Girl, I’ll Teach You Cultivation – ฉันจะสอนเธอบ่มเพาะเอง - ตอนที่ 306
บทที่ 306
ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
เจียงซิ่วมีอิทธิพลถึงขนาดจะชี้นิ้วสั่งใครก็ได้งั้นหรอ? ตระกูลหลงก็เอาแต่เลียแข้งเลียขา เสาหลักของตระกูลกู่ทั้งสองคนก็ยอมก้มหัวให้ ที่มากไปกว่านั้นคือแม้แต่นายใหญ่ก็ยังมาอวยพรปีใหม่กับเขา นี่มันบ้าไปแล้วแน่ๆ
ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่านายใหญ่มักจะไปอวยพรปีใหม่ในวันที่สองของปี นี่เป็นครั้งแรกแน่ๆ วันปีใหม่น่ะมันยุ่งสุดๆไปเลยนะ เพราะต้องบำรุงขวัญตำแหน่งหลักต่างๆให้เขายังทำงานอยู่ด้วย เขาไม่ได้เพียงมาเพื่ออวยพรปีใหม่ แต่ยังอยู่นานมากกว่าปกติ อยู่ตั้งหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ นั่นทำให้เห็นได้ว่าอิทธิพลของเจียงซิ่วนั้นน่ากลัวแค่ไหน
ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจว่าทำไมคนหลักตระกูลหลงและตระกูลกู่ถึงมารวมตัวกันที่นี่ นายใหญ่ก็มาแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่จะไม่เข้าใจได้แล้วล่ะ แต่ต่อหน้าเจียงซิ่วทั้งตระกูลหลงกับตระกูลกู่มีท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตน เมื่อตอนคุยกับเจียงซิ่วเหมือนจิตสำนึกสั่งให้พยักหน้า เหมือนพวกทาสเลย
ทำให้พวกเขารู้สึกว่าทั้งสองตระกูลนี้เข้าหาตระกูลเจียงเพราะอิทธิพลของเขา
มันน่าตกใจเกินไปแล้ว..
งานเลี้ยงสุราเริ่มขึ้นแล้ว ทุกคนเริ่มที่จะกินอาหารเย็นกันก่อน ขนมเข่งที่โดนยกออกมากำลังร้อนๆ ครอบครัวของเจียงซิ่วนั่งร่วมโต๊ะกับตระกูลหลงและตระกูลกู่ ตระกูลหลินนั้นมีมากกว่าสามโต๊ะแล้ว
แต่ตระกูลหลินจะมีกะจิตกะใจกินอาหารได้ยังไง สีหน้าพ่อใหญ่หลินดูใจลอย ในใจของหลินเจ๋อเฉิงเหมือนมีมดไต่ยั้วเยี๊ยไปหมดและมักจะมองไปทางโต๊ะของเจียงซิ่วอยู่บ่อยครั้ง เวลานี้เขานึกอยากจะให้ตนเองโดนเรียกเขาไปร่วมโต๊ะด้วยสักหน่อย
