Girl, I’ll Teach You Cultivation – ฉันจะสอนเธอบ่มเพาะเอง - ตอนที่ 287
บทที่ 287
เทพปีศาจสาว
พระพุทธรูปดูแล้วเหมืออยู่ใกล้ๆ ถึงจะเป็นแบบนั้นคนเดินเรือก็ใช้เวลากว่าสิบนาทีกว่าจะถึงจะมายังบันไดที่พาขึ้นไปสู่วัดหนานซานได้ ท้องฟ้ามืดมิด มีเพียงแสงจันทร์และแสงไฟสลัวๆ ที่ส่องสว่างตามทาง อยู่ๆก็มีเสียงจากคนเดินเรือถามขึ้น “คุณผู้ชายต้องการให้ผมรออยู่ที่นี่ไหม?”
เจียงซิ่วขึ้นไปบนชายฝั่ง พอเท้าเหยียบย่ำลงบนบันไดโขดหินในทะเลสาบทำให้เขาลื่นจนเสียหลักเล็กน้อย “ไม่ต้องหรอก นายกลับไปเถอะ!”
การเช่าเรือนั้นเก็บเงินตรงเวลาเหมือนกับรถแท็กซี่ หากคุณทำให้ผู้โดยสารรอ ก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงิน คนเดินเรือพูดออกมาด้วยความเป็นกังวล “ถ้าผมออกไปแล้ว เมื่อตอนที่คุณย้อนกลับมาจากภูเขา ระยะทางคงไม่ได้ใกล้กันแล้ว”
เจียงซิ่วกำลังก้าวบันไดขึ้นไป คนเดินเรือสังเกตเห็นว่าเจียงซิ่วก้าวเดินขึ้นไปเร็วมาก บางอย่างมันดูน่าเหลือเชื่อ ในชั่วขณะหนึ่งเขาก้าวขึ้นบันไดไปแล้วกว่าหนึ่งร้อยขั้น หลังจากนั้นบุคคลนั้นก็เดินหายไป
เมื่อไปถึงวัดหนานซาน ภาพของเศษซากปรักหักพังก็ปรากฏ ด้วยพลังสายตาที่เขามี จึงมองเห็นได้ว่า สิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากการระเบิดของอาวุธหรือแผ่นดินไหว แต่มันได้รับเสียหายจากพลังของบางสิ่งที่ไม่ได้ธรรมดา
นอกจากวัดที่พังพินาศแล้ว ยังมองเห็นหินภูเขารอบทิศทางที่ถล่มลงมาได้เช่นกัน ศพของพระที่ถูกนำออกไปแล้ว แต่บนพื้นยังคงมีร่องรอยของเลือดที่ปนเปื้อนอยู่กับหินอยู่
“ฝ่ออ……”
ในตอนกลางคืน ร่างกายของเจียงซิวส่องแสงเล็กน้อย ภายใต้พลังงานตามธรรมชาติอันทรงพลังที่เขามี ทั้งผืนฟ้าและปฐพีจะรุนแรงมากยิ่งขึ้น สามารถทำให้ลมเกิดเป็นพายุที่รุนแรงขึ้นมาได้
“ออกมา!”
เปล่งเสียงที่ทุ้มต่ำออกไป ร่างเงาของงูยักษ์ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า ขับลมปีศาจออกมา จึงทำให้เขาสามารถเห็นได้เพียงครึ่งตัว ดวงตาดุร้ายที่มีขนาดใหญ่ยิ่งกว่าตัวมนุษย์ จับจ้องมาที่เจียงซิ่ว
“เจ้าเป็นมนุษย์ผู้แข็งแกร่ง?”
น้ำเสียงของงูที่เปล่งออกมานั้นชั่งไพเราะอ่อนหวาน มันเป็นเสียงของหญิงสาว สิ่งนี้ทำอย่างไรไม่ได้ ทำได้เพียงแต่นึกถึงหญิงสาวอย่างเช่นเฉิงหลิงซู เสียงดังก้องอยู่ในภูเขาท่ามกล่างค่ำคืนอันมืดมืด
รอบทิศทางยังคงเงียบสงัดไม่มีแม้มนุษย์อาศัยอยู่ เนิ่นนานที่ผ่านมาสิ่งที่ทำให้ผู้คนหวาดกลัวนั้นเป็นสิ่งใดกัน มันก็คงหนีไม่พ้นสำหรับการนึกย้อนไปยังตำนานของปีศาจที่เป็นเรื่องเล่าตามหนังสือ แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้วปีศาจนั้นมีตัวตนอยู่จริง
“เจ้าไม่ควรมาที่นี่ สถานที่นี้คือที่ของข้า ไม่ว่ามนุษย์หน้าไหนก็ตามที่เข้ามา ข้าจะฆ่าให้หมดสิ้น”
แรกเริ่มก่อนหน้า มันอาศัยอยู่บนโลกที่แตกต่างและได้ตื่นขึ้นมา แต่ทว่าโลกนี้ตัวมันแทบจะไม่คุ้นเคยเลย ตึกรามบ้านช่องสูงใหญ่ ไม่เหมือนกับโลกที่เคยอยู่มาก่อน ด้วยเหตุนี้มันจึงจำศีลมาเป็นเวลาอันเนิ่นนาน แต่ตอนนี้พบว่าร่างกายของมนุษย์ชั่งอ่อนแอ จนมันเองไม่สามารถทนอยู่ในสภาวการณ์แบบนั้นได้อีกต่อไป แต่อย่างไรก็ตามภูมิปัญญาของมนุษย์นั้นสูงกว่าแต่ก่อนและยังมีอาวุธที่น่าเหลือเชื่อมากมาย
จนถึงช่วงเวลาไม่นานมานี้ เกิดเหตุการณ์บางอย่างก็เกิดขึ้น และตัวมันจึงคิดจะครอบครองสถานที่แห่งนี้
นับจากนี้ไปบนยอดเขาลูกนี้ได้กลับมาเป็นของมัน
ในมุมมองของมัน การที่ยึดสถานที่นี้ ก็เหมือนการยึกที่ของมันเองคืนมา
มันล่วงรู้ได้ทันทีว่ามีผู้ที่แข็งแกร่งกำลังแกว่งเท้าหาเสี้ยน……
บูมม!
ร่างของงูยักษ์พุ่งตัวลงมา ร่างทั้งร่างม้วนตัวเป็นวงกลมทำให้เกิดกระแสลมแรง ต้นไม้ใบหญ้าที่อยู่รอบๆนั้นปลิวออกไปพร้อมกับราก ความเร็วนั้นรวดเร็วจนกระทั่งก่อเกิดกำแพงเสียงขึ้นมา
เจียงซิ่วตกตะลึง ในทวีปการต่อสู้นิรันดร์ ปีศาจทุกตนไม่ได้ถูกเรียกว่าปีศาจ ตระกูลเทพหลายตระกูลก็มีรูปร่างที่ผิดแปลกไปจากปกติ สามารถกล่าวได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาด ดังนั้นสิ่งมีชีวิตพวกวิญญาณที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้จึงเรียกว่าเทพปีศาจ และเทพปีศาจตนนี้ได้ทำลายอุปสรรค์ขวางกั้นได้ ความแข็งแกร่งเองก็พุ่งไปถึงจุดที่น่าประหลาดใจ หากจะทำการแบ่งขอบเขต มันก็คงเทียบเท่ากับเทพชั้นต่ำได้ มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่เทียบเคียงกับเจียงซิ่วในตอนนี้ได้
ร่างกายของเทพปีศาจมีข้อได้เปรียบเหนือกว่าเทพทั่วไปในระยะแรก
ด้วยร่างที่ใหญ่สูงกว่า100เมตร กล้ามเนื้อตามร่างกายจึงเต็มไปด้วยพละกำลัง แม้แต่เกล็ดหนังที่หุ้มตัวไว้ก็ยังแข็งแกร่งกว่าเหล็กกล้า มันเปล่งประกายแสงอ่อนๆออกมา ก้อนหินที่โดนมันบดทับนั้นแหลกจนเป็นผุยผง
บูมม!
