Girl, I’ll Teach You Cultivation – ฉันจะสอนเธอบ่มเพาะเอง - ตอนที่ 258
บทที่ 258
การโทรศัพท์
พวกเขาไม่ได้เอาเจียงซิ่วออกมาจากแม่น้ำแต่อย่างใด ชาวบ้านธรรมดาโดยธรรมชาติแล้วย่อมต้องไม่ทราบว่าผู้ชายที่หน้าไม่อายผู้นี้เดินทางมาจากยุโรปฝั่งตะวันออก และพวกเขาจะต้องเชื่อว่าเขาหลงทางมากจากบริเวณใกล้เคียงและและตกลงไปธารแม่น้ำ
“เขาหายใจอยู่รึเปล่า?”
“มันจะเป็นไปได้ยังไง? คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเขาอยู่ในแม่น้ำมานานขนาดไหน เขาต้องหยุดหายใจไปแล้ว”
“น่าเสียดายที่ชายหนุ่มหล่อๆ แบบเขาต้องตาย”
กลุ่มคนมองกันและกัน ชายวัยกลางคนคนหนึ่งถาม “โทรหาตำรวจและให้พวกเขาจัดการไหม?”
“รอก่อน…”
หญิงชราเอื้อมมือไปจับเจียงซิ่ว ซึ่งดวงตาของเธอก็เบิกกว้าง “ร่างกายยังอุ่นอยู่ เขายังมีชีวิต…” เธอเชื่อว่ามันเป็นเรื่องน่าเสียดายถ้าเจียงซิ่วตายไป เธอเหลือความหวังสุดท้ายแค่ทางนี้เท่านั้น นั่นเป็นเหตุผลที่เธอลองตรวจดู และเมื่อมันปรากฏออกมา ร่างกายของเขาก็ยังอบอุ่นอยู่
“หยุดล้อเล่นไดแล้ว เขาอยู่ในแม่น้ำมานานจนกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง!”
“มันอุ่นอยู่จริงๆ สัมผัสร่างกายด้วยตัวเอง ถ้าไม่เชื่อฉัน”
พวกเขาสองสามคนเห็นว่าเธอจริงจัง จึงลองเข้าไปหาเขาดู การแสดงออกของพวกเขาบิดเบี้ยวทันที ไม่ต้องถึงกับไปดูว่าร่างกายของเขาอบอุ่นหรือไม่ ร่างกายของเขาไม่แข็งทื่อเลย มันค่อนข้างอ่อน
ในสภาพอากาศที่หนาวเย็นเช่นนี้ ไม่ว่าใครๆ ก็จะแข็งตัวใน 1-2 ชั่วโมงหลังจากตกลงไปในแม่น้ำ
“เขายังมีชีวิตอยู่จริงๆ อุ้มเขามาเร็ว…”
กลุ่มของชาวบ้านพาเจียงซิ่วไปที่หมู่บ้าน และเมื่อพวกเขามาถึงทางเข้า บางคนไปเรียกหมอเพื่อฉีดน้ำเกลือเข้าไปในตัวเขา แต่คนที่หน้าด้านผู้นี้ก็ลืมตาในเวลานี้เอง และค้นพบว่าเขาถูกพาตัวเข้าไปในบ้านโดยชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง ซึ่งพวกเขากำลังถอดเสื้อผ้าของเขาอยู่อีกด้วย เขาโกรธทันที “ทำอะไรกันอยู่!”
เพ้ย!
ผู้คนในบ้านล้วนกลายเป็นกลัว ชายชรากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ และเคี้ยวเมล็ดแตงโมที่เก้าอี้โยกเยก
“ไอหย๊า เธอตื่นแล้ว? เราช่วยเธอไว้”
ตอนนี้เองที่เจียงซิ่วตระหนักได้ว่าผู้คนเหล่านี้ไม่ได้มีความอาฆาตพยาบาทต่อเขา และพวกเขาอาจเจอเขาในตอนที่กำลังลอยอยู่ในน้ำแล้วก็พาขึ้นฝั่ง เขามีสีหน้าที่ดูอ่อนโยนลง “มะ ไม่เป็นไร”
เขาลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว
หญิงชรากล่าว “เสื้อผ้าของเธอเปียก ไปเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นดีกว่า ไม่งั้นเธออาจจะเป็นหวัดได้”
ตอนที่เธอพูดถึงเรื่องนี้ เจียงซิ่วกลับรู้สึกหนาวเย็นจริงๆ แม้แต่เทพเจ้าก็ต้องการความร้อนเพื่อต้านทานความหนาวเหน็บเช่นเดียวกับมนุษย์ แต่ระดับความเย็นแต่นี้ยังอยู่ห่างไกลหากจะทำร้ายเจียงซิ่ว ดังนั้นเขาจึงถาม “มีอาหารไหม?”
