Girl, I’ll Teach You Cultivation – ฉันจะสอนเธอบ่มเพาะเอง - ตอนที่ 285
บทที่ 285
การพบพาน
เย่ปิงมองย้อมกลับไปพร้อมกับรอยยิ้ม และเมื่อตอนที่เธอเห็นเฉิงหลิงซูและคนอื่นๆ ดวงตาของเธอเปล่งประกายอย่างไม่สามารถทำอย่างไรได้ ในโรงเรียนมัธยม เย่ปิงเองก็เป็นสมาชิกของสภานักเรียนด้วยเหมือนกัน แม้ว่าจะไม่สนิท แต่ก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
“เฮ้ เธอเองหรอ บังเอิญมาก!”
เย่ปิงกลายเป็นมีความสุข และที่มาด้วยกันกับเย่ปิงก็คือเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ หลิวเซี่ยวหยุน ตั้งแต่มัธยม พวกเธอทั้งสองไม่เคยแยกออกจากกัน
“ใช่ บังเอิญมาก!”
สายตาของโอหยางเชียนที่มองไปยังเย่ปิงดูค่อนข้างเย็นชา แม้ว่าเธอและหลี่ดั่นจะแค่ถูกโยนลงไปในทะเลสาบตะวันตก แต่พวกเธอก็เกือบจะจมน้ำตาย อย่างไรก็ตาม พวกเธอไม่กล้าแม้แต่จะมีเศษเสี้ยวของความไม่พอใจ เพราะในทันทีที่พวกเธอขึ้นฝั่งมาได้ พวกเธอก็ตระหนักถึงสถานะที่แท้จริงของเขาออก น่าสมเพช นั้นคือตัวพวกเธอในชั่วขณะนั้น
และสถานะของเขา ก็เป็นสถานะเดียวกับเฉิงหลิงซู และเมื่อเย่ปิงเข้ามาพูดกับเฉิงหลิงซู แถมยังเป็นศัตรูด้านความรัก แน่นอนว่าพวกเธอย่อมไม่สามารถมองเธอดีๆ ได้
“เธอมาเดินเล่นที่หางโจวเหมือนกัน?”
เฉิงหลิงซูยิ้มและกล่าว “ใช่ เราไปเดินด้วยกันไหม?”
“ไม่เป็นไร!”
เย่ปิงเป็นคนฉลาด โดยธรรมชาติแล้วโอหยางเชียน หลี่ดั่น และผู้หญิงคนอื่นๆ ไม่ต้อนรับเธอมากนัก ถ้าหากพวกเธอถูกอัดมารวมกัน มันก็คงจะไม่มีความสนุกอะไรเหลืออยู่แน่นอน
พวกเธอทั้งสองคนมาทักทายอย่างไม่เป็นทางการและจากไป
หลิวเซี่ยวหยุนเยาะเย้ย “ตอนที่ฉันอยู่มัธยม ฉันว่าฉันเองก็ฮ็อตอยู่นะ ทั้งยังตั้งใจเรียน และหัวใจเองก็แต่คุณธรรม คิดว่าถ้าพวกเราไม่ได้ไปเดินกับพวกเธอ พวกเราจะไม่มีความสุข?”
โอหยางเชียนและคนอื่นๆ ที่ดูเย่อหยิ่ง เธอไม่ชอบมัน
เย่ปิงกล่าว “พวกนั้นไม่ได้อยู่ด้วยกันแบบเรานิน่า ไปกันเถอะ เราไปทะเลสาบกัน เธอไม่ได้บอกว่าจะมาดูวิวทะเลสาปตอนกลางคืน?”
ตอนนี้พัฒนาการที่ทะเลสาบตะวันตกเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ มีที่ให้เดินเล่นทั้งกลางวันและกลางคืน ส่วนตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลากลางคืนแล้ว แม้ว่าจะไม่สามารถลงไปว่ายน้ำในทะเลสาบได้ แต่สามารถเพลิดเพลินกับน้ำพร้อมๆ กับกินหม้อไฟไปด้วยได้
“ซูเจี๋ยหยง ไม่ใช่ว่านายอยากไปทะเลสาบตะวันตก? ไปนั่งเรือกันเถอะ” เย่ปิงส่งยิ้มไปให้กับผู้ชายที่อยู่ด้านข้างเธอและกล่าว ผู้ชายคนนี้หล่อมาก และให้อารมณ์เหมือนคนต่างชาติเล็กน้อย
“โอเค แต่มันปลอดภัยรึเปล่า?”
หลิวเซี่ยวหยุนปิดปากหัวเราะอย่างมีเล่ห์นัย “นายคงไม่ใช่เป็ดที่อยากว่ายน้ำใช่ไหม?”
ซูเจี๋ยหยงหัวเราะและส่งเสียงโหยหวน
ผู้หญิงทั้งสองคนหัวเราะคิกคัก
ไม่เพียงแต่เย่ปิงเท่านั้นที่มีผู้ชายติดตามมา ด้านข้างหลิวเซี่ยวหยุนเองก็มีเช่นกัน เขาเป็นผู้ชายที่สวมแว่นตาคล้ายกับนักวิทยาศาสตร์ พวกเธอมาเป็นคู่ๆ
“ไปกันเถอะ ฉันอยากเห็นทะเสสาบตะวันตกทั้งหมดแล้ว นายต้องมาลงเรือด้วยกัน”
กลุ่มคนมาที่ท่าเรือ มันมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยเรือไม่มากนัก และนอกจากนี้ที่แห่งนี่ก็มีหม้อไฟให้กินด้วยเช่นกัน แต่หลังจากทั้งหมดแล้ว อากาศก็หนาวไปเล็กน้อย และทะเลสาบเองก็เริ่มเย็นมากขึ้น มีเพียงชายหนุ่มผู้เอาแต่ใจตัวเองเท่านั้น ที่สามารถเพลิดเพลินไปกับความสง่างามนี้ได้
มันเหลือแค่เรือลำเดียวที่สามารถแล่นข้ามฝั่งไปได้ในขณะนี้ คนเดินเรือส่วนใหญ่เกียจคร้านและไม่อยากออกมาทำงาน
“หม้อไฟ พร้อมกับทัวไปรอบๆ ทะเลสาบ!”
เดินขึ้นเรือขณะที่ร้องออกมาอย่างมีความสุข ทักทายคนเดินเรือและเตรียมของต่างๆ ขึ้นไป
กลุ่มคนพร้อมออกเดินทางแล้ว และเย่ปิงเองก็อยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน หลิวเซี่ยวหยุนกล่าวออกมาอย่างประหลาดใจ “เย่ปิงมีอะไรรึเปล่า?” มองตามสายตาที่เธอมองไป เธอเห็นร่างที่ไม่ได้พบมานาน
และก่อนที่เย่ปิงจะได้ตอบก็มีเสียงแทรกขึ้นมา “คนด้านข้างตรงนั้นใคร!”
หลิวเซี่ยวหยุนกล่าว “เฮ้ นั้นเจียงซิ่วไม่ใช่หรอ? เขาก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน?”
“เจียงซิ่ว เจียงซิ่ว…”
มันสายเกินไปที่เย่ปิงจะหยุดเธอ หลิวเซี่ยวหยุนที่เห็นเพื่อนร่วมชั้นเก่าก็โบกมือทักทายอย่างมีความสุข โดยธรรมชาติแล้วเจียงซิ่วสามารถเดินข้ามทะเลสาบนี้ไป อย่างไรก็ตาม นี่คือย่านใจกลางเมือง และมีเรือบางลำอยู่ในทะเลสาบ หากมีคนเห็นเขาเข้า มันอาจจะเป็นข่าวได้ และเมื่อเขาได้ยินใครบางคนเรียก เขาก็หันกลับไปด้วยความประหลาดใจ
“เย่ปิง? หลิวเซี่ยวหยุน? เป็นพวกเธอ?”
การแสดงออกของเย่ปิงดูผิดธรรมชาติ ใบหน้าที่สวยงามของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย ห้ามไม่ให้ตัวเองคิดถึงตอนฝนตกในวันสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้เลย มันเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อติดอยู่ในตู้โทรศัพท์สองคนท่านกลางสายฝน
เจียงซิ่วไม่ได้คาดหวังว่าจะพบเย่ปิงที่นี่ และจากนั้นไม่นานเขาก็เห็นผู้พิทักษ์ดอกไม้ยืนอยู่ข้างเธอ ตัดสินจากระยะห่างระหว่างพวกเธอที่ไม่เกิน 30 ซม. มันควรเป็นความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมาก เขาหัวเราะและกล่าว “ไม่ได้เจอกันนาน!”
เย่ปิงกล่าว “ใช่ นานมาก!”
“เจี๋ยหยง นี่คือเพื่อนร่วมชั้นตอนมัธยมปลายของเรา เขาชื่อเจียงซิ่ว!”
หลิวเซี่ยวหยุนโบกมือให้เจียงซิ่วและกล่าว “สวัสดี พี่ชาย”
เจียงซิ่วบางๆ เป็นการทักทาย
คนเดินเรือกล่าว “พวกคุณรู้จักกัน ท่านคนนี้ ตอนนี้เรามีเรือลำเดียว และพวกเขาก็เช่ามันแล้ว คุณอยากไปพร้อมกับพวกเขาไหม?”
