Girl, I’ll Teach You Cultivation – ฉันจะสอนเธอบ่มเพาะเอง - ตอนที่ 283
บทที่ 283
การพบเจอ
ความทะเยอทะยานของเจียงซิ่วนั้นอยู่ที่อื่น ฉะนั้นความสนใจของเขาที่มีต่อการคลืบคลานมาของต่างโลกนั้นเริ่มมีอิทธิพลต่อหัวใจเขามากขึ้น มันจะช่วยการฝึกฝนของเขาได้มากเท่าไหร่ หลังจากกลายเป็นเทพเจ้า การฝึกฝนของเขาก็ล่าช้ามาก และแม้ว่าเขาจะสามารถขยายขอบเขตความแข็งแกร่งของเขาออกไปได้หลังจากที่ดูดซับหินยืดอายุก้อนที่ 5 แต่ปริมาณที่เพิ่มขึ้นก็เล็กน้อยมากสำหรับเทพเจ้า
การเพิ่มขึ้นของประเภทนี้เกือบจะเทียบเท่าการใช้โอสถสำหรับการรักษาในทวีปการต่อสู้นิรันดร์ หากจากเลื่อนขั้นมันคงต้องใช้โอสถจำนวนมากมาย ดังนั้นการกลืนมันเข้าไปเพียงครั้งเดียวนั้นไมนับว่าเป็นอะไรเลย
เนื่องจากการขาดทรัพยากรสำหรับการบ่มเพาะ เจียงซิ่วจึงทำได้แต่หวังที่จะเข้าใจกฏแต่เพียงเท่านั้น แต่เนื่องจากถูกควบคุมโดยโลกนี้ ความก้าวหน้าในเรื่องการทำความเข้าใจกฏ(ของโลก) ก็ไม่ได้ก้าวหน้าไปมากมายเช่นกัน เขาหวังว่าโลกอื่นที่กำลังคลืบคลานมาจะนำทรัพยากรเข้ามาสู่โลกนี้
ดังนั้น เขาจึงยินดีรับฟังเรื่องราวที่ส่งมาจากกลุ่มพัฒนายีนย่างก้าวสวรรค์ของหวังซินตง โพธิยีนทำงานอย่างหนักเพื่อเฟ้นหาผู้ใช้ศักดิ์สิทธิ์ และค้นคว้าการปลุกตื่นของยีน นี่เป็นกุญแจสู่แผนการในอนาคตของเขา
เจียงซิ่วกล่าวไปตรงๆ “ฉันยังไม่ได้ไปพบนายกเทศมนตรีกู่…”
ถังเฉินเชียนพยักหน้าด้วยสีหน้าที่จริงจัง “การเปลี่ยนผู้ว่าราชการในเจียงหนานเป็นเรื่องใหญ่ ขั้นอำนาจของเจียงหนานเพิ่งโยกย้ายกันไปมาเมื่อไม่นานมานี้ และความคิดเห็นของทุกคนก็ยังต่างกันอยู่”
จากน้ำเสียงของเขา ดูเหมือนว่าตระกูลถังเองก็ถูกโจมตีเช่นกัน
“เมืองเจียงเป็นข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียว เนื่องจากเรายังมีคุณเจียงค่อยข่มเขาอยู่ นอกจากนี้ เถ้าแก่เจียงเองก็มาอยู่ที่นี่แล้วเช่นกัน แต่ไม่ว่าใครจะกลายเป็นผู้ว่าราชการมณฑลเจียงหนาน มันจะทำให้เกิดระลอกคลื่นในเมืองเจียงแน่นอน”
เจียงซิ่วรู้ว่านับตั้งแต่ที่เจียงหยี่ได้เป็นรองนายกเทศมนตรีของเมืองเจียง ถังเฉินเชียนก็ทุ่มเทความพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยเหลือเขา และแทบจะทำหน้าที่เป็นธนาคารเงิน
“ส่งลูกหลาของนตระกูลถังไปที่ตำหนักย่างก้าวสวรรค์ เพื่อทำการทดสอบ ถ้าความสามารถของพวกเขาออกมาดี พวกเขาก็จะสามารถเข้าร่วมกลุ่มและทำงานอยู่ที่นั่นได้”
ถังเฉินเชียนรู้สึกดีใจมากหลังจากได้ยินเช่นนี้
ในฐานะนักสู้ เขารู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงล่าสุดที่เกิดขึ้นกับโลกนี้ แต่ระดับของเขาก็ต่ำเกินไปเขาจึงไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงของสิ่งที่เกิดขึ้น ถึงอย่างนั้น เขาก็พยายามต่อสู้เพื่อตำแหน่งที่สูงขึ้นพยายามจนกระทั่งคนธรรมดาไม่อาจคิดฝันถึงมันได้
“ขอบคุณมาก คุณเจียง…”
ถังเฉินเชียนกล่าว “คุณเจียง ฉันได้ยินบ้างอย่างมาเมื่อเร็วๆ นี้ แต่ฉันเองก็ไม่รู้ว่ามันจริงรึเปล่า บางคนกล่าวออกมาว่าคุณเจียงสังหารตระกูลจีทั้งหมด และแม้แต่กระทั่งฆ่าลูกชายของอ๋องหวูเซี่ยไปด้วยเช่นกัน”
“มันเป็นเรื่องจริง!”
การแสดงออกของถังเฉินเชียนเปลี่ยนไปในทันที เขากล่าวออกมาอย่างเป็นกังวล “คุณเจียง เรื่องนี้ไม่เหมาะสมนัก อ๋องหวูเซี่ยเป็นตำนานในโลกการต่อสู้ในประเทศเรามานานกว่า 60 ปี และเป็นคนที่สามารถรอดชีวิตจากระเบิดปรมาณูได้ ทุกคนคิดว่าเขาเป็นเซียน แต่เรื่องราวเกี่ยวกับอ๋องหวูเซี่ยถูกส่งต่อมาจากมณฑลเสฉวนตะวันตกมานานกว่า 200-300 ปีแล้ว จากสิ่งที่ฉันได้ยินมาจากเพื่อนสมัยก่อน อ๋องหวูเซี่ยเป็นเทพเจ้า!”
เจียงซิ่วยืนขึ้นและหันหน้าเข้าหาแม่น้ำ แสงสะท้องอยู่บนคลื่นอย่างชัดเจน เป็นไปไม่ได้ที่เซียนจะมีชีวิตรอดจากระเบิดปรมาณูเมื่อดูตามหลักพื้นฐานหลังจากที่พลังงานจากนิวเคลียร์ได้หลอมเข้ากับร่างกายของเขาไปแล้ว ตั้งแต่เริ่มต้น เจียงซิ่วรู้ว่าสีหวูเซี่ยเป็นเทพเจ้าอยู่ก่อนแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น มีตำนานแห่งดาบอยู่มากมายในมณฑลเสฉวนตะวันตก และกลายมาเป็นสุภาษิต – หากไม่มีลมจะไม่มีคลื่น – มันเป็นไปได้มาก ว่าสีหวูเซี่ยอาจจะเป็นเซียนดาบอมตะ
มีเพียงแต่เจียงซิ่วเท่านั้นที่แห่งเส้นแบ่งระหว่างเซียนดาบอมตะในทวีปการต่อสู้นิรันดร์ มันเป็นเรื่องปกติที่ถ้าหากจะมีเซียนดาบ 2-3 คนตกตายไประหว่างการฝึกฝน คำถามเดียวก็คือสีหวูเซี่ยจะทรงพลังเพียงใด สีหวูเซี่ย ฉันหวังว่านายจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง
“เขาเป็นเทพเจ้าแล้วไง?”
ถังเฉินเชียนยืนขึ้นด้วยความประหลาดใจ “คุณเจียงเองก็เป็นเหมือน…” มีข่าวลือออกมาอย่างกว้างขวางว่าเจียงซิ่วเองก็เป็นเทพเจ้าเช่นกัน แต่เขาเป็นคนเดียวที่ไม่ยอมรับ เซียนไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้ของเทพเจ้า เนื่องจากความไม่เท่าเทียมกันของระดับที่ไม่อาจก้าวข้ามได้ คำพูดของเจียงซิ่วในตอนนี้ เทียบเท่ากับการยอมรับมัน ดังนั้นถังเฉินเชียนจึงรู้สึกตื่นเต้น
หากพวกเขาทั้งคู่เป็นเทพเจ้า ทุกอย่างก็จะขึ้นอยู่กับว่าใครแข็งแกร่งกว่ากัน!
นี้จะเป็นการเผชิญหน้าที่เขย่าแก่นกลางของจีน การต่อสู้ครั้งประวัติการณ์!
ในขณะที่เขากำลังพูดคุย เฉิงหลิงซูก็เข้ามาด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มนี้ทำให้เจียงซิ่วรู้สึกไม่สบายใจ สาวน้อยนางนี้มีความสุขกับอะไร? เธอคงจะไม่ได้รับเงินมา ใช่ไหม?
“เจียงซิ่ว…”
ถังเฉิงเชียนคล้อยตามสถานการณ์ทันที “คุณเจียง ฉันคงต้องลาแล้ว…”
หลังจากที่เขาออกไป เจียงซิ่วมองดูลักษณะที่คล้ายดอกไม้(บอบบาง)ของเฉิงหลิงซู และรู้สึกไม่พอใจอยู่ภายในเล็กน้อย “เธอดูมีความสุข เธอทำเงินได้หรือไร?”
“ถึงเวลาพักร้อนแล้ว ฉันไม่ต้องการคิดเกี่ยวกับงาน!”
ทัศนคติของหญิงนางนี้ผิดปกติจริงๆ ถ้าเป็นคนปกติที่ต้องเสียเงินมากมายไปขนาดนั้น พวกเขาจะต้องรู้สึกไม่สบายใจจนกว่าพวกเขาจะได้รับเงินที่สูญเสียไปคืนมา
“เธอต้องการอะไรจากฉัน?”
“เพื่อนร่วมชั้นตอนมัธยมของเราส่วนใหญ่อยู่ที่เมืองฮัง พวกนั้นนัดรวมตัวกันครั้งแรกในคืนนี้ นายจะไปด้วยไหม?”
เจียงซิ่วรู้สึกประหลาดใจ “ไม่ใช่ว่าเธอมีเรื่องกับพวกนั้น?”
“ตอนนี้มันผ่านไปแล้ว แม้ว่าเราจะไม่สนิทอะไรกันอีกแล้ว หลังจากทั้งหมดเราก็เป็นเพื่อนกันมา 3 ปี ดังนั้นฉันคงจะต้องออกไปโชว์ตัวบ้าง ฉันจะไปหาเพื่อนร่วมชั้นเก่าไม่ได้ เพราะพวกนั้นพวกเดียวก็ไม่ถูก ใช่ไหม?”
เจียงซิ่วส่ายหัว “ฉันไม่ไป อยากไปก็ไปได้ตามต้องการ”
โอหยางเชียน หลินชวู และที่เหลือรู้จักตัวตนของเจียงซิ่วแล้ว หากเขาไม่ได้บอกว่าเขาจะไม่ไป นักเรียนเหล่านั้นก็จะรู้สึกไม่สบายใจ ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะจัดการกับพวกเขา และอยากจะปิดประตูบ่มเพาะเสียมากกว่า
“ฉันจะไปแล้ว…”
แต่เจียงซิ่วก็ต้องรู้สึกเสียใจไม่นานหลังจากที่เฉิงหลิงซูออกไป มันเป็นเพราะหลินเยี่ยหลิงเห็นถังเฉินเชียนออกไปพอดี และเดินเข้ามาเพื่อจ้องเขา ดังนั้นเขาคงจะต้องไปหากู่เต๋อชี่ เจียงซิ่วรู้ว่าไม่สามารถลากยาวเรื่องนี้ต่อไปได้แล้วดังนั้นโดยไม่มีทางเลือกอื่นเหลือ เขาตัดสินใจโทรไปหากู่เต๋อชี่
“คุณเจียง!”
กู่เต๋อชี่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อตอนที่เขาได้รับโทรศัพท์จากเจียงซิ่ว ก็ในเมื่อเขาไม่เคยได้รับโทรศัพท์จากเขาโดยตรงเลย แต่ละครั้ง หวังซินตงจะเป็นคนคุยกับเขา
“นายกเทศมนตรีกู่ ฉันกลับมาที่เจียงหนานแล้ว”
“ฉันหวังให้คุณกลับมาอยู่ก่อนแล้ว แบบนี้เป็นไง? ฉันจะเตรียมอาหารค่ำต้อนรับสำหรับคุณที่ คฤหาสเทละสาบตะวันตกเวลา 19.00 น. คืนนี้ เราสามารถคุยต่อหน้ากันได้”
เวลา 18.00 น. ในเย็นวันนั้น กู่เต๋อชี่ปล่อยให้คนขับขับรถของเขา ไปรับเจียงซิ่วมา มันก็เพื่อแสดงความเคารพต่อคุณเจียง รถคันนี้เพลิดเพลินไปกับสิทธิพิเศษที่มากที่สุดในเมืองเจียงได้ แม้ว่าคุณจะเร่งความเร็ว ตำรวจจราจรก็จะเคลียร์เส้นทางให้คุณ เพราะคิดว่าคุณมีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ
เมื่อเจียงซิ่วมาถึงคฤหาสน์ งานปาร์ตี้ก็จัดขึ้นข้างใน สถานที่นั้นสว่างไสว และเหล่าเซเลบจากทุกฝ่ายเองก็มารวมกันอยู่ที่นั่น เพลงไวโอลินที่แสนไพเราะสามารถได้ยินจากภายในเช่นกัน
ปาตี้ถูกจัดขึ้นที่นี่ เมื่อใกล้ถึงสิ้นปี หลายฝ่ายเองก็เกิดขึ้น กู่เต๋อชี่จะไม่หลบเลี่ยงสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเจียงซิ่ว ดังนั้นเขาจึงตอนรับเจียงซิ่วเป็นการส่วนตัว
ตั้งแต่คราวน์ที่มงกุฎราชกุมารโอ๋ได้มาถึงมณฑลเจียงหนานเมื่อคราวนั้น คฤหาสทะเลสาบตะวันตกได้กลายเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงของเหล่าคนมีชื่อเสียง ดูเหมือนว่าคุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับการจับจองสถานที่นี้ก็กลายเป็นไม่เหมือนเดิม
กู่เต๋อชี่ไม่ต้องการให้เจียงซิ่วรู้ว่ามีปาร์ตี้เกิดขึ้นในสถานที่แห่งนี้เนื่องจากจะเป็นการดูหมิ่นเขา ดังนั้นเขาจึงบอกให้คนขับรถเข้าไปอีกทางหนึ่ง เพราะเขาอาจจะรู้สึกได้ว่าคนอื่นกำลังปาร์ตี้กันอยู่ ขณะที่เขารอที่ทางเข้าเพื่อพบเจียงซิ่วเป็นการส่วนตัว
ในเจียงหนานทั้งหมด กู่เต๋อชี่ต้องปฏิบัติกับเจียงซิ่วด้วยวิธีนี้เท่านั้น!
ก่อนที่มุงกฎราชกุมารโอ๋จะมาถึงเจียงหนาน อำนาจการควบของกู่เต๋อชี่ในเจียงหนานนั้นอ่อนแอ่มาก หลายตระกูลทะเลาะกับเขา แต่หลังจากที่มงกุฎราชกุมารโอ่ได้มาถึงเจียงหนาน เจียงซิ่วกำจัดเจ้าหน้าที่และนักธุรกิจเหล่านั้นในคราวเดียว ซึ่งมันก็อนุญาตให้กู่เต๋อชี่เข้าถึงอำนาจในเจียงหนานได้อย่างทั่วถึง เพียงแต่ มันเป็นเรื่องน่าเสียดายที่วันเวลาดีๆ เหล่านี้ไม่ได้ดำเนินต่อไปได้นานนัก ก็ในเมื่อเขาสิ้นสุดวาระแล้วและต้องลงจากตำแหน่งที่นั่ง
“คุณเจียง มันเป็นเวลานานแล้ว!”
“โปรดเข้ามาด้านใน!”
กู่เต๋อชี่ต้อนรับเจียงซิ่วราวกับเขาได้ต้อนรับผู้นำของประเทศ “พี่รู้ว่าคุณเจียงกลับมาทีเจียงหนานแล้ว และวางแผนที่จะมา แต่เขาก็มาไม่ได้ ก็ในเมื่อเขามีเรื่องที่จะต้องจัดการมากเกินไป เขาขอให้ฉันทักทายคุณ และหวังว่าคุณเจียงจะคำนึงถึงเรื่องของกองทัพด้วย”
“อืมม!”
การควบคุมกองทัพไม่ได้เกิดขึ้นภายในหนึ่งหรือสองวัน เรื่องนี้ใหญ่เกินไปดังนั้นความคืบหน้าจึงค่อนข้างช้า แต่ความแข็งแกร่งที่เปิดเผยบนพื้นผิวก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน เจียงซิ่วคิดว่าเขาควรเตรียมการรับมือกับอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากการคลืบคลานมาของโลกอื่น
พวกเขาสองคนเข้าไปในสโมสรอย่างเงียบๆ
งานฉลองได้จัดขึ้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม นอกจากพวกเขาสองคนแล้วก็ไม่มีใครอื่นอีก แม้แต่ผู้ติดตามที่ดีที่สุดอย่างหวังซินตงก็ไม่ได้ตามมา
“คุณเจียง หลังจากหนึ่งปีกับอีกหนึ่งเดือน วาระปลดระวางของฉันก็มาถึงแล้ว เบื้องบนมาบอกฉันว่า ฉันควรจะอยู่ต่อ หรือไม่ก็เกษียณไปเร็วๆ …” กู่เต๋อชี่รู้สึกเศร้าหมอง ความรู้สึกของการเกษียณจริงๆ แล้วรู้สึกไม่สบายใจ “คุณเจียง คุณสามารถโน้มน้าวผู้มีอิทธิพลในไต๋ยัวไท๋โดยใช่ตำแหน่งคุณได้ไหม?”
เขายังคงเก็บความหวังไว้เล็กน้อยเพราะเขาต้องการที่จะก้าวเดินต่อไป
“หืมม?”
ไม่ว่ามนุษย์คนใดก็ต้องการผลประโยชน์ที่มากขึ้นจากตำแหน่งที่สูงขึ้น กู่เต๋อชี่เองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น หลังจากการต่อสู้ที่ประตูสวรรค์ โดยธรรมชาติแล้วเจียงซิ่วก็ย่อมมีอิทธิพลต่อไต๋ยัวไท๋เล็กน้อย ยิ่งไปกว่านั้น เขามีอิทธิพลอย่างมากต่อเจียงหนาน มันเป็นเพียงว่าเขาไม่สนใจเข้าไปยุ่งกับสนามเด็กเล่นนี้
…
และตอนนี้เอง เฉิงหลิงซูและเหล่าพวกร่วมชั้นได้มาถึงทะเลสาบตะวันตกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว…