Girl, I’ll Teach You Cultivation – ฉันจะสอนเธอบ่มเพาะเอง - ตอนที่ 286
บทที่ 286
เพื่อนที่มีพื้นหลังออันต้อยต่ำ
ตั้งแต่ที่ซูเจี๋ยหยงเองก็เรียนอยู่ต่างประเทศ ฐานะทางบ้านเองจึงจัดว่าดี นั้นคือการยั่วยุ เจียงซิ่วมองไปที่เขา อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้สนใจมากนัก ซูเจี๋ยหยงไล่จี้เจียงซิ่ว “อะไร? นายไม่อยากจะพูด?”
บรรยากาศนั้นค่อนข้างอึดอัดเล็กน้อย หลิวเซี่ยวหยุนกล่าว “ไม่เลวร้ายอะไรหรอก ใช่ไหมเจียงซิ่ว? บ้านของเจียงซิ่วเป็นร้านขายผลไม้ พ่อแม่ของเขาทำงานอย่างหนักเพื่อหารายได้มา”
ซูเจี๋ยหยงเลิกคิ้ว “ครอบครัวขายผลไม้ นั้นเป็นงานที่หนักมาก ขายผลไม้ทำไปก็ไร้ประโยชน์ มันเป็นงานที่ยากลำบาก ในช่วงฤดูร้อน ถึงจะเอาแตงโมลูกใหญ่ๆ มาขาย นั้นก็ไม่แม้จะถึง 10 หยวนด้วยซ้ำ”
“โลกนี้ไม่ยุติธรรมจริงๆ บางคนทำงานทั้งวันจนดึกดื่น แต่ก็หาเงินไม่ได้แม้แต่ 100 หยวน กับอีกคนแค่ขยับปาก ขายบ้านได้ขายรถได้ ก็ได้เงินกว่าร้อนล้านหยวน”
ความรู้สึกแสแสร้งเริ่มเกิดขึ้น
คาดว่าครอบครัวของชายผู้นี้คงทำธุรกิจขนาดใหญ่และมีกำไรสูงส่ง
“ครอบครัวของฉันไม่ได้ขายผลไม้แล้ว” เจียงซิ่วกล่าว
ไม่ได้แก้ต่างว่าไม่ใช่ แต่ก็อธิบายว่าไม่ทำ แฟนของหลิวเซี่ยวหยุนที่อยู่ด้านข้าง และอีกคู่ชายหญิงอยู่คู่หนึ่งที่อยู่ห่างออกไปไม่สามารถทำอย่างไรได้ ได้แต่หัวเราะ เสียงหัวเราะนี้เป็นการเยาะเย้ย ทั้งคู่เป็นนักเรียนต่างชาติที่เข้ามาในประเทศพร้อมเย่ปิง มาเดินเล่นที่หางโจว พวกเขาเองฐานะทางบ้านก็ดีเช่นกัน
ในฐานะเพื่อนร่วมชั้นของเจียงซิ่ว หลิวเซี่ยวหยุนและเย่ปิงรู้สึกเขินอายมาก
ซูเจี๋ยหยงกล่าว “งั้นก็คงเป็นไปไม่ได้แล้วที่เราจะดูแลเจียงซิ่ว ค่าเรือเท่ากับ 800 รวมทั้งหม้อไฟนี้ด้วย ก็ประมาณหนึ่งพันหรือสองพันหยวน เจียงซิ่ว นายคงไม่มีเงินหนึ่งหรือสองพันหยวนแน่ เพราะต้องเก็บไว้ให้ค่าเทมอใช่ไหม? เราเองก็ไม่สามารถแสดงความกรุณาได้เหมือนกัน”
เจียงซิ่วยิ้มเล็กน้อยและพูดกับคนเดินเรือ “ไปวัดหนานซานที่อยู่อีกด้านหนึ่ง…” เนื่องจากการมาพักที่นี่ไม่ได้รับการต้อนรับมากนัก เขาก็ไม่ต้องการอยู่อีกต่อไปเช่นกัน
คนเดินเรือกล่าว “คุณกำลังจะไปที่วัดหนานซาน?! ฉันแนะนำไม่ให้คุณไปที่นั้น วัดพังทลายลงแบบไม่ทราบสาเหตุ และพระในวัดทั้งหมดก็ตายแล้ว”
“ฉันจะไปที่นั่นเพื่อทำอะไรบางอย่าง” เจียงซิ่วกล่าว
เมื่อคนเดินเรือเห็นเจียงซิ่วที่ต้องการจะไปจริงๆ เขาก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก เขาเปลี่ยนทิศของหัวเรือ ลูกค้าจะไปที่ไหน เขาก็ต้องพาไปให้ถึงที่นั่น อย่างไรก็ตาม มันต้องใช้เวลา
ฟังสิ่งที่เจียงซิ่วเพิ่งจะกล่าวไป เย่ปิงเปิดปาก เธอมีบางสิ่งในใจที่อยากจะพูดกับเจียงซิ่ว แต่มีคนมากมายอยู่ตรงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งซูเจี๋ยหยงเองก็ยังอยู่ที่นี่ เธอจึงไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ เธอก้มศรีษะลงอย่างเศร้าโศก
ซูเจี๋ยหยงชี้ไปที่ปลายสุด ที่นั้นมีแสงสว่างจ้า มีเสียงไพเราะของไวโอลินดังลอยมา ดูเหมือนว่าที่ๆ ตรงนั้นดูเป็นที่สำหรับคนมีชนชั้น เขาอดไม่ได้ที่จะถาม “ตรงนั้นเป็นที่อะไร?”
คนขับเรือกล่าว “นั้นคือคฤหาสน์ที่หรูที่สุดในหางโจว เรียกว่าคฤหาสน์ทะเลสาบตะวันตก เฉพาะเจ้าหน้าที่ระดับสูงเท่านั้นที่มีคุณสมบัติในการเข้าไป ฉันได้ยินมาว่าคืนนี้มีงานเลี้ยง”
ซูเจี๋ยหยงกล่าว “งั้นนั้นก็คือคฤหาสน์ทะเลสาบตะวันตก”
“ไปเถอะ คนขับเรือ เข้าไปที่นั้น…”
เขาดูกระวนกระวายใจเล็กน้อย “ฉันเคยได้ยินมาจากการ์ดที่อยู่ในคฤหาสน์ทะเลสาบตะวันตก มงกุฎราชกุมารโอ๋ผู้ซึงทรงอำนาจลงมาที่เจียงหนาน มายังสถานที่แห่งนี้ แต่เขาอยู่ในเจียงหนานได้ไม่นาน ก็ตายลงไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ”
หลิวเซี่ยวหยุนถาม “เจี๋ยหยง นายกำลังพูดเรื่องอะไร?”
ซูเจี๋ยหยงสวมใบหน้าภาคภูมิใจ “มันเป็นเกมระหว่างเบื้องบน คนทั่วไปย่อมไม่รู้ นี่เป็นบุคคลสำคัญ เวลา 1:30 ของวันนั้น ในระยะเวลาสั้นๆ มันมีเรื่องราวเกิดขึ้น”
แฟนของหลิวเซี่ยหยุนถาม “เจี๋ยหยง ไม่ใช่ว่านายเป็นคนจากกวางตุ้ง? คนที่อยู่เบื้องบนของเจียงหนาน นายรู้จักเขา?”
ซูเจี๋ยหยงกล่าว “ในอดีตลุงของฉันเคยย้ายไปที่เจียงหนานในฐานะรองเสมียนการจังหวัด(โครตไม่มั่นใจ ใครมีความรู้ราชราชการตำแหน่งเกี่ยวกับหนังสือแนะนำเข้ามาได้) เลยได้ยินเรื่องนี้มา”
“ฉันคิดว่าอาจเป็นไปได้ที่ลูกพี่ลูกน้องของฉันก็อยู่ในนั้นด้วย”
บึม ได้ยินสิ่งนี้ คนที่อยู่ในปัจจุบันไม่สามารถทำอย่างไรได้ ได้แต่ตกตะลึง พวกเขารู้อยู่แล้วว่าครอบครัวของซูเจี๋ยหยงนั้นไม่ธรรมดา แต่เขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีลุงที่เป็นรองเสมียนการจังหวัด การจ้องมองที่มีต่อเขาเปลี่ยนไป
แม้แต่กระทั้งสายตาของเย่ปิงก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
บางทีเธออาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากิจการของครอบครัวซูเจี๋ยหยงนั้นมีพื้นฐานที่ไม่ธรรมดา รองเสมียนการจังหวัด สำหรับคนธรรมดาส่วนใหญ่ มันนับว่าสูงส่งแน่นอน
เมื่อคนเดินเรือได้ฟังสิ่งนี้ เขาอุทานอยู่ในใจ ลูกมันเถอะ เขาหันหัวเรือไปทางคฤหาสน์ตะวันตกในลักษณะที่ไม่กล้าขัดใจ และเพิกเฉยต่อความต้องการของเจียงซิ่ว
“นายใช่ไหม? ฉันเองเจี๋ยหยง”
“ฉันอยู่ที่ทะเลสาบตะวันตกในหางโจว นายอยู่ที่ไหน?… ฉันเองก็กำลังไปที่นั้น ฉันมีเพื่อนร่วมชั้นสองสามคน กับแฟนของฉัน พวกเราสามารถเข้าไปได้ไหม?”