หลิวเซี่ยวหยุนกล่าว “เจียงซิ่ว คิดดีๆ ก่อน โอเค? เราสั่งชุดหม้อไฟชุดใหญ่มา มากินด้วยกันสิ”
เจียงซิ่วหัวเราะและกล่าว “ได้ ฉันรู้สึกยินดีที่พี่หลิวไว้หน้าให้ฉัน”
เย่ปิงกล่าว “เซี่ยวหยุน อย่าสร้างปัญหา เจียงซิ่วมาคนเดียว แต่พวกเราชวนกันมาหกคนเลยนะ” เธอดึงหลิวเซี่ยวหยุนออกมาและกระซิบ แม้ว่าเสียงจะเบา แต่เจียงซิ่วก็ได้ยินอย่างชัดเจนว่าครอบครัวของเขาอยู่ในสภาพไม่ดีและไม่ควรชวนไป
หลิวเซี่ยหยุนยิ้มไปที่เจียงซิ่วและกล่าว “ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ แน่นอนเราชวนนาย”
เจียงซิ่วไม่สามารถปฏิเสธได้ เขามองไปยังชายที่อยู่ข้างหลิวเซี่ยวหยุน และก็ได้เห็นว่านี่เป็นแฟนของหลิวเซี่ยวหยุน ผู้หญิงเหล่านี้ตอนมัธยมคงจะเก็บกดมาก พวกเธอพบแฟนของตัวเองทันทีที่ได้เข้าไปยังมหาวิทยาลัย
ไม่นานก่อนที่หม้อไฟจะพร้อม เรือสัปดาห์นี้ไม่เหมือนสัปดาห์ก่อนๆ มันมีโต๊ะกลมถูกวางอยู่สองโต๊ะ บางครั้งเมื่อธุรกิจไปได้ดี โต๊ะสองตัวก็จะเปิดในเวลาเดียวกัน
โต๊ะกลมหนึ่งโต๊ะเพียงพอสำหรับแปดคน
เจียงซิ่วกำลังเดินทางไปยังวัดหนานซานอย่างความกระตือรือร้น อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้จะพบได้กับชายชราเท่านั้น มันก็คือความไม่รีบร้อน บนเรือมีทัวร์ที่น่าสนใจ ซึ่งล่องไปตามทะเลสาบตะวันตกได้
หลิวเซี่ยหยุนถาม “เจียงซิ่ว นายเรียนอยู่ที่ไหน?”
เจียงซิ่วกล่าว “เมืองหลวงจักรพรรดิ!”
หลังจากกล่าวจบ เขาก็มองไปที่เย่ปิง เธอนั่งถัดจากซูเจี๋ยหยงซึ่งเป็นแฟนของเธอ ครั้งนึงท่ามกลางสายฝน เย่ปิงกล่าวคำชวนบางอย่างกับเจียงซิ่ว กล่าวว่าเธอจะพิจราณาเรื่องการคบกับเขาดูหากเขาเข้าที่มหาวิทยาลัยจักรพรรดิ แม้ว่าหัวใจของเจียงซิ่วจะไม่ได้ยกให้เธอ แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจอยู่ภายใน คะแนนสอบเข้ามหาลัยของเย่ปิงค่อนข้างเยอะ บางทีมันแม้แต่กระทั่งเยอะกว่าคนส่วนใหญ่ในประเทศจีน แต่ก็ไม่เห็นได้ยินเลยว่าเธอจะมาที่เมืองหลวงจักรพรรดิเพื่อศึกษาต่อ
เย่ปิงก้มหัวลงและแพร่ขนตาของเธอสั่นเล็กน้อย
“แล้วเธอหล่ะ?” เจียงซิ่วถามหลิวเซี่ยวหยุน
หลิวเซี่ยวหยุนถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ “คะแนนของฉันตอนสอบเข้ามหาลัยไม่ดีเท่านาย ตอนนี้ฉันเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเจียงหนาน ยังไงก็เถอะ พวกเราไม่เหมือนกันนะ คะแนนสอบของปิงปิงสูงมาก มหาวิทยาลัยจักรพรรดิ มหาวิทยาลัยนานาชาติเป็นตัวเลือกของเธอทั้งนั้น แต่สุดท้ายเธอก็เลือกไปเรียนต่างประเทศ”
เจียงซิ่วกล่าว “งั้นเธอก็อยู่ต่างประเทศ!”
เย่ปิงกล่าว “ที่บ้านเป็นคนจัดการ!”
