Girl, I’ll Teach You Cultivation – ฉันจะสอนเธอบ่มเพาะเอง - ตอนที่ 291
บทที่ 291
เย่ปิง
“คุณเจียงครับ ฝั่งใต้เป็นร้านหนังสือในเมืองหนิงไห่นี่ครับ คุณเจียงเคยเห็น….”
“ฉันเป็นเจ้าของท่าเทียบเรือ……”
“…”
“…”
ในวันธรรมดาพวกเขาเชิดหน้าชูตาเป็นคนใหญ่คนโต ทว่าเมือ่อยู่ต่อหน้าเจียงซิ่ว พวกเขาเหล่านั้นก็เอาแต่ประจบประแจงอย่างไม่ละอายใจ รักษาท่าทีหน่อย เย่ปิงกับหลิวเสี่ยวหยุนถอนหายใจ ตั้งแต่ต้นจนจบมันยากที่จะเชื่อได้ หลิวเสี่ยวหยุดกล่าว “คิดไม่ถึงเลยว่าเจียงซิ่วจะเป็นคุณเจียง บุคคลที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเจียงหนาน”
ในใจของเย่ปิงนั้นยังคงตกตะลึงมากกว่าเธอเสียอีก เธอส่ายหัวแรงๆ และยากที่จะละสายตาจากเจียงซิ่วได้ ในสายตาของสาวน้อย ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นไม่พอใจ ตัววายร้อยนี่ กล้าปกปิดฉัน?
ซิวเจียงหย่งมองเห็นท่าทีจิตไม่อยู่กับเนื้อกับตัวของเย่ปิง จิตใจเขากลับไม่รับความรู้สึกใดใด “เป็นอะไรไป เสียใจหรอ? ”
เย่ปิงถอนสายตากลับมา ก้มหน้าคอตก
ซิวเจียงหย่งยิ้มเย็นแล้วกล่าว “อย่าได้ฝันอีกเลย เจียงโหลวเซี่ยเป็นคนยังไง เธอเองก็คงจะรู้ เจียงหนานทั้งหมดล้วนอยู่ใต้แทบเท้าเขา แม้แต่กระทั้งรัฐมนตรีกู่ ก็ยังไม่กล้าทำผิดต่อหน้าเขา หากเขาอยากจะเข้ามาหาเธอจริง คนจากกลุ่มบริษัทจงเทียน*ของหวังซินตง คุณหนูใหญ่ของตระกูลหวังก็ยังเป็นแค่คนรับใช้ของเขา ถึงเวลานั้นมา เขาคงอยากได้แค่ตัวเธอ”
(หมายเหตุ : กลุ่มบริษัทจงเทียน แต่เดิมเป็นกลุ่มบริษัทห้วงสวรรค์(ไม่แน่ใจ) เปลี่ยนมาใช้ชื่อนี้)
เย่ปิงยกหัวขึ้นมา เธอคิดออกอยู่เรื่องหนึ่ง ตอนนั้น เจียงซิ่วบ่นเรื่องสาวใช้อยู่ทั้งวัน สักพักก็ยกเลิกคุณสมบัติของสาวใช้ของเธอ สักพักก็เรียกคืนคุณสมบัติสาวใช้ กล้าพูดเลยว่าเขาจริงจังมาก แต่มันช่างน่าเสียดายที่ตัวเธอเป็นแค่ตัวตลกสำหรับเขา
ขณะนี้ชายวันกลางคนอายุประมาณห้าสิบกว่าปี รูปร่างค่อนข้างผอม มาถึงตรงหน้าเจียงซิ่ว กู่เต๋อชี่แนะนำ “คุณเจียงครับ นี้คือรองผู้ว่าการของมณฑลเจียงหนาน ซิวโยวเหวิน แส่ซิว!”
“คุณเจียง ได้ยินชื่อเสียงของคุณมานานแล้ว กล่าวได้ว่าคุณเป็นที่รู้จักกันแทบทุกคนทีเดียว อยากให้เทศมนตรีกู่แนะนำคุณให้รู้จักมาตั้งนานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสเลย วันนี้สมหวังแล้ว” ชายคนนี้ตื่นเต้นมาก
ตอนที่เขามาถึงเจียงหนานครั้งแรกเขาอยากจะปักหลักอยู่ที่นี่ แต่แน่นอนว่าเขาต้องการร่มเงาของคุณเจียง ไม่อย่างนั้นไม่ช้าก็เร็วตำแหน่งเขาต้องตกอยู่ในมือคนอื่นแน่
เจียงซิ่วพูด “งั้นนายก็คือซิวโยวเหวิน?”
