Girl, I’ll Teach You Cultivation – ฉันจะสอนเธอบ่มเพาะเอง - ตอนที่ 288
บทที่ 288
ตามล่าปีศาจ
เมื่อได้ยินคำพูดที่กล่าวออกมา ดวงตามืดมิดของเจียงซิ่วแสดงออกมาอย่างไตร่ตรอง จากบทสนทนาสั้นๆ เทพปีศาจตนนี้มีสติปัญญาและมีความมั่นใจต่อความฉลาดของตนเองเป็นอย่างมาก สิ่งที่เขากำลังเล่นอยู่ด้วยนั้นคือเทพ หรือที่เรียกกันว่าตระกูลเทพ มันเองก็น่าจะเกิดมาจากตระกูลเช่นกัน ถึงจะมีความแตกต่าง แต่มันก็ไม่ได้แตกต่างกันจนมากเกินไป มันแม้แต่กระทั่งกล่าวจะว่าจัดการเขา
สิ่งนี้กระตุ้นความโกรธของเจียงซิ่ว “สัตว์ปีศาจชั่วร้ายต้อยต่ำเลื้อยคลานแบบนั้น ยังกล้าที่จะเรียกว่าเทพได้อีก”
มือทั้งสองข้างประกบกันสร้างสัญลักษ์มือ กำหนดลมหายใจเพื่อเพิ่มลมปราณสร้างกำลังภายใน เขารวมพลังไปตรงที่หน้าผากอีกครั้ง ส่งผลให้ปรากฏเสียงหวืดหวือออกมา ตำแหน่งนั้นมีแสงเปล่งประกายก่อนที่กระบี่สั้นจะโผล่พ้นออกมา มันพุ่งไปไล่ล่าสิ่งที่อยู่ภายในความมืดมิดทันที
กระบี่สั้นไปตามทาง ทุกๆ สิ่งมีชีวิตยากที่จะหลบหนีจากสายตาของเจียงซิ่วได้
หวืออ!
กระบี่สั้นพุ่งไปอย่างรวดเร็ว กระทั่งเกิดเสียงระเบิดดังขึ้นมาจากภายใน พร้อมๆ กันนั้นหินยักษ์ก็ระเบิดขึ้นสู่ท้องฟ้า เขาเห็นเทพปีศาจตนเดิมที่กำลังหลบหนีอยู่ มันคืองูยักษ์ที่คล้ายกับเทพมังกรนั่นเอง หัวของมันทะยานขึ้นสูงอยู่เหนือหัวของเขาขึ้นไป ภายใต้ร่างของมันมีกระบี่สั้นสีขาวบินไล่ตามไปติดๆ
เจียงซิ่วเองก็อยู่บนฟ้าและกำลังเหินทะยานตามไป ผมยาวและเสื้อผ้าพลิ้วไหวไปตามกระแสลม เขาเหาะไปอย่างเร็วราวกับพายุ
“จะหนีไปไหน?”
จากที่สามารถต่อต้านกระบี่บินทรงพลังของเจียงซิ่วได้ ตอนนี้คล้ายกับว่าเป็นหม่าป่าที่ไล่ตามกระต่าย มันแม้แต่กระทั่งจนมุมที่จะหลบหนี เห็นได้ชัดว่ามันต้องได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน นั่นคงเป็นที่เปล่งมาจากอักระโบราณที่เกิดจากสวรรค์และโลก พลังอำนาจของมันไม่แน่ชัด แต่แน่ใจแล้วว่ามันสามารถจัดการกับเหล่าพลังหยินได้
เทพปีศาจงูอย่างเธอจำเป็นต้องพึ่งพาพลังหยิน ดังนั้นงูเพศเมียจึงแข็งแกร่งกว่างูเพศผู้มาก แต่เสียงจากอักระโบราณสามารถทำให้เธอบาดเจ็บได้ เมื่อนั้นพลังหยินลดลง พลังที่มาจากโลกจะทำให้เธอบาดเจ็บได้ง่ายขึ้น
มันเป็นเรื่องยากสำหรับเธออีกครั้ง มันเหมือนในตอนแรกที่ไม่สามารถต้านทานการโจมตีของเจียงซิ่วได้
บูมม!