คนอื่นๆในตระกูลก็ทานอาหารแบบเหมือนไม่รับรู้รสอะไรแล้ว ภายในใจของพวกเขามีเรื่องให้คิดมากมาย แต่เดิมมันเป็นการดูความอัปลักษณ์ของตระกูลเจียง สุดท้ายโดนทำให้หน้าแตกเสียอย่างนั้น แตกแบบหมอไม่รับเย็บเลยล่ะ ถึงตอนนี้ทั้งมือและท้าวก็แข็งจนขยับไม่ได้
“สวัสดีปีใหม่ครับคุณเจียง” หลงฉวนหรูลุกขึ้นอวยพร “ในปีนี้ตระกูลหลงของผมจะรับใช้ตระกูลเจียงอย่างสุดความสามารถค”
พ่อใหญ่กับหลินเจ๋อเฉิงได้ยินคำพูดเมื่อครู่ก็รู้สึกช็อคไปชั่วขณะ
นี่คือการแสดงความยินดีกับปีใหม่ซะที่ไหนกัน นี่เป็นเพียงการใช้โอกาสที่จะแสดงความซื่อสัตย์ต่างหาก
เจียงซิ่วไม่ได้ลุกขึ้นรับคำอวยพร ซ้ำยังพูดประโยคหนึ่งออกมา “ทำให้ดีที่สุดแล้วกัน” สิ่งนี้เหมือนกับการพูดของผู้นำกับผู้ใต้บังคับบัญชา
“ให้ตระกูลหลงเลือกลูกศิษย์เก่งๆ สักคนเข้าร่วมกับกลุ่มลัทธิฟ้า จัดการเรื่องต่างๆแล้วตามหาตระกูลหวังด้วยล่ะ”
“ขอบพระคุณมากครับคุณเจียง”
หลงฉวนหรูมองด้วยความปราบปลื้มและยินดี ก่อนจะยกสุราเหมาไถ่ดื่มจนหมดแก้ว ฤทธิ์แอลกอฮอล์ร้อนๆทำให้ใบหน้าเขาบิดเบี้ยวแต่ก็ทำให้ดื่มได้อย่างสบายใจกว่าเดิม
ในกลุ่มลัทธิฟ้ามีจุดประสงค์เพื่ออบรมสั่งสอนลูกศิษย์ เพื่อตอบสนองความเปลี่ยนแปลงในอนาคต ตระกูลหลงสามารถครองตำแหน่งภายในนั้นได้ ก็ถือว่าเป็นการลงเรือลำเดียวกันกับคุณชายเจียงแล้ว
กู่เต๋อจือก็ลุกขึ้นมาเช่นกัน “สวัสดีปีใหม่ครับคุณเจียง ในปีนี้ตระกูลกู่ของผมก็จะรับให้ตระกูลเจียงอย่างสุดความสามารถเช่นกันครับ” เจียงซิ่วช่วยเหลือตระกูลกู่ไม่น้อยเลยทีเดียว รวมเรื่องอาชีพที่เป็นทางการและกองทัพ แต่ท้ายที่สุดแล้วตระกูลใหญ่ก็ยืนยันที่จะทำต่อไป ผู้มีอิทธิพลยังไม่หมดอิทธิพล ยังมีเพื่อนคอยไปมาหาสู้กันอยู่ แต่วันนี้ที่นายใหญ่ปรากฏตัวขึ้นนั่นทำให้ความพะว้าพะวงของตระกูลกู่หมดลงทันทีเลยร่วมมือกับเจียงซิ่วโดยไม่ลังเลเช่นกัน
เมื่อสักครู่นี้ก็ทำให้ตระกูลหลินแทบจะระเบิดออกมา
ตระกูลหลินก็ยอมให้กับอิทธิพลของเจียงซิ่วงั้นหรือ?
ฉันล่ะแปลกใจจริงๆ
ตระกูลหลงและตระกูลกู่ตอนนี้ก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าตระกูลหลินเลย
เจียงซิ่วยิ้มและพยักหน้าเบาๆ สถานการณ์ของตระกูลกู่ตอนนี้ เจียงซิ่วได้สร้างกฎสวรรค์ ไว้หนึ่งข้อ ไม่ว่าจะการพัฒนาแบบไหนกู่เต๋อจือและกู่เต๋อคังหลังจากที่สละตำแหน่งแล้วต้องเจอกับความพ่ายแพ้อยู่ดี ดังนั้นการเสี่ยงของตระกูลกู่ก็ยังคงอยู่ในการคาดเดา นายใหญ่ก็รู้เรื่องนี้มาก่อนแล้วเพราะแบบนี้จะทำให้ทัศนคติของพวกเขาเพิ่มขึ้นเยอะกว่าเดิม
“เรื่องของตระกูลกู่นายใหญ่รับรู้อยู่แล้ว” เจียงซิ่วพูด
“จริงหรือครับ?” กู่เต๋อจือรู้สึกยินดีอย่างมาก
“ทำดีๆ” เจียงซิ่วพูด
ถึงประโยคนี้น่ะมันจะดูโง่มากๆ แต่หูของกู่เต๋อจือก็เหมือนมีนกมาร้องอยู่ข้างหูเลยล่ะ นั่นนะหมายความว่าเขากู่เต๋อจือจะต้องได้เลื่อนขั้นแน่นอน ตระกูลกู่ยังมีคนที่มีความสามารถที่จะเป็นคนคุมเขตเจียงหนานได้ นับว่าตระกูลกู่กำลังฟื้นคืนแล้ว
“ขอบพระคุณมาก ขอบพระคุณมากครับคุณเจียง…” กู่เต๋อจือพูด
น้ำตาของเขาเหมือนจะไหลลงมาอย่างรวดเร็วและยังบีบจมูกกลั้นน้ำตาไว้
คนของตระกูลหลินแทบนั่งไม่ติดเก้าอี้
มองเห็นคนอย่างกู่เต๋อจือได้ก้าวหน้า อิทธิพลของเจียงซิ่วส่งผลต่อนายใหญ่จริงๆด้วย นี่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก ถ้าเกิดเป็นอย่างนี้ต่อไป หลินเจ๋อเฉิงคิดอยากจะหาตำแหน่งใหญ่ๆในเจียงหนานก็คงไม่ยากเกิดความสามารถหรอก แต่เดิมเขาก็เป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว
“เรื่องของกู่เต๋อเผิง….” กู่เต๋อจือพูด
“เขารับหน้าที่เป็นคนคุมที่เจียงหนานน่ะ นายใหญ่ก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้นะ” เจียงซิ่วพูด
“อะไรนะ?”
หลินเจ๋อเฉิงลุกขึ้นตวาดเสียงดัง กู่เต๋อเผิงเป็นแค่คนคุมตำบลชูในมณทลที่ล้าหลังไม่ใช่หรือไง ความสามารถของเขาหรือเงินทองเขาก็ยังขาดอีกเยอะ ยังไม่ผ่านการรับรองเลยด้วยซ้ำ คาดไม่ถึงเลยว่านายใหญ่จะให้เขารับผิดชอบเขตเจียงหนาน
ทั้งๆที่ตนทุ่มแรงกายแรงใจทำงานหนัก สุดท้ายก็โดนม้ามืดที่ไม่มีประสบการณ์อะไรแย่งไปได้งั้นหรอ?
หรือทั้งหมดนี่มาจากความคิดของเจียงซิ่ว?
“ไอ้บ้านี่ ช่วยแต่คนนอกไม่ช่วยพวกตัวเองงั้นหรอ….” หลินเจ๋อเฉิงไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขาเดินเข้าไปหาเจียงซิ่วก่อนจะพูดว่า “เจียงซิ่ว เรื่องนี้น่ะแกจัดการแล้วทำไมไม่รีบบอก?”
“ฉันก็มีอำนาจของผมที่จะตัดสินใจว่าคนคุมเจียงหนานจะเป็นใคร แต่ฉันไม่ให้นายเป็น แล้วนายมาเกี่ยวอะไรด้วย?” เจียงซิ่วตอบ
หลินเจ๋อเฉิงถลึงตามอง กล้ามเนื้อในดวงตาของเขากำลังสูบฉีด
“อีกเรื่องหนึ่ง แล้วนายเป็นใครกัน?”
