Girl, I’ll Teach You Cultivation – ฉันจะสอนเธอบ่มเพาะเอง - ตอนที่ 268
บทที่ 268
คนงามของมหาลัยคือภรรยาของฉัน
หลงหยิงชิงกลายเป็นอิจฉานิดหน่อย แม้ว่าตระกูลหลงจะเป็นตระกูลที่มั่งคั่ง มันก็คงเป็นไปไม่ได้อยู่ดีที่พวกเธอจะใช้เงิน 500 ล้านยูโรเพื่อซื้อเครื่องประดับ เธอเชื่อว่าจำนวนคนที่สามารถทำสิ่งนี้ได้สามารถนับได้ด้วยนิ้วเดียวและเจียงซิ่วก็เป็นหนึ่งในนั้น สายตาของเธอเลื่อนเข้ามาหาเขา “ฉันต้องการคุนกับนาย”
2 เดือนผ่านไปนับตั้งแต่เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น ดังนั้นเรื่องนั้นจึงไม่ได้เป็นเรื่องใหม่อีกต่อไป แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องอื้อฉาว หลังจากทั้งหมดแล้ว มันก็ไม่ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญ ก่อนที่เจียงซิ่วจะได้อ้าปากพูด เฉิงหลิงหรานก็ก้าวออกไปด้านข้างแล้ว “เธอทั้งคู่คุยกันได้เลย”
เจียงซิ่วมองไปยังหลงหยิงชิง เขารู้ว่าเธอต้องการจะพูดอะไร ตระกูลหลงเป็นตระกูลหนึ่งในสาขาของประตูสวรรค์ และอิทธิพลที่มีในประเทศจีนก็ไม่ได้เล็กน้อย แต่เนื่องจากเจียงซิ่วได้ทำลายประตูสวรรค์ไปแล้ว พวกเขาจึงสูญเสียจุดค้ำจุล และประเทศขัดขวางในทุกๆ ทาง
หลงหยิงชิงกล่าว “ประตูสวรรค์ไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้ว ตระกูลหลงต้องการความช่วยเหลือจากนาย”
เจียงซิ่วมองเธอพร้อมกับแสร้งยิ้ม “ฉันยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ปลดปล่อยตระกูลหลงของเธอออกจากเบ็ดได้ และเธอยังต้องการให้ฉันสนับสนุนพวกเขา?”
“ฉันรู้ว่าคำขอนี้มากเกินไป แต่ตระกูลของฉันก็ไม่มีที่ไปแล้ว”
หากศัตรูเป็นแค่พลังอำนาจธรรมดา มันจะไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่ แต่แรงกดดันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมาจากทางการของจีน สินทรัพย์ของตระกูลหลงจำนวนมากอยู่ในประเทศจีน และเจ้าหน้าที่ก็ควบคุมการไหลออกของเงินทุน ตระกูลหลงของพวกเธอไม่สามารถเคลื่อนย้ายทรัพย์สินของตัวเองออกไปได้ และติดอยู่สถานะที่ยากลำบาก และมีเพียงหนึ่งความคิดเดียวที่เหลืออยู่ในใจ – การขอความช่วยเหลือจากเจียงโหลวเซี่ย
เจียงซิ่วกล่าว “ตระกูลหลงของเธอที่เป็นสมาชิกของประตูสวรรค์ ก็เหมือนกับการละทิ้งจีนไปแล้ว”
ทางการจีนปฏิเสธประตูสวรรค์ และประตูสวรรค์เองก็ถือจีนเป็นดินแดนต้องห้าม แม้แต่กระทั่งเซียนของตระกูลหลง หลงไซ๋ซง เขาไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศและต้องอาศัยอยู่ในยุโรปเท่านั้น ตอนนี้ประตูสวรรค์เองก็ถูกทำลายแล้ว ตระกูลหลงสูญเสียผู้อุปถัมภ์ค้ำชู และเจ้าหน้าที่จะไม่ปล่อยพวกเขาไปอย่างง่ายดาย
“ตระกูลหลงของฉันรู้ว่าเรื่องนี้ค่อนข้างยุ่งยาก และนั่นเป็นสาเหตุที่เราต้องการความช่วยเหลือจากนาย”
“ทำไมฉันถึงต้องช่วยเหลือตระกูลหลงของเธอด้วย?”
