Girl, I’ll Teach You Cultivation – ฉันจะสอนเธอบ่มเพาะเอง - ตอนที่ 315
บทที่ 315
ความโกรธของหลิวชวนจื่อ
ที่นี่คือสโมสรชั้นนำที่ซึ่งพวกชนชั้นสูงมักจะมารวมตัวกัน และไม่เพียงเท่านั้นที่นี่ยังมีเพื่อนของหลิวชวนจื่ออีกด้วย และเหล่าตระกูลหลิวเองก็มักจะมาที่นี่บ่อยๆ นี่เด็กคนนั้นยังจะกล้ามาที่นี่อีก?
“สถานะต่างกันคนละโลกขนาดนี้ ยังกล้าที่จะมาแย่งผู้หญิงของนายน้อย?” ชายคนหนึ่งเอ่ยและจ้องไปที่เจียงซิ่ว เขาคือ กู่เยว่ท่ง เขาเป็นคนที่เคารพหลิวชวนจื่ออย่างมาก ซึ่งทำให้เขาเรียกหลิวชวนจื่อว่าพี่ชาย และเมื่อน้องชายรู้ว่าหญิงของพี่ชายถูกลักพาตัวไปเขาก็รับไม่ได้
“กู่ต้าช่าว อย่าเข้าไปวุ่นว่าย ตระกูลอื่นต่างก็อยู่ที่นี่กันหมด” คนที่อยู่ด้านข้างเสนอแนะขึ้นมา
“ตระกูลหลินก็เปรียบเหมือนนก เมื่อหลายสิบปีก่อนที่ผู้นำหลักของตระกูลหลินจากไป พวกเรานั้นต่างให้ความเคารพอยู่ไม่น้อย แต่ตอนนี้……เฮ้อ เมื่อเข้าสู่ยุคที่สองของตระกูลหลิน พวกเขาก็ไม่ได้รับความนิยมนัก แล้วแบบนี้ยังจะมีใครกลัวเขาอยู่อีก” กู่เยว่ท่งพูดด้วยสีหน้าที่หนักแน่นและแข็งกร้าว
ในยุคคนรุ่นสองของตระกูลหลินไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่นัก ผู้นำตระกูลหลินและตระกูลเจียงต่างเป็นศัตรูทางการเมืองมานาน จนกระทั้งตระกูลเจียงไปสร้างความขุ่นเคืองให้คุณเจียงและเสียชีวิตไปทั้งหมดด้วยอุบัติเหตุ สิ่งนี้เองก็เกี่ยวพันมาถึงตระกูลหลินเช่นกัน การสูญเสียผู้นำในขณะนั้นทำให้เกิดผลกระทบต่อตระกูลเป็นอย่างมาก นั้นคือตระกูลหลินไม่เหลือใครเลยและเริ่มตกต่ำลงเรื่อยๆ และในตอนนี้มีหลายคนไม่ได้สนใจตระกูลหลินเลย
“กู่ต้าช่าว นายก็อยู่ที่นี่ด้วยหรอเนี่ย ?” หลินชื่อเจียนหยิบอุปกรณ์แล้วเดินออกไป “ยังไงก็เถอะ ฉันไม่อยากจะอยู่ที่นี่นานนัก เพราะหมอกำชับมาว่าให้ออกกำลังกายให้เยอะๆ เลยทำให้จำเป็นต้องอยู่”
“เฮอะ คนของตระกูลหลินพาตัวผู้หญิงของพี่ชายฉันไป นายยังจะกล้ามาทักทายฉันอีก?”กู่เยว่ท่งแสดงสีหน้าที่หมดคำจะพูด
คนที่อยู่ด้านข้างเขา หลินมี่กล่าวแทรกขึ้นมาทันทีว่า “กู่เยว่ท่ง นายพูดแบบนี้ก็ไม่ถูก น้องชายของฉันหมั้นหมายกับจั่วยู่เฉินตั้งแต่เด็กๆ ถ้าจะพูดว่าพาตัว ก็ต้องพูดว่า หลิวชวนจื่อคนนั้นต่างหากที่พาตัวเธอไปจากน้องชายฉัน”
กู่เยว่ท่งตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไร้สาระ สกุลจั่วนางนั้นคือคนที่พี่ชายของฉันรู้จักมาตั้งแต่เด็ก หรือที่ใครๆ เรียกกันว่า คนที่รู้ใจที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็ก”
หลินมี่กล่าว “ในสถานที่นี้ทุกคนต่างรู้ดีว่า ความสัมพันธ์แบบเพื่อนที่คอยเล่นด้วยกัน ล้วนแล้วเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ ยากที่จะได้แต่งงานกัน”
“เหอะ!”