“แน่นอนว่ามี….”
เจียงซิ่วถอดชุดด้านนอกออกแล้ววางมันไว้ข้างตัวรอให้มันแห้ง หญิงชรานำชามก๋วยเตี๋ยวแบบพูนโตมาให้เขา และมองเจียงซิ่วด้วยความกังวล “เธอโอเคจริงๆ เหรอ?”
หลังจากทานก๋วยเตี๋ยวแล้ว เจียงซิ่วรู้สึกอบอุ่นขึ้น และเครื่องทำความร้อนก็ยังอยู่ใกล้เขาด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นเสื้อผ้าจึงแห้งเร็วกว่าปกติ เหลือแต่เพียงแค่เสื้อโค้ทที่เป็นเสื้อกันหนาวของคนอังกฤษ มันค่อนข้างดูดซึมได้ดี ดังนั้นมันจึงยังไม่แห้ง “ฉันไม่เป็นไร มีอะไรรึเปล่า?”
“มี แต่กินก่อนเถอะ…”
ชายชราที่ยืนอยู่ข้างๆ ถามเขา “หนุ่มน้อย เธอตกลงไปในแม่น้ำได้ยังไง?”
เจียงซิ่วกำลังจะบอกว่าเขาล่องลอยมาจากยุโรปตะวันออกหรือไม่ก็ไซบีเรีย แต่เขาก็ไม่ทำอย่างนั้น เพราะเกรงว่าชายชราจะกลัวเขาเอาได้ “ฉันประมาทไปหน่อย และพัดตกลงไปในแม่น้ำ”
ชายชราถาม “เธอต้องระวัง พื้นผิวน้ำไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่”
“ใช่ แล้วเธอมาจากไหน?”
ในขณะที่พวกเขาทั้งสองคุยกันไปเรื่อยเปื่อย เจียงซิ่วก็ลอบจดจำปฏิทินบนผนัง มันเป็นเดือนธันวาคมแล้ว รวมเวลาที่เขาใช้ในการบ่มเพาะ กว่าหนึ่งเดือนได้ผ่านไป
เขาถาม “ลุง มีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ไหม?”
ลุงตอบ “ไม่มีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นนะ เราอยู่ในหมู่บ้านกันเป็นส่วนใหญ่และไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นด้านนอกบ้าง สิ่งที่เรารู้ส่วนใหญ่มาจากข่าว ให้ฉันเปิดทีวีให้เธอดูไหม?”
เจียงซิ่วพยักหน้า
ทีวีของลุงเป็นอะไรบางอย่างจริงๆ มันเป็นทีวีสีขนาด 20 นิ้วและมีหลายช่อง เจียงซิ่วเลือกช่องข่าวต่างประเทศ ตั้งแต่หนึ่งเดือนได้ผ่านไปแล้ว ตอนนี้มันก็คงจะไม่มีข่าวเกี่ยวกับเรื่องการต่อสู้ในประตูสวรรค์มากนัก ในความเป็นจริง ข่าวประเภทนี้จะไม่ปรากฏบนทีวีและแม้แต่ชนชั้นสูงก็ยังไม่รู้มันด้วยซ้ำ ก็ในเมื่อมันเป็นความลับระดับสูงสุดของประเทศ
หลังจากดูข่าวต่างประเทศเป็นเวลา 30 นาที สถานการณ์ปัจจุบันถูกจำกำความได้ในไม่กี่คำ – ภัยพิบัติจากธรรมชาติ
ในสหรัฐอเมริกา อุกกาบาตได้ตกลงมาในหลายจุด และยังมีแผ่นดินไหวอีกมากมายเช่นกัน อุกกาบาตหลายลูกเองก็ได้พุ่งชนในย่านหยุนไห่ของจีน ในขณะที่แผ่นดินไหวเกิดขึ้นในมณฑลเสฉวนของเขตตะวันตก แม้แต่สถานที่ที่พิเศษอย่างเช่นดินแดนหลูหลินในจีนก็ขยายขนาดขึ้นกว่า 10 กิโลเมตรหลังจากแผ่นดินไหว ผู้เชี่ยวชาญทุกคนกล่าวว่านี่เป็นผลมาจากการเคลื่อนไหวของเปลือกโลก
“หนุ่มน้อย เธออยากโทรไปหาครอบครัวของตัวเอง?”
ในที่สุดเจียงซิ่วก็ตระหนักถึงสถานการณ์ของเขาได้ เขาไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ “โอ้ ลุง เป็นไปได้ไหมที่จะโทรออกจากที่นี่? ฉันจำเป็นต้องโทรออก”
ผู้อาวุโสตอบ “มีโทรศัพท์อยู่ที่ร้านค้าใกล้ทางเข้าหมู่บ้าน”
ปัญหาถูกตัดสินแล้ว แต่อีกฝ่ายได้ช่วยเขาไว้ และยังคงหาอาหารให้เขากิน มันไม่ใช่สไตล์ของเขาที่จะออกไปหลังจากที่พวกเขาให้มาแบบนี้แล้ว อย่างน้อยที่สุด เขาก็อยากจะขอบคุณพวกเขาและเอาเงินให้พวกเขาเล็กน้อย แต่เขาไม่มีเงินติดตัวแม้แต่ร้อยเดียว โทรศัพท์มือถือของเขาก็ยังพังไปเนื่องจากน้ำในแม่น้ำ
“อะไร? ทำอะไรหายไปรึเปล่า?”
“กระเป๋าเงินของฉันหายไป…”
“บางทีมันอาจตกลงไปในแม่น้ำ”
“มันไม่สำคัญ ไม่มีของมีค่าใดที่สำคัญไปตลอด แล้วเรื่องนี้ล่ะ? ลุง ฉันจะเอาโทรศัพท์มือถือเครื่องนี้ให้ลุง และลุงพาฉันไปที่ร้านค้าหน่อย”
ลุงโบกมือของเขาทันทีเมื่อเห็นโทรศัพท์ “ไม่จำเป็น ฉันจะพาเธอไปที่นั่นเอง”
หลังจากที่เสื้อผ้าของเขาแห้ง เจียงซิ่วก็ไปที่ร้านพร้อมกับลุง เขาพบปัญหาอื่นที่นี่ หมายเลขทั้งหมดถูกเก็บไว้ในโทรศัพท์ของเขา และเขาก็ไม่ได้จำพวกมัน หมายเลขเดียวที่เขาจำได้ก็คือหมายเลขบ้านที่อยู่ในเมืองเจียง แต่ตอนนี้พ่อแม่ของเขาไปที่อันหนันแล้ว หมายเลขนั้นคงถูกยกเลิกไปแล้ว
เขายังจำหมายเลขอื่นได้อีก ซึ่งนั้นก็คือหมายเลขของหนานก๋งโควเอ๋อ เนื่องจากเขาต้องการโทรหาเธอเป็นการส่วนตัวในวันนั้น และยังได้รับ SMS จากเธออีก พวกมันจึงยังหลงเหลืออยู่ในความทรงจำของเขา
แต่เขาไม่สามารถโทรหาเธอไปทั้งๆ แบบนั้นได้!
ความสัมพันธ์ของพวกเขาค่อนข้างซับซ้อน และถ้าเขาโทรหาเธอ เธออาจจะคิดอย่างอื่น ตอนนี้เขาจำเรื่องนี้ได้แล้ว เขาจำได้ว่าบ่ายวันนั้นเขาป่าเถื่อนกับเธอขนาดไหน
“เกิดอะไรขึ้น?”
ลุงเห็นเจียงซิ่วลังเลในขณะที่รอสัญญาณ
“เบอร์ทั้งหมดอยู่ในโทรศัพท์มือถือ”
เจ้าของร้านค้ากล่าวกับเขา “เอาโทรศัพท์มาให้ฉันดูสิ”
เจียงซิ่วส่งโทรศัพท์ให้ เจ้าของผู้หญิงลองซ่อมมันดูนิดหน่อยแล้วก็กล่าว “มันพังไปแล้ว มันต้องใช้เงิน 200 หยวนเพื่อซ่อมมัน แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเบอร์ข้างในจะอยู่ไหม…”
ลุงเป็นคนดี แต่เขามาเป็นเพื่อนเจียงซิ่วแล้ว แม้แต่เจียงซิ่วก็ไม่กล้าที่จะถามเงินจากลุง
เขาขมวดคิ้ว “ให้ฉันลองโทรอีกครั้ง”
เขาโทรหาหมายเลขของหนานก๋งโควเอ๋อ โทรศัพท์ดังขึ้นสี่ครั้งหลังจากนั้นก็ถูกหยิบขึ้นมา เสียงที่ไพเราะของหนานก๋งโควเอ๋อดังมาจากอีกด้านหนึ่ง “ฮัลโหล นี่ใครค่ะ?”
เจียงซิ่วกล่าวด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก “นะ นี้… ฉะ ฉันเอง!”
หนานก๋งโควเอ๋อหยุดอยู่ครู่นึง “นายเป็นใคร?”
นี่เป็นเรื่องยากสำหรับเจียงซิ่วในการยอมรับมัน ใบหน้าของเขาเป็นสีแดง ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ใส่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น “ฉันเจียงซิ่วเอง ฉัน… ต้องการความช่วยเหลือจากเธอบางอย่าง”
“อ๋าาา นายย!”
เสียงของหนานก๋งโควเอ๋อกลายเป็นเย็นชา “เราไม่สนิทกัน”
ไม่กี่วันหลังจากที่เธอกลับบ้าน เธอได้ยินข่าวที่น่าอัศจรรย์ ตระกูลเจียงได้ก่ออาชญากรรมซึ่งนำไปสู่ความโกลาหลในมณฑลเจียงหนานและถูกตัดสินโดยไต๋ยัวไท๋ ตระกูลชนชั้นสูงนั้นพังทลายลงทันที
เพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าไปพัวพันกับมัน ตระกูลหนานก๋งจึงทำลายความสัมพันธ์กับตระกูลเจียงทันที และไม่ได้รับรู้ถึงการมีลงเอ่ยระหว่างเธอกับเจียงซิ่ว
เจียงซิ่วไม่ได้เป็นลูกหลานของตระกูลชนชั้นสูงอีกต่อไปแล้ว กลับกันเขากลายเป็นเด็กเหลือขอแทน
โดยธรรมชาติแล้ว เธอไม่สนใจว่าเขาจะเป็นใคร นอกจากเวลานั้น ทั้งคู่ก็ไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์ใดๆ อีก
“ใช่ เราไม่สนิทกัน แต่ฉันเจอปัญหาอยู่ที่นี่และฉันจำได้แค่เบอร์ของเธอเท่านั้น”
หนานก๋งโควเอ๋อกล่าว “นายจำเบอร์ของฉันได้ยังไง?”
ฉันไม่ต้องการที่จะจำมัน แต่เธอเขียนให้ฉันเองในเมืองเจียง และฉันก็โทรหาเธอหลังจากนั้น ฉันทำอะไรได้บ้าง?
“นายต้องการให้ฉันช่วยอะไร?”
หนานก๋งโควเอ๋อไม่ได้ตัดสาย
“คิดวิธีช่วยฉันหน่อย ปัจจุบันฉันอยู่ที่คาบสมุทรเหลียวตงแม่น้ำยาลู ฉันอยู่ที่นี่คนเดียว ฉันทำกระเป๋าเงินของฉันหาย บัตรประจำตัวด้วยเหมือนกัน และโทรศัพท์ของฉันก็พังไปแล้ว”
หนานก๋งโควเอ๋อตอบ “นายคือคนที่โทรหาฉัน และนายก็ยังต้องการให้ฉันคิดวิธีช่วยนายอีก?” น้ำเสียงของเธอค่อนข้างดุเดือด มันราวกับว่าเธอกำลังจะวางสายในไม่ช้านี้