Girl, I’ll Teach You Cultivation – ฉันจะสอนเธอบ่มเพาะเอง - ตอนที่ 269
บทที่ 269
อะไรว่ะนี่ย?
“ห้ะ?” ผู้คนรอบข้างยืนขึ้นด้วยความตกใจ ดวงตาเบิกกว้าง คนงามน้องใหม่ของมหาวิทยาลัย เฉิงหลิงซู ซึ่งพวกเขานับถือในฐานะเทพธิดากล่าวคำว่า ‘สามี’ ออกมาจริงๆ สิ่งนี้มันน่าตกตะลึงเกินไป
พวกที่อยู่ข้างๆ เขากลายเป็นโง่เง่าสุด โดยเฉพาะเทียนบู่ เขาเพิ่งอ้างว่าเขาจะกินโต๊ะถ้าเจียงซิ่วเป็นแฟนของเฉิงหลิงซูจริงๆ และเขาก็ยังไม่ทันได้ชักมือกลับออกจากโต๊ะก็มีบางอย่างเข้ามาตบหน้าเขาอย่างรวดเร็ว เขาแสดงออกอย่างเขินอาย แต่ก็รู้สึกตกใจมากขึ้นกว่าเดิม
“เขาเป็นแฟนของเธอจริงๆ?”
จากสิ่งที่เขารู้ มีนายน้อยหนุ่มสาวมากมายและชายผู้มั่งคั่งไล่ตามเฉิงหลิงซูอยู่
เฉิงหลิงซูชอบเขา?
มันไม่ได้เป็นเพราะเจียงซิ่วดูอ่อนด้อย แต่เขาปรากฏตัวออกมาแบบธรรมดามากเกินไป และแทบจะไม่รู้ว่าเขามีฐานะที่จะไล่จีบคนงามของมหาลัยได้ เทียนบู่ไม่คิดว่าจะใครบางคนเช่นนี้จะทำมันได้ เพราะปัจจุบันเฉิงหลิงซูเป็นคนงามที่โด่งดังของมหาวิทยาลัย
เฉิงหลิงซูเดินมาหาเจียงซิ่วเรียบร้อยแล้ว จริงๆ แล้วชายคนนี้ยังมีการแสดงออกทางอารมณ์อยู่บ้าง มันราวกับว่าเขาไม่ได้ฟังคำเรียกที่น่ารักจากคนงามของมหาวิทยาลัย การแสดงออกของเขาดูแข็งกระด้างไปเล็กน้อย
เฉิงหลิงซูไม่ได้คาดหวังว่าเจียงซิ่วจะมาปรากฏตัวที่นี่ ดังนั้นเธอจึงรู้สึกประหลาดใจอย่างมากและไม่สามารถปกปิดความสุขในดวงตาของเธอได้ – “นายมาที่นี่ทำไม?”
“อืมม ฉันก็แค่ผ่านมาจากที่ใกล้ๆ…”
เฉิงหลิงซูส่งรอยยิ้มราวกับดอกไม้ออกไป ไม่สำคัญว่าเขาจะมาที่นี่ด้วยความจริงใจหรือเล่นละคร เธอค้องแขนเขาและดึงมาไปหาที่ให้เขานั่ง พาเขาไปที่เวทีอย่างสุขสมรื่นรมย์ “ฉันจะแนะนำเพื่อนร่วมชั้นให้กับนาย”
เหมือนคู่ที่สมบูรณ์แบบ!
เจียงซิ่วไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมใกล้ชิดสนิทสนมของเฉิงหลิงซูได้ ดังนั้นร่างกายของเขาจึงค่อนข้างแข็ง แต่เขาก็ปล่อยให้เธอดึงเขาขึ้นไปบนเวที สายตาของสาวๆ บนเวทีนั้นกำลังลุกไหม้ไปด้วยเปลวไฟของการอยากนินทา
“ซูซู…”
“นี่ใครเหรอ?”
พวกเธอประเมินเจียงซิ่วอย่างไม่ควบคุมสายตา พวกเธอรู้สึกว่าเขาไม่เหมาะกับเฉิงหลิงซู
“อะแฮ่ม… เพื่อนร่วมชั้นที่น่ารักของฉัน…”
“ให้ฉันแนะนำอย่างเป็นทางการ ขอแนะนำให้พี่น้องรู้จักกับเจียงซิ่ว” เฉิงหลิงซูสวมรอยยิ้มเปล่งประกายระยิบระยับอยู่บนใบหน้าของเธอ ซึ่งมัน็ทำให้เธอดูงดงามและมีเสน่ห์มากกว่าแต่ก่อน “ฉัน… สามีของฉันเอง”
เธอปิดหน้าด้วยมือทั้งสองหลังจากพูดคำเหล่านี้ ราวกับว่าเธอไม่สามารถแสดงสีหน้าของเธอในตอนนี้ได้เนื่องจากรู้สึกอาย และก็ได้ซ่อนตัวอยู่ในอ้อมอกของเจียงซิ่ว
ผู้หญิงคนนี้รู้วิธีแกล้งจริงๆ !