ใบหน้าที่มีริ้วรอยจากวัยชราของซิวโยวเหวินเผยรอยยิ้มบนใบหน้าทันที เขาคาดไม่ถึงว่าเจียงซิ่วจะรู้จักเขา ผู้มีอิทธิพลทั้งหลายมีมากมายอยู่ในห้องโถงแห่งนี้ แต่เขาคนนี้ก็ไม่สนใจที่จะสนทนากับใครสักประโยค มันราบกับว่าตัวเขาโดดเด่นแตกต่างจากคนอื่นๆ หลายคนในห้องโถงล้วนส่งสายตาอิจฉามายังเขา ทำให้เขามีความปีติยินดีมากยิ่งขึ้น “ใช่ใช่ใช่!”
“คาดไม่ถึงว่าคุณเจียงจะรู้จักผม เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ”
เจียงซิ่วยิ้มน้อยๆ
“คุณเจียงครับ ผมมีลูกชาย หลานชาย วันนี้พวกเขาเองก็มา พวกเขาอยากรู้จักคุณเจียงมากๆ….เจียงเชิง เจียงหย่ง…..” ตเรียกอย่างตื่นเต้น วันนี้สกุลซิวถือว่าเป็นผู้คุมทิศทางลม รอหลังจากงานเลี้ยงในวันนี้ ใครจะรู้ เขาอาจจะได้ลงเรือใหญ่ลำเดียวกันกับคุณเจียงก็เป็นไปได้ ไม่สิ ต้องเป็นเรือเหาะลำใหญ่ ที่ทยานขึ้นสู่ท้องฟ้า
ใบหน้าของสองพี่น้องนิ่งค้างไปแล้ว พวกเขาอยากให้เจียงซิ่วลืมพวกเขาไปอย่างสมบูรณ์ คิดไม่ถึงว่าซิวโยวเหวินจะเรียกพวกเขา เวลานั้นพลันขนลุกขึ้นมาทันที
“รีบมาสิ มาพบคุณเจียง”
ทั้งสองคนฝืนใจบังคับตัวเองเดินเข้ามา
“เจียง คุณเจียง……”
เจียงซิ่วใช้สายตาเย็นชามองพวกเขาทั้งสองคน “ที่แท้ พวกนายเป็นลูกชายกับหลานชายของรองผู้ว่าซิว?”
ซิวโยวเหวินพูด “คุณเจียงเคยพบพวกเขามาก่อนหรือ?”
“เจ้าเด็กดื้อสองคนนี้ ไม่มีทักษะความสามารถอะไรเลย แต่ถ้าคุณเจียงต้องการสั่งให้พวกเขาทำเรื่องเล็กน้อยๆ พวกเขาก็สามารถทำได้ครับ”
เจียงซิ่วกล่าว “ไม่ ทักษะความสามารถของพวกเขาเก่งกาจมาก จนอยากจะโยนทิ้งลงทะเลสาบตะวันตกทีเดียว”
พอพูดคำนี้ออกมา รอยยิ้มของซิวโยวเหวินแข็งทื่อในทันที ทุกคนราวกับถูกสายฟ้าฟาด ซิวเจียงหย่งสองพี่น้องทำหน้าคล้าบกับได้ตายไปแล้ว ร่างกายสั่นไปทั้งตัว
คิ้วของกู่เต๋อชี่ขมวดเป็นปม เจียงซิ่วเป็นแขกของเขา พวกเขาไม่เพียงแต่ก่อเรื่องให้เจียงซิ่ว แต่ยังปล่อยให้คนสำคัญท่านนี้ได้รับการต้อนรับที่ไม่ดี เขากล่าวขึ้นมาอย่างไม่พอใจ “แซ่ซิว!”
เจียงโหลวเซี่ยทำไมต้องให้น้ำหนักกับบุคคลที่ไร้ความสำคัญใดๆ? ซิวโยวเหวินไม่รู้ว่าจะเข้าข้างใคร เขาเพิ่งถูกย้ายมาเจียงหนาน เขาอยู่ในอำเภอที่มีพื้นที่เล็กๆ แค่สามกำมือ ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ไม่ใช่ผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่อะไร แรกเริ่มคิดว่าจะเดินทางมาถึงอำเภอเขตสาม ไม่คิดเลยว่าเจียงหนานจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น มีตำแหน่งว่างมากขึ้น เขาถึงย้ายมาได้ ตอนแรกเหมือนทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี แต่ช่วงเวลานี้ เขารู้สึกว่าโลกทั้งโลกมืดมนเสียแล้ว
สาเหตุมาจากลูกชายและหลานชายที่ไม่รู้ความของเขา
เวลาถัดมา เขาโกรธจนกลั้นอารมณ์ไม่อยู่ “เอาเจ้าสองตัวนี้โยนทิ้งลงทะเลสาบตะวันตก”
“พ่อ…..”
“คุณลุง……”
ทั้งคู่ร้องคร่ำครวญ ตอนนี้เป็นช่วงที่หนาวเย็นของฤดูหนาวท้ายปี จมน้ำไม่นับว่าเป็นไร แต่อาจจะหนาวตายก่อนได้ หากไม่หนาวตายก็ผิวลอกไปชั้นหนึ่ง
“ให้ฉันโยนมันลงใจกลางทะเลสาบ…..” ซิวโยวเหวินพูดเสียงเหี้ยม การลงโทษอันโหดร้าย อาจจึงจะทำให้โทสะของคุณเจียงหายไป การกระทำโดยผิวเผิน จะไม่แสดงถึงความจริงใจ และกลับกันอาจจะทำให้คุณเจียงโกรธมากขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม หากคุฯณเจียงถือว่ามันเป็นความผิดที่ได้รับการลงบัญชีดำ ผลประโยชน์ที่เขาจะได้จากการเติบโตในเจียงหนานก็เป็นไปไม่ได้แล้ว
“ไอ้สารเลวสองตัวนี่!”
ในใจของซิวโยวเหวินได้แต่ร่ำไห้
จากที่ไกลๆ หลิวเสี่ยวหยุนดึงเย่ปิงพูดว่า “ไป พวกเราไปทักทายเจียงซิ่วกัน เป็นเพื่อนร่วมชั้นกันครั้งนึง ตอนนี้เขาไปไกลมากแล้ว เขาดูแลพวกเราได้”
เย่ปิงกลับยืนนิ่งไม่ขยับ “เธอไปเลย ฉันไม่ไป!”
หลิวเสี่ยวหยุดงุนงงเล็กน้อยพูด “นายหญิงน้อย เธอจะโกรธทำไม? แต่ก่อนความสัมพันธ์เธอกับเจียงซิ่วก็ไม่เลวร้าย เป็นอะไรไป?หรือพวกเธอมีความสัมพันธ์ลับๆกัน?”
“โอกาสมีแค่ครั้งเดียว พวกเราเข้าไปตอนนี้ยังคงพูดกับเจียงซิ่วซักสองสามประโยคได้ หรือดื่มเหล้าสักสองสามแก้ว ผู้มีอิทธิพลมากมายในเจียงหนานอยู่ในห้องโถงนี้ส่วนใหญ่อาจจะเล็งเห็น ถึงตอนนั้นก็คงจะมีใครที่ไม่อยากรู้จักพวกเราแล้ว มันจะมีประโยชน์อย่างมากในอนาคต นี่คงไม่ต้องให้ฉันพูดก็ได้ถูกไหม?”
เย่ปิงยังคงยืนนิ่งไม่ขยับ เธอทำหน้าบึ่ง
“อัยยา นายหญิงใหญ่ เธอจะเอายังไงกันแน่?”
เย่ปิงกล่าว “เธอไปเถอะ ไม่ต้องสนใจฉัน” ถ้าหากเจียงซิ่วยังเป็นเจียงซิ่วคนเดิม เธออาจสามารถเผชิญหน้ากับเขาได้อย่างสงบ เนื่องจากเธอได้รู้สึกว่าเธอได้ทำผิดต่อเจียงซิ่ว แต่หลังจากพบว่าผลลัพธ์มันไม่ใช่เช่นนั้น ความภูมิใจในตนเองของเธอจึงหายไป ที่จริงแล้ว เย่ปิงไม่ใช่ผู้หญิงที่มีความทะเยอทะยานมากมายนัก
พื้นเพความสัมพันธ์ของครอบครัวเธอ สถานการณ์ทางการเงินโดดเด่น จากชีวิตหรูหรานี้ เงื่อนไขเพียงเล็กน้อยที่ครอบครัวกำหนดก็คือเป็นเด็กดีที่เชื่อฟังผู้ใหญ่ เธอรู้สึกว่าตัวเองขัดขืนได้เล็กน้อย แต่คนนั้นกลับนำหน้าเธอไปไกลแล้ว เธอไม่อยากคิดอะไรให้มากมายกว่านี้ เพราะมีคำพูดนึงที่ยังอยู่ในใจของเธอมาตลอด นั่นก็คือความรัก
แต่แท้จริงแล้วเธอกลับประสบความผิดหวังในความรัก แต่ก็ไม่สามารถกล่าวได้ว่าผิดหวัง หากจะกล่าวจริงๆ เธอมีความอดทนน้อยไป แสดงถึงความหมดหวัง แสดงความถอดใจออกมาเรื่องราวถึงได้เป็นเช่นนี้ ใครจะรู้ ว่าการตอบสนองของเธอจะรุนแรงเกินไป คนที่เลือกหลบหนี ล้วนเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนแอ
บางครั้งในใจเธอลึกๆแล้ว ยังคงหวังว่าเจียงซิ่วจะมาอยู่เคียงข้างเธอได้
“งั้นฉันไป?”
หลิวเสี่ยวหยูมาจากครอบครัวธรรมดา โอกาสแบบนี้เธอจึงไม่อยากพลาด เธอคว้าแฟนหนุ่มของเธอไป เจียงซิ่วมองเห็นพวกเธอเดินเข้ามา เผยรอยยิ้มเล็กน้อย เพื่อนร่วมชั้นสามปี มิตรภาพของเพื่อนเก่าเขาเขายังคงใส่ใจอยู่ เขาหันไปมองเย่ปิงแวบหนึ่ง ยิ้มพร้อมกล่าว “มีเรื่องอะไร?”
ทันใดนั้นเองที่หลิวเสี่ยวหยุนรู้สึกว่าสายตาของเจียงซิ่วช่างดูไม่คุ้นเคยเลย ความรู้สึกว่าเขาสูงส่งเกินเอื้อม มันทำให้หลิวเสี่ยวหยุนรู้สึกแปลกโดยฉับพลัน เธอเกิดความไม่สบายใจขึ้น จนกระทั่งเหงื่อขึ้นฝ่ามือ และแฟนหนุ่มของเธอก็รู้สึกกังวลจนไม่เป็นอันทำอะไร
กู่เต๋อชี่กล่าว “คุณเจียงครับ สองท่านนี้คือ?”
เจียงซิ่วตอบ “เพื่อนร่วมชั้น!”
หลังจากที่เข้าสังคมแล้ว ความสัมพันธ์ของเพื่อนร่วมชั้นฟังดูใกล้ชิดกว่าเพื่อนทั่วไป นี่ทำให้ในใจหลิวเสี่ยวหยุนรู้สึกดีใจมาก คนที่ยืนอยู่หน้าเธอคือคุณเจียงผู้ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลในเจียงหนาน แต่พวกเขากลับเป็นแค่นักเรียนทั่วไป
เจียงซิ่วพูด “เย่ปิงทำไมไม่มา?”
หลิวเสี่ยวหยุนกล่าว “เธอหรอ นายกังวล?”
เจียงซิ่วยิ้ม ในสมองนึกถึงภาพเมื่อครู่ที่สุนัขตำรวจเดินวนรอบเย่ปิง เขาขยับตัวเล็กน้อยแล้วกล่าว “ใช่แล้ว เมื่อครู่นี้เย่ปิงอยู่กับพวกเธอรึเปล่า?”
หลิวเสี่ยวหยูพยักหน้า ผานโปวแฟนหนุ่มของเธอพูดอย่างกระวนกระวาย “เย่ปิงอาจจะไปห้องน้ำ เจียงหย่งไปตามหาเธอ กลับไม่เจอใครเลย”
หลิวเสี่ยวหยุนกล่าว “อา ใช่ๆ เย่ปิงเพิ่งไปเข้าห้องน้ำ”
เย่ปิงที่อยู่ไกลๆ เกิดความไม่สบายใจเล็กน้อย อาจเป็นเพราะเธออยู่คนเดียวตามลำพัง จึงไม่เป็นตัวของตัวเองซักเท่าไหร่ มือเรียวคู่นั้นบิดไปมาอย่างกังวล ร่างกายพลันหมดแรง
เจียงซิ่วก้มศีรษะทำสมาธิ ไม่ควรเป็นไปได้ การเปลี่ยนรูปลักษณ์ของเทพปีศาจงูไม่สามารถเปลี่ยนได้ตามใจ การเปลี่ยนรูปลักษณ์ตามจินตนาการไม่สามารถทำได้ทันที การทำเช่นนั้นยังต้องมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเทพปีศาจงูด้วยระดับนึง วิธีการที่ทันสมัยในปัจจุบันก็ต้องใช้ก็คือการตัดสินจากยีน
เย่ปิงไม่มีเหตุผลใดๆที่จะเป็นเทพปีศาจงูไปได้
เขาเดินไปทางเย่ปิง……..