Girl, I’ll Teach You Cultivation – ฉันจะสอนเธอบ่มเพาะเอง - ตอนที่ 257
บทที่ 257
ปล่อยให้เควงคว้าง
ลมหนาวที่พัดมาจากธารน้ำแข็งคล้ายกับปลายดาบที่กำลังเข้ามาทิ่มแทง น้ำแข็งปกคลุมอยู่ทั่วหน้าของราชาอเล็ก และตอนที่เขากำลังกล่าวบทกลอนท่อนที่ 4 เขาทรุดฮวบลงอย่างไร้เหตุผล สร้อยมังกรคู่หยินหยางในมือของเขาตกลงไปในสายน้ำที่เย็นเฉียบ จมลงไปด้านล่าง ขณะที่เปล่งแสงออกมาอ่อนๆ
“น่าสังเวช!”
เจียงซิ่วส่ายหัวพร้อมกับถอนหายใจขณะที่มองดูศพของราชาอเล็กซ์ เนื่องจากชะตากรรมที่เขามี มันจึงได้ทำให้เขามีวิธีลับที่จะพลิกโชคชะตาตนเองต่อโลกใบนี้ ถ้าเขาใช้มันได้ถูกต้อง สิ่งที่เขาทำได้มันก็จะไร้ขีดจำกัด และมันแม้แต่กระทั่งเป็นเครื่องรับประกันในการกลายเป็นเทพเจ้า อย่างไรก็ตาม เขาทำเรื่องที่ต้องห้ามมากที่สุด ซึ่งเปิดเผยความลับของสวรรค์และทำให้เกิดความโกรธแค้น
“ยังไงก็เถอะ สร้อยคอมังกรคู่หยินหยางนั้นอัศจรรย์ทีเดียว มันอนุญาตให้เขามองดูความลึกลับแห่งสวรรค์หลังความตาย แม้ว่ามันจะเสียหาย แต่มันก็เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ไม่ธรรมดา” สายตาของเจียงซิ่วเคลื่อนไปทางแม่น้ำ
“หืมม?”
มันง่ายที่จะหาสร้อยคอในแม่น้ำเพราะมันปล่อยแสงซีดจางออกมา เขาวางแผนที่จะลงไปใต้น้ำ แต่ทันใดนั้นแสงก็หรี่ลง และสร้อยคอก็หายไปเช่นกัน มันหายไปต่อหน้าต่อตาของเจียงซิ่ว
“มันแปลก”
ตามเรื่องราวแล้วเจียงซิ่วย่อมไม่ได้เห็นภาพหลอน เขาสามารถเห็นใต้น้ำลึกได้อย่างง่ายดาย และสร้อยคอนั้นก็หายไปอย่างแน่นอน ราวกับว่าสร้อยคอนั้นไม่ได้เป็นของโลกนี้และตอนนี้มันก็ไม่กลับไปยังที่ๆ มันจากมาแล้ว
มันน่าเสียดายที่สิ่งอัศจรรย์เช่นนั้นหายไป
หลังจากปรับอารมณ์ของตัวเอง เจียงซิ่วก็ค้นพบว่าเขาหลงทาง ตั้งแต่ที่เขาเริ่มไล่ล่ามาตลอดเวลา เขาจึงไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน จากชาวต่างชาติที่เขาเห็นเมื่อตอนที่เขากำลังติดตาม เขาสรุปว่าสถานที่นี้อาจอยู่ใกล้กับไซบีเรีย
ในการต่อสู้ เขาไม่ได้ใช่กำลังมากมายอะไรนักเมื่อตอนที่ฆ่า 23 เซียน แต่เขตแดนกระบี่นั้นเป็นช่วงที่สำคัญที่สุด เขาเกือบจะใช้พลังงานศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดของเขาเพื่อสร้างมัน และหลังจากทำตามทุกอย่างจนมาถึงที่นี่ เขาจึงรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่เห็นหมู่บ้านหรือสถานที่ใดๆ ซึ่งเขาสามารถพักผ่อนได้เลย ดังนั้นเขาจึงวางแผนที่จะมองหาสถานที่พักผ่อนและพักฟื้นก่อน
เขาเดินไปไกลพอสมควร แต่ก็ไม่พบใครในเส้นทาง ที่ริมแม่น้ำ เขาสังเกตเห็นกระท่อมน้ำแข็งหลังนึง มันเป็นบางอย่างที่คงอยู่ได้ด้วยการใช้ความเย็นในพื้นที่ที่หนาวจัดแห่งนี้เป็นตัวยึดเหนี่ยวทั้งกระท่อม และก็ยังเป็นที่ๆ ใช้ช่วยชีวิตสำหรับผู้อยู่อาศัย เนื่องจากเจียงซิ่วมีภูมิต้านทางอยู่ก่อนแล้ว เขาจึงเข้าไปข้างใน
เขานั่งไขว่ห้าง และหยิบหินยืดอายุสองก้อนที่เขาได้รับมาในครั้งนี้มาถือ ถือแต่ละก้อนไว้ในมือคนละข้าง และเริ่มทำการกลัดกลั้นพวกมัน
ขั้นตอนแรกของการบ่มเพาะกระบี่คือการสร้างเม็ดกระบี่ ขั้นตอนต่อไปคือเลี้ยงดูเม็ดกระบี่ด้วยวัตถุสวรรค์อย่างหินยืดอายุ
ตั้งแต่ที่ตอนนี้เขาเป็นเทพเจ้าแล้ว กระบวนการกสัดกลั่นจึงเร็วกว่าและปลอดภัยกว่ามาก
สำหรับนักบ่มเพาะกระบี่ พลังของเม็ดกระบี่จะขึ้นอยู่กับพละกำลังในตอนต่อสู้ โดยผู้ที่มีรากฐานที่มั่นคงเท่านั้น ถึงจะสามารถบรรลุความสำเร็จในระดับสูงของการบ่มเพาะกระบี่
“ฉันหวังว่าสักวันวิญญาณกระบี่จะถือกำเนิด และในทางกลับกัน ก็ขอให้มันนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงวิญญาณ!”
นี่คือสิ่งที่เจียงซิ่วโหยหา ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา เขาเป็นนักบ่มเพาะดาบ และแม้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จระดับสูงในการบ่มเพาะดาบ และมาถึงขั้นที่ทำให้ผู้อื่นอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ เขายังสามารถเอาชนะดาบวิญญาณเปลี่ยนแปลงของผู้ฝึกดาบในระดับเดียวกันได้ ทั้งๆ ที่ดาบเขาไม่เคยกลายเป็นวิญญาณดาบและไม่เคยผ่านการเปลี่ยนแปลงวิญญาณ นี่คือสิ่งที่เขารู้สึกเสียใจ สหายของเขาทุกคนพูดกับเขาว่ายังไม่ถึงเวลา และท้ายสุดแล้วมันก็ไม่ได้เป็นดาบวิญญาณ หลังจากทั้งหมด ความสำเร็จของเขาในการบ่มเพาะดาบก็สามารถพิสูจน์ความสามารถของเขาได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม เจียงซิ่วรู้ว่าเปอร์เซ็นต์ความไม่ลงรอยกันของดาบนั้นได้กลายมาเป็นปีศาจในหัวใจของเขา และก็ทำให้เขาไม่สามารถผ่านไปสู่ขั้นตอนต่อไปได้
ตอนนี้เขากำลังใช้กระบี่อยู่ เขารู้สึกว่าทุกอย่างสำหรับเขามันกลมกลืน รู้สึกไร้กังวลและควบคุมได้ ในอนาคต เขาวางแผนที่จะไปหาหินมุกดาราในทวีปการต่อสู้นิรันดร์เพื่อตรวจสอบความเข้ากันได้ของเขากับกระบี่
เขานั่งอยู่ที่นั่นโดยไม่ทราบระยะเวลา นั่งจนกระทั่งหินยืดอายุทั้งสองได้รับการสกัดกลั้นอย่างสมบูรณ์แบบแล้วโดยเขา เม็ดกระบี่ในจุดกำเนิดศักดิ์สิทธ์ของเขาขยายขนาดขึ้นสองเท่าและเปล่งประกายกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น
“มาทดสอบกัน!”