“ได้ นั้นเยี่ยมมาก โอเค โอเค…”
วางสายโทรศัพท์ ซูเจี๋ยหยงรู้สึกมีความสุขมาก เขาบอกกับคนเดินเรือทันที “รีบไปเร็ว ลูกพี่ลูกน้องของฉันพูดว่า ถ้าจะเข้าไปในคฤหาสทะเลสาบตะวันตก เราสามารถเข้าไปโดยใช้ทางน้ำได้ มันมีท่าเรือส่วนตัวอยู่ คุณรู้จักไหม?”
คนเดินเรือตอบ “ฉันรู้จักมัน แต่เราเข้าไปไม่ได้”
ซูเจี๋ยหยงมองขึ้นฟ้าอย่างหยิ่งผยอง “ก็แค่ฉันต้องพูด…”
เจียงซิ่วกล่าวอยู่ในใจ ฉันบอกให้ไปที่วัด ทำไมถึงเปลี่ยนทาง? “นายต้องการอะไร ไม่ใช่ว่าฉันบอกให้ไปส่งที่วัด?”
ซูเจี๋ยหยงกล่าว “นายรีบรึเปล่า?”
เจียงซิ่วกล่าว “มันก็ไม่ได้เร่งด่วน”
“ตั้งแต่ที่มันไม่ได้เร่งด่วนอะไร งั้นก็ไปเล่นกับพวกเรา ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าไปในคฤหาสน์ทะเลสาบตะวันตกได้ ชีวิตไม่ได้มีโอกาสเช่นนี้บ่อยครั้ง”
หลิวเซี่ยวหยุนเองก็เห็นด้วย “ใช่แล้วเจียงซิ่ว นายไม่ต้องกังวลที่จะต้องไปกับพวกเราหรอก เราเองก็ไปเพื่อหาประสบการณ์ที่ดีเหมือนกัน”
พวกเขาไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว ที่มหาลัยเองการรับน้องใหม่ก็จบไปแล้ว เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตที่ต้องเข้าสังคม หากคุณมีความสัมพันธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรองเสมียนการจังหวัดดังกล่าว ประโยชน์ที่จะได้รับมันมีไม่รู้จบ
ที่ด้านข้าง ดวงตาของใครหลายคนเปล่งประกายออกมา
พวกเขาทุกคนรู้ว่านั่นหมายถึงอะไร
หลิวเซี่ยวหยุนและเย่ปิงจับมือกันและกัน หัวใจของพวกเธอเต็มไปด้วยความสุข สภาพบ้านของเย่ปิงนั้นดีมาก ซึ่งนั้นหลิวเซี่ยวหยุนเองก็รู้อยู่แล้ว แต่ไม่ว่าจะดีแค่ไหน เมื่อเทียบกับรองเสมียนการจังหวัดก็นับว่าเป็นการคุยโว้
หากพัฒนาเป็นเพื่อนสาวเต็มตัว เธอก็หวังว่าจะติดตามเขาไปได้
“แต่…”
เจียงซิ่วเหมือนอยากจะกระโดดลงน้ำ มองไปไม่ไกลมีเรืออยู่สองสามลำ แสงนีออนที่ส่องประกายอยู่กลางทะเลสาบนั้นสว่างไสว เย่ปิงรีบกล่าว “ถ้านายไม่รีบมาก ก็ไปด้วยกันเถอะ”
เย่ปิงมีเจตนาที่ดี แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่กับเธอแล้วก็ตาม เธอก็ยังคงหวังให้เจียงซิ่วมีอนาคตที่ดีต่อไป
ถ้านายอยากเปลี่ยนโชคชะตาของตัวเอง ประกาศนียบัตรมันยังไม่เพียงพอ
“ทำไมเธอไม่ไปก่อนหล่ะ?” เจียงซิ่วกล่าว “เธอไปก่อนได้เลย เดี๋ยวฉันจตามไป” เจียงซิ่วไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะไปกับพวกเขา ก็ในเมื่อเขามีสิ่งสำคัญกว่าที่ต้องจัดการ
ซูเจี๋ยหยงกล่าว “ทำสิ่งที่นายต้องการ”
หลิวเซี่ยวหยุนส่ายหัวอย่างลับๆ โอกาสดีๆ แบบนี้นายก็ยังไม่เข้าใจมันอีก คนที่ไม่รู้จักวิธีที่จะคว้าโอกาส ก็จะไม่มีวันได้ดี
อีกสองสามคนก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน
ในความเป็นจริง เย่ปิงยังคงต้องการชักชวนเจียงซิ่วอยู่ แต่เธอรู้ เจียงซิ่วเป็นคนที่มีทิฐิสูง เจียงซิ่วเคยเข้าไปที่บ้านของเธอแล้ว ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าเธอรวย แต่เขาก็ไม่ได้ยอมรับสภาพตัวเองกับฐานะของเธอ และนั้นก็เป็นสิ่งที่เธอได้ค้นพบว่าเขาเป็นคนประเภทที่หาได้ยากมาก แต่มันก็น่าเสียดาย สิ่งที่เธอทำก็ไม่ได้มีความหมายมากนัก เธอเห็นเขาปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า หัวใจของเธอกลายเป็นข่มขืน
เรือข้ามรั้วเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม ชายร่างอ้วนคนหนึ่งเข้ามาที่ท่าเรือ มันสมควรที่จะเป็นลูกพี่ลูกน้องของซูเจี๋ยหยง เมื่อขึ้นฝั่ง เย่ปิงคนเดียวที่จ่ายเงิน ดังเช่นคำกล่าวหนึ่งประโยค “ใครแพ้ก็ดูแลตัวเอง”
เจียงซิ่วพยักหน้าเล็กน้อย คนเดินเรือหันหัวเรือไปยังทิศทางของวัดหนานซาน
เย่ปิงมองไปที่เจียงซิ่ว ซึ่งเขาเองก็พยักหน้ากลับมาให้ เมื่อสังเกตเห็นสิ่งนี้ หลิวเซี่ยวหยุนหรี่ตาลง เธอถามอย่างระมัดระวัง “อย่ามองเลย มันจบไปแล้ว ไม่ใช่ว่าเธอยังชอบเขาอยู่?”
เย่ปิงกล่าว “เธอพูดเรื่องอะไร?”
“ฉันกับเขาไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว”
หลิวเซี่ยวหยุนหัวเราะเบาๆ “ถึงจะพูดว่าไม่มีอะไร แต่ก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัย ฉันไปที่บ้านของเธอ และก็เห็นเธออยู่ในห้องกับเขาสองต่อสอง ทั้งหมดเป็นเรื่องลวงตา?”
ใบหน้าที่สวยงามของเย่ปิงเปลี่ยนเป็นสีแดง สิ่งนี้ เธอเองก็คิดไม่ออกเช่นกัน ว่าเจียงซิ่วปรากฎตัวขึ้นมาในบ้านของเธอได้ยังไง และมันก็กลายเป็นสถานการณ์แบบนั้น
“ปิงปิง นี่คือญาติของฉัน…”
“โอ้ เรารู้แล้ว!”
วัดหนานซานเป็นจุดชมวิวในทะเลสาบตะวันตก และค่อนข้างมีชื่อเสียง ก่อนที่มันจะถูกพัฒนาให้เป็นจุดชมวิว วัดหนานซานถูกสร้างขึ้นมาจากคนของวัดราชวงศ์ถังทางใต้เมื่อหลายร้อยปีก่อน และที่นั้นก็มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี สมัยที่ยังรุ่งเรือง มันคงเต็มไปด้วยจิตวิญญาณและสืบเนื่องกับความสัมพันธ์ระหว่างพื้นที่ที่สวยงามเช่นนี้ มันจึงเข้าสู่ยุคที่เจริญรุ่งเรืองอย่างไม่น่าเชื่อ แต่วัดหนานซานก็ไม่ได้เปิดประตูพระวิหารทุกวัน มันเปิดเฉพาะเวลา 15.00 เท่านั้น และทุกครั้งจะเปิดประตูเพียงครึ่งเดียว เฉพาะเทศกาลเท่านั้นที่จะเปิดประตูเต็มบาน
ตั้งแต่ไกล เจียงซิ่วเห็นพระพุทธรูปแกะสลักองค์ใหญ่อยู่บนก้อนหินของภูเขา ด้านข้างสลักคำสี่คำอย่างมีความหมาย สำหรับพระพุทธเจ้าองค์ใหญ่นี้ ได้มีการกล่าวว่าดวงตาของพระพุทธเจ้าที่สลักมาจากหินองค์นี้ เปิดออกเมื่อก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้ปิดไปแล้ว นักประวัติศาสตร์ของหางโจวที่เกี่ยวข้องยังนำเสนอภาพวาดในหนังสือโบราณ เป็นรูปที่พระพุทธรูปตรงกำแพงของวัดหนานซานดวงตากำลังชำเลืองมองผู้คนอยู่