เกิดเสียงครืนโครมดังขึ้น เทพปีศาจงูที่คล้ายกับมังกรน้ำ มันได้พุ่งลงไปสู่ก้นทะเลสาบ
มีน้ำกระเด็นสูงขึ้นมากว่าสิบยี่สิบเมตร จากนั้นก็มีเสียงที่กล่าวพึมพัมตามมา กระบี่สั้นจึงกระโดดพุ่งลงไปในน้ำด้วยเช่นกัน
ต้องยอมรับว่าความฉลาดของปีศาจงูตัวนี้ช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ โดยเฉลี่ยแล้วมนุษย์จะไม่มีสติปัญญาดังกล่าว ที่สามารถรู้ได้ว่าเมื่อกระบี่สั้นลงไปในน้ำ ความเร็วจะลดลง
ไม่เพียงแต่เท่านั้น เทพปีศาจงูยังมองหาพื้นที่ที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าไปได้ นี่คือเหตุผลที่เจียงซิ่วต้องไล่ฆ่ามัน และไม่สามารถปล่อยให้หลุดลอดออกไปได้ หากเทพปีศาจงูปรากฏในที่สาธารณะที่สามารถมองเห็นได้นั้น แน่นอนว่าจะทำให้เกิดความตื่นตระหนกต่อสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“หนีไปไหนแล้ว?”
เจียงซิ่วเองก็คล้ายกับไม่สามารถทำตามใจได้มากนัก เขาจะถูกเปิดเผยความสามารถหากเขาทำการบินข้ามผิวน้ำไป และฝูงชนส่วนใหญ่ที่อยู่ใกล้กับสถานที่นี้ก็คือผู้คนจากคฤหาสน์ตะวันตก และนี้เป็นศูนย์กลางเป้าหมายที่เขากำลังไปเช่นกัน
กระบี่สั้นเวลาอยู่ใต้น้ำความเร็วช้าลงกว่าเดิมจริงๆ แต่ก็เพียงเสี้ยววินาที ภายใต้น้ำลึกที่มืดมิด ร่องรอยของเทพปีศาจงูก็ได้หายไป เจียงซิ่ว: “แกคิดว่าจะหนีฉันพ้น?”
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ นอกเหนือจากกลิ่นน้ำในทะเลสาบ เขายังรู้สึกถึงกลิ่นเลือดจางๆ
การได้รับบาดเจ็บและไม่มีวิธีรักษาให้เลือดหยุดไหล นั้นจะรอดพ้นจากการไล่ล่าของวิญญาณที่ไวต่อเลือดได้อย่างไร
เหยียบย่างบนผิวน้ำพร้อมกับสูดดมกลิ่นเลือดและไล่ตามขึ้นชายฝั่งไป พอเงยหน้าขึ้นไปก็พบกับคฤหาสน์ตะวันตก เจียงซิ่วเลิกคิ้วจนเกิดริ้วรอย
ห้าร้อยปีแห่งความเป็นอมตะ ณ เวลานั้น ปีศาจมีเงื่อนไขพื้นฐานที่เป็นข้อกำหนดอยู่ นั้นก็คือการแปลงกายเป็นมนุษย์ แต่ถ้าหากตอนนี้ได้แปลงกายเป็นมนุษย์แล้ว จะผิดวินัยของการฝึกฝนวิธีเทพปีศาจเป็นอย่างมาก แต่กระนั้นก็ยังมีปีศาจจำนวนมากที่ไม่สามารถต้านทานสิ่งล่อตาล่อใจและแปลงกายเป็นมนุษย์ งูปีศาจที่ต่อสู้ด้วยกันกับเขานั้น อาจเป็นเทพปีศาจมาแล้วกว่าห้าร้อยปี พันปีหรือแม้กระทั่งสองพันปี แต่เมื่อตอนที่มันออกมามันยังอยู่ในร่างของเทพปีศาจ เห็นได้ว่าเทพปีศาจเข้าใจความจริงนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความตาย เธอจำเป็นต้องเลือกรูปร่างเพื่อหลีกเลี่ยงสายตาและหูของเจียงซิ่ว
