Girl, I’ll Teach You Cultivation – ฉันจะสอนเธอบ่มเพาะเอง - ตอนที่ 255
บทที่ 255
การทำลายล้าง
มันเป็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ไม่เคยปรากฏขึ้นมาในโลกนี้ โลกทั้งโลกดูเหมือนจะกลับไปสู่สภาพกาลเดิม เป็นความอ้างว้างทั้งหมด ไม่มีมนุษย์ ไม่มีพืช ไม่มีสัตว์ร้าย – แต่เพียงเท่านั้นที่รู้ว่าเสียงปร่ำปราบรรพกาลนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของโลกทั้งหมด
บูมม! บูมม!
คลืนน เสียงดังที่คล้ายกับฟ้าร้องปะทุข้ามผ่านฟากฟ้า จากไกลสู่ใกล้ มันตามมาด้วยพลังกดดันที่เข้ามาครอบคลุมในสถานที่แห่งนี้ หมอกหนาที่ก่อตัวขึ้นจากเขตแดนหายไปในทันทีที่แสงสีทองศักดิ์สิทธิ์ส่องเข้ามาภายใน แสงที่แผดจ้ากระจายราวกับไฟป่า ส่งผลทำให้จุดที่โดนมันระเบิดออกทันที
“นั้นคืออะไร?”
หวังชงหลินหวาดผวา เนื่องจากไฟมันร้อนเกินไป เนื่องจากหมอกถูกเปิดอย่างไฟที่ร้อนแรงจึงสาดเข้าใส่ก่อให้เกิดหลุมขนาดใหญ่
“อ๊ากกกกกก!”
เมื่อแสงอันร้อนแรงตกลงมาบนร่างของหวังชงหลิน เขาก็เริ่มกรีดร้องเสียงดัง ทุกคนมองไปที่เขาด้วยความประหลาดใจ ในทันใดที่แสงสีทองศักดิ์สิทธิ์ตกใส่เขา เนื้อบนใบหน้า ร่างกาย เช่นเดียวกับแขนของเขา เริ่มถูกเผาไหม้ เผยให้เห็นกระดูกใต้เนื้อของเขา
“ท่านปรามจารย์!!”
หลงไซ๋ซงกรีดร้องออกมาอย่างหวาดกลัว คนที่เขามองว่าแข็งแกร่งที่สุดกลับพ่ายแพ้โดยตัวอักษรลึกลับที่เจียงซิ่วเปล่งออกมา
“มันโจมตีที่จุดกำเนิดศักดิ์สิทธิ์ของข้า!”
หวังชงหลินคำรามกลับมาที่เขา หลงไซ๋ซงรู้ดีว่าแหล่งกำเนิดศักดิ์สิทธิ์อยู่ไหน หลังจากทั้งหมดแล้ว มันก็เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดสำหรับนักบ่มเพาะ มันยังเป็นจุดที่เกี่ยวข้องกับความเป็นตาย แต่ตอนนี้เขาไม่ได้มีเวลาไตร่ตรองมากมาย เขาดึงดาบออกมาแล้วโจมตีออกไปทันที
อย่างไรก็ตาม เมื่อปลายดาบแทงเข้ากับจุดหยิน แสงสีทองศักดิ์สิทธิ์ก็เผามันเป็นเถ้าถ่าน และเปลวไฟก็ลุกลามเขาไปหาเขาจากปลายดาบ หลงไซ๋ซงตกใจและทิ้งดาบอย่างรวดเร็ว
ดาบของเขาเป็นดาบที่มีชื่อเสียงมาก ซึ่งมันสามารถตัดร่างของเซียนได้อย่างง่ายดาย แต่มันก็ถูกทำลายด้วยการสัมผัสเพียงครั้งเดียว
มันน่ากลัวเกินไป!
“อ๊ากกกกกกก!!”
ในขณะนี้เอง เนื้อของหวังชงหลินเหลือไม่มากแล้ว มีเพียงโครงกระดูกถูกที่ยังเหลืออยู่ มันยังเป็นกระดูกที่ปราศจากพลังชีวิตโดยสิ้นเชิง เสียงของการแตกสลายดังมาจากโครงกระดูก มันเริ่มพังทลายและในที่สุดมันก็เริ่มกลายเป็นผงขี้เถ้า
“เจียงโหลวเซี่ย ข้าจะฝั่งศพเจ้าไปพร้อมกับข้า!”