“ฉันคือลุงสองของแกไง!”หลินเจ๋อเฉิงพูดอย่างไม่มีความมั่นใจ
“นายคือลุงของฉัน? นายมีคุณสมบัตินี้หรือเปล่า? เมื่อยี่สิบปีก่อนแม่ฉันโดนตระกูลหลินไล่ออกมา เพราะเหตุผลอะไร… ฉันว่าพวกนายคงรู้ดี ถ้าไม่ใช่เพราะว่าตระกูลหลินให้แม่สืบทอด… แม่ฉันก็คงไม่มีวันได้กลับไปหาตระกูลหลินแน่ อีกอย่างฉันและตระกูลหลินก็ไม่มีความเกี่ยวข้องกันสักนิด”
เจียงซิ่วพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เมื่อก่อนแค่คิดว่าเขาหยิ่งทะนงตน ตอนนี้รู้แล้วว่าเขามีคุณสมบัติเพียงพอและเหยียดหยามตระกูลหลินตั้งแต่ไหนแต่ไร
หลินเจ๋อเฉิงพูดไม่ออก คนในตระกูลหลินต่างรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา
หลินมี่รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าอิทธิพลของเจียงซิ่วนั้นใหญ่มาก แต่ก็ไม่คิดว่าอิทธิพลของเจียงซิ่วจะใหญ่ได้ถึงขนาดนี้ สามารถที่จะตัดสินใจได้ว่าจะให้ใครคุมเจียงหนานจนรู้สึกใจหาย เธอเคยคุยเรื่องนี้กับคุณตาและคุณยาย ถ้าพลาดเจียงซิ่วไปจะต้องเสียใจภายหลังแน่ และตอนนี้มันก็เกิดขึ้นจริงๆเสียด้วย
ตระกูลหลินพลาดโอกาสครั้งสำคัญครั้งใหญ่ไปแล้ว
เธอมองไปที่คุณตา ใบหน้าของพ่อใหญ่ของตระกูลหลินบ่งบอกถึงความลังเลและสับสนอย่างมาก ในส่วนที่ลึกเข้าไปในดวงตาของเขาถึงมันจะถูกซ่อนเอาไว้ แต่กลับฉายแววตาของความรู้สึกผิดออกมาอยู่ดี
“คนของฉันไม่ค่อยสบายน่ะ กลับก่อนแล้วกัน”
“พ่อ!”
“คุณตา…”
พ่อใหญ่หลินลุกยืนขึ้นก่อนจะหันตัวเดินกลับออกไป คนในตระกูลหลินต่างทยอยพูดปลอบใจกัน ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็จะเดินออกไปแล้ว แต่ตอนนี้ด้วยอิทธิพลของเจียงซิ่วบอกให้พวกเขาตัดสินใจเช่นนี้
“พ่อคะ…งานเลี้ยงนี้เพิ่งจะเริ่มเองนะคะ” หลินเย่หลิงลุกขึ้นเป็นมารยาทที่ต้องเดินไปส่งแขก
พ่อใหญ่หลินมองไปที่หลินเย่หลิงก่อนจะหยุดพูดออกมาครึ่งเสียง “พวกแกอยู่ทานต่อเถอะ ฉันไม่ค่อยสบาย อากาศเย็นแล้วไปนั่งในบ้านเถอะ”
มีแค่หลินเย่หลิงคนเดียวในตระกูลเจียงเท่านั้นที่สามารถสัมผัสความรู้สึกนี้ได้
“ตกลงครับ…..”
คนอื่นๆในตระกูลหลินอยู่ทานอาหารจะงานเลี้ยงจบลง ใบหน้าที่เปลี่ยนไปของสะใภ้สองสามคนในตระกูลหลินมองหาหลินเย่หลินเพื่อต้องการที่จะพูดคุย เมื่อครู่พึ่งโดนดูถูกเหยียดหยามมา ตอนนี้ก็ต้องมาพูดยกยอโอ้อวดเสียหน่อย
เธอรู้สึกเศร้าใจที่ถูกเรียกว่าญาติที่น่ารังเกียจ แต่มีความรู้สึกตื่นเต้นและอยากแก้แค้นได้เร็วๆ มองไปที่เจียงซิ่วความสุขของตนที่เกิดขึ้นก็มาจากเจียงซิ่วลูกชายของตนนี่แหละ
เขาแข็งแกร่งพอที่จะเข้าไปเหยียบตระกูลหลินให้จมดินแล้ว
หลงหยิงชิงเพิ่งจะเข้ามาในห้องเมื่อมองเห็นเฉิงหลิงซูก็คิดว่าเป็นเฉิงหลิงหราน แต่พอมองใกล้ๆ แล้วก็มีความแตกต่างอยู่บ้าง เฉิงหลิงซูให้ความรู้สึกว่าอ่อนเยาว์กว่า “เธอกับเฉิงหลิงหรานมีความสัมพันธ์อะไรกันหรอ?”