ในช่วงเวลาที่เลื้อยพุ่งเข้ามา ราวกับแผ่นดินจะถล่ม พร้อมที่จะกวาดล้างทุกอย่างในเส้นทาง
“อ่อนหัด!”
ใบหน้าของเจียงซิ่วเริ่มเปลี่ยนไป ผมที่ยาวย้อยลงมา รูม่านตาขยายออก เมื่อเปิดตาออกการแปลงเทพของเขาก็เสร็จสมบรูณ์แล้ว นี่คือคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เจียงซิ่วเคยพบเจอ
“ฝ่ออ!”
งูยักษ์ได้อ้าปากกว้างกว่าสิบเมตร ภายในปากมีลำแสงขนาดใหญ่คล้ายกับเครื่องยิงจรวดพร้อมพ่นยิงออกมา สัญชาตญาณของเจียงซิ่วนั้นถูกต้อง หากไม่ใช้การแปลงเทพ เขาอาจจะต้องอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ
มีเสียงหวือดังออกมา ทันใดนั้นเองร่างกายของเขาก็ทยานขึ้นไปสูงกว่า30เมตร ลำแสงสีขาวขนาดใหญ่ระเบิดตรงจุดเดิมที่เขายืนอยู่ เร็วเกินไป รุนแรงเกินไป ภูเขาที่อยู่ด้านหลังของเขาระเบิดออกมา หินก้อนใหญ่ซึ่งมีน้ำหนักกว่าหมื่นกิโลกรัมแตกออกคล้ายกับฟองสบู่ ภูเขาทั้งลูกพังทลายลงมา
“แข็งแกร่ง!”
ในใจของเจียงซิ่วค่อนข้างตกใจ มีเพียงเทพปีศาจที่มีพลังอำนาจแกร่งกล้าเช่นนี้
ถ้าเขามีประสบการณ์ต่อสู้น้อยกว่านี้ ในตอนที่งูยักษ์กำลังอ้าปากค้าง เขาจะหลบหนีเดินการวิ่งออกไป และเมื่อเป็นเช่นนั้นเขาจะโดนระเบิดเหมือนก้อนหิน
“หวืออ!”
กลางอากาศหน้าผากของเจียงซิ่วที่ส่องแสงประกายอย่างไม่หยุดหยั้ง กระบี่สั้นส่องแสงวิบวับออกมาจากความมืด ก่อนที่จะหายไปอย่างไร้ร่องรอย เส้นสายฟ้าพุ่งเหนือขึ้นไป จนเกิดเสียงของกระแสไฟฟ้าดังออกมา
ติ้งง!
พร้อมกับเสียงโลหะกระทบกัน เทพมารขนาดยักษ์ ผู้ซึ่งเป็นเป้าหมายเป้าใหญ่ จะสามารถหลีกหนีกระบี่บินพ้นได้ยังไง? ทันทีมันกลายเป็นตกใจ ร่างกายบิดไปมาก่อนที่จะร่วงลง แต่หลังจากทั้งหมดแล้ว เกร็ดก็ไม่ได้เกิดรอย และไม่ได้มีเลือดไหลออกมาแต่อย่างใด
พลังป้องกันร้ายกาจ!
เทพปีศาจประเภทที่มีเกร็ด พลังป้องกันของมันร้ายกาจยิ่งกว่าพลังป้องกันแผงคอของม้าซะอีก
“อ๊ากก!”
เทพปีศาจงูเปล่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ความแข็งแกร่งของเจียงซิ่วเกินความคาดหมายของมัน เจียงซิ่วแสดงสีหน้าอย่างเย็นชา “ที่นี้ คือที่ของฉัน”
“กล้ามาฆ่าผู้คนในที่ของฉัน?”
