Girl, I’ll Teach You Cultivation – ฉันจะสอนเธอบ่มเพาะเอง - ตอนที่ 333
บทที่ 333 ท้ายที่สุด
#ตั้งแต่บทนี้ไปเป็นงานแปลจากจีนมาก … เนื้อหาