาอังกฤษกับพวกเขา “พวกคุณเป็นนธรรมดา?”
“คุณไม่ได้เป็นรึไง?” หยิงน้อยตอบกลับ
ชาวต่างชาติดูยุ่มยามใจ “เอาหล่ะ ดูเหมือนคุณจะไม่เข้าใจว่าอะไรกำลังจะเกิดอะไรขึ้น การต่อสู้ระหว่างเทพเจ้าจะเกิดขึ้นที่นี่ หากคุณเป็นแค่คนธรรมดา มันคงเป็นการดีที่สุดสำหรับคุณที่จะออกจากสถานที่นี้ไปเร็วๆ”
หยิงน้อยเกือบหัวเราะ “คุณพูดมันยังกะว่าเป็นเรื่องจริงแนะ การต่อสู้ระหว่างเทพ?”
“สงครามเทพเจ้า?”
ชายชาวต่างชาติตอบ “ก็คงเป็นแบบนั้น สงครามเทพเจ้าเป็นการเผชิญหน้าระหว่างสองฝ่าย แต่ในเวลานี้ คือหนึ่งเจออีกพวกหนึ่ง” ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง
“คุณกำลังพูดความจริงเหรอ?” หยิงน้อยถามเขา
เจียนหรงกล่าว “คุณต้องล้อเล่นแน่เลย ใช่มั้ย!”
ชาวต่างชาติเพียงแค่ยิ้มและไม่ตอบกลับ
“พวกเขาทำอะไรที่นั่น?”
เครื่องจักรจำนวนมากถูกเคลื่อนย้าย และยังมีรถตู้สำหรับถ่ายทำอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีโดรนสายลับถูกบินขึ้นท้องฟ้าด้วย ชาวต่างชาติอธิบาย “เป็นการถ่ายทำสงคราม”
สิ่งที่ถ่ายทำจะกลายเป็นความลับสูงสุดในแต่ละประเทศ
หยิงน้อยไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย “ฉันจะดูด้วยได้ไหม?”
ชาวต่างชาติพึมพำกับตัวเอง เห็นได้ชัดว่าเธออยากรู้อยากเห็นและจะไม่กลับลงไป และเขาเองก็ยังต้องการโชว์ออฟเล็กน้อยด้วยเหมือนกัน ตั้งแต่ที่อีเว้นท์หลักยังไม่เริ่ม พวกเธอก็ยังจะไม่เห็นอะไร ดังนั้นเขาจึงปล่อยให้เธอตามเขามา อย่างไรก็ตาม หลังจากหยิงน้อยเห็นภาพบนจอมอนิเตอร์ เธอตกตะลึง ผู้ชายและผู้หญิงที่กำลังควบม้าตัวใหญ่ ม้าที่แข็งแรงนั้นสามารถข้ามภูเขาหญ้าที่เป็นหลุมเป็นบ่อได้ “ไม่จริงน่า…”
“เรารู้จักเขา!”
ชาวต่างชาติหัวเราะ “คุณสองคนต้องล้อเล่นแน่ ถูกไหม? คุณรู้จักเจียงโหลวเซี่ย?”
หยิงน้อยกล่าว “เจียงโหลวเซี่ย เพ้ย! เจ้าหน้าหล่อนั่นให้ชื่อปลอมกับฉัน เรารู้จักเขาจริงๆ พวกเขามาที่นี่ด้วยรถของเรา หญิงสาวที่ติดตามมาเขาถูกเรียกว่าหลง…”
สายตาของชาวต่างชาติกลายเป็นเคร่งขรึม “หลงหยิงชิง!”
“ใช่ หลงหยิงชิง!”
การแสดงออกของชาวต่างชาติเปลี่ยนไป ขณะที่เขาเงยหน้าขึ้นอย่างตื่นเต้น “พระเจ้า! พวกคุณรู้จักเจียงโหลวเซี่ยจริงๆ เขามาที่นี่ด้วยรถของเธอ?”
“เขาเป็นคนที่สุดยอดมาก?”
ชาวต่างชาติเกือบจะล้มลงกับพื้นเมื่อได้ยินคำถามนี้ “คุณรู้รึเปล่าว่าใครเป็นคนเริ่มการต่อสู้ครั้งนี้? มันเป็นเขา ผู้ชายคนนั้น เซียนหมายเลข 1 ของจีน!”
“เซียน?”
บนหน้าจอ เจียงซิ่วรู้สึกได้ว่าบางคนกำลังสอดแนมเขา สายตาของเขากวาดไปทั่วทุกหนทุกแห่งและค้นพบโดนรเล็กๆ ที่กำลังบินอยู่บนท้องฟ้า เขาโบกมือ ส่งคลื่นพลังงานที่มองไม่เห็นไปยังมัน ทำลายโดรนสายลับ
หลังจากที่เจียงซิ่วและหลงหยิงชิงเข้ามาในเมือง พวกเขาก็ค้นพบผู้คนมากมายรวมตัวกันที่นี่ มันไม่สามารถขับรถเข้าไปในภูเขาได้ และหลงหยิงชิงเองก็ยังบอกเขาว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ยังอยู่ค่อนข้างไกล ครั้งสุดท้าย เธอไปที่นั่นด้วยม้า ดังนั้นทั้งสองจึงไปที่ฟาร์มปศุสัตว์เพื่อเช่าม้า
หลงหยิงชิงแสดงความเห็น “การใช้โดรนสายลับเพื่ออัดภาพ มันดูไร้เดียงสามาก มันไม่สามารถบินไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ และแม้ว่ามันจะทำได้ มันก็จะออกนอกระยะการใช้งาน”
ถ้าจะอัดภาพความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวก็คือใช้ดาวเทียมที่อยู่ในอวกาศ
ในความเป็นจริง การอัดภาพโดยใช้ดาวเทียมอยู่ไกลเกินกว่าความรู้ของมนุษย์
“นายจะเข้าไปจริงๆ หรอ?”
“แน่นอน อย่าถามคำถามโง่เง่าแบบนี้อีก”
“มันไม่ได้โง่นะ นายรู้รึเปล่าว่ามีผู้เชี่ยวชาญกี่คนอยู่ด้านใน? มันมี…” เธอหยุดพูด เธอรู้ความแข็งแกร่งของประตูสวรรค์ดี แต่ตระกูลหลงก็เป็นหนึ่งในสาขาของประตูสวรรค์ หากเธอเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขา ก็เท่ากับว่าเธอกำลังทรยศตระกูลหลง “มีเซียนมากกว่า 20 คน!”
แต่เธอก็ยังเปิดเผยมัน!
“นานจะไม่ลดทิฐิลงจนกว่าจะสะสางเรื่องต่างๆ ได้? ฉันได้ยินมาว่าประเทศจีนเป็นพื้นที่ต้องห้ามสำหรับประตูสวรรค์ พวกเขาไม่กล้าเข้าไปในประเทศจีนตามที่ตัวเองต้องการ ตระกูลหลงของฉันเป็นข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียว เนื่องจากเราสนับสนุนประเทศมามากมาย แม้ถึงมันจะเป็นแบบนั้น เซียนจากตระกูลหลงของฉันก็ไม่ได้อยู่ที่จีนและใช้เวลาส่วนมากอยู่ที่ยุโรปแห่งนี้”
“นายยังกลับบ้านได้!”
“ไม่จำเป็นต้องไปสู้กับพวกเขา”
หลงหยิงชิงควบม้าให้ไล่ตามเจียงซิ่วไป ในขณะที่เธอใช้พลังทั้งหมดของตัวเองเพื่อชักชวนเขา
ม้าของเจียงซิ่วนั้นเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ ขาของมันเต็มไปด้วยพลัง และครองครองกลิ่นอายซึ่งดูเหมือนราวกับว่ามันมีความปราถนาที่จะไปเหยียบย่ำดวงอาทิตย์ เขาตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา “มันสายเกินไป ฉันมาถึงที่นี่แล้ว”
“พวกเขาจะไม่ปล่อยให้ฉันไป!”
เช่นเดียวกับที่เขาพูดคำเหล่านี้ รถออฟโรดก็ขับออกมาด้านนอก เนื่องจากว่าเทือกเขาทั้งหมดนั้นเต็มไปด้วยเนินขึ้นลง มันจึงไม่ชัดเจนว่ารถออฟโรดคันนี้ถูกนำมาที่นี่ได้อย่างไร
ชายเกาหลีสวมสูทสีดำและการแสดงออกที่น่ากลัวของใบหน้าของเขาสามารถเห็นได้จากภายในรถ “หลงหยิงชิง เธอกล้าทรยศประตูสวรรค์จริงๆ และยังนำศัตรูเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์”
“ตาย!”
จังหวะนั้นเองเจียงซิ่วก็กระโดดขึ้นออกไปหลังม้า และตกลงมาจากท้องฟ้า เหยียบศีรษะของชายคนนั้น ผู้ชาย เช่นเดียวกับรถ ยุบลงไปที่พื้น และหัวของชายคนนั้นก็ยุบกลับเข้าไปในลำตัวเนื่องจากการเหยียบ “เจียงโหลวเซี่ยจากจีนมาถึงตามที่กล่าวไว้!”
เสียงของเขาดังก้องไปทั่วทั้งภูเขาราวกับเสียงฟ้าร้อง ผ่านไปทุกซอกทุกมุม เมฆรวมตัวกันทั่วท้องฟ้าและล้อมรอบทั้งภูเขา มันเป็นฉากที่งตระการตามาก แทบจะคล้ายกับสรวงสวรรค์ที่กำลังล่วงหลนลงมา