“เธอเป็นพี่สาวของฉัน คุณรู้จะพี่สาวฉันหรอคะ?”
“พวกเราเป็นเพื่อนที่มหาลัยเดียวกันนะ เคยสนิทกัน” ถึงแม้ว่าจะเป็นการสนิทที่ไม่ได้ดีมากนัก แต่เรื่องมันก็ผ่านมานานมากแล้ว “ที่แท้เธอก็เป็นน้องสาวของเฉิงหลิงหรานนี่เอง”
“พวกเธอสองคนพี่น้องน่ะเหมือนกันมากขนาดนี้เลย?”
“ใช่ไหมคะ คนอื่นก็พูดแบบนี้กันเยอะมาก แต่ฉันรู้สึกว่าฉันจะสวยกว่าพี่ฉันน” เฉิงหลิงซูยิ้มหวาน
“ฮ่าๆ!”
หลงอิงชิงมองรอยยิ้มราวกับดอกไม้บานของเฉิงหลิงซู ใบหน้าที่เย็นชาก็มีแววตาที่อบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย “ฉันก็ว่างั้นเหมือนกันนะ…แล้วพี่สาวเธอล่ะ?”
“เธออยู่ที่เจียงหนานค่ะ” เฉิงหลิงซูตอบ
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเธอก็รู้สึกโล่งใจ ตอนนี้เธอรู้สึกกลัวที่จะเจอหน้าเฉิงหลิงหราน ทำไมน่ะหรอ ก็เพราะตอนที่อยู่โรงอาหารเธอเคยด่าเฉิงหลิงหราน แต่นั้นก็เพราะเธอเป็นห่วง หลงหยิงชิงได้แต่ถามตัวเองแล้วสรุปว่าเธอไม่กล้าที่จะขัดใจ และนั่นทำให้โดนกลั่นแกล้ง ดังนั้นก็เลยต้องออกมาใช่ไหมล่ะ?
“แม่..เหมือนว่าซีอิ๊วจะหมดแล้วค่ะ….”
“ให้คนใช้ไปซื้อมาสิ” หลินเย่หลิงตอบจากด้านนอก
“ฉันไปเอง ฉันไปเองค่ะ….” หลินเสี่ยวเข่อพูดอย่างตั้งใจ
“เธอเรียกแม่ของคุณเจียงว่า‘แม่’เธอไม่ได้แซ่เฉิงหรอกหรอ?”
“เขาเป็นแม่สามีของฉันค่ะ” เฉิงหลิงซูพูดออกมาอย่างเขินอาย
หลงอิงชิงตกใจจนดวงตาสวยของเธอเกือบจะหลุดออกมา “เธอเป็นภรรยาของคุณเจียง?” เธออยากจะป่าวประกาศเรื่องนี้จริงๆ “แต่ว่า….”
เธอไม่กล้าที่จะพูดมันออกมา ภายนอกมีข่าวลืออยู่ เรื่องของตระกูลเจียงกับตระกูลจัว..จัวอี้เฉิน เขาอยากจะพูดออกเฉยๆไปทำให้ตระกูลเจียงมีความวุ่นวายขึ้น แต่อาวุธที่ใช้กำจัดคนนั้นค่อนข้างน่ากลัวพอสมควรเลยล่ะ