Girl, I’ll Teach You Cultivation – ฉันจะสอนเธอบ่มเพาะเอง - ตอนที่ 329
บทที่ 329
พบเจอยามค่ำคืน
**ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ก่อนหน้าจะมีคนที่มีชื่อว่า หลานของหนานกู จริงๆ แล้วคนที่ยืนอยู่บนตึกคนนั้นคือหนานกงโควเอ๋อ การความผิดพลาดจากผู้แปลเด๋วแอดไปแก้ไขให้*
เมืองฮาบิ้น >>> เมืองฮ๋า
เจียงซิ่วไม่ได้สนใจมากนัก ดวงตาของเขามองออกไปยังที่ไกลแสนไกล ตรงนั่นน่าจะเป็นขีปนาวุธ ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ มันควรจะเป็นการบุกโจมตีสัตว์ร้ายที่อยู่รวมกัน ขีปนานี้เป็นอาวุธที่กล่าวขานมาแต่อ อย่างน้อยๆ ก็ฆ่าสัตว์ประหลาดได้หลายตน
หลี่เยียนเห็นเจียงซิ่วไม่สนใจเธอ จึงพูดด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง “ฉันคุยกับนายนะ หูหนวกหรือไง?”
เจียงซิ่วหันมองเธอด้วยสายตาเย็นชาครู่หนึ่ง ในสถานที่ที่ขาดแคลนสิ่งของแบบนี้ อาหารคือชีวิต ถึงแม้ว่าในเขตปลอดภัยอาการจะมีเยอะก็ตาม แต่ก็ไม่มีใครเหมือนเธอที่จะใช้เสียงที่เหมือนออกคำสั่งกับคนอื่นเพื่ออาหารหรอกนะ
“ทำไมฉันต้องให้เธอ?”
หลี่เยียนชะงัก เธอคิดไม่ถึงว่าเจียงซิ่วจะกล้าปฏิเสธเธอ ซ้ำยังพูดให้เป็นจุดสนใจแบบนั้น ได้แต่กดความโกรธเอาไว้ “นายไม่ใช่ว่าอยากได้เงิน? ฉันจะซื้อมันกับนาย”
“เท่าไหร่ พันนึงพอไหม!”
เจียงซิ่วยิ้มเย็นเยือกก่อนจะพูด “เธอสามารถออกไปถอนเงินได้ ก็ถือว่าเป็นโชคดี แค่เธอยังเห็นร้านที่เปิดอยู่ไหม หรือเธอสามารถหาซูเปอร์มาร์เก็ตที่เหลืออยู่ได้หรือไร?”
“นาย….”
“นายอย่าลืมล่ะ ที่ฉันให้นายมาด้วยน่ะ” หลี่เยียนพูด
“ฉันรู้ แต่ฉันจ่ายไปแสนหยวนแล้ว” เจียงซิ่วตอบ
หลี่เยียนโกรธจนหน้าอกของเธอขยับขึ้นลง แต่ก็ไม่ได้พูดมันออกมา เจียงซิ่วกับเธอเป็นเพียงผู้ค้าขายกันเท่านั้น เธอเป็นเพียงไกด์นำทางเท่านั้น และไม่ได้เกี่ยวข้องกับเจียงซิ่ว เธอมองไปยังบอดี้การ์ดของเธอก่อนจะถามขึ้น “พวกแกได้เอาของกินมาบ้างไหม”
“เอามาแค่น้ำครับ” บอดีการ์ดคนหนึ่งตอบ
ที่ใจกลางเมืองฮ๋า มีร้านอาหารอยู่ร้านหนึ่งเป็นร้านของคนที่แข็งแกร่งได้เปิดมันเอาไว้ ภายในมีอาหารมากมาย มีทั้งน้ำและไฟฟ้า เดิมทีเธอคิดอยากจะไปอาศัยที่นั่นเสียคืนหนึ่ง แต่เมื่อมองเข้าไปด้านใน มาพรุ่งนี้ก็ยังไม่สาย แต่ว่าตอนนี้…….
“ไม่หิวรึไง มีอะไร?”
