Girl, I’ll Teach You Cultivation – ฉันจะสอนเธอบ่มเพาะเอง - ตอนที่ 290
บทที่ 290
มันซ่อนอยู่ที่ไหน?
ทุกคนในห้องโถงล้วนเคยได้ยินชื่อเสียงของคุณเจียง แต่คนที่เคยพบเห็นเจียงซิ่วกลับมีไม่กี่คน เกือบทั้งหมดตกตะลึง แววตาตื่นตกใจมองไปยังคนที่อยู่ตรงหน้าท่านนี้ แม้แต่กระทั่งผู้เทศมนตรีของเจียงหนานก็ต้องค้อมตัวให้กับผู้เยาว์คนนี้คนนี้
เขาคือคุณเจียง?
กลุ่มผู้มีอิทธิพลของที่นี่ กลุ่มคนร่ำรวย พวกคุณชายคุณหนูล้วนแล้วแต่กลายเป็นตื่นเต้น ในที่สุดพวกเขาก็เห็นเทพเจียง และแตกต่างกับความกระตือรือร้นของกู่เต๋อเชี่ ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงล้วนกลั้นหายใจ
ว่ากันว่าตอนที่มงกุฎราชกุมารเจียงโอ๋มาที่เจียงหนาน เขาได้ถูกคุณเจียงสังหารด้วยตนเอง คุณเจียงทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือนในกับได้พบเห็นกษัตริย์จากยุคโบราณที่สามารถชี้ความเป็นความตายของทุกคนได้โดยตรง ความยำเกรงลึกๆ ข้างในยังคงไม่หายไป
ใครกล้าขัดขืนแม้แต่เพียงนิด ผลที่ตามมาก็ยากที่จะคาดเดา
ซิวเจียงเชิง กับ ซิวเจียงหย่ง สองพี่น้องนี้หวาดกลัวจนตัวสั่น ดวงตาเบิกกว้าง ซิวเจียงเชิงหันไปทางเย่ปิง กับ หลิวเสี่ยวหยุน พวกเธอพูดไม่ใช่หรอ ว่าเขาเป็นเพื่อนร่วมห้องสมัยมัธยมปลาย?เขาจะเป็นคุณเจียง เจียงโหลวเซี่ยไปได้อย่างไร?
เย่ปิง หลิวเสี่ยวหยุน ก็กลายเป็นสับสน และยังเดารายละเอียดเกี่ยวกับข้อสงสัยของตัวเองที่ผ่านมา เขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายของพวกเธอมาสามปี เขาจะกลายเป็นเจียงโหลวเซี่ยไปได้อย่างไร?
สมองของเย่ปิงมีเสียงวิ้งๆ ออกมา และไม่นานก็กลายเป็นว่างเปล่า
กู่เต๋อชี่กล่าว “ไม่ใช่ว่าคุณไปวัดหนานซานมา? ทำไมพอกลับมาก็ไม่บอกกับผมก่อน ผมยินดีต้อนรับคุณเสมอ”
เจียงซิ่วกล่าว “ฉันมาทำธุระ”
สายตาของเขากวาดตามองทั่วห้องโถง “ให้คนพวกนี้แยกไป ผู้ชายยืนอยู่ด้านซ้าย ผู้หญิงยืนด้านขวา”
กู่เต๋อชี่ถึงแม้จะไม่เข้าใจ แต่เมื่อเจียงซิ่วออกคำสั่ง เขาก็ทำตามโดยไม่มีเงื่อนไข กล่าวขึ้นมาทันที “ทุกท่าน ที่คุณเจียงพูดคงได้ยินกันหมดแล้วใช่ไหม ผู้ชายยืนอยู่ทางด้านซ้าย ผู้หญิงยืนอยู่ทางด้านขวา ยืนให้เป็นระเบียบ”
เมื่อคำกล่าวจบลง แขกทุกคนในห้องโถงก็ให้ความร่วมมื่อเป็นอย่างดี พวกเขาทุกคนเรียงแถวกันอย่างรวดเร็วราวกับเป็นการฝึกทหาร ผู้ชายอยู่ซ้าย ผู้หญิงอยู่ขวา แบ่งออกเป็นสองแถว
เจียงซิ่วค่อยๆ เดินเข้าไปตรงกลาง
เขาชี้นิ้วไปที่ผู้หญิงคนที่หนึ่งแล้วกล่าว “มีใครรู้จักเธอไหม?”
ผู้ชายที่อยู่ตรงกันข้ามยกมือขึ้น
เทพปีศาจงูเปลี่ยนร่างเป็นผู้ใหญ่ เธอสามารถปะปนท่ามกลางฝูงชนได้ แต่ว่าคนในที่นี้ไม่มีใครรู้จักเธอเลยสักคน นั้นจึงแยกแยะได้ไม่ยาก แม้ว่าเธอจะปกปิดกลิ่นเลือดของตัวเองก็ตาม
“เธอล่ะ?”
เจียงซิ่วถามไปทีละคนตามแถว ในเวลาเดียวกัน สายตาของเขาเต็มไปด้วยความระมัดระวัง เขารู้ว่าเทพปีศาจงูในเวลานี้ตกอยู่ในอันตรายที่จะถูกเจียงซิ่วจับออกมา เธอจะไม่ยอมอยู่เฉยๆ เป็นแน่
สายตามองไปยังใบหน้าของหญิงสาวทุกคนในห้องโถง ทุกคนดูสงบ เขาจึงไม่สามารถแยกออกได้ในทันที และเพื่อป้องกันความผิดพลาดของตัวเอง เจียงซิ่วจึงให้ผู้ชายแยกออกมาก่อน
แน่นอนว่ารวมถึงบริกรด้วย
และกระบี่บินบนฟ้าก็ยังวนอยู่ในห้องโถง ตั้งแต่เขาเข้ามาจนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครออกจากห้องโถงเลย กล่าวอีกนัยหนึ่ง เทพปีศาจงูตนนั้นยังอยู่ท่ามกลางฝูงชน
“คุณเจียงครับ คุณจะ……”
เจียงซิ่วไม่สนใจเขา ตอนที่แขกในห้องโถงแยกย้ายออกไป คนที่เดินไปมามีค่อนข้างมาก แต่คนที่มาตั้งแถวจริงๆ เป็นหญิงสาวสามสิบกว่าคน มันจึงใช้เวลาไม่นานในการตรวจสอบ
ยิ่งใกล้คนแถวหลังมากเท่าไร ก็ยิ่งเกิดความกระวนกระวายใจมากขึ้น
เจ็ดคนสุดท้าย
หกคน!
ห้าคน!
กระบี่ของเจียงซิ่วที่อยู่กลางอากาศส่องแสงเจิดจ้าตลอดเวลา มันเปล่งแสงเข้มรุนแรงกว่าเดิม หากได้รับการยืนยัน มันจะเริ่มเคลื่อนไหวพร้อมสังหารทันที
สามคน!
คนสุดท้ายจากสามคน บางทีอาจจะรู้สึกถึงไอสังหารของเจียงซิ่วได้ ทั้งสามคนจับมือของกันและกัน เจียงซิ่วถาม “พวกเธอรู้จักกัน?”
ทั้งสามคนพยักหน้า ผู้ชายที่อยู่ตรงกันข้ามกล่าว “คุณเจียงครับ พวกเธอเป็นลูกและภรรยาของผม”
“เป็นไปได้ยังไง?”
สายตาของเจียงซิ่วกลายเป็นสับสน แม้ว่าเขาจะถูกลดระดับลงมาเป็นเทพระดับต่ำ เขาก็ไม่มีทางปล่อยให้เทพปีศาจงูที่อยู่ในระดับเดียวกันหลุดรอดสายตาไปได้แน่ เธอจะต้องอยู่ท่ามกลางฝูงชนกลุ่มนี้อย่างแน่นอน
และวิธีการแยกเช่นนี้ก็ไม่สามารถหลักหลบเลี่ยงได้ ชาย หญิง คนแก่ และเด็ก รวมถึงบริกรล้วนแล้วแต่เกิดคำถาม
“คุณเจียง ยังมีอีกสองสามคน……”
นิ้วมือของกู่เต๋อชี่ชี้ไปทางเย่ปิง และคนอื่นๆ เจียงซิ่วมองไปทางนั้น ส่ายหัวแล้วกล่าวว่า “ฉันรู้จักพวกนั้น ไม่ใช่พวกเธอหรอก….”
เย่ปิงมองกู่เต๋อชี่ที่รับใช้เจียงซิ่วอย่างซื่อสัตย์ สายตาของเธอกลายเป็นซับซ้อนทันที เธอคาดไม่ถึงว่าเขาเป็นเจียงโหลวเซี่ย ซึ่งเป็นคนที่มีอิทธิพลมากที่สุดในเจียงหนาน ไม่น่าแปลกใจเลยที่โรงเรียนในปีนั้น เธอต่างหากที่เป็นคนโยนสันติภาพของตัวเองออกไปอย่างไม่แยแส เธอไม่เคยมีความมุ่งมั่นที่จะสานสัมพันธ์กับเจียงซิ่ว อย่างไรก็ตาม เธอคิดไม่ถึงว่าเป็นเจียงซิ่วต่างหากที่เหมือนจะเป็นคนดูถูกตัวเธอ หลังจากตกใจไปพักหนึ่ง ใจของสาวน้อยราวกับถูกทำร้ายจนเจ็บปวด ความเศร้าเข้าเกาะกุมจิตใจ ยิ่งไปกว่านั้น เธอรู้สึกว่าความรักของเธอได้ตายไปแล้ว
หลิวเสี่ยวหยุนไม่รู้ว่าจะกล่าวอย่างไรดี บุคคลยิ่งใหญ่เช่นนี้เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไม่รู้จัด กล่าวยั่วยุเขาเมื่อกี้ไป เขาไม่ควรจำฝังใจใช่ไหม?
พี่น้องซิวเจียงหย่งต่างกลัวจนตัวสั่น
เจียงโหลวเซี่ย นี่คือเจียงโหลวเซี่ย ตอนนั้นมงกุฎราชกุมารโอ๋มาที่เจียงหนาน แต่เมื่อมาเจอเขาผู้นี้ เขากล่าวว่าฆ่าก็คือฆ่าจริงๆ แม้แต่กระทั่งทุกคนในเจียงหนานหรือตระกูลเจียงก็ล้วนถูกพิพากษาด้วยชีวิต
เขาสามารถฆ่าเขาให้ตายได้เช่นเดียวกับการบี้มดตัวหนึ่ง
เจียงซิ่วในตอนนี้ ไหนเลยจะมีใจคิดเล็กคิดน้อย เทพปีศาจงูหลบหนีจากสายตาเขาไปได้ นั้นเป็นความอัปยศอันยิ่งใหญ่ของเทพเช่นเขา
เขาคิดอยู่เสมอว่าเธอควรจะอยู่ที่นี่
สมองของเจียงซิ่วคิดหาความเป็นไปได้อื่นๆ นั่นคือเทพปีศาจงูที่เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ได้ และใช้ชีวิตอยู่ในสังคมมนุษย์มาระยะหนึ่ง นางรู้จักผู้คนที่นี่ หากว่าเป็นเช่นนั้นก็ไม่สามารถใช้วิธีนี้ได้แล้ว
เจียงซิ่วกระซิบข้างหูของกู่เต๋อชี่ “สัตว์ประหลาดปะปนอยู่ในฝูงชน นายอย่าพูดอะไร เธอบาดเจ็บเลือดไหล ให้คนเอาสุนัขตำรวจมาดมกลิ่น”
กู่เต๋อชี่ได้ยินดังนั้นก็พยักหน้ารัวๆ รีบสั่งให้คนไปจัดการเรื่องนี้
เจียงซิ่วไม่กล่าวคำใดๆ คนที่อยู่ในห้องโถงไม่กล้าย้ายที่ตามอำเภอใจ แต่ก็ทนไม่ได้ที่จะกระซิบกระซาบกัน พวกเขาทุกคนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
บรรยากาศรอบๆ ค่อนข้างน่าอึดอัดใจเล็กน้อย
กู่เต๋อชี่โทรศัพท์ครู่เดียว สุนัขตำรวจที่ดีที่สุดสองตัวก็มาถึง สุนัขตำรวจผ่านการฝึกอบรมมาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีความไวต่อกลิ่นเลือด เพียงแค่เจียงซิ่วกระซิบเบาๆ เพียงประโยคหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พาสุนัขตำรวจไปแล้ว
สุนัขตำรวจฉลาดมากมันรีบพุ่งออกไปทันที ภายใต้การปกปิดของกลิ่นน้ำหอม เจียงซิ่วแยกกลิ่นไม่ออก เทพซิ่วมีทักษะที่เก่งกาจในหลายๆ ด้าน แต่เรื่องบนจมูกกลับทำไม่ได้
กระบี่บินที่ยังคงหมุนอยู่กลางอากาศ ขณะนี้มันได้ปะทุแสงออกมาอีกครั้ง พร้อมลงมือตลอดเวลา
สุนัขตำรวจดมกลิ่นอย่างรวดเร็ว จากเป้าหมายคนแรกไปจนถึงคนสุดท้าย แต่กลับไม่พบอะไร มันดูเหมือนจะยังไม่ตายใจ โอกาสแสดงฝีมือที่หายากเช่นนี้ มันจะพลาดไม่ได้ จึงกลับไปดมกลิ่นอีกครั้งและอีกครั้ง ผลลัพธ์ก็คือแลบลิ้นออกมาอย่างหดหู่
“ทำไมเป็นอย่างนี้?”
เจียงซิ่วเชื่อมั่นว่า ในที่นี้ต้องมีกลิ่นเลือดอย่างแน่นอน อีกฝ่ายไม่สามารถร่ายมนตร์เพื่อพรางตัวได้ เจียงซิ่วมีความไวต่อเวทมนตร์คาถาเขาสามารถรับรู้ได้ในทันที
“คุณเจียง คุณแน่ใจหรือว่าเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นยังอยู่?” กู่เต๋อชี่ถามอย่างระมัดระวัง
เจียงซิ่วพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม
ตลอดทางเขาไล่ตามกลิ่นเลือดและเข้ามาในคฤหาสน์ตะวันตก ครั้งแรกเขาใช้กระบี่สั้นตรวจสอบทุกอย่างของที่นี่ มันไม่มีทางผิดพลาดแน่นอน แต่ระหว่างการไล่ล่า อันตรายที่ใกล้เข้ามาทำให้เทพปีศาจงูไม่มีเวลาแปลงกายแน่นอน
“สุนัขตำรวจใช้ไม่ได้หรอ?”
กู่เต๋อชี่ถาม
เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าว “จากคำพูดของเจ้านาย นี่คือสุนัขตำรวจที่ดีเยี่ยมที่สุดแล้ว…..”
สุนัขตำรวจตัวนั้นเหมือนจะเข้าใจคำพูดของมนุษย์ มันแสดงออกอย่างไม่เต็มใจอยู่สองสามรอบ แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้กล่าวอะไร สุดท้ายความสนใจของมันก็หันเหไปที่พื้นหญ้า ตลอดทางสำรวจอยู่เสมอๆ สุดท้ายก็มาถึงจุดที่กลุ่มของซิวเจียงหยงอยู่ มันส่ายหางและเดินวนรอบๆ พวกเขา
เย่ปิงดูเหมือนจะกลัวสุนัข หลบไปหลบมา สุนัขตำรวจตัวนั้นกลับชี้เป้าไปที่เธอ เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวกับกู่เต๋อชี่ “เจ้านาย เป็นไปได้ไหมว่าจะเป็นท่านนี้……”
เย่ปิงได้ยินดังนั้นก็หน้าถอดสี “ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”
เธอมองอย่างอ้อนวอนไปทางเจียงซิ่ว
เจียงซิ่วกล่าว “เป็นเธอไปไม่ได้!” นี่เป็นเรื่องล้อเล่น? เย่ปิงเป็นเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายของเขา ไม่เพียงแต่ในชาตินี้ ชาติก่อนเองเขาก็รู้จัก
เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าว “ปืนใหญ่ไม่มีทางยิงผิดพลาดแน่”
เจียงซิ่วโบกมือไปมา ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพาสุนัขตำรวจออกไป เขาไม่เชื่อคำพูดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามเหตุผลแล้ว ผู้คนย่อมกลัวผิดพลาดต่อหน้าเจ้านาย
เมื่อจนปัญญาแล้ว วิธีสุดท้ายก็ลองดูแล้ว เจียงซิ่วจำเป็นต้องยอมแพ้
“เอาเถอะ ไม่มีอะไรแล้ว”
กู่เต๋อชี่กล่าว “ทุกท่านทำตัวตามปกติเถอะ อยากดื่มก็ดื่ม อยากเล่นก็เล่น……”
หลายคนเห็นว่าสถานการณ์คลี่คลายแล้ว พวกเขาล้วนแล้วแต่อยากเข้าไปทำความรู้จักกับเจียงซิ่ว ไม่จำเป็นต้องสนิทชิดเชื้อ เพียงได้รู้จักเขาก็เป็นเกียรติมากแล้ว แต่เจียงซิ่วไม่มีใจอยากจะปฏิสัมพันธ์กับพวกเขา
วันนี้ เทพซิ่วเสียหน้าเล็กน้อย โชคดีที่ไม่มีใครรู้