แสงสีขาวกระพริบที่หน้าผากเขา ตามด้วยแสงดาบที่กระพริบทีหลัง มันพุ่งออกจากกระท่อมน้ำแข็งและดิ่งตรงขึ้นไปสู่ท้องฟ้า
ตัวเขาเปลี่ยนมันให้เป็นลำแสงสีขาวและสั่งให้มันพุ่งทยานขึ้นสู่ท้องฟ้า
“วูสสสส!”
“ยอดเยี่ยม!”
มันทำให้เขารู้สึกตื่นเต้น เปรียบเทียบกัน มันราวกับว่าเขาได้ขับรถออโตคันเล็กเมื่อก่อนหน้านี้และตอนนี้กำลังบ้าคลั่งเพาะเฟอร์รารี่ ความรู้สึกของการบินท่ามกลางสายลม มันทำให้เขารู้สึกราวกับว่า เขาได้ฟื้นวิถีชีวิตเดิมของเขามาได้เล็กน้อย ซึ่งมันเป็นตอนที่เขาได้พาตัวเองล่องลอยไปในทวีปการต่อสู้นิรันดร์
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ยังคงทำให้ร่างกายของเขารู้สึกถึงภาระเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงร่อนลงไปอีกครั้ง
“ดูเหมือนว่าตอนนี้หินยืดอายุทั้งสี่จะอยู่ด้วยกันแล้ว มีการตอบสนองลึกลับบางอย่างระหว่างพวกมัน” แม้ว่าจะไม่มีสารอื่นใดที่สามารถก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรืออัพเกรดเม็ดกระบี่ได้ แต่ที่ฐานของรูปปั้นสตรีศักดิ์สิทธิ์มันมีช่องทั้งหมดหกช่อง เป็นไปได้ว่าความพิเศษที่ไม่เหมือนใครของหินยืดอายุเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีความสามารถเฉพาะตัว และวิธีการที่จะใช้พวกมันก็คือการรวบรวมทั้งหกเข้าด้วยกัน
“ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของอ่อร่าศักดิ์สิทธิ์จะเพิ่มขึ้นด้วยเล็กน้อย!”
แม้ว่าเขาจะนำมันไปบำรุงเม็ดกระบี่ แต่เม็ดกระบี่ก็เป็นส่วนนึงของร่างกายเขาด้วยเช่นกัน เมื่อมันแข็งแกร่งขึ้น อ่อร่าศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามก็แข็งแกร่งขึ้นเช่นเดียวกัน แต่มันไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ สำหรับสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์
เส้นทางของการบ่มเพาะสู่การเป็นสิ่งมีชีวิตศักดิ์สิทธิ์มีด้วยกันหลายขั้นตอน – เทพน้ำวน เทพปฐพี เทพสวรรค์ ราชาเทพ…
เทพน้ำวนถูกแบ่งย่อยออกเป็นสามระดับ – เทพชั้นต่ำ เทพชั้นกลางและเทพชั้นสูง
ตอนนี้ พลังของเขาใกล้จะถึงจุดสูงของเทพขั้นต่ำแล้ว
เป้าหมายปัจจุบันของเจียงซิ่วคือการไปถึงขั้นเทพปฐพี และหลุดพ้นจากตรวนโซ่ของโลกนี้และเข้าสู่จักรวาล งั้นแล้วเขาก็จะสามารถเดินทางไปบนเส้นทางสู่การกลับทวีปการต่อสู้นิรันดร์ได้ เส้นทางนี้ยาวเกินไปและยากที่จะบรรลุในระยะสั้น
สำหรับเทพสวรรค์ พวกมันมีพลังมหาศาล และสามารถเดินทางในจักรวาลได้อย่างอิสระ เขายังห่างไกลจากการเข้าถึงขั้นดังกล่าว ดังนั้นเขาจึงวางแผนที่จะเป็นเทพปฐพีก่อนและจากนั้นจึงกลับไปยังทวีปการต่อสู้นิรันดร์ ซึ่งเขาจะได้สามารถเตรียมตัวโจมตีกำแพงขั้นเทพสวรรค์ได้
สำหรับขั้นราชาเทพ มันอยู่ไกลเกินที่เขาจะเอื้อมถึง
เทพเจ้าปลุกตื่นสายเลือดโดยที่หลอมรวมเข้ากับกฎของโลก และเซียนอมตะก็พึ่งพาความเข้าใจแห่งเต๋าที่ยิ่งใหญ่ของโลก เส้นทางทั้งสองนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ปลายทางของพวกมันเหมือนกัน
“มันลำบากมากกว่าที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของฉันได้!”
ในทวีปการต่อสู้นิรันดร์ หากผู้คนมีเพียงคนพรสวรรค์เพียงพอ และพยายามบ่มเพาะโดยการคว้าโอกาสต่างๆ หลายอย่างไว้ โอกาสที่จะได้เป็นเทพปฐพีนั้นจึงค่อนข้างสูง แต่บนโลก พลังงานวิญญาณหมดลงไปแล้ว และถ้ายังทำการพึ่งปลุกตื่นสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ต่อไป ไม่ช้าก็เร็วเขาจะเจอสิ่งกีดขวางแห่งถนนความเป็นและความตาย
แม้ว่าเขาจะไปไม่ถึงขั้นและก็ยังไม่ตาย แต่ลูกศิษย์ของเขา เจียนยี่(ดาบหนึ่งเล่ม) ได้ส่งวัถตุสำหรับการบ่มเพาะที่จำเป็นมาให้เขา ซึ่งมันก็ใช้เวลาประมาณ 300 ปีกว่าจะมาถึง และนี่ก็ไม่ได้ดีไปกว่าความตายสำหรับเขา
จะให้ฉันนั่งรอและกลายเป็นฟอสซิลเลยรึไง?
จริงๆ แล้วเขากำลังรอคอยการทำนายที่น่าตกใจของราชาอเล็กซ์ แต่เขาก็ตกตายด้วยความโกรธของสวรรค์ก่อนที่เขาจะพูดจบ
“สตีรศักดิ์สิทธิ์ผู้หลับใหลอยู่ในสายน้ำ ได้นำพาการลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์มายังประตูสวรรค์ เมื่อมังกรคู่พังทลาย โลกก็จะไม่มีหยินหยางอีกต่อไป…”
เจียงซิ่วไม่ใช่คนธรรมดา ในฐานะที่เป็นบุคคลที่มีชีวิตที่สอง เขารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาจำได้ว่าในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา มีข่าวลือว่าปี 2012 เป็นวันสิ้นโลกและข่าวลือเหล่านี้ทำให้ผู้คนจำนวนมากหวาดกลัว หลายคนเชื่อในข่าวลือนี้ แต่ในท้ายที่สุด โลกก็ยังไม่ถึงคราวจบสิ้น และถึงแม้ว่ามันจะไม่ชัดเจน ว่าทำไมคนจำนวนมากถึงบอกว่าโลกจะจบสิ้นลง แต่ผลลัพธ์คือสิ่งเดียวที่สำคัญ
และตอนนี้ อนาคตได้เปลี่ยนไปแล้ว ความตายของราชาอเล็กซ์นั้นพิสูจน์ได้อย่างแม่นยำ คำที่เขาพูดนั้นควรจะเป็นจริงไม่เช่นนั้นเขาก็จะไม่ตายเพราะความโกรธแค้นของสวรรค์
“โลกที่ไม่มีทั้งหยินและหยาง…”
เจียงซิ่วหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นเช่นนั้น เขาปรารถนาให้โลกนี้กลับมาเป็นเหมือนเดิมในยุคโบราณและให้กำเนิดพลังวิญญาณอีกครั้ง ในทวีปการต่อสู้นิรันดร์ เขาอ่านในหนังสือเกี่ยวกับหลุมที่เปิดขึ้นในสวรรค์ของดาวเคราะห์ระดับต่ำที่คล้ายกัน ซึ่งมันนำพาพลังจิตวิญญาณออกมาอย่างเร่งร้อน และเปลี่ยนโลกวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้กลายเป็นโลกที่มุ่งเน้นแค่การบ่มเพาะ
เขารู้สึกว่ามันคงจะดีมาก หากมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้น
ถ้าเป็นเช่นนั้น เขาก็จะมีความมั่นใจสำหรับการเป็นเทพปฐพีก่อนอายุ 400 ปี และฝ่าโซ่ตรวนของโลกนี้เพื่อที่เขาจะได้กลับไปยังทวีปการต่อสู้นิรันดร์
“ชีวิตไม่อาจเอาแน่เอานอนได้…”
“การยึดปัจจุบันเป็นเหนี่ยวคือสิ่งที่ถูกต้อง!”
หลังจากกล่าวได้เช่นนี้ ผู้ชายคนนี้นั่งลงอย่างหน้าด้านเพื่อที่จะฝึกฝนอีกครั้ง เขาไม่รู้ว่าใช้เวลาในการบ่มเพาะครั้งนี้ไปนานแค่ไหน ปัจจุบัน แม้ว่าเขาจะบ่มเพาะ ความคืบหน้าของเขาก็ช้าลงไป ดังนั้นมันจึงเป็นการดีกว่า ที่เขาจะกลัดเกลาพลังงานศักดิ์สิทธิ์ของเขา ซึ่งจะได้วางรากฐานอันแข็งแกร่งสำหรับขั้นตอนที่สูงขึ้น
รากฐานสำคัญที่สุดสำหรับการบ่มเพาะ หากรากฐานไม่มั่นคง มันเป็นไปได้ที่ระดับจะลดลงเมื่อตอนได้รับอาการบาดเจ็บ เหมือนกันกับตอนที่ใช้ทักษะศักดิ์สิทธิ์มากๆ ทั้งๆ ที่ไม่มีความลงรอยระหว่างร่างกาย
เพื่อสรุปทั้งหมด มันก็เพียงแค่ว่าเขาหาข้ออ้างที่จะฝึกฝน
เดือนนึงผ่านไปทั้งๆ แบบนั้น ในวันนี้ คู่ๆ หนึ่งได้มาถึงฝั่งแม่น้ำและเจาะรูเป็นน้ำแข็งเพื่อจับปลา แต่จริงๆ แล้วพวกเขากับเห็นเห็นเงาในน้ำที่ค่อยๆ โผล่ออกมาจากด้านใต้ ผู้หญิงสูงอายุคนนั้นตกใจกลัวทันที “โอ้แม่เจ้า ตาเฒ่า ดูข้างล่างเร็ว”
ชายชราจ้องมองด้วยความงุนงงจากนั้นจึงตะโกน “มันเป็นมนุษย์ ร่างที่ตายแล้ว!”
ชายชราเรียกว่าคนหลายคนมาเพื่อที่จะเปิดชั้นน้ำแข็งในหลุมบ่อปลาและนำศพแช่แข็งออกมาข้างนอก มันไม่ใช่ใครอื่นนอกจากซะจากคนวิกลจริต เจียงซิ่ว จริงๆ แล้วเขาลงไปในแม่น้ำและปล่อยให้ตัวเองลอยเควงคว้างไปมา แม้แต่เขาเองก็จะไม่ชัดเจนกับที่ๆ เขาผ่านมา