หลังจากนั้นหยิบป้ายโฆษณาบางชิ้นลงมา ด้านในมีไม้อยู่มากกองสุมๆ กันทำให้เกิดไฟก่อนหาหม้อและต้มน้ำ หลังจากนั้นเจียงซิ่วก็ต้มบะหมี่
บอดีการ์ดของหลี่เยี่ยนพูดขึ้น “น้องชาย ขอซื้อหน่อยสิ เรื่องราคาคุยกันได้นะ”
เจียงซิ่วส่ายหัว
“หมื่นนึงเลย หมื่นนึงกับบะหมี่ถ้วยนึง”
“นายคิดว่าฉันจะเป็นคนที่ซื้อได้ด้วยเงินหมื่นหยวนหรือไง?” เจียงซิ่วพูด
“แสนนึง!”
บอดีการ์ดเสนอราคาในฝันออกมา ค่าใช้จ่ายในการเดินทางของเจียงซิ่ว แค่บะหมี่หนึ่งถ้วยก็ได้คืนมาแล้วแต่เจียงซิ่วก็ยังคงส่ายหัวปฏิเสธ
“กี่หยวนก็ไม่ขาย”
ใบหน้าของบอดีการ์ดนิ่งไปอย่างเห็นได้ชัด “นี่น้องชาย อย่าใจแข็งไปหน่อยเลย คนนี้น่ะเป็นลูกของมูลนิธิเปาต่าวเย่หัวนะ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้นำคนอื่นๆอยู่มาก แถมยังไปมาหาสู่กับตระกูลอื่นๆมากมายและ น้องชายอย่าสำคัญตัวผิดดีกว่า”
เจียงซิ่วเบื่อที่จะต่อปากต่อคำกับเขา ก่อนจะเริ่มทานบะหมี่
“นาย….”
หลี่เยียนที่อยู่ด้านข้างโกรธไม่น้อยก่อนที่จะลุกขึ้น “เห็นทีว่านายจะเตือนดีๆ แล้วไม่ฟังสินะ ให้ข้อเสนอดีๆไม่ชอบใช่ไหม ให้ฉันตีเขา”
ไกด์รีบวิ่งมาก่อนจะพูดขึ้น “คุณหนูหลี่ คุณหนูหลี่… อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่เลย เขาไม่ขาย พวกเราก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่บังคับต้องซื้อ”
“ฉันไม่ซื้อ แต่ฉันจะแย่งมา”
มาถึงที่นี่ แค่การฆ่าก็อาจไม่ถูกลงโทษ แค่แย่งของมันจะเป็นอะไรไป มาถึงที่นี่ธาตุแท้ของมนุษย์ก็ได้ถูกเปิดเผยขึ้นแล้ว
“คุณหนูหลี่ ที่นี่อาจจะไม่ปลอดภัย ถ้าเสียงดังไปอาจจะทำให้พวกสัตว์ร้ายได้ยินแล้วจะมาทางนี้ ผลสุดท้ายคุณเองที่จะเสี่ยง พวกเราก็จะไปไม่ได้เพราะการกระทำของคุณ เคยพูดแล้วว่าถ้าเข้ามาในนี้ให้คุณฟังฉัน”
“ขู่ฉันหรือไง?”
เสียงสัตว์ประหลาดที่คุ้นเคยและแปลกประหลาดเกิดขึ้นบริเวณใกล้ๆ นี้ หลี่เยียนเงียบลงไปเฉยๆ เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่อยู่ด้านนอกก็รู้ได้เลยว่าสัตว์ประหลานตัวนี้ตัวใหญ่มาก แค่ก้าวเดียวก็สามารถเดินได้ไกลหลายเมตร สามารถกระโดดได้โดยตรงจากอาคารที่ถูกทิ้งร้างไปยังอาคารอื่น
“เร็ว รีบดับไฟเร็วเข้า”
พวกเขาใช้เท้าในการดับไฟ
เมื่อไฟดับลง ทั้งห้างสรรพสินค้าก็มืดสนิท
“ไม่น่าเป็นไปได้ ที่นี่มันนอกเขตนะ”
สีหน้าของไกด์เฉินเปลี่ยนไปอย่างมาก
“มันคือการแก้แค้น!” เสียงของเจียงซิ่วดังขึ้นในมุมมืด “เมื่อครู่ขีปนาวุธเพิ่งฆ่าสัตว์ไปเยอะพอควร ดังนั้นพวกมันเลยอยากจะรวมกันแก้แค้น”
“ที่พูดก็มีเหตุผล” ไกด์เฉินสนับสนุนคำพูดของเจียงซิ่ว
“อย่าพูดเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ พวกเรา พวกเราตอนนี้ควรเอาไงต่อ?” เสียงของหลี่เยียนสั่นเครือ บอดีการ์ดของเธอรวมกลุ่มกันเพื่อปกป้องเธอ
“ห้างนี้โดนล้อมไว้แล้ว…”
ไกด์เฉินหลายคนถือว่าคือโชคดีก่อนจะพูด “หวังว่าพวกมันจะหาไม่เจอนะ”
ห้างสรรพสินค้านี้เป็นตึกสูงมีทั้งหมดเจ็ดชั้นอีกทั้งด้านในค่อนข้างกว้างขวาง คนที่เคยเดินที่ห้างนี้ก็พอจะรู้บ้าง จริงๆแล้วคนที่ไม่คุ้นเคยกับห้างนี้มักจะหลงทางกันได้ง่ายๆ ประกอบกับมีการยุบตัวมากขึ้น ทำให้หายากเพิ่มไปอีก มนุษย์สามารถหาทางออกไปได้จากภาษาอังกฤษที่อยู่บนกำแพง แต่พวกสัตว์ร้ายคงหาทางได้ยาก
“แล้วถ้ามันเข้ามาได้ล่ะ?”
“งั้น…” ไกด์เฉินพูด
เจียงซิ่วส่ายหัวเบาๆ ก่อนจะพูด “เข้ามาได้แล้วต่างหาก”
สัตว์ร้ายที่อยู่รอบๆ เอาที่ตั้งของพวกเขาเป็นศูนย์กลางก่อนจะหาทางเข้ามา น่าจะรู้ที่ตั้งพวกเขาแล้วแน่ๆ
“นายควรจะเลิกทำให้คนที่นี่กลัวได้แล้วนะ เมื่อกี้ฉันเกือบจะแย่งมาได้แล้วแท้ๆ” หลี่เยียนพูดด้วยน้ำเสียงโกรธจัด
เสียงของสัตว์พวกนั้นเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวรอบๆ ก็เต็มไปด้วยแสงสีเขียวราวกับแสงจากนัยน์ตาหมาป่ายามค่ำคืน นั่นเป็นแววตาของสัตว์ประหลาด พวกมันเหมือนกับหมาป่าที่สามาถมองหาเหยื่อในตอนกลางคืนได้
“นั่น..นั่นมันอะไรน่ะ?” เสียงของหลี่เยียนสั่นเครือ
“สัตว์ประหลาด!”
เจียงซิ่วโยนไฟแช็กไปที่กองป้ายโฆษณาก่อนไฟจะลุกขึ้น แสงไฟทำให้ทั้งห้างสรรพสินค้าสว่างขึ้น เมื่อมองไปรอบๆ ชั้นบน ชั้นล่าง บนบันไดเลื่อนหรือแม้แต่บนโคมไป ล้วนเต็มไปด้วนสัตว์ประหลาด มีมากมายหลายสิบตัว
“ตายแน่!”
หลี่เยียน บอดีการ์ดและกลุ่มไกด์หน้าซีดไปตามๆกัน
จบเห่แน่!
“ครืกก!”
หนึ่งในนั้นเดินเข้ามาใกล้ นี่เป็นครั้งแรกที่เจียงซิ่วเห็นสัตว์ประหลาดตัวนี้ ตัวสูงใหญ่ แตกต่างกับสัตว์ของทวีปการต่อสู้นิรันดร์ รูปร่างเหมือนสิงโตแต่มีเกล็ด หางลอยอยู่กลางสายลม
“สัตว์ร้ายระดับนี้ พลังเกิน 1000 แน่….”
