Girl, I’ll Teach You Cultivation – ฉันจะสอนเธอบ่มเพาะเอง - ตอนที่ 271
บทที่ 271
การตักเตือน
ซิการ์อันใหญ่ เช่นเดียวกับออร่าของนายน้อย มันเข้าสะกดข่มนักเรียนคนอื่น สถานที่ทั้งหมดกลายเป็รเงียบราวกับตายไปแล้ว ก็ในเมื่อพวกเขากำลังรอให้พายุมาถึง
หลินชิเฉียนขมวดคิ้ว ตั้งแต่ตระกูลเจียงถูกทำลายลงไป ตระกูลเขาก็ได้พูดคุยเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดมานานแล้ว นั้นก็คือป้าของเขาที่ถูกขับไล่ออกไปจากตระกูลเนื่องจากการแต่งงานกับชายคนหนึ่งของตระกูลเจียง ซึ่งดูเหมือนจะอาศัยอยู่ในเมืองเจียงด้วยเช่นกัน และเธอก็มีลูกชายคนหนึ่งที่ชื่อว่าเจียงซิ่ว เขาเชื่อว่าคนที่อยู่ข้างหน้าเขาอาจจะไม่ได้เป็นลูกชายคนนั้น ความบังเอิญเช่นนี้คงไม่อาจเกิดขึเนบนโลกได้
หลินชิเฉียนกล่าว “แกกล้าวิพากษ์วิจารณ์ตระกูลหลินของฉันจริงๆ”
เจียงซิ่วเยาะเย้ย “อะไร? ตระกูลหลินของนายใช่เป็นญาติกับจักรพรรดิ? ถ้าฉันวิจารณ์แล้วจะทำไม? หากนายไม่ต้องการให้คนอื่นวิจารณ์ ดังนั้นก็ควรหยุดทำสิ่งที่น่าอับอายเช่นนี้”
หลินชิเฉียนตัดชิการ์จากนั้นก็กล่าว “สารเลว แกรู้ไหมว่าแกกำลังพูดกับใครอยู่?”
“สำหรับฉันแล้ว ดูเหมือนนายที่เป็นฝ่ายที่ไม่รู้ว่ากำลังคุยกับใครอยู่” เจียงซิ่วโต้กลับ
“นายเปิดไนต์คลับและแม้แต่กระทั่งทำตัวหยาบช้าในนี้ ฉันต้องการเห็นสิ่งที่นายจะทำกับฉันในวันนี้และยังอยากเห็นว่านายจะหยุดฉันจากการสอนบทเรียนทั้งหมดให้นายได้ยังไง”
หลินชิเฉียนลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ “แม่แกเถอะ! ถามหาความตาย!”เขาไม่เคยคาดหวังว่าจะมีใครกล้าพอที่จะมาอาละวาดในพื้นที่ของเขา
“หักขามันให้ฉัน แล้วโยนเขาออกไปที่ถนน”
กล่าวได้ดังนั้น เขาก็ไม่ได้เหลียวมองที่เจียงซิ่วอีก และหันหลังกลับเพื่อออกไปขณะสูบซิการ์ไปด้วย จากไปในลักษณะที่นายน้อยผู้นึงควรมี การบดขยี้เจียงซิ่วเป็นเรื่องง่ายราวกับการบดขยี้มดสำหรับเขา
อย่างไรก็ตาม…
ในขณะเดียวกันกับที่เขาลุกขึ้น เจียงซิ่วเองก็ยืนขึ้นและคว้าผมของหลินชิเฉียนเช่นกัน จากนั้นก็ทุ้มหัวของเขาลงใส่โต๊ะกระจก ส่งผลทำให้มันแตกเป็นชิ้นๆ เขาไม่มีเวลาแม้แต่กระทั่งกรีดร้อง ทั้งๆ ที่หัวของเขามีเลือดไหลออกมา
“กรี๊ด!”
ผู้คนในคลับร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว พวกเขาไม่เคยคิดว่าเจียงซิวจะทำเช่นนั้น ทำอย่างโจ่งแจ้ง ทุบตีนายน้อยหลินอย่างทารุณ และนี้เองก็ช่างโหดเหี้ยม
เจียงซิ่วลากหลินชิเฉียนออกมาในขณะที่จิกผมของเขาไปด้วย เขารู้สึกมึนงงจากการถูกกระแทก เลือดไหลออกมาจากหัวของเขา และใบหน้าของเขาก็อาบไปด้วยเลือด
“กะ แกกล้าทำร้ายฉัน?”
ปั๊ง! อีกครั้งหนึ่ง หัวของเขาถูกกระแทกเข้ากับโต๊ะกระจก
หลินชิเฉียนโหยหวนออกมาอย่างรวดร้าว
ผู้คนรอบข้างเองก็กลายเป็นมึนงง รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ต้องบ้าไปแล้ว เขากำลังทำร้ายนายน้อยของตระกูลหลิน แต่หลังจากนั้น พวกเขาก็เห็นเจียงซิ่วหัวหลังไปคุยกับหลินชิเฉียนด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “นายคิดว่าฉันไม่กล้าฆ่านาย?”
บางคนอาจคล้ายคลึงกับสุนัขบ้าได้ในตอนที่พวกเขาโกรธ พวกเขาไม่แม้แต่จะอยากคิดถึงผลที่ตามมา
ดวงตาของหลินชิเฉียนแทบจะโผลออกมาจากดวงจา เขาหวาดกลัวมาก
“อะ อย่าฉัน!”
เจียงซิ่วมองดูรูปร่างหน้าตาที่หวาดกลัวของเขาและไม่สามารถทำอย่างไรได้ ได้แต่หัวเราะเยาะ นี่คือนายน้อยในเมืองหลวง เขาแม่งไม่มีแม้แต่ความกล้าหาญ ผู้คนในตระกูลเจียงนั้นโหดเหี้ยมกว่ามาก เจียงฮังสั่งให้นักฆ่าลอบสังหารผู้คน ในขณะที่ผู้ชายคนนี้สิ่งที่น่าสมเพชเช่นนี้อยู่ในไนท์คลับ
เจียงซิ่วรู้สึกว่ามือของเขาสกปรกทันทีที่ไปดึงผมของหลินชิเฉียน
กร๊อบ!
เสียงที่เหลมคมและชัดเจนของกระดูกที่แตกหักดังก้องอยู่ในพื้นที่ มันส่งผลทำให้ทุกคนที่ได้ยินมันผมตั้งชัน
“อ๊ากกกกกก!!”
ในตอนแรกหลินชิเฉียนเพียงแค่คุกเข่าอยู่กับพื้นดิน เจียงซิ่วดึงขาข้างที่เขาคุกเข่า งอมันไปอีกทิศทางหนึ่งแล้วทำให้มันแตก หลินชิเฉียนล้มลงกับพื้นและกรีดร้องออกมาราวกับหมู
“ขาฉัน! ขาฉัน!”
ลูกน้องของเขาล้วนแล้วแต่งงงัน พวกเขาไม่เต็มใจที่จะเข้าไปช่วยเหลือ ในคลับเองก็มีผู้รักษาความปลอดภัยอยู่เหมือนกัน แต่สิ่งนี้มันเกิดขึ้นปุบปั๊บเกินไป ไม่มีใครคิดว่านายน้อยหลินจะพ่ายแพ้ ก็ในเมื่อปกติแล้ว คนปกติไม่แม้แต่จะยืนขึ้นโดยที่ไม่รู้สึกอ่อนล้าหลังจากได้ยินชื่อของเขา แค่ยืนขึ้นได้ก็คงจะเพียงพอแล้วที่จะถูกมองว่าเป็นคนที่กล้าหาญ
“นายน้อยหลิน!”
ในที่สุดพี่ไห่ก็หลุดจากอาการช็อค
“สารเลวเอ้ย แกเมารึไง!”
“การ์ด…”
เจียงซิ่วหมอบตัวไปหาหลินชิเฉียน ดูเขาร้องครวฐครางเหมือนหมู ขณะนี้เองเขาก็ถอยกลับด้วยความกลัว เจียงซิ่วหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาและกดไปหาหมายเลขของลุงเซี๋ยน แต่เขาก็ไม่ได้กดปุ่มโทรออก กลับกัน เขาวางโทรศัพท์ไว้หน้าหลินชิเฉียน
เขาเชื่อว่าหลินชิเฉียนจะต้องจดจำหมายเลขนี้ได้
อย่างที่คาดไว้ ดวงตาของหลินชิเฉียนเบิกกว้างอย่างประหลาดใจ นะ นี่เป็นหมายเลขของลุงใหญ่เซี๋ยน เขามองดูเจียงซิ่วอย่างไม่อยากจะเชื่อ ตัวตนของชายหนุ่มคนนี้ชัดเจนแล้ว เขาเป็นลูกชายของป้าที่ถูกขับไล่ออกไปจากตระกูล
“เป็นแก! มันเป็นแกจริงๆ!”
เจียงซิ่วกล่าว “ไม่ต้องกังวล ฉันจะไม่ฆ่านาย”
“อย่างมากสุดก็แค่…”
เจียงซิ่วทำท่าเหมือนจะกดปุ่มโทรออก ความหวาดหวั่นทำให้ดวงตาของหลินชิเฉียนสั่นสะท้าน มันไม่ได้เกิดจากความเจ็บปวด แต่เกิดจากความกลัว เขาตะโกนอย่างเร่งรีบ “อย่าเรียกการ์ด!!!!!!”
“ฉันผิดเอง!”
ทุกคนมึนงง
พวกเขาไม่เข้าใจสถานการณ์ได้ เจียงซิ่วอาจเป็นคนทำให้นายน้อยหลินต้องพิการ แต่ฝ่ายเรากลับต้องยอมรับว่าตัวเองผิด พวกเขาสงสัยว่าหมายเลขที่เจียงซิ่วให้ดูมันคืออะไร เพราะมันทำให้เขาหวาดกลัวอย่างมาก
“นายน้อยหลิน?”
พี่ไห่เต็มไปด้วยความสงสัย ก็ในเมื่อเขาไม่สามารถมำความเข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงพูดเช่นนั้น
สำหรับเหมาเซี่ยวหลิน เซี่ยวฟางฟาง เฉียนคุนและคนอื่นๆ โดยเฉพาะสงหรงฮาว พวกเขาตกตะลึงมากกับเหตุการณ์นี้ และมองไปยังเจียงซิ่วซึ่งตอนนี้อยู่ในสถานะคล้ายกับพระเจ้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อถือ พวกเขาเข้าใจว่ามันเป็นเพราะการที่เขามีแฟนสาวที่น่ารัก พวกเขาจึงเชื่อว่าเจียงซิ่วจะต้องกำลังติดพันกับความตาย แต่ไม่ได้คาดหวังว่านายน้อยหลินจะยอมรับว่าเขาเป็นฝ่ายผิดเอง พวกเขาสงสัยว่าเจียงซิ่วมีประวัติน่าอัศจรรย์อะไรบางอย่าง?
แต่ภูมิหลังแบบไหนที่จะทำให้นายน้อยจากตระกูลหลินหวาดกลัวแทบตายแบบนี้ได้? หลังจากทั้งหมดแล้ว นั่นก็คือตระกูลหลิน
สารเลวคนนี้คือเสือปลอมเป็นหมู?
ท้ายที่สุดแล้ว เจียงซิ่วก็โทรออก ตอนนี้ลุงเซี๋ยนคลุกคลีอยู่กับชายชรา เมื่อเขาเห็นชื่อผู้โทร เขารู้สึกประหลาดใจ เจียงซิ่วทำท่าทีเย็นชากับเขาที่บ้าน ดังนั้นเขาจึงสงสัยว่าทำไมเขาจึงริเริ่มที่จะโทรหาเขาก่อน “ฮัลโหล ซิ่วน้อย?”
“หลินชิเฉียนทำท่าทางหยิ่งใส่ฉันที่คลับใกล้ๆ NU ฉันเลยหักขาของเขาไป” กล่าวได้ดั้งนั้น เขาก็ไม่รอให้อีกฝ่ายพูดอะไรออกมาและวางสายไป
ลุงเซี๋ยนตกไปอยู่ในความมึนงง
“ระ เร็วพานายน้อยหลินไปโรงพยาบาลเร็ว…”
“โทรไปที่เลข 120 แกจะยืนงงอยู่ตรงนั้นนานแค่ไหน?”
เจียงซิ่วไม่สนใจที่จะอยู่ที่นี่อีก ดังนั้นเขาจึงหันไปทางอื่น เฉิงหลิงซูและคนอื่นๆ เองก็ไม่กล้าที่จะอยู่ที่นี่อีก ดังนั้นพวกเขาจึงติดตามเขาออกจากคลับ เหมาเซี่ยหลินถาม “เจียงซิ่ว นายเป็นใครกันแน่? นายน้อยหลินถูกทำร้ายสาหัส แต่ก็ยังต้องยอมรับว่าตัวเองผิด”
แฟนของเหมาเซี่ยวหลิน จินโบมีใบหน้าที่อยากรู้อยากเห็นมากขึ้น “ใช่ เจียงซิ่ว คุณเป็นลูกของตระกูลที่มีอิทธิพลใช่ไหม? ตระกูลที่มีอิทธิพลยิ่งกว่าตระกูลหลิน”
เจียงซิ่วส่ายหัว
การจ้องมองที่สงหรงฮษวมองไปยังเจียงซิ่วยิ่งกลายเป็นซับซ้อน เขาต้องการทราบว่าเจียงซิ่วมีภูมิหลังอย่างไร
“ฉันเป็นแค่เด็กยากจนที่มาจากเมืองเจียง หลินชิเฉียนยอมรับว่าเขาผิดเพราะเขาเองทีเป็นผ่ายผิด ตระกูลหลินทำงานข้าราชการ ดังนั้นพวกเขาจึงสนใจเรื่องชื่อเสียงมาก เขาปรากฏตัวขึ้นในไนท์คลับแบบนี้ถือเป็นความผิดพลาดของตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้น เขายังทำท่าทีก้าวร้าวที่นี่ด้วย”
“เขาไม่กลัวฉัน แต่กลัวผู้อาวุโสในตระกูลของเขา”
สงหรงฮาวและคนอื่นๆ เองกลายเป็นตระหนักถึงความสำคัญของเรื่องนี้ได้
อย่างไรก็ตาม เฉิงหลิงซูรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ง่ายอย่างนั้น ในหมู่พวกเขา แต่เธอเท่านั้นที่รู้ว่าเจียงซิวคือเจียงโหลวเซี่ย ดังนั้นมันจึงเป็นไปได้ที่เหตุผลที่หลินชิเฉียนกลัวก็คือตัวเจียงซิ่ว การต่อสู้ที่เรียกว่าการเผชิญหน้าระหว่างเซียนทำให้เธอประทับใจอย่างมาก ผู้ชายข้างหน้าเธอมีความสามารถที่ไม่ได้เป็นของโลก
ใครก็ตามที่ต้องการทำให้เขาเป็นศัตรู ก็ต้องประเมินตัวเองก่อนว่าพวกเขามีความสามารถแบบนั้นหรือไม่
หลังจากตระหนักได้ว่าเจียงซิ่วไม่ได้เป็นคนยิ่งใหญ่ การจ้องมองของพวกเขาก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง แต่โดยทั่วไปแล้ว ความเหี้ยมโหดของเขาย่อมทิ้งความประทับใจนั้นไว้ในใจ อย่างไรก็ตาม ในสังคมปัจจุบัน ความเหี้ยมโหดและความสามารถในการต่อสู้นั้นไร้ประโยชน์ และอย่างไม่สามารถทำอย่างไรได้ ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับพื้นหลังและสินทรัพย์
“ต่อไปนี้อยู่ให้ห่างจากพื้นที่นี้”
“อืมม!”
สงหรงฮาวสังเกตว่าเฉิงหลิงซูตามหลังเจียงซิ่วไป เขาจึงเกิดความรู้สึกอิจฉา เนื่องจากชัดเจนแล้วว่าเจียงซิ่วไม่ใช่นายน้อยของตระกูลผู้มีอิทธิพล เขาจึงเชื่อว่าคุณสมบัติของเขา เช่นเดียวกับรูปร่างหน้าตาที่ดีกว่าอาจะยังมีโอกาส
“ไปหาของว่างกินในคืนนี้กัน!”
ในตอนกลางคืน เฉิงหลิงซูเดินทางกลับบ้านพร้อมกับเจียงซิ่ว หลินเยี่ยหลิงเห็นพวกเขากลับมาพร้อมกันจึงยิ้มออกมาอย่างงดงาม มันเป็นเพียงเพราะเฉิงหลิงซูที่ขี้อาย เธอจึงกลับไปที่ห้องของเธอและอาบน้ำพักผ่อน
“นั้นแหละ! แกดูเหมือนสามีและภรรยาแล้ว”
เจียงซิ่วไม่ต้องการทำร้ายหลินเยี่ยหลิง ถ้าเขาบอกกับแม่ว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนี้ บอกว่าเขาหักขาเด็กของตระกูลหลินไปแล้ว เขาไม่รู้ว่าเขาจะมีความประทับใจแบบใดในความคิดของเธอ
และตอนนี้เอง ผู้ปกครองของหลินชิเฉียนได้รับข่าวและก็กำลังเดินทางไปที่โรงพยาบาล