สำหรับเจียงซิ่ว – เขารู้สึกว่าชีวิตไม่มีความหมายอีกต่อไป เขาสงสัยว่าทำไมเขาถึงอยู่ที่นี่? เขามาจากไหน? เขาคิดว่าอาจถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องกลับไป ความชิงชังที่เขารู้สึกต่อเฉิงหลิงซูเพิ่มขึ้นมากขึ้น แต่เขาต้องยังต้องคู่กับเธอ
เฉิงหลิงซูเหลียวขึ้นมองอย่างระมัดระวัง ในขณะที่ใบหน้าของเธอแดงเล็กน้อย
“ซูซู ในที่สุดเธอก็เปิดเผยมันแล้ว…”
“เธอซ่อนมันได้ดีเกินไปแล้วนะ”
“ฉันซ่อนมันตั้งแต่เมื่อไหร่? เขาไม่ได้มาที่นี่วันนี้แล้วเหรอ? เอาล่ะตอนนี้ก็หยุดจ้องเขาได้แล้ว” เฉิงหลิงซูกล่าวออกมาพร้อมกับใบหน้าที่แดงเทือก
เหมาเซี่ยวหลินกล่าว “โอ้ย หยุดทำตัวเหมือนเด็กน่าเถอะน่า เธอไม่ได้เสียอะไรซักหน่อย ถ้าเราจะมองเขา”
“ไม่!”
“เธอไม่ได้รับอนุญาตให้จ้องมองเขา!”
เฉิงหลิงซูปิดกั้นมุมมองของพวกเธอโดยการมายืนบังหน้า ผู้หญิงสองสามคนเข้ามาอย่างนึกสนุก ทันใดนั้นเอง เวทีก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะที่ไพเราะงดงาม ชายทุกคนจ้องมาที่ฉากนี้ด้วยความอิจฉา
สำหรับการซ้อมที่เหลือ เจียงซิวได้รับอนุญาตให้ดูจากแถวที่ 1 ผู้ชายคนนี้คิดว่าภารกิจของเขาเสร็จสมบูรณ์แล้วก็ในเมื่อที่ทุกคนรู้ว่าเฉิงหลิงซูถูกครอบครองแล้ว นั้นจะต้องทำให้ชายเหล่านั้นไม่มารบกวนเธออีกและในที่สุดความทุกข์ทรมานของเขาก็จะจบลง
เฉิงหลิงซูเป็นคนเต้นนำ เธอเคลื่อนที่ได้ค่อนข้างดี และทำเบรกแดนซ์แบบหุ่นยนต์ซึ่งนำความเป็นตัวเองของเธอออกมาจริงๆ อันที่จริง ผู้หญิงดูน่ารักกว่าในขณะที่แสดงเต้น มันมากกว่าตอนที่ผู้ชายแสดง
“ประวัติของสารเลวนั้นคืออะไร?”
“เขาควงกับคนงามมหาลัยจริงๆ”
เหล่าผู้ชายรู้สึกไม่สบายใจ
“ไอ้น้อง มากับฉัน..”
ชายคนที่เรียกว่านายน้อยอ้าวกล่าวเรียกเจียงซิ่วอย่างเย็นชา และเจียงซิ่วก็ตามเขาไปเหมือนกับคนโง่เง่า ผู้หญิงหยุดซ้อมเมื่อพวกเธอเห็นสิ่งนี้
“ซูซู แฟนของเธอถูกทีมบาสเกตบอลเรียกออกไป”
“พวกเขาไม่ใช่คนที่จะยั่วยุได้”
เฉิงหลิงซูเองก็เห็น แต่เธอเธอมีความคิดที่แตกต่างจากพวกเธอ เธอไม่รู้หรอกว่าใครกันแน่ที่ไม่ควรไปยุ่งด้วย
“ไปดูกันว่าเขาจะเป็นยังไง”
เจียงซิ่วถูกนำไปที่ต้นไทรข้างสนามเด็กเล่น มีชายสองสามคนล้อมรอบเขาในขณะที่ชายที่ดูเท่ห์ มองมาที่เจียงซิ่วแบบเยาะเย้ย “แกกล้าทำตัวเจ้าชู้ต่อหน้าพ่อคนนี้ ไอน้อง แกกล้าหาญจริงๆ!”
“นายอยากสู้?”
เจียงซิ่วเห็นสิ่งต่างๆ เหล่านี้มาตั้งแต่มัธยมต้น เขายิ้ม “นี่มันไม่ยุติธรรมเกินไป? พวกนายหลายคนจะมาต่อสู้กับฉันพร้อมกันเลยรึไง?”