เทพปีศาจงูกล่าวเสียงเย็น: “ถ้าข้าฆ่าแล้วยังไง? ก็ในเมื่อพวกเจ้าเองก็ยังล่าสัตว์มาเป็นอาหาร ฆ่าเผ่าพันธ์ของพวกเราไม่รู้กี่แสนพัน ข้าได้ยินมาว่าอาหารของพวกเจ้ามีสิ่งที่เรียกว่าซุปงูอยู่ด้วย”
เจียงซิ่วพูดไม่ออก เขาเองก็ไม่ใช่คนที่มีเมตตากรุณาและศีลธรรม เขานับว่าเป็นตัวร้าย เขารู้ได้อย่างชัดเจนว่าเขาเป็นคนไม่ดี นอกจากนี้เขายังเชื่อมั่นว่านี่คือโลกที่ผู้เข้มแข็งเท่านั้นที่จะอยู่รอด
หากคุณอ่อนแอคุณจะถูกกินและถูกฆ่า ไม่มีถูกหรือผิด และเขาไม่ต้องการแยกแยะถูกหรือผิดกับอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน
“ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว?”
“เมื่อนานมาแล้ว มีพระอยู่รูปหนึ่ง ท่านกล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งนั้นมีวิญญาณ สัตว์โลกนั้นเท่าเทียมกัน ข้าเชื่อเขา แต่ข้สก็เกือบตายด้วยน้ำมือของเขาเอง” เทพปีศาจงูพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
เมื่อได้ฟังน้ำเสียงที่เหมือนลูกปัดหยกของเด็กสาว มันคมชัดและไพเราะอ่อนหวาน
เจียงซิ่วมีความรู้สึกอยากหยอกล้อกับเทพปีศาจสาวคนนี้
เจียงซิ่วกล่าวว่า: “มันเป็นกฎแห่งป่า”
“ถ้าชนะฉันได้ สถานที่แห่งนี้คือของแก แต่ถ้าแพ้ ก็ตายอยู่ที่นี่”
น้ำเสียงของเขาเย็นชาและไม่มีร่องรอยของความรู้สึกใดๆ
เทพปีศาจงูกล่าวออกมา “เจ้าคิดว่าตัวเจ้าเองชนะข้าได้อย่างแน่นอน มนุษย์ก็เพียงแค่ใช้ทางลัดในช่วงหลายพันปีที่ผ่านมาเท่านั้น เมื่อดำเนินไปถึงจุดๆ นึง มันไม่มีสิ่งใดคงอยู่ได้ตลอดกาล และมนุษย์เองก็ไม่สามารถเป็นตัวชูโรงได้ตลอดไป ”
หัวใจของเจียงซิ่วเต็นเร็วระรัวอย่างกระทันหัน บางทีการถือกำเนิดของโลกที่แตกต่างอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้น
“ยังไม่ทันไรก็จบสรุปจบแล้ว”
ทันใดนั้นเองเทพปีศาจงูก็บิดเลื้อยร่างมุ่งตรงเข้ามา มันให้ความรู้สึกน่ากลัวซึ่งคล้ายกับการเปล่งประกายของกาแล็กซี่ทางช้างเผือก และเป็นขณะนั้นเองเจียงซิ่วก็กระพริบตา หลังจากที่เป็นภาพติดตาอยู่ในอากาศพวกเขาก็อยู่ห่างกันเพียงแค่100เมตร
ปังง!
ให้ความรู้สึกเหมือนโลกจะแตก รอยแตกบนพื้นขยายยาวออกไปจนถึงเจียงซิ่ว มันเหมือนเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ หลังจากที่เท้าของเจียงซิ่วลงบนพื้น ใช้พลังเหยียบย่ำลงไป ร่างพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับการเกิดกำแพงเสียง
“ดาบเก้านภา!”
ในมือเจียงซิ่วถือดาบไว้ทั้งสองข้าง บนท้องฟ้ามีสายฟ้าผ่าลงมา บนความว่างเปล่ามีการรวมกันของสายฟ้าที่นับไม่ถ้วน รูปร่างคล้ายมีดก่อตัวขึ้นมา รูปร่างของมีดยาวลากผืนฟ้าบังทิ้งความมืดมิดทั้งหมดไว้ที่ด้านหลัง พลังทำลายของมีดนี้คล้ายบางสิ่งที่ทรงพลังและใช้เวลาตกลงมาถึงเก้าวัน
เทพปีศาจไม่หลบหลีก พร้อมๆ กับเสียงระเบิดที่เกิดขึ้น มันสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ภายในร่างกายเหมือนกับเสียงฟ้าร้องที่แผดเสียงไม่หยุด พร้อมกับนั้นก็ปล่อยคลื่นพลังที่มองไม่เห็นออกไป จากนั้นก็กระแทกเข้ากับร่างเจียงซิ่วเต็มๆ
ปังง!
ร่างทั้งร่างของเจียงซิ่วกระเด็นออกไป เขาเผยสีหน้าอย่างคาดไม่ถึงออกมา พลังของมีดที่รวบรวมมานั้นมันคล้ายกับเศษแก้วที่แตกละเอียด และกลายเป็นอนุภาคพลังงานเล็กๆน้อยๆบนท้องฟ้า เทพสามารถใช้พลังจากว่างเปล่าได้ แต่พลังนั้นถูกกำหนดด้วยตัวของบุคคลนั้นๆ ที่ใช้มัน
“ตายซะ!”
เทพปีศาจงูเลื้อยผ่านภูเขาที่มีความสูงมากกว่าสิบเมตร พุ่งตัวลงมาข้างล่างคล้ายกับกำลังบินอยู่ ทันใดนั้นก็อ้าปากหวังจะกลืนกินเจียงซิ่ว สีหน้าเจียงซิ่วแสดงออกอย่างตกตะลึง เวลาเดียวกันเขาออกมาจากพื้นที่ตรงนั้นทันที และตรงขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มีดวงจันทร์ในยามค่ำคืนส่องแสงอยู่ อย่างไรก็๖มหัวของเทพปีศาจงูก็ยืดขึ้นไปข้างบนแล้วนำร่างตนทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าไล่ตามกันไปติดๆ
หนึ่งเทพหนึ่งปีศาจทยานขึ้นไปบนท้องฟ้า
ความเร็วของเจียงซิ่วนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าเทพปีศาจเลย แถมยังเร็วกว่าด้วยซ้ำ เมื่อเห็นว่าสุดท้ายแล้วยังไงก็ตามเขาไม่ทัน เทพปีศาจงูอ้าปากอีกครั้ง บูมม งูยักษ์อ้าปากกว้างกว่าสิบเมตร พร้อมกับยิงลำแสงขนาดใหญ่คล้ายกับเครื่องยิงจรวดออกมาอีกครั้ง
ด้วยระยะที่ใกล้ชิดพร้อมกับความเร็วเช่นนี้ มันไม่สามารถหลบพ้นได้อย่างแน่นอน เจียงซิ่วผู้ซึ่งกำลังบินออกด้วยความเร็วเต็มที่ หันกลับมาและกล่าวคำบางอย่าง อย่างแผ่วเบา “ฮง!”
เมื่อพูดคำนี้ออกไป ร่างของเทพปีศาจงูสั่นสะท้านไปทั้งร่าง หลังจากที่พยายามขึ้นไปบนท้องฟ้า แต่กลับตกลงมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ลำแสงที่กำลังออกจากปากไร้พลังที่จะยิงออกมา ไม่นานมันก็ค่อยๆกระจายหายไป
“เจ้าคือผู้ที่สืบเชื้อสายที่แท้จริง?”
เมื่อเทพปีศาจงูที่ตกลงมาบนพื้นก็หนีเข้าไปในซอกหิน และเลื้อยหายเข้าไปในป่าอย่างรวดเร็ว
“เจ้าเอาชนะข้าไม่ได้หรอก!”
เจียงซิ่วจึงกล่าวว่า: “งั้นแล้วทำไมแกต้องหลบหนี?”
ในใจของเขารู้สึกเสียดายเล็กน้อย เขามั่นใจว่าเทพปีศาจงูบาดเจ็บ
แต่ไม่รู้ว่าบาดเจ็บมากน้อยแค่ไหน
“เหอะ!”
เทพปีศาจงูตอบกลับ “มนุษย์ผู้แข็งแกร่ง ข้าจะคิดวิธีทำลายคาถาของเจ้าให้ได้” สติปัญญาของเทพปีศาจพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วและมันก็สามารถคิดเรื่องราวออกมาได้อย่างมากมาย