เมื่อมองดูฉากนี้ ใบหน้าของทุกคนก็กลายเป็นซีดเซียว
พวกเขากลัววิชาของเจียงซิ่ว
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เจียงซิ่วเองก็ประหลาดใจเช่นกัน ไม่สิ มันจะเหมาะสมกว่าถ้าจะบอกว่าเขาดีใจมาก อักษระตัวแรกของสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ผ่านการปลุกตื่นมาแล้วคืออักษระต้นกำเนิดบรรพกาล
มีอักษรโลกอยู่ 33 ตัว : 5 อักษระ – ไม้ ไฟ ดิน เหล็ก และน้ำ มนต์พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์หกพยางค์ – นะ โม อะ มิด โต โฟ เก้าอักษระลับ อักษระสิบสองนักษัตร และอักษระต้นกำเนิดบรรพกาล รวมพวกมันแล้วเป็น 33 ตัวอักษร
เห็นได้ชัดว่าพลังของอักษระต้นกำเนิดบรรพกาลนั้นผิดปกติ อักษระต้นกำเนิดบรรพกาลนี้เป็นเพียงแค่อักษรโลกระดับล่างเท่านั้น ถ้ามันถูกใช้ที่ทวีปการต่อสู้นิรันดร์ พลังของมันถูกผูกมัดให้อยู่ในระดับเดียวกับราชาอมตะ
“ฮ่าๆๆๆๆๆ….”
เขาไม่สามารถทำอย่างไรได้ ได้แต่ต้องหัวเราะเมื่อได้มาเผชิญกับการพัฒนาที่ก้าวกระโดดเช่นนี้
“ขยะไร้ประโยชน์…”
เขามองไปที่ท้องฟ้าทันที หมอกยังคงลดลง แม้ว่าผู้ควบคุมเขตแดนจะตายไปแล้ว แต่เขตแดนก็ถูกขับเคลื่อนไปก่อนที่เขาจะตาย มันก็เหมือนกับพายุทอร์นาโด ต้นกำเนิดของมันอาจจะเป็นผีเสื้อตัวเล็กๆ และการตายของมันก็จะไม่มีผลกับใดๆ พายุทอร์นาโด
พลังงานทางโลกของพื้นที่ 100 กม. ก็เพียงพอที่จะทำลายภูเขาทั้งหมดนี้
“ฮึ่ม!”
เจียงซิ่วเย้ยหยัย “แกคิดว่าตัวเองฝั่งศพฉันไปพร้อมกับแก?” เขารอยยิ้มที่ชั่วร้ายก่อนที่หวังชงหลินจะได้ตาย
เขาพุ่งทยานขึ้นไปบนท้องฟ้า
“แกไร้เดียงสาเกินไป!”
“แกคงจะไม่มีวันมองเห็นฉากที่ฉันบดขยี้พลังงานทางโลกที่แกรวบรวมมาได้ ไม่แม้แต่ในความตายของแก…”
เม็ดกระบี่สุกใสแพรวพราวพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า และรีบเข้าไปในรูซึ่งเปิดออกโดยอักษระจากสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ของเขา ผ่านหมอกสีขาวสีเรื่อแดง ค่อยๆ พุ่งขึ้นไป สูงขึ้นและสูงขึ้น พุ่งขึ้นไปราวกับเทพเซียนอมตะ
บูมมม!
ปะทะครั้งที่ 1!
มันราวกับว่ามีระเบิดขนาด 10 ตันระเบิดขึ้นที่นั่น คลื่นพลังงานไร้ขอบเขตพุ่งกระจากออกไปยังฟากฟ้า ผู้ที่จากด้านล่างเห็นเพียงรอยสีขาวขนาดใหญ่ที่ปรากฏขึ้น และเห็นกระบี่ขนาดใหญ่หลายร้อยเมตรได้อย่างคลุมเครือ
ปะทะครั้งที่ 2!
รอยสีขาวอีกรอยเริ่มปรากฏขึ้นที่ท้องฟ้า
ปะทะครั้งที่ 3!
แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าเจียงซิ่วกำลังจะทำอะไร ฉากที่แรงกดดันจากบุคคลที่กวัดแกว่งดาบขนาดใหญ่อยู่บนท้องฟ้าเริ่มก่อความศรัทธาและความตกใจขึ้น
ปะทะครั้งที่ 4…
เงาของเขาสั่นไหว ตามด้วยแสงดาบดาบที่เติมเต็มฟากฟ้า ภาพจากดาวเทียม มันเห็นได้ชัดว่าแสงดาบสร้างรอยขนาดใหญ่ขนาดไหนภายในหมอกนั้น
จุดมุ่งหมายครั้งนี้ผิดธรรมดา และต้องมีการเชื่อมโยงจากภายใน มันลึกซึ่งและยากที่จะทำความเข้าใจ
“ทำลาย!”
เจียงซิ่วไม่ได้มองย้อนกลับไป และบินขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยเม็ดกระบี่ และมองดูแสงดาบที่หมอกระเบิดอย่างรุนแรง
บูมมมม!
ท้องฟ้าทั้งโลกสั่นสะเทือน ราวกับแสงดาบนั้นก่อเกิดพลังทำลายล้างอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างตกอยู่ในหายนะ
อากาศ เวลาและวัตถุไม่มีใดๆ เหลือรอด
เจตจำนงกระบี่ในเขตแดนแห่งนี้ แปลงเปลี่ยนเป็นเจตจำนงที่ไร้ขอบเขต!
เขตแดนกระบี่เข้าทำลายเขตแดนมนตร์ตรา!
ท้องฟ้าทั้งโลกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ขณะที่หมอกบิดตัวไปมาเนื่องจากไฟดาบแสงเล็กๆ นับไม่ถ้วน มันก่อให้เกิดเสียงแตกและเสียงระเบิดดังสนั่น
ผู้เห็นเหตุการณ์จากเบื้องล่างรู้สึกราวกับว่าสวรรค์กำลังพังทลายลง
“นะ นี่คือการปราบปรามจากสวรรค์!”
เซียนจากจีน หลิวหยุนไห่ตกใจยิ่ง
“ฉันไม่ติดค้างใดๆ ในชีวิตแล้ว หลังจากที่ได้เห็นการต่อสู้ในวันนี้”
ใบหน้าที่เหี่ยวย่นของเขาปกคลุมไปด้วยน้ำตา
นักสู้ของญี่ปุ่นขาสั้นจากนั้นจึงคุกเข่าลง เขาคุกเข่าลงบนพื้นเหมือนกับคนที่เคร่งศาสนา จ้องมองไปยังสรวงสวรรค์ ชาวต่างชาตินอกเหนือจากเขากลายเป็นเสียสติไปแล้ว
“เด็กนี้ทรงพลังมาก?”
หลงไซ๋ซงพึมพำกับตัวเอง
การใช้พลังของตนเองเพื่อต่อต้านพลังงานทางโลกในระยะพื้นที่ 100 กม. นั้นผิดธรรมดาเกินไป ความสามารถนั้นคล้ายกับผู้คนที่สืบเชื้อสายมาจากเทพเจ้าในโลกใบนี้
บิสสส!
บูมมม!
แสงกระบี่นับไม่ถ้วนเกิดขึ้นเนื่องจากเขตแดนกระบี่ตัดหมอกออก หมอกบางลงเรื่อยๆ และแสงสว่างก็เริ่มพุ่งทะลุหมอกส่งผลให้ท้องฟ้าสว่างขึ้น
บูมมมม!
ตามมาด้วยการระเบิดครั้งสุดท้าย หมอกก็หายไปอย่างไม่มีวันหวนกลับหลังจากที่สูญเสียพลังเพื่อคงตัวมันไว้
ในที่สุดภัยพิบัติก็หายไป
หากเขตแดนระเบิดตัวได้ ก็จะไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆ ในระยะ 100 กม. ที่สามารถมีชีวิตรอด นับประสาอะไรกับผู้ที่มาเพื่อชมดูเหล่านี้ แม้แต่เจียงซิ่วเองก็อาจแตกสลาย
หมอกแยกย้ายออกไป และโลกก็สว่างขึ้นอีกครั้ง
ภาพเงาปรากฏขึ้นข้างๆ หวังชงหลิน มันเป็นเจียงซิ่ว เขาหยิบหินยืดอายุที่ตกลงมาบนพื้น
“หืมมม?”
มีอีกอันหนึ่งอยู่ภายในกองกระดูก
“แกวางแผนที่จะให้ฉันมาที่นี่โดยใช้หินยืดอายุ ดั้งนั้นแกคงสาแก่ใจแล้ว ใช่ไหม?”