นายน้ยบอ้ายกล่าว “เราไม่เคยสู้ เราก็ทุบตีคนที่แม่งน่าทุบก็แค่นั้น”
เจียงซิ่วมองไปรอบๆ เพื่อมองหาสิ่งที่เขาสามารถใช้เป็นตัวอย่างได้ แต่ก็ไม่พบอะไรเลย เขาเห็นจักรยานจอดอยู่ข้างแปลงดอกไม้ ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่นั่นและจับมันขึ้นมา หลังจากนั้นก็มีฉากที่น่ามึนงงเกิดขึ้น เหล็กเส้นตรงนั้นเบี้ยวโดยเจียงซิ่วแล้วก็แตกออก
เจียงซิ่วถามพวกเขาว่า “นายยังอยากจะสู้อยู่ใช่ไหม?”
เพ้ย!
แม่ง!
ฟันกรามของสมาชิกในทีมบาสเก็ตบอลเกือบตกลงไปที่พื้น อาการโง่เง่าปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของพวกเขา นั่นคือแท่งเหล็ก เพื่อน นายล้อพวกเราเล่นถูกไหม?
เขายังเป็นมนุษย์อยู่? หาเรื่องเขาไม่เท่ากับการลงโทษตัวเองรึไง?
“หนีเร็ว!”
การอบรมที่มอบให้กับทีมกีฬานี้ไม่ใช่สิ่งง่ายๆ พวกเขาหนีออกจากที่เกิดเหตุทันทีและวิ่งไป 500-600 เมตรในหนึ่งลมหายใจ ซ่อนตัวอยู่ในตรอกซอย พวกเขาหันหลังกลับและยืนยันว่าให้มั่นใจว่าเจียงซิ่วไม่ได้ไล่ตามพวกเขา จากนั้นก็เช็ดเหงื่อที่หน้าผาก
“บิดจักรยานที่ทำจากเหล็ก”
“แม่งเอ้ย!”
“อะไรว่ะเนี่ย!?”
เฉิงหลิงซูเป็นกังวลเล็กน้อย ดังนั้นเธอเลยมาด้วย และได้ลักษณะของพวกเขาที่ราวกับจะกล่าวว่า ‘รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้เกิดมาสามขา’ เธอมองเจียงซิ่วอย่างติเตียน “นายใช้ความรุนแรงเพื่อแก้ไขปัญหาอีกแล้วใช่ไหม?”
“พวกเขาคือคนที่ต้องการโจมตีฉัน”
เฉิงหลิงซูมองจักรยานบนพื้น ด้ามจับของมันถูกบิดเป็นรูปร่างแปลกๆ และโยนเข้าไปในแปลงดอกไม้ เธอพูดไม่ออก
ผู้หญิงคนอื่นๆ ก็รีบวิ่งเข้ามา “เป็นไงบ้าง? ทุกอย่างไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“ทุกอย่างโอเคดี”
เฉิงหลิงซูกล่าว “วันนี้หยุดซ้อมไว้แค่นี้กันเถอะ สาวๆ ตั้งแต่เจ้าภาพได้มาถึงแล้ว เราต้องรีดนมให้เขาแห้ง มันเป็นเวลาของความสุขที่เราต้องการ”
เธอทำตามวัตถุประสงค์ของเจียงซิ่วในวันนี้ เธอเชื่อว่าหลินเยี่ยหลิงต้องบอกเขามา ดังนั้นเธอจึงเริ่มแสดงท่าทางแบบโจ่งแจ้งเล็กน้อย แฟนของเพื่อนสนิทเธอ ก็เคยทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพมาก่อนยกเว้นเธอ
“เย้ โอเค แล้วพวกเราจะไปเที่ยวคลับกันเหรอ?”
“ได้!”
หญิงสาวสลายตัวอย่างรวดเร็ว และวางแผนต่างๆ อย่างรวดเร็ว
“เจียงซิ่ว รอพวกเราก่อน พวกเราทุกคนเหงื่อออกหมดแล้ว แล้วเราจะกลับมาหลังจากอาบน้ำนะ” เฉิงหลิงซูกลับไปที่
หอพักพร้อมกับกลุ่มสาวๆ และปล่อยให้เจียงซิ่วรอที่ปากทางเข้าหอพักเทพซิ่วไว้หน้าเธอมากมายจริงๆ วันนี้ เขาเองก็ไม่ต้องการให้เธอสร้างปัญหาให้เขา แต่ถ้าเธอบ่นกับหลินเยี่ยหลิง เขาจะเป็นคนที่ต้องทนทุกข์ทรมาน
เหมาเซี่ยวหลิน เช่นเดียวกับเซี่ยวฟางฟาง โทรเรียกแฟนของพวกเธอมาด้วยเช่นกัน ตั้งแต่วันนี้ถือกำเนิดเจ้าภาพขึ้นแล้ว สมาชิกก็ต้องสูงตามไปด้วย
กลุ่มคนไปไนท์คลับที่อยู่ใกล้เคียง
ไนต์คลับถูกนักศึกษามหาวิทยาลัยเจ็ดชั่วโครตยึดไว้ มันเป็นสถานที่ที่พวกเขาสามารถดื่มด่ำกับความปรารถนาที่ลึกที่สุดในหัวใจของพวกเขาได้ เจียงซิ่วและเฉิงหลิงซูนั่งลงบนโซฟา ในขณะที่ชายและหญิงเหล่านั้นขึ้นไปบนฟลอร์เต้นรำเพื่อเต้นรำ “วันนี้ขอบคุณมากนะ!”