กู่เยว่ท่งพูดกับหลินมี่ด้วยความโกรธ แต่เขากลับเลือกแสดงท่าทีหัวเราะออกมาแล้วกล่าวว่า “เธอคิดว่าการหมั้นแค่นี้จะสามารถเกิดขึ้นได้อย่างงั้นหรอ?เธอคนนั้นคงไม่อยากจะแต่งงานกับคนแบบนี้แน่ เพราะตอนนี้ตระกูลเจียงไม่มีอีกแล้ว เหลือเพียงแค่ การเป็นหลายชายของตระกูลหลินเท่านั้น ถ้าจะให้ลองถามนะ ตระกูลหลินคงไม่กล้าที่จะต่อต้านตระกูลหลิวหรอกใช่มั้ย?”
ตอนนี้ตระกูลหลิวแข็งแกร่งทรงอำนาจมาก แต่ตระกูลหลินยังกล้าหาญที่จะแข็งข้ออยู่อีก คงเป็นเพราะการแต่งงานที่ไม่อยากให้ตระกูลหลิวเมินเฉยสินะ?
“วันนี้ ฉันจะอัดนายให้เละ!”
เจียงซิ่วเดิมเข้ามาพร้อมกล่าว “นายคิดจะลงมือ?”
“ก็แค่จะสั่งสอนเท่านั้น และจะจัดการแกสักหน่อย” กูเยว่ท่งอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวะ การต่อสู้ นั่นคือสิ่งที่คนด้อยกว่าทำ และคนที่สูงกว่านั้นมีหน้าที่ออกคสั่งพวกเขาเท่านั้น เพียงแค่ในตอนนี้จากสายตาคนรอบๆ ไม่มีใครกล้าที่จะเข้ามาบริเวณนี้เลย
แต่ในเวลาที่ดุเดือดนี้กลับมีเสียงบางอย่างดังมาจากด้านหน้าประตู
“นายน้อยหลิวชวนจื่อมาแล้ว!”
เมื่อได้ยินดังนั้น สถานการ์ในสนามก็สงบลงทันที
หลิวชวนจื่อมาแล้ว เด็กนี้ดวงแย่จริงๆ ของบางอย่างยังพอให้ปล่อยไปได้ แต่นี่คือผู้หญิง และผู้หญิงนั้น ก็คือส่วนหนึ่งของผู้ชาย และยิ่งไปกว่านั้นเธอคือผู้หญิงที่เขาคปกป้องดูแลมาตลอด
เมื่อมองไปยังหนุ่มร่างสูงที่เอามือตัวเองล้วงกระเป๋าของเขา และค่อยๆ เดินมาอย่างสบายๆ แต่บรรยากาศรอบๆ ตัวกลับดูร้อนระอุ ทำเอาผู้คนที่อยู่ข้างๆ ไม่กล้าที่จะเข้าใกล้ตัวเขา
หลิวชวนจื่อจริงๆ อยู่ที่นี่มาสักพักแล้ว เขาเดินตรงไปหาพี่น้องของเขา สบตากับคนเหล่านั้นก่อนที่จะเชิดหน้าขึ้น “พี่ชาย!”
อย่างไรก็ตามหลิวชวนจื่อกลับไม่ได้มองไปที่เขาอีก สายตามองไปยังตัวของเจียงซิ่ว สายตาไม่ได้แสดงความรู้สึกโกรธ แต่สายตาของเขาคล้ายกับว่าไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดใดต่อบุคคลนี้
หลิวชวนจื่อไม่ได้แยแสความรู้สึกที่ดูทุกข์ร้อนของตัวเอง และพี่น้องหลายคนในตระกูลหลินก็ไม่กล้าที่จะส่งเสียงร้องใดใดออกมา และเห็นได้ชัดว่าเขากลัวอย่างมาก จนไม่กล้าจะเผชิญหน้า
เขายังคงจ้องมองไปยังเจียงซิ่ว “นายคือหลานชายจากตระกูลหลินสินะ?”
ทุกคนต่างมองไปยังเจียงซิ่วด้วยสายตาที่สงสาร ใช่แล้ว สองมังกรแย่งชิงมุข นี่คงเป็นบทละครที่น่าชมมากที่สุด และพวกเขากำลังรอฉากจัดการเจียงซิ่วให้ปรากฏขึ้นมาอยู่
เจียงซิ่วกล่าว “นายคือ หลิวชวนจื่อ?”