“มันมีเท่าไหร่?” ไกด์เฉินถาม
“3361”
คนที่ได้ยินต่างพากันพูดไม่ออก พลังรบ1000 ถ้าร่วมมีกันล่ะก็คงมีโอกาสอยู่บ้าง สามพันกว่าเนี่ย ไม่มีแม้แต่ความหวังเลย
“ทำยังไง ทำยังไงดี?” ใบหน้าของหลี่เยียนไม่มีแม้แต่สีเลือด
“ครืกกก!” พวกสัตว์ร้ายคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง สัตว์ร้ายตัวอื่นๆก็พากันคำรามตามมาราวกับโกรธแค้นก่อนจะมุ่งมายังเจียงซิ่วและคนอื่นๆ
แก้แค้น พวกมันต้องการแก้แค้นให้กับพวกที่ตายไป
มองไปยังสัตว์ร้ายที่โผเข้ามาเพื่อที่จะฆ่า เจียงซิ่วเดินไปเพียงคนเดียวทำให้คนอื่นๆ ต่างตกใจตะโกนเรียกเขา ไกด์ตะโกนเรียกเสียงดัง “จะสู้กับพวกมันหรือไง?” ก่อนยื่นมืออกไปหยิบมีดที่อยู่ด้านหลังออกมา
บอดีการ์ดของหลี่เยียนหยิบปืนออกมาก่อนจะยิงออกไป ปัง ปัง ปัง แสงสาดออกไป สัตว์ร้ายตัวหนึ่งที่อยู่กลางอากาศโดนตีจนหล่นลงมา นั่นเป็นการกระตุ้นให้สัตว์ตัวอื่นๆตื่นตกใจมากขึ้นไปอีก
จากซากปรักหักพังออกไปไม่ไกล หนานกงโควเออกำลังพักกับอยู่คนสิบกว่าคน ได้ยินเสียงปืนดังมาจากที่ไกลๆ ทันใดนั้นก็ตื่นลุกขึ้นนั่งทันที ชายชุดลายพรางพูดขึ้น “นั่นมันเสียงปืน วันนี้มีสัตว์ประหลาดโดนฆ่าไป นี่จะรวมกันโต้กลับ โชคร้ายชะมัด”
“ต้องเป็นห้างที่อยู่ด้านหน้านั่นแน่”
“เอากล้องส่องทางไกลมาให้ฉัน….” หนานกงโควเออพูด เธอหยิบกล้องส่องทางไกลออกมาก่อนส่องไปยังซากปรักหักพังนั้น เธอส่องกล้องทางไกลไปยังด้านในของห้างสรรพสินค้าเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีแสงจากปืนออกมา “จำนวนน่าตกใจเหมือนกัน ประมาณห้าหดสิบตัวเลย”
“ห้าหกสิบตัว ถ้าอย่างงั้นต้องเป็นสัตว์ร้ายที่มีระดับ มันเกินความสามารถของพวกเราแล้ว”ชายคนที่อยู่ด้านหลังพูดขึ้น “ก็ทำได้แค่อยากช่วยล่ะนะ”
“คุณหนู พวกเราจะอยู่ที่นี่หรือจะย้ายที่?”
“ย้ายที่…”จู่ๆคำพูดของหนานกงโควเออก็หยุดลง หัวใจของเธอเต้นอย่างรุนแรง ตาของเธอหยุดอยู่ชายคนหนึ่งที่อยู่กลางวงล้อมของสัตว์พวกนั้น เธอไม่กล้าที่จะเชื่อเลยอยากจะเห็นให้ชัดอีกเสียหน่อยว่านั่นเป็นตระกูลนั้นจริงๆ “เขา…เขาทำไมมาที่นี่ โง่เอ้ยย คนดีๆที่ไหนจะเข้าเมืองฮากัน ไม่รักชีวิตหรือไง….”
“เร็ว รีบไปช่วยคนที่นั่น!”
เมื่อคนในทีมได้ยินก็ชะงักไปสักครู่ “คุณหนู ที่นั่นมันสัตว์ประหลานเยอะเกินไป แถมยังมีสัตว์ประหลาดระดับอื่นอีกเกินความสา….”
“ไปช่วยคนกับฉัน!”
หนานกงโควเออกระโดดขึ้นไป ก่อนจะกระโดดลงจากบ้านสูงสามชั้นลงไปด้านล่าง ร่างกายเบาเหมือนขนนก เมื่อลงมายังซากปรักหักพังของผนังชั้นสองจนถึงพื้นก่อนจะไปถึงปลายทาง
“คุณหนู!”
“รีบตามมาเร็ว!”
คนอื่นในทีมไม่มีทางเลย นอกจากพวกเขาต้องฝึกวิชา แต่ก็ต้องคุ้มครองหนานกงโควเออด้วย ได้แต่กระโดดตามลงตามรอยของหนานกงโควเออ