ยิ่งกว่านั้นจากข้างในงานจะได้ยินทั้งเสียงไวโอลินและเสียงหัวเราะด้วยความสนุกสนาน แสดงว่าเทพปีศาจคงจะเปลี่ยนรูปร่างแล้ว มิฉะนั้น ถ้าเกิดมีงูยักษ์เข้าไปภายในงาน ก็คงเกิดเสียงกรี๊ดตกใจร้องไห้ของเหล่าผู้หญิงในงานแล้ว
เจียงซิ่วเดินเข้ามาจากด้านนอกกำแพงและแปลงเทพของเขาค่อยๆ หายไป
ภายในคฤหาสน์ตะวันตกค่ำคืนนี้ มันเต็มไปด้วยบุคคลที่ทรงอิทธิพล คนเหล่านั้นรวมตัวกันเป็นกลุ่มเล็กๆ และกำลังพูดคุยสนทนากัน พนักงานบริการที่แต่งตัวอย่างปราณีตเรียบร้อยถือถาดเดินผ่านไปมาภายในงาน
กลุ่มแสดงอยู่ทางด้านซ้ายของบริเวณพื้นที่เป็นหญ้า ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ขณะที่กำลังบรรเลงเพลงอันไพเราะที่สุด เพื่อให้บุคคลที่มีอิทธิพลเหล่านี้ได้ฟัง
มีผู้คนจำนวนมาก และมากหน้าหลายตา
ดวงตาของเจียงซิ่วกำลังมองหาบุคคลหนึ่งในฝูงชน นั่นก็คือเทพปีศาจงูที่มีสติปัญญาอันเฉียบแหลม นอกจากนั้น เธอเฝ้าสังเกตมนุษย์มาเป็นเวลานาน และได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมายจากมนุษย์มามาก เธอจึงไม่มีขาดตกบกพร่องในเรื่องการปลอมแปลงเลย
โอกาสเดียวในตอนนี้คือช่วงที่เทพปีศาจบาดเจ็บ
“เฮ้ นั่นไม่ใช่เจียงซิ่ว? เขาบอกว่าเขาจะไม่มานิ? แต่สุดท้ายก็มาอยู่ดี”
ไกลสุดในฝูงชน หลิวเซี่ยวหยินและแฟนของเธอผานโปวสังเกตเห็นเจียงซิ่วซึ่งกำลังเดินสำรวจอยู่รอบๆ ฝูงชน
เมื่อได้ยินประโยคดังกล่าว ผู้คนที่อยู่ข้างเธอก็มองไปที่เขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ใช่ นั่นคือเจียงซิ่วจริงๆ ด้วย”
หลิวเสี่ยวหยุนนั้นมองไม่ผิดพลาดอย่างแน่นอน เย่ปิงก็เห็นเขาเช่นกัน เธอชื่นชมในความกล้าของเจียงซิ่วมาก แต่ในใจกลับไม่เห็นด้วยเล็กน้อย ก็เหมือนกับความแตกต่างสภาพแวดล้อมทางสังคมในปัจจุบัน น้ำที่ใสสะอาดเกินไปก็ไร้ปลา และบางครั้งมันก็เป็นโอกาสที่เหมาะสมที่จะยอมสละบางอย่างที่ไม่จำเป็นและไม่ต้องพยายามไปกับมัน เมื่อเห็นว่าเจียงซิ่วปรากฏตัวที่นี่ แต่ในใจกลับผิดหวังอย่างมาก และบางคนก็ดูถูกดูแคลนเจียงซิ่ว
เธอรู้สึกว่าครั้งหนึ่งเธอเคยชอบเขา แต่ตอนนี้ความชื่นชอบในตัวเจียงซิ่วได้เปลี่ยนไป และมันก็หายไปหมดแล้ว เหมือนตอนที่เธอเดินไปยังสนามบิน และยืนอยู่ที่ประตูขึ้นเครื่อง พร้อมกับโทรศัพท์มือถือ เขาไม่ได้โทรหาเธอในเวลานั้น ดังนั้นตัวเธอเองจึงต้องเฉียบขาดกับความผิดหวังที่เกิดขึ้นนี้ให้ได้
“ฉันนึกว่าเพื่อนร่วมชั้นผู้สูงส่งของเธอ จะไม่มาซะแล้ว”