“ตระกูลหลงประสงค์ที่จะจงรักภักดีต่อนาย และรับใช้ตามคำสั่งของนาย”
เจียงซิ่วเยาะเย้ยเธอ “ตระกูลหลงของเธอคงวางแผนมาดี ตอนนี้ หลายตระกูลต้องการถวายความจงรักภักดีแก่ฉัน และหลายตระกูลก็มีพลังอำนาจมากกว่าตระกูลหลงของเธอ”
คำพูดเหล่านี้ไม่ได้พูดเกินจริง โดยเฉพาะตระกูลที่อยู่ในโลกศิลปะการต่อสู้ พวกเขาต่างรีบวิ่งเข้ามาเหมือนเป็ด มุ่งหน้าสู่เจียงโหลวเซี่ย ถ้าเขาต้องการมัน พวกเขาจะได้การอุปถัมภ์อันยิ่งใหญ่
หลงหยิงชิงขบริมฝีปากเล็กน้อย “นายไม่รู้สึกเสียใจแม้แต่นิดเดียวเลยหรอที่ได้แกล้งฉัน? หลังจากทั้งหมดแล้วฉันก็เป็นผู้หญิง นายไม่คิดว่าการกระทำของนายผิดเลยหรอ?”
เจียงซิ่วรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ดูไร้เดียงสาเล็กน้อย แต่เธอก็แสดงออกอย่างจริงจังขณะที่เธอพูดอย่างนี้ บางทีสิ่งเหล่านี้อาจเป็นความคิดที่แท้จริงจากใจของเธอ เธอกล่าวต่อ “ตามที่ฉันรู้สึก มันเป็นระเบิดครั้งใหญ่สำหรับฉัน แต่ที่ฉันก็พร้อมที่จะให้อภัยนาย”
และเทพซิ่วของเราก็คล้ายกับจะกลายเป็นไร้เดียงสา เขามีความตั้งใจที่จะเข้าร่วมกับตระกูลหลงอยู่แล้ว นี่เป็นเพราะการกระทำของหลงไซ๋ซง ที่ได้ทำเพื่อหลานสาวของเขา มันทำให้เขาสามารถมองเห็นอีกด้านที่แตกต่างไปจากความเยือกเย็นตามปกติของตระกูลชนชั้นสูง และยังทำให้เขาเห็นความงดงามตามธรรมชาติของมนุษย์ แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับเจียงซิ่วที่จะให้โอกาสพวกเขา
เขาลุกขึ้นและจากไป หลงหยิงชิงกล่าวตามไปอย่างกังวล แต่แล้วเธอก็ได้ยินเขาพูด – “เอาหล่ะ มันเป็นข้อตกลง ฉันจะช่วยตระกูลหลงของเธอเพื่อแลกกับการให้อภัย”
หลงหลิงชิงไม่อยากจะเชื่อ เขาสัญญาว่าจะทำมันด้วยเหตุผลที่ดูบ้าบอสิ้นดี เธอแสดงความขอบคุณต่อเขาอย่างจริงใจ “ขอบคุณ!”
