Girl, I’ll Teach You Cultivation – ฉันจะสอนเธอบ่มเพาะเอง - ตอนที่ 314
บทที่ 314
ข่าวลือ
ทัศนคติของจั่วเจียนั้นเกินความคาดหมายของหลินเยว่หลิงและพ่อของเขาอย่างมาก แม้ว่าเดิมทีเจียงซิ่วจะแต่งงานแล้ว และการยกเลิกการแต่งงานในครั้งนี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่ก็กลับเกิดเรื่องขึ้นมาซะอย่างนั้น
สาเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ก็เพราะว่า เจียงซิ่วได้ฆ่าคนคนหนึ่งที่เหยียนชาน และยิ่งไปว่านั้น ฆาตกรกลับรอดมาได้ จนถึงตอนนี้เกาเจียก็ยังไม่ได้แก้แค้นกับหนี้แค้นนี้ ทุกวันเขาใช้ชีวิตอย่างขมขื่น ไร้เหตุผล และพร้อมออกไปต่อสู้ตลอดเวลา
ตอนนี้เจียงซิ่วได้แอบใช้ชื่อของหัวหน้าคนแรกของกลุ่มฮวากั๋วซึ่งเป็นหน่วยงานลับของประเทศในแถบทวีปยุโรป และเขายังกลายเป็นบุคคลที่อันตรายที่สุดของกลุ่มฮวากั๋ว แต่สำหรับในประเทศนั้นลือกันว่าเขาคือ เทพเจ้า และแน่นอนว่าเกาเจียจะต้องตามหาหน่วยลับพิเศษของกลุ่มฮวากั๋วทุกคน เพื่อที่จะจับและส่งตัวพวกเขาทั้งหมดกลับ
ทางด้านของจั่วเจียเองก็พอจะรู้สถานภาพที่แท้จริงของเจียงซิ่วอยู่บ้าง เรื่องนี้จึงไม่หนักหนาสาหัสอะไร เพราะจริงๆแล้วตั้งแต่ที่หลินเจียให้หลินเยว่หลิงกลับไปนั้น ก็สามารถสรุปได้แล้วว่าตระกูลจั่วนั้น ไม่ต้องการหลานสาวแบบนี้
จั่วยู่เฉินที่ไม่มีพ่อและแม่นั้นยังสามารถแต่งงานเป็นสามีได้ สำหรับจั่วเจียแล้วเป็นเรื่องที่พอใจเป็นอย่างมาก แม้ว่า จะต้องแต่งกับหญิงสาวที่มีฐานะสูงศักดิกว่า แต่จั่วเจียก็รู้สึกว่ามันคุ้มค่า ขอเพียงแค่อีกฝ่ายยินดีที่จะแต่งงานกับตระกูลจั่วก็เพียงพอแล้ว และยิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นการหมั้นหมายที่มาตั้งแต่เด็กๆ!
นับตั้งแต่มีการหมั้นหมายเกิดขึ้นก็ไม่สามารถกลับไปเสียใจกับการแต่งงานได้อีก และคนที่เสียใจกับเรื่องการแต่งงานนั้นไม่สามารถแสดงออกกับเรื่องนี้ได้ จั่วเจียเอ่ยด้วยถ้อยคำที่เข้มงวดและน้ำเสียงที่โกรธว่า เราไม่สามารถเสียคนคนนี้ไปได้ พร้อมกับพูดต่อว่า หรือว่าหลินเจียดูถูกพวกเราตระกูลจั่วงั้นหรอ?
แน่นอนว่าประโยคที่หลินเยว่หลิงพูดออกไปนั้นคือ เปล่าหรอก เพียงแค่ ทำอะไรไม่ถูก เธอไม่รู้เลยว่าแต่งงานไปเพื่ออะไร และคนในตระกูลจั่วเองก็ไม่ได้สนใจอะไร แม้ว่า ตระกูลหลินจะตัดสินใจยกเลิกการแต่งงาน แต่พวกเขาตระกูลจั่วจะนำตั่วจั่วยู่เฉินไปที่ตระกูลเจียงในวันพรุ่งนี้ ตระกูลเจียงไม่ต้องการ พวกเขาจั่วเจียก็ไม่ต้องการ บุคคลที่ไม่สามารถสูญเสียได้
ในตอนนี้หลินเยว่หลิงกำลังจมอยู่กับความทุกข์และความลำบากใจ ลูกชายของเธอเดิมทีเคยเป็นเรื่องที่น่ายินดีแต่กลับกลายเป็นเพียงแค่กลิ่นธูปเท่านั้น เป็นเรื่องที่น่าโศกเศร้าจนเธอเองก็หมดปัญญา หลินเยว่หลิงและพ่อของเธอทำได้เพียงแค่กลับไปวางแผนเท่านั้น
เมื่อกลับมาถึงที่บ้าน เจียงซิ่วก็หนีวิ่งหนีออกไปแล้ว ทำให้ในใจของหลินเยว่หลิงโกรธจนจะทะลุออกมาจากหัว แต่ความโกรธนั้นก็ไม่สามารถระบายออกมาได้ เธอหมดหนทางกับเรื่องนี้เต็มที หากจะตำหนิก็ต้องตำหนิตระกูลหลิน เป็นเพราะการตัดสินใจของพวกเขาที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ในวันนี้ขึ้น
ในเวลานี้เจียงซิ่วและเซี่ยวเสว่ถงสนทนากันอย่างดุเดือด โลกยุคใหม่ใกล้เข้ามาแล้ว ฉันเชื่อว่าความบันเทิงนี้จะสามารถร้อนแรงขึ้นมาได้ และยิ่งไปกว่านี้ในเวลาที่โลกเกิดความวุ่นวาย ละครเรื่องนี้ยังรับความนิยมอย่างมาก ในปีนั้นที่เฉินห่ายเกิดสาถานการณ์ที่วุ่นวายขึ้น ทำให้เหล่าทหารแข็งแกร่ง แต่อุตสาหกรรมภาพยนตร์นั้นกลับดีขึ้นยิ่งกว่า และรุ่งเรืองขึ้นอีกด้วย จะเห็นได้ว่าจริงๆแล้วธรรมชาติของมนุษย์เรานั้นก็คือการมีความสุขกับผลประโยชน์เท่านั้น
“คนที่ทะเลาะกับเธอในสายก็คือ หลิวซวนจืองั้นหรอ?”
“อืม”
เจียงซิ่วกล่าว “เธอไม่ต้องกังวล หากว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นและเธอหาฉันไม่เจอ ก็ไปหาหวังซินตงเพราะเธอสามารถช่วยเธอได้ วันนี้เธอได้มอบสิ่งดีๆให้กับฉันมากมายนัก ฉันรับรองว่าจะปกป้องเธอให้ปลอดภัยแน่นอน”
เซี่ยวเสว่ถงกล่าว “หืม ไม่ใช่ว่าฉันเป็นคนที่จงรักภักดี? ช่วยนายเล็กน้อยแค่นี้ ยังต้องการการตอบแทนอีกรึไง นายเคยช่วยชีวิตฉันไว้ อีกทั้งยังช่วยให้ฉันเป็น RV อีก แล้วจะให้นายช่วยอีกได้ยังไง?”
เจียงซิ่วกล่าว “เธอนี่เป็นผู้หญิงที่กล้าหาญจริงๆ!”
เซี่ยวเสว่ถงยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า “พึ่งจะรู้หรอ หากในมือผู้หญิงคนนี้มีดาบอยู่ งั้นเธอผู้เป็นเจ้าของดาบนั้น ก็จะทำให้พวกผู้ชายเลวๆ กลายเป็นปีศาจภายใต้ดาบของเธอ”
เจียงซิ่วกล่าวขึ้น “อย่าทำร้ายคนบริสุทธิ์โดยไม่ตั้งใจ เพราะงั้นฉันคงต้องกลายเป็นคนเลวแล้ว”
เซี่ยวเสว่ถงก็เหลือบไปมองเขาและพูดความจริงในใจที่ไม่สามารถพูดได้มาตลอดว่า “นายมันเลว นายมันเลวที่สุด “
ขณะนั้นหยดน้ำก็ค่อยๆหลั่งไหลออกมาจนท่วมท้น คำพูดของผู้หญิง มักจะตรงข้ามกับสิ่งที่ได้ยินเสมอ หากผู้หญิงคนหนึ่งบอกคุณว่าคุณเป็นคนดี และส่งการ์ดที่ดีให้คุณขอแสดงความยินดีด้วย เพราะคุณสามารถหามุมร้องไห้ให้กับความยินดีนี้ได้เลย แต่ถ้าหากเธอบอกคุณว่า คุณไม่ดี หึๆ
งั้นคุณก็จงทำตัวให้ไม่ดีในสายตาเธอซะสิ ดูซิว่าคุณจะร้ายกาจพอสำหรับเธอมั้ย “เธอดื่มมากไปแล้ว”
เซี่ยวเสว่ถงกล่าว “ฉันไม่ได้ดื่มเยอะนะ แต่เหล้าของนี่มันดีจริงๆ เพื่อเป็นการฝึกรับมือกับหัวหน้าที่รังเกียจ พี่หลี่เป็นคนสอนให้ฉันดื่มเองแหละ นายเมาแล้วหรอ? ฉันยังไม่เมา”
“เหอะๆ……”
เจียงซิ่วกล่าว “ถ้าฉันใช้พลังวิเศษ เหล้านิดเดียวในร่างกายก็คงหายไป ไม่ว่าจะกินไปกี่พันแก้วก็ไม่เมาหรอก” แต่เธอดื่มแค่นิดเดียวเท่านั้น แต่เซี่ยวเสว่ถงกลับเมาเหมือนคนไม่มีสติ
“ในวันสิ้นปีแบบนี้อย่าดื่มเยอะเลย ด้านนอกมีคนมารับเธอมั้ย?”
“มีคนขับรถ”
“ไปกันเถอะ วันหลังค่อยมาใหม่ วันนี้ฉันมีธุระ” เมื่อเจียงซิ่วพูดจบ หลินเยว่หลิงก็โทรเข้ามา แต่เสียงเรียกเข้าดังขึ้นมาเพียงแค่สองครั้งเท่านั้นก็ดับไป แน่นอนว่าเธอเป็นห่วงและอยากให้ขากลับมา
“โอเค!”
เซี่ยวเสว่ถงเธอได้ยินเสียงเรียกเข้าของมือถือเจียงซิ่ว เธอรู้ว่าเจียงซิ่วนั้นยังมีเรื่องให้ทำนั้นคือการดึงตัวเองออกมาจากสิ่งที่เป็นอยู่
เมื่อมาส่งเซี่ยวเสว่ถงที่หน้าประตู ก็เห็นคนขับรถคนหนึ่งยืนรออยู่ ซึ่งก็คือคนขับรถที่บริษัทของเธอนั่นเอง และยังมีผู้ช่วยอีกหนึ่งคนที่มาด้วยซึ่งยืนคุยกับคนขับรถรอเธออยู่ เมื่อพวกเขาเห็นเซี่ยวเสว่ถงเดินออกมา ก็รีบเข้าไปรับ พวกเขาเห็นว่าข้างๆ นั้นคือเจียงซิ่ว ทำให้ผู้ช่วยรู้สึกประมาทเล็กน้อยและมองไปยังรอบๆ ให้แน่ใจว่าจะไม่มีปาปารัสซี่แอบถ่าย และเขาก็รีบเขาไปคุ้มกันเธอขึ้นรถอย่างรวดเร็ว
เมื่อกลับมาถึงบ้านตระกูลหลินเขาก็พบกับงานเลี้ยงต้อนรับที่ถูกจัดขึ้น ทันใดนั้นก็มีเสียงของบรรดาเด็กรุ่นเล็กๆ ก็พูดพร้อมกันว่า “ยินดีต้อนรับกลับบ้าน”
“เสี่ยวซิ่ว มานี่สิ”
หลินเยว่หลิงททักทายเจียงซิ่วพร้อมกับถอนหายใจและพูดว่า “พวกเราไปที่บ้านของตระกูลจั่วมา ความคิดของพวกเขาไม่ได้เป็นไปตามที่เราคาดหมายเอาไว้ พวกเขาไม่เห็นด้วย”
หลินเย่วหลิงพูดจบ ทุกคนต่างก็พากันมองไปยังเจียงซิ่ว รอดูว่าเขาจะพูดอะไรออกมา
เจียงซิ่งเองก็ประหลาดใจกับสิ่งที่ได้ยินเขาจึงพูดขึ้นมา “เพราะอะไร?”
หลินเจ่อเฉินกล่าวว่า “ยังต้องการอะไรละ นอกซะจากต้องการให้นายเจียงเป็นหลานชาย”
หลินเยว่หลิงพยักหน้า
เจียงซิ่วกล่าว “แต่ฉันแต่งงานแล้วนะ”
หลินเยว่หลิงกล่าว “ฉันพึ่งจะคิดวิธีหนึ่งได้ จริงๆ แล้วตระกูลจั่วต้องการอิทธิพลและการสนับสนุนของลูก ดังนั้นเราสามารถเปลี่ยนวิธีแต่งงานได้ ฉันต้องการรับลูกยู่เฉินมาเป็นลูกสาว และให้ลูกช่วยจั่วเจียทำเรื่องบางอย่าง”
ตระกูลหลินไม่ได้พูดอะไร แต่หลินเจ่อเฉินกลับส่ายหัวอย่างไม่เห็นด้วย
การรับเลี้ยงทั้งลูกชายและลูกสาวนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก แม้ว่าบางอย่างจะเป็นเรื่องที่ตั้งใจและบางอย่างก็เพื่อผลประโยชน์เท่านั้น แต่การรับลูกสาวมาเลี้ยงนั้นไม่สามารถเทียบได้เท่ากับเรื่องแต่งงาน
เจียงซิ่วกล่าว “ทำเรื่องบางอย่างให้จั่วเจีย ไม่มีปัญหาหรอก แต่จั่วเจียจะรับเรื่องนี้ได้?”
หลินเยว่หลิงส่ายหัวแสดงออกว่าไม่มีทางจะยอมรับแน่นอน ทันใดนั้นพี่ชายของเธอก็พูดแทรกขึ้นมาว่า “น้องสาว การแต่งงานยังไงก็ต้องเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็ว หากถามว่าปัญหามันคืออะไรอะหรอ มันคือ ทายาทยังไงละ”
สำหรับหลินเฉินนั้นเขาพอจะมองสถานการณ์นี้ออกเป็นอย่างดี สำหรับการแต่งงานนั้นสิ่งสำคัญคือการมีทายาท หากเจียงซิ่วและจั่วยู่เฉินนั้นมีลูก งั้นแล้วเด็กคนนี้ก็ย่อมต้องเป็นคนตระกูลจั่ว และโดยทั่วไปเราไม่สามารถแบ่งแยกเด็กออกจากสิ่งนี้ได้ และสายเลือดนั้นก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ด้วย
หลินเยว่หลิงกล่าว “พี่รองจะพูดว่าจั่วเจียไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน”
โดยพื้นฐานแล้วมันก็เป็นไปไมได้
ตอนนี้หลินเจียจัดงานเลี้ยงอย่างมีความสุข สำหรับพวกเขาการที่หลินเยว่หลิงกลับมาแม้ว่าจะทำให้วุ่นเล็กน้อยแต่ก็ทำให้พวกเขามีความสุข แต่พวกเขาก็ไม่เปิดให้คนภายนอกได้รับรู้และคนอื่นก็ไม่มีทางรู้เรื่องของพวกเขา และนอกจากนี้สิ่งที่พวกเขาอยากเห็นก็คือปฏิกิริยาของตระกูลจั่ว
ในตอนท้ายของงานเลี้ยงหลินเสี่ยวเคอ วิ่งเข้ามาและพูดว่า “พี่ใหญ่ ไปเล่นที่ลานใหญ่กันเถอะ?”
เจียงซิ่วไม่ได้สนใจสีหน้าของคนตระกูลหลินซะเท่าไหร่ เขาพาหลินเคอและหลินมี่ไปเล่นที่ลานใหญ่
ที่นี่เป็นที่รวมตัวของพวกเหล่าตระกูลหลิน และเมื่อมาที่นี่คุณจะได้รับข่าวสารต่างๆ อย่างมาก
ฉันได้ยินมาว่าที่นี่เปิดโดยเศรษฐีคนหนึ่ง และสินทรัพย์ทั้งหมดนี้ก็ดูธรรมดาๆ อย่างไรก็ตามเนื่องจากการเปิดตัวของสโมสรระดับสูงนี้ซึ่งเป็นที่นิยมมากในหมู่ผู้ใหญ่และเยาวชน ในเวลาเพียงไม่กี่ปีก็มีมูลค่านับพันล้าน บางครั้งข่าวเล็กๆ น้อยๆ นี้ก็มีประโยชน์มากจริงๆ
“เอ๊ะ นี่คือคุณหนูจากตระกูลหลินสินะ ไม่เจอตั้งหลายวันเลย”
เจ้าของลานใหญ่พูดขึ้น เธอชื่อ เสี่ยวเหลียง เธอไม่แก่เกินไป อายุราวๆ ไม่เกินสี่สิบปี ใบหน้าอวบอิ่ม
“พี่ใหญ่พาฉันมาเที่ยวที่นี่” หลินเสี่ยวเคอตัวเล็กๆ กล่าวตอบ จริงๆแล้วนี่เป็นครั้งแรกในการมาที่นี่ของเธอ เพราะก่อนหน้านี้นั่นทางครอบครัวจะปฏิเสธในการมาเที่ยวเล่นที่นี่เสมอทำให้พี่ชายและน้องสาวของเธอก็ไม่กล้าพาเธอมา วันนี้เธอจึงใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ของเจียงซิ่วจึงมาที่นี่ได้
ที่นี่เป็นสถานที่ของเฟิงเยว่ฉ่าง ทั้งสองด้านเต็มไปด้วยหญิงงามที่สวมกี่เพ้า และผู้หญิงสวยๆ ผู้หญิงเหล่านั้นล้วนแต่เป็นนักเรียนของโรงเรียนชิงชิว พวกเขามาที่นี่เพื่อหารายได้ และนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่สำหรับคนชนชั้นสูง “เขาก็มาที่นี่ด้วยหรอ? ที่นี่มีแต่พวกคนชนชั้นสูงนะ”
พวกคนที่มาที่นี่ล้วนแต่มีฐานะที่สูงจนถึงคนธรรมดา และมักจะเป็นวัยรุ่นอายุไม่เกินสามสิบปี
“เขามาได้ยังไง?”
“นาบไม่รู้จักงั้นหรอ หลานชายของตระกูลหลิน ชื่อ เจียงซิ่ว ก็คือคนที่ต้องแต่งงานกับจั่วยู่เฉินคนนั้นไง”
ข่าวลือแพร่กระจายไปทั่ว ในสถานที่ที่พวกเขามาเดินเล่นตอนนี้เต็มไปด้วยความประหลาดใจ หมอดูบอกว่าจั่วยู่เฉินเกิดมาพร้อมกับความงามธรรมชาติ ซึ่งนับว่าเป็นของขวัญที่ดีสำหรับพวกผู้ชาย แต่นั่นก็ไม่ได้มีอะไรให้สนใจมากนัก เพราะยังมีผู้หญิงที่สวยกว่าและฉลาดกว่าเธออีกเยอะ แต่ปัญหาก็คือ เธอคนนี้เป็นผู้หญิงของหลิวชวนจื่อ และเรื่องที่หลิวชวนจื่อจะแต่งงานกับเธอก็แพร่กระจายไปทั่วพื้นที่นี้มานานแล้ว
อย่างไรก็ตามในตอนนี้จั่วยู่เฉินจู่ๆ ก็โผล่ออกมาพร้อมคู่หมั้นของเขา
งามไส้นัก!
“หลิวชวนจื่อคือใคร? เขาคือรุ่นที่สามของตระกูลหลิวที่โดดเด่น และจะกลายเป็นผู้นำของตระกูลหลิว ในอนาคต”
ในสถานที่นี้หลานชายของตระกูลหลินและพรรคพวกของหลิวชวนจื่อมองมาดวงสายตาที่กดดัน
มองไปยังเจียงซิ่ว เขายังกล้าจะออกมาเดินเล่นอีก ท่ามกลางฝูงชนที่กำลังแอบซุบซิบนินทาเกี่ยวกับข่าวลือของเขาและจ้องมองเขาอย่างไม่ละสายตา
เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ก็ยังไม่รู้ตัว?
หลายคนต่างตกใจเมื่อได้ยินข่าวนี้ และเขาเองก็ยังไม่กลัวตายอีกสินะ