หลิวชวนจื่อพยักหัว เขขาชี้นิ้วเข้าไปข้างในบ่งบอกให้เจียงซิ่วตามไป โดยเขานำเข้าไปก่อน เพื่อไปหาที่นั่งคุยเรื่องนี้กัน
ผู้คนรอบข้างต่างพากันสังเกตอย่างเงียบๆ นายน้อยหลิวตอนปกติกับนายน้อยหลิวตอนโกรธนั้นไม่เหมือนกัน กลยุทธ์เขาสูงส่ง ไม่มีใครกดดันเขาได้ และเมื่อเขาจะเที่ยวเล่นก็มักจะเที่ยวเล่นแบบคนชั้นสูง
เจียงซิ่วเดินตามเขาไป พร้อมกับคิดว่ามันต้องมีการตัดสินใจที่ดีสำหรับเรื่องนี้อย่างแน่นอน
เมื่อเขาเห็นหลิวชวนจื่อนั่งลงในห้องโถง เขาก็พูดก็กับเจียงซิ่วขึ้นว่า “เรื่องของนายกับเสี่ยวเฉินฉันได้ยินแล้ว คุณปู่เองก็พูดให้ฟังบ่อยๆ ส่วนเรื่องของฉันกับเสี่ยวเฉินนายก็คงรู้แล้วสินะ”
เจียงซิ่วพยักหน้า “อืม !”
ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น หลิวชวนจื่อนั้นดูเชี่ยวชาญในด้านจัดการการแสดงออกของตัวเอง แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เขาได้ฝึกฝนมาว่ามันดูสมบูรณ์แบบ
หลายคนต่างประทับใจกับตัวเขา
แต่ในทางกลับกันเจียงซิ่วเป็นเหมือนเด็กชนบทที่ไม่เคยเห็นโลกมาก่อน เขาเหมือนถูกคนจูงจมูกของตนอยู่ ซึ่งนี่ช่างน่าอายเกินไป เขากล้าที่จะพาตัวผู้หญิงของหลิวชวนจื่อไป? เฮอะ!
เหมือนกับแมลงป่อง ที่ถูกคนฆ่าอย่างสนุก แต่แมลงป่องตัวนี้ไม่รู้ว่าจะต้องตายยังไง ทำให้มีคนส่ายหัวและเย้ยหยัน
และมีผู้คนจำนวนมากที่รู้สึกเหมือนกัน หลิวชวนจื่อยังมองว่าเจียงซิ่วแค่วัตถุส่วนตัวที่ทำลายทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้ แต่หลังจากทั้งหมดแล้วเจียงซิ่วที่เป็นตระกูลหลินก็กล้าที่จะเผชิญหน้ากับเขา แต่หลังจากได้พบกัน เขาก็ผิดหวังอย่างมาก และไม่สนใจที่จะเล่นกับเจียงซิ่วต่ออีก “กลับไปบอกปู่ของนายแบบนี้นะ ว่าพ่อแม่ของฉันฉันไม่เห็นด้วย อย่าคิดเรื่องอะไรที่สวยงามเกินจริง กับหลานชายที่ไม่มีแม้แต่ครอบครัว ยังจะมายุ่งกับหญิงสาวตระกูลจั่วอีก”
ชีวิตก่อนหน้านี้ ท้ายที่สุดเขาคนนี้จะทิ้งจั่วยู่เฉินไปอย่างไร้ความปราณี ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจในรายละเอียด แต่เขาก็ยังมีความรู้สึกว่า หลิวชวนจื่อไม่ได้มีจั่วยู่เฉินในความคิดเลยแม้แต่น้อย เพราะเมื่อหลินเยว่หลิงจากไป เจียงซิ่วก็ใกล้จะเรียนจบแล้ว
อย่างไรก็ตามจั๋วยู่เฉินอายุมากกว่าเจียงซิ่วสี่ปี และหลิวชวนจื่อก็อายุมากกว่าจั่วยู่เฉินสองสามปี และเหตุการณ์ในตอนนั้นเขาก็ใกล้จะอายุ 30 แล้ว จึงนับว่ายังอีกยาวไกล
คนที่จะยอมแพ้ในวันที่ฝนตกคงไม่ใช่เขาแน่ เจียงซิ่วคิดว่าจะประนีประนอมกันในเรื่องนี้ได้อย่างไร
เจียงซิ่วกล่าว “ฉันขอแนะนำให้ไปหมั้นกับจั่วยู่เฉินแทนฉันซะ”
ว้าว!
ทันใดนั้นเจ้าของเสียงว้าวก็ดังขึ้นมา
นี่เป็นการกระทำที่ขี้ขลาดอย่างสิ้นเชิง เมื่อพวกเขาอายุน้อยกว่า 30 ปีพวกเขาเคยทำหน้าที่เป็นรองผู้อำนวยการในเมืองเหลียวตง พวกเขากล่าวว่าเส้นต่ำสุดในอนาคตคือจังหวัดที่จะผนึกประเทศ และเขาในวัยสี่สิบห้าปีนั้นคงจะขึ้นปีนเขาอยู่และกลายเป็นตัวสำรองสำคัญในอนาคตมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าสู่ศูนย์กลาง
หลิวชวนจื่อได้รับการยอมรับว่าเป็นความภาคภูมิใจของเหล่าประชาชน
“โอ้?”
การโต้กลับของ เจียงซิ่วทำให้ หลิวชวนจื่อ สนใจเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะมีศักยภาพสูง แต่เขาก็ได้รับความสนใจอยู่แล้ว หากเป็นเช่นนี้เจียงซิ่วก็จะไม่ถูกทำลาย
“ฉันรู้ว่านายต้องการการแต่งงานครั้งนี้ แต่มันเป็นไปไม่ได้ ยังไงก็เถอะฉันจะไม่ปล่อยมันไปแน่ นายมีบางอย่างจะถามฉันมั้ย”
เจียงซิ่วพูดแก้ไขเพื่อเปิดบางคำที่อยู่ในปากของเขาออกมา แต่หลินชวนจื่อก็เอื้อมมือออกมาและพูดว่า “อย่ารีบร้อน คำตอบสำหรับสัญญาการแต่งงานเป็นเรื่องยุ่งยาก มันเป็นการดีกว่าที่จะเปลี่ยนเงื่อนไขนี้”
“เอาเถอะ มาดูนี่ก่อน ฉันได้นำข่าวร้ายมาสู่ทุกคนแล้ว แต่นายสามารถเปิดหูเปิดตาได้มากทีเดียว…” หลิวชวนจื่อหยิบแฟลชไดรฟ์ออกมา ก่อนที่จะเขาส่งแฟลชไดรฟ์ USB ไปที่คุณเสี่ยวเจ้าของลานแห่งนี้
“เจียงซิ่วรอดูหนังที่จะทำให้นายเข้าใจโลกใบใหม่ดีกว่า”
ทุกคนต่างก็อยากรู้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นอะไร
มันจะไม่เป็นอย่างนั้นนะสิ
มันน่าตื่นเต้นเกินไป
แต่เมื่อภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการปล่อยตัวมันก็น่าตื่นเต้นกว่าที่พวกเขาคิด มันเป็นภูเขาลูกใหญ่ใหญ่มาก แต่เพียงแค่ดูภาพนี้พวกเขาก็เริ่มรู้สึกหายใจไม่ออก ความมืดกลืนกินเวลากลางวัน ความโกรธเกรี้ยวจากพื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและต้นไม้ยังคงพังทลายจนหินตกลงมา
มันเป็นแผ่นดินไหวอย่างนั้นหรอ?
ทันใดนั้นใบหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปและพวกเขาก็คว่ำหน้าหน้าลงกับพื้นเพื่อป้องกันตัว
ทันใดนั้นก็มีเงามืดๆ ดำๆ ค่อยๆ ออกมา มันคือสัตว์ประหลาดที่มีหัวเดียว
“พระเจ้า นี่มันสัตว์ประหลาดนิ… “
เป็นหนึ่งในสัตว์ที่น่ากลัวมีไม่น้อยกว่า 100,000 และที่มีความน่ากลัวกว่านั้นคือมันได้จัดระเบียบล้อมรอบทุกทิศทางแล้ว
“นี่คือภาพถ่ายทางอากาศของภูเขาเหลียวตงซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องจริง”
“ปืนธรรมดาที่จะฆ่าสัตว์ร้ายนั้นมีเพียงสามนัดเท่านั้นและพวกเขาต้องต่อสู้กับสัตว์พวกนี้และสัตว์ร้ายเหล่านี้พยายามโจมตีเมือง … “
หลิวชวนจื่อกล่าวว่า: “ปัจจุบันนี้เป็นสิ่งลับสำหรับกองทัพ นายรู้สึกยังไงบ้างเจียงซิ่ว โลกกำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว เมื่อนายมีเงินนายก็จะมีอำนาจ และถึงตอนนั้น นายก็จะไม่ต้องกลัวที่จะเสียผู้หญิงของนายไปอีก ยิ่งเป็นผู้หญิงที่สวยอย่าง จั่วยู่เฉินแล้วด้วย นายคิดว่ายังไง ?”