ตระกูลหลงเป็นสาขาที่เหลืออยู่ของประตูสวรรค์ และเขาก็รู้ได้อย่างชัดเจนว่าประตูสวรรค์แค่หนึ่งสาขาก็มีอิทธิพลมากแล้ว เจียงซิ่วต้องการให้ตระกูลหลงร้อยเชือกอำนาจเหล่านั้นเข้าด้วยกัน รวมเข้ากับเกาหลี ญี่ปุ่น และยุโรป
…
หลังจากอาหารกลางวัน เจียงซิ่วถูกบังคับโดยเฉิงหลิงหรานในการไปเยี่ยมชม NU เพื่อตามหาเฉิงหลิงซู
เมื่อเขามาถึงทางเข้า เขาก็จำถึงเวลาบ่ายที่น่าหวั่นสำหรับเขา ก็ในเมื่อแม่บังคับให้เขาแต่งงานกับเฉิงหลิงซู และวันนี้เองก็เป็นบ่ายเหมือนกัน เขาคิด – ฉันถือได้ว่าเป็นลูกกตัญญู ใช่ไหม?
เจียงซิ่วถามคนแถวนั้น “เพื่อน คนจากอาคารแผนกบัญชีอยู่ไหน?”
บุคคลนั้นตอบว่า “ฉันว่าพวกเขาน่าจะอยู่ในห้องประชุมอยู่นะ ฝึกซ้อมแต่งตัว”
หลังจากกล่าวคำขอบคุณ เจียงซิ่วก็ไปที่หอประชุมต่อ เทมอนี้ได้ย่างก้าวเข้ามาสู่เดือนธันวาคมแล้ว สภานักเรียนจึงค่อนข้างยุ่ง กล่าวอีกนัยนึง พวกเขาต้องเตรียมตัวสำหรับการสอบปลายภาค แต่ในทางกลับกัน วันหยุดมันค่อนข้างเยอะ คริสมาสต์จะมาถึงเร็วๆ นี้ และวันปีใหม่ก็จะตามมา การซ้อมใหญ่สำหรับงานเลี้ยงสังสรรค์ในวันปีใหม่จะสำคัญมาก
มีคนจำนวนมากเกินไปในหอประชุม ประมาณ 60-70 คน พวกเขาทุกคนยุ่งและพูดคุยกันอยู่เป็นกลุ่มละคนหรือสองคน บางคนจัดกิจกรรมบนเวที
อันที่จริงแล้ว วันนี้ถือเป็นกำหนดการของแผนกบัญชี หลายคนเหนื่อยอ่อน และก็มีเพียงแค่สองแผนกเท่านั้นที่อยู่ในรายชื่อครั้งนี้ ท้ายที่สุดแล้วทุกอย่างก็มาจากการคัดเลือก และได้รับโอกาสในการแสดงในวันปีใหม่
เจียงซิ่วกวาดสายตาของเขาไปทั่วฝูงชนและค้นพบเฉิงหลิงซู เธอสวมชุดเต้นรำ และดูเหมือนว่าจะเป็นการเต้นรำสมัยใหม่ ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าไปรบกวนเธอ เขามาที่นี่วันนี้เพื่อทำให้ชื่อของเขาเป็นที่รู้จัก – สวัสดีทุกคน ฉันเป็นสามีของเฉิงหลิงซู ฉันเป็นคนถอนดอกไม้ที่เรียกว่าคนงามมหาวิทยาลัยเฉิง ดังนั้นโปรดยับยั้งสัญชาตญาณสัตว์ป่าของพวกนาย และเก็บตัวให้ห่างจากดอกไม้ที่ถูกดึงออกมาดอกนี้ซะ
เขามาที่นี่เพื่อให้พวกเขารู้ว่าเฉิงหลิงซูถูกครอบครองแล้ว ก็เพื่อที่จะทำให้ผึ้งที่บินหึ่งๆ อยู่ข้างเธอออกห่าง
อันที่จริง เขาตั้งตารอคอยที่จะได้เห็นเฉิงหลิงซูมุ่งไปหาคนอื่น เขาจะได้หย่ากับเธอได้อย่างมั่นใจและยุติธรรม แต่เขารู้ว่านี่เป็นไปไม่ได้ เขาไม่มั่นใจในเสน่ห์ของเขา แต่ค่อนข้างมีความเชื่อมั่นอย่างแท้จริงในเกี่ยวกับลักษณะนิสัยของเฉิงหลิงซู เด็กหญิงโลภมากอย่างเธอจะไม่ละทิ้งเจียงโหลวเซี่ย บุคคลที่มีอำนาจทางการเงินเจริญมั่งคั่ง วิธีเดียวที่จะเป็นไปได้ก็คือ การที่เขากลับไปเป็นเด็กเหลือขอของครอบครัวที่ขายผลไม้จากแผง
“เฮ้ย ไอ้น้อง หลีกไป…”
เจียงซิ่วที่กำลังรออย่างเบื่อหน่ายได้เห็นกลุ่มก้อนเนื้อเดินเข้ามา มันเป็นกลุ่มผู้ชาย 4 คน แต่ละคนมีความสูงมากกว่า 1.8 ม ส่งผลทำให้พวกเขาดูสูงกว่าเจียงซิ่ว หนึ่งในนั้นล่วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกง ดูจากรูปลักษณ์ที่ดูไม่ดี นั้นก็ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้นำของพวกนั้น
“ต้องการอะไร?”