เมื่อเห็นว่าไม่มีเพื่อนร่วมชั้นของเธออยู่ที่นี่ เฉิงหลิงซูจึงพูดสิ่งที่อยู่ในหัวใจของเธอออกมา
เจียงซิ่วตอบอย่างเฉยเมย “ฉันก็ไม่อยากชวนตัวเองให้มาพบกับความยุ่งยากหรอก”
ทั้งจากทั้งหมดแล้วทั้งคู่เป็นคู่สามีภรรยาที่ถูกต้องตามหลัก ทั้งในนามและกฎหมาย
“โอ้!”
เฉิงหลิงซูตอบเขาด้วย ‘โอ้’ ในขณะที่พ่องแก้มอันน่ารักของเธอ จริงๆ เธอก็พอใจแล้วถึง 70-80% ที่เจียงซิ่วมา เพราะเธอรู้จักบุคลิกของเขาเป็นอย่างดี
“ฉันอยากไปเที่ยวที่ไนต์คลับอยู่เสมอเพราะฉันได้ยินว่ามันเป็นสถานที่ที่สนุก แต่ก็ไม่เคยกล้าเพราะพวกเขาบอกว่ามันเป็นสถานที่ที่วุ่นวายมาก ในที่สุดฉันก็มาที่นี่ได้เพราะนายเองก็มากับฉัน”
เจียงซิ่วไม่ตอบเธอ เขาไม่ต้องการให้เฉิงหลิงซูเข้าใจผิดและรู้สึกว่าพวกเขาฝังขวานกันจริงๆ (ฝังขวานลงดิน เป็นสำนวนที่ว่าคนสองคนจับมือปรองดองและเริ่มสนิทชิดเชื้อกัน)
“ฉันจะไปเต้นแล้ว”
เจียงซิ่วพยักหน้า รู้สึกเหมือนเสียวันนี้ทั้งวันไป แต่หลังจากนั้นไม่นาน เฉิงหลิงซูก็กลับมาด้วยสีหน้าเย็นชา เด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินตามเธอมาด้วยการยิ้มบนใบหน้าของเขา เจียงซิ่วรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยจากสิ่งนี้
“สาวน้อย เธอไม่ไว้หน้าฉันเลยจริงๆ!” เหมาเซี่ยวหลิน เช่นเดียวกับเซี่ยวฟางฟางเองก็กลับมาเช่นกัน ดูเหมือนว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นบนฟลอร์เต้นรำ
เฉิงหลิงซูมองผู้ชายคนนั้นอย่างเยือกเย็น
“อย่าโทษฉันที่ว่าฉันไม่เตือนนเธอ เจ้านายของฉันคือลูกน้องของนายน้อยหลิน และที่แห่งนี้ก็ดำเนินต่อไปได้เพราะนายน้อยหลินเหมือนกัน เธอจะไม่สามารถออกจากสถานที่นี้ได้ เว้นแต่เธอจะมากับฉันเพื่อดื่มสักสองสามแก้ว”
เหมาเซี่ยวหลินถาม “นายน้อยหลินคือใคร? นายกำลังพูดเรื่องอะไร?”
“ยังมีใครในเมืองหลวงที่กล้าเรียกตัวเองว่านายหลินอีก? โดยธรรมชาติแล้วมันย่อมเป็น หลินชิเฉียนจากตระกูลหลิน!”
“หลินชิเฉียน?”
การแสดงออกของผู้คนโดยรอบเหยเก
ทุกคนรู้จักชื่อเสียงของหลินชิเฉียนในอณาเขตแห่งนี้ 80% ของอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ บาร์คลับ ทุกอย่างเป็นเจ้าของโดยหลินชิเฉียน
เจียงซิ่วคิด – ฉันแทบจะไม่ได้พูดถึงการไปเยี่ยมเยือนตระหลินเพราะปัญหาที่เกิดขึ้น นี้ไง ฉันมาลงเอยในสถานที่ที่พวกเขาเป็นเจ้าของจนได้