การเดินทางไปยุโรปครั้งนี้ไม่ได้ไร้ประโยชน์
“ตอนนี้แกจะทำอะไรต่อไปล่ะ?”
สายตาของเจียงซิ่วตกลงไปที่เซียนของประตูสวรรค์ซึ่งเหลือเพียงคนเดียว หลงไซ๋ซง
“ข้า… ข้าขอทำความเคารพคุณเจียง”
หลงไซ๋ซงรีบเข้าไปคำนับทักทาย
เจียงซิ่ววางมือไว้ที่หลังของเขา “ไม่รู้รึไงว่าฉันมักจะกำจัดศัตรูของตัวเองทั้งหมดเสมอ”
การแสดงออกของหลงไซ๋ซงแปรเปลี่ยนไป ความกลัวถูกเติมเต็มในสายตาของเขา “คุณเจียง โปรดไว้ชีวิตข้า… ท่านได้กำจัดประตูสวรรค์ทั้งหมดไปแล้วและฆ่าปรามาจารย์ประตูสวรรค์ไป ตระกูลหลงของข้าคงไม่กล้าที่จะตั้งตัวเองเป็นศัตรูของท่าน”
หลงหยิงชิงที่ยืนออกไปห่างๆ ก็รู้สึกคล้ายกับหัวใจจะหยุดเต้นเหมือนกัน
เธอต้องการเข้าไปขอให้เขาปล่อยบรรพบุรุษของเธอไป แต่เธอก็รู้ว่าคงจะไม่เกิดผลใดๆ
เจียงซิ่วจ้องมองเขาอย่างไม่แยแส จากนั้นก็กล่าวพึมพำออกมา “ไป”
“เหตุผลที่ฉันยอมให้ออกไปจากที่นี้ มันไม่ใช่ว่าเพราะฉันใจดี แต่มันเป็นเพราะตั้งแต่ที่ฉันได้บุกเข้ามายังประตูสวรรค์ แกก็ไม่เคยโจมตีฉันเลยแม้แต่ครั้งเดียว”
หลงไซ๋ซงกลายเป็นปีติยินดี “ขอบคุณ คุณเจียง!”
“ฟู้วว!”
เจ้าหน้าที่อาวุโส เช่นเดียวกับพนักงานคนอื่นๆ ที่กำลังดูภาพจากดาวเทียมของจีนอยู่นั่น ผ่อนคลายลมหายใจของพวกเขาแล้วก็สูดลมกลับมาด้วยความยินดี เจียงโหลวเซี่ยชนะ พวกเขาเองก็ชนะ การต่อสู้ครั้งนี้มีความสำคัญมากสำหรับประเทศจีน
“คุณเจียงทำลายประตูสวรรค์ได้ด้วยตัวคนเดียวจริงๆ”
อันหลงถอนหายใจออกมายาวๆ ขณะที่เขามองไปยังภูเขาซากศพ องค์กรที่ปกครองเหนือผู้อื่นมาเป็นเวลาหลายร้อยปี พลังที่ทำให้ในแต่ละประเทศปวดหัว ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง
ถ่อมตัว เก้าเทพนิยาย ชำละล้างสวรรค์ เคราะกรรมพันปี หัวใจที่ไร้ความรัก แต่โรแมนติก!
วันนี้ ชื่อของเจียงโหลวเซี่ยจะต้องทำให้ทั้งโลกทั้งโลกตกตะลึง
“หน้าของฉันถูกตีอีกครั้งแล้วสิ ฮิฮิ…”
ความตกใจที่อันหลงรู้สึก ไม่ได้สงบลงหลังจากผ่านไปเป็นเวลานาน มาตรการหลบหนีที่เขาเตรียมไว้นั้นไร้ประโยชน์และเสียเปล่าโดยสมบูรณ์
แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าเขานั้นไร้ประโยชน์ แต่เขาก็รู้สึกมีความสุขมากขึ้น
จากนี้ไป นามเจียงโหลวเซี่ยจะไม่ถูกจัดอันดับอยู่ในรายชื่อเซียน ก็ในเมื่อเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหนือกว่าเหล่าเซียนไปแล้ว
(ศัพท์เฉพาะเยอะโครต!!!!!! ตอนนี้ 3 ชม. !!!!! ไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้เด๋วเข้าไปอัปเดชในกลุ่มให้นะ รอเฟสบุคปลดบล็อคก่อน )