คำพูดของซิวเจียหย่งเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย(ต่อไปชื่อแฟนของเย่ปิงคือ ซิวเจียหย่งนะ)
บุคลิกภาพของคนทำให้คนดูถูกคนๆ นั้นได้
“เรียกเขาให้มานี่สิ จะได้ไม่ต้องไปยุ่งวุ่นวายหรือชนใครต่อใคร เขาคุยกับใครไม่ได้หรอก ไม่ใช่ทุกคนที่จะพูดออกมาแล้วดีเท่าฉัน” ซิวเจียหย่งพูดด้วยน้ำเสียงโอ่อวด
เย่ปิงสังเกตเห็นว่า เจียงซิ่วกำลังยืดคอและมองไปรอบๆ กลุ่มคนที่กำลังขึ้นลงตรงรถรับส่ง ถ้าจะกล่าวอย่างตรงไปตรงมา เขาจะจ้องมองหาผู้หญิงอยู่แน่นอน แม้ว่าตอนนี้จะเป็นช่วงฤดูหนาว แต่ผู้หญิงสวยๆ หลายคนก็สวมชุดราตรีที่ทั้งสั้นและเปิดเผยแผ่นหลัง ภายในคฤหาสน์เปิดเครื่องทำความร้อน แถมยังมีผลิตภัณฑ์ที่ทำจากขนสัตว์ มันสามารถความอบอุ่นอยู่ในนี้ได้ “นิสัยแบบนั้น เค้าไม่ได้เปลี่ยนไปเลย……”
ฟังจากเสียงของเทพปีศาจงู เจียงซิ่วตัดสินได้ว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิง หลังจากทำการแปลงร่างแล้ว มันก็จะต้องเป็นผู้หญิงอย่างแน่นอน และนั่นทำให้เจียงซิ่วสังเกตแต่ผู้หญิง เขาต้องเข้าไปทางด้านหลังเพื่อดมกลิ่น แต่มันกลับมีแต่กลิ่นน้ำหอมที่รุนแรงและฉุนมาก อย่างไรก็ตามพฤติกรรมตอนนี้ของเจียงซิ่วมันทนดูไม่ได้จริงๆ มันชั่งหยาบคายเสียเหลือเกิน
“เขาทำแบบนั้นได้ยังไงกัน?” หลิวเสี่ยวหยุนรู้สึกอับอายมาก
สีหน้าของเย่ปิงแสดงออกถึงความอึดอัดใจ
หลังจากที่เจียงซิ่วค้นหาในฝูงชนกลุ่มสุดท้าย แต่กลับไม่เจอเลยใดๆ บนท้องฟ้าเหนือคฤหาสน์ตะวันตกมีกระบี่บินที่เปล่งแสงวิบวับลอยอยู่ หากไม่สังเกตอย่างรอบคอบ อาจจะคิดว่ามันเป็นดาวที่ลอยอยู่บนฟ้า หลังจากทำการแปลงเทพ กระบี่พวกนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายของเขา ไม่ว่าใครก็ตามที่เดินออกไป เจียงซิ่วจะสามารถรับรู้ได้ผ่านการตอบสนองของกระบี่สั้นพวกนั้น
แผนอันชาญฉลาด ไม่มีใครที่จะหนีรอดพ้นไปได้
“อายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี”
เย่ปิงพูดไม่ออก ทุกครั้งที่เธอเห็นผู้ชายคนนี้ เธอก็คล้ายกับจะทนไม่ได้อยู่ตลอดๆ ในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปจึงเดินออกไปจากตรงนั้น เจียงซิ่วก็สังเกตเห็นเธอเช่นกัน สายตานั้นเบนมองไปที่ร่างของเธอ เขามองไปยังใบหน้าที่งดงามและเย็นชา ซึ่งกำลังก้าวเท้าเข้ามาด้วยท่าทางผิดปกติ มีท่าทางเหมือนควบคุมอารมณ์ตนเองไม่อยู่
เย่ปิงกล่าว “ฉันดูดีไหม? มองพอแล้วหรือยัง?”