“หุบปากแล้วขยับก้นแกออกไป…”
เจียงซิ่วมองข้างตัวเขาและสังเกตเห็นว่ามีที่นั่งว่างมากมาย เขาไม่ต้องการชักชวนปัญาเข้ามาในตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงเลื่อนไปด้านข้าง ชายเย็นคนนั้นนั่งลงตรงที่ที่เจียงซิ่วเคยนั่ง และอีกสามคนก็นั่งลงเช่นกัน
“นายน้อยอ้าย เธออยู่นั้น!”
หนึ่งในนั้นผู้ชี้ไปที่หญิงสาวบนเวที ผิวของเธอเป็นสีขาวราวกับหิมะและยังแต่งหน้าแต่งตา เธอมีความสูงของหญิงสาวในภาคเหนือ แต่ก็มีรูปแบบที่สง่างามดึงดูดใจในแบบหญิงสาวจากมณฑลเจียงหนานแถบชนบท การเคลื่อนไหวของเธอแต่ละครั้งดึงดูดสายตาของทุกคนและแค่มองเธอก็ทำให้รู้สึกราวกับว่าโลกนี้ทั้งใบดูสวยงาม ถ้าใครมีเธอ มันก็เหมือนกับการมีโลกทั้งใบนี้ไม่มีอะไรอื่นสำคัญ
ชายคนที่ถูกเรียกนายน้อยอ้ายกล่าว “พ่อคนนี้ต้องการคนที่เซ็กซี่ไม่ใช่ประเภทที่ดีแต่ทำตัวสวย… แกกำลัง… พูด…” คำพูดของเขาหยุดลงเมื่อจ้องมองไปที่หญิงสาว เขาไม่สามารถละสายตาจากเธอได้
มันไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นคนงามน้องใหม่ใน NU แห่งนี้ เฉิงหลิงซู
ช่วงเวลาที่ผู้หญิงคนนี้ปรากฏตัวขึ้นในหมู่คนงามของมหาวิทยาลัย มันก็ก่อเกิดความรู้สึกมากมายมหาศาลขึ้น มันส่งผลทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่โด่งดังขึ้นมาในช่วงเวลานึง เพราะสิ่งนี้มันจึงทำให้เหล่าผู้ชายๆ ไล่ตามเธออย่างไม่ลดละ
หลังจากหยุดไปชั่วครู่ นายน้อยอ้ายก็กล่าว “เธอก็แค่คนธรรมดา!” แต่ดวงตาของเขาก็ไม่เคยขยับออกห่างจากร่างกายของเฉิงหลิงซู
มันเป็นการประยุกต์ใช้คำพูดของโจวซิงซิงได้ดี – ดอกไม้ต้องการใบไม้เพื่อรองรับ
ไม่มีอันตรายใดที่สามารถทำได้โดยโดยไม่มีอันตราย
แต่ความจริงก็คือความงามของมนุษย์ไม่สามารถโกงตัวมันเองได้ เขาไม่สามารถหาตำหนิแม้แต่เพียงครั้งจากเฉิงหลิงซูได้ เธอสมบูรณ์แบบจริงๆ และถึงแม้แต่จะเป็นเขาก็ไม่ได้ตระหนักว่าเขาได้สูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองให้กับความน่าหลงไหลของเธอไปนานแล้ว
“สาวเลวเอ้ย แกมาจากแผนกบัญชีรึเปล่า?”
“ไม่ ฉันแต่มาดูภรรยาของฉัน”
เทพซิ่วของเรารำพึ่งอยู่ข้างใน มันราวกับชีวิตดูไม่มีความหมายอีกต่อไปเมื่อเขาพูดคำเหล่านี้
“ภรรยาของแก? มันคือใคร? บอกฉัน…”
เจียงซิ่วชี้ไปที่เฉิงหลิงซู “เธอไง เฉิงหลิงซู!”
“อะไรนะ?!”
ทั้งกลุ่มร้องออกมาพร้อมกัน
“หยุดเพ้อ เข้าใจไหมห้ะ? แกบอกว่าเฉิงหลิงซูเป็นภรรยาของแก? สารเลว แกคลั่งจนเป็นบ้าไปแล้วหรือไง?” ชายหนึ่งในนั้นส่งเสียงเอะอะโวยวาย เขาเดินไปทางด้านข้างของกลุ่มนักศึกษาอีกกลุ่มหนึ่งจากนั้นก็พูดว่า “เทียนบู่ ไอ้นี้มันบอกว่าเฉิงหลิงซูในแผนกของนายเป็นภรรยาของตัวเอง”
ผู้ชายคนนั้นที่ชื่อเทียนบู่ก็เริ่มหัวเราะเช่นกัน “เขาคงต้องพ่ำเพ้อแน่”
“แกคือใคร? ฉันกลัวว่าเฉิงหลิงซูจะไม่แม้แต่จะรู้จักชื่อแก”
เจียงซิ่วกล่าว “อย่าเชื่อฉัน แกนายไม่ต้องการ!”
เรื่องนี้ไม่สำคัญสำหรับชายเหล่านี้ อีกเหตุผลหนึ่งที่คนงามของมหาวิทยาลัยดังขึ้น เฉิงหลิงซู ซึ่งได้รับความนิยมมาก มันเป็นเพราะเธอไม่ยอมรับคำสารภาพของทุกคน มีข่าวลือว่าเธอไม่มีแฟน
แม้ว่าเธอจะอ้างว่าเธอมีแฟน แต่ก็ไม่มีใครเคยเห็นแฟนคนนั้นมาจนถึงตอนนี้
ทุกคนเชื่อว่าเธอเป็นผู้หญิงที่บริสุทธิ์
“ไอ้น้อง ดูเหมือนว่าแกเพิ่งจะพูดเรื่องใหญ่ไป คุณควรเลือกสิ่งที่จะโอ้อวดให้เหมาะสม ไม่จำเป็นเลยที่ต้องคุยโวว่าเฉิงหลิงซูเป็นภรรยาของแก ถ้าเป็นจริง พ่อนี้คนจะกินโต๊ะนี้” เขาตบโต๊ะด้วยสีหน้าเยาะเย้ย
ผู้คนบนเวทีเองก็สังเกตเห็นความปั่นป่วนที่นั่นเช่นกัน เฉิงหลิงซูเองก็ยังสังเกตเห็นเจียงซิ่วอยู่ที่นั่น ดวงตาของเธอสว่างขึ้นด้วยความประหลาดใจขณะที่เธอร้องเรียกเขา “สามี!”
“…”
เจียงซิ่วพูดไม่ออก
จะใช้ผัวค้า แต่ไม่ดีกว่าเกรงใจ 555