ไม่เคยได้ยินว่าใครจะไปต่างประเทศด้วยคะแนนที่ดีขนาดนี้มาก่อน ส่วนใหญ่เป็นเพราะสอบไม่ดี ก็เลยถูกส่งไปเรียนต่างประเทศ ซูเจี๋ยหยงเขยิบเข้าใกล้เย่ปิงก่อนจะกล่าว “โชคดีที่ปิงปิงไปศึกษาที่ต่างประเทศ ไม่งั้นฉันก็คงไม่ได้เจอกับเธอ” กล่าวได้ดังนั้น เขาก็มองไปที่เย่ปิงด้วยความรักใคร่
เย่ปิงยิ้มไปที่เขา มันน่าอึดอัดใจนิดหน่อย หลังจากวันนั้น เธอก็โทรหาเจียงซิ่ว แต่เจียงซิ่วก็ไม่รับสายเธอ และเจียงซิ่วเองก็ไม่ได้ติดต่อเธอกลับมาเช่นกัน หญิงสาวผู้บอบบางคิดว่านี่เป็นสัญญาณที่เจียงซิ่วปฏิเสธเธอ และในท้ายที่สุด เธอก็ไม่ต้องการไปมหาลัยจักรพรรดิอีกต่อไป และพ่อของเธอดูเหมือนจะไม่เห็นด้วยกับความสัมพันธ์ของเธอกับเจียงซิ่ว
เย่เจี๋ยอยู่ตระกูลเดียวกับหวูเต๋า เย่ยี่เหลียงเองก็ได้เห็นการเติบโตของคุณเจียงในดงซง แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ไม่ต้องการให้ลูกสาวมีส่วนร่วมกับการสังหารกันและกันในโลกใต้ดิน เธอจึงถูกส่งไปต่างประเทศ
ผู้หญิงดีๆ อย่างเย่ปิงนั้นไม่เหมาะสำหรับคนเช่นเจียงซิ่ว
“เจียงซิ่ว ตอนนี้นายมีแฟนรึยัง?”
มันเป็นคำถามที่ตอบได้ยาก ด้วยความสัมพันธ์สามี ภรรยาของเฉิงหลิงซูกับเจียงซิ่วเองก็เป็นแค่ในนาม มันจึงไม่ได้มีชื่อเรียกจริงๆ และความสัมพันธ์กับหนานก๋งโควเอ๋อเองก็เป็นเหมือนความสัมพันธ์ที่บริสุทธิ์ใจซึ่งกันและกัน แต่เฉิงหลิงหรานที่เขารักเองก็ไม่ได้เป็นของเขา
“ยัง!”
เย่ปิงมองไปที่เจียงซิ่วด้วยความประหลาดใจ นี่เป็นคำตอบที่เธอไม่คาดคิดมาก่อน เธอกล่าวอยู่ในใจ นายไม่ใช่ของฉัน แต่เมื่อคิดถึงมันฉันเหมือนเด็กยังไงก็ไม่รู้ ในตอนนั้น ฉันรวบรวมความกล้าหาญทั้งหมดที่มี แต่นายก็ปฏิเสธไป ทำไมนายถึงยังไม่หาแฟนให้ตัวเองอีก?
ซูเจี๋ยหยงประสาทสัมผัสไว นับตั้งแต่ที่เจียงซิ่วปรากฎตัว ทุกอย่างก็ดูผิดแปลกไป เย่ปิงดูเงียบบ่อย และก็ยังมองไปที่เจียงซิ่วด้วยสายตาแปลกประหลาด บางทีอาจมีบางอย่างเกิดขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขารู้สึกว่าเย่ปิงมีความเศร้าที่ไม่สามารถอธิบายได้อยู่ในสายตาของเธอ ซึ่งนี่ก็เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน และชายหนุ่มอย่างเข้าก็เข้าใจทันที
“เจียงซิ่ว ครอบครัวของนายทำอาชีพอะไร?”
ซูเจี๋ยหยงถาม
นั่นคือสิ่งที่เขาถาม เย่ปิงและหลิวเซี่ยวหยุนหันมามองด้วยความประหลาดใจ หลิวเซี่ยวหยุนส่ายหัวไปที่ซูเจี๋ยหยง แต่มันก็ถูกเมินไปโดยสมบรูณ์ เมื่อเร็วๆ นี้เมื่อตอนที่คุยกันว่าจะชวนเจียงซิ่วมาร่วมด้วย ปฏิกิริยาของเย่ปิงและการแสดงออกที่เปลี่ยนไปของหลิวเซี่ยวหยุนก็ทำให้เขารู้สึกตัว บางทีฐานะทางบ้านของเจียงซิ่วอาจไม่ดีนัก
เขาแค่อยากจะข่มเจียงซิ่ว ให้เขาเบิกตามองความจริง ว่าอย่าได้มาทำร้ายแฟนสาวของเขา