ประหลาด!
เจียงซิ่วกล่าว “ฉันมองอะไร?”
เย่ปิงกล่าว “นายมันคนเสแสร้ง เจียงซิ่ว นายโตขนาดนี้แล้ว ทำไมไม่มีคุณธรรมขึ้นมาบ้าง นายเป็นท็อปในจากการสอบเข้ามหาลัย ทำไมนายถึงไม่รู้จักรักตัวเองบ้าง?”
เจียงซิ่วกล่าว “เธอป่วย?”
เย่ปิงโต้ตอบ “นายเองก็ควรกินยาบ้าง”
โมโหร้าย เมื่อก่อนเย่ปิงถูกนำโดยเจียงซิ่ว แต่พอไปเรียนที่ต่างประเทศมานิดหน่อย กลับไม่รู้ว่าสกุลตนเองคืออะไร?
“นายมากับฉัน!”
เจียงซิ่วกล่าว “ทำไมฉันต้องไปกับเธอ…..” ดวงตาคู่หนึ่งดูไม่ผ่อนคลายจากการสังเกตสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบๆ ตัว พอมองแล้วเหมือนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
สิ่งนี้ทำให้เย่ปิงรำคาญมากยิ่งขึ้น: “นายไม่ได้พูดว่าจะไม่มางานนิ ใช่ไหม? แต่ตอนนี้นายก็อยู่ที่งานแล้ว ไม่รักษาคำพูดบ้างเลย รอก่อนล่ะกัน ฉันจะแนะนำเจียหย่งให้นายรู้จัก”
พูดจาไม่ชัดเจนแถมไม่เข้าใจ ไม่ว่ายังไงเย่ปิงก็เริ่มเหนื่อยหนายเจียงซิ่วแล้ว แต่ในใจก็หวังว่าเขาจะเป็นคนดี อย่าบอกนะว่าบนโลกใบนี้สิ่งที่ไม่ควรพบเจอมากที่สุดก็คือคนรักเก่า? เย่ปิงยังไม่ชัดเจนในตัวเอง เธอจะรู้ได้ยังไงว่าเธอจะคบกับเขาไปได้นานซักแค่ไหน เธอจึงตัดใจออกมา
งั้นแล้วเราเป็นคนเข้าข่ายที่ชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้าน?
เย่ปิงเป็นคนที่ดูคิดมาเล็กน้อบ “นายอยู่ที่นี่พูดอะไรก็ควรระวังด้วย เดี๋ยวเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะไล่นายออกจากงานเอาได้ รีบตามฉันมาสิ พวกเขาอยู่ตรงนั้น ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่นายจะมาเล่นสนุกสนาน ฉันได้ยินมาว่าเราอยู่แถบพรมแดนของมณฑลเจียงหนาน”
เจียงซิ่วได้ยินดังนั้นก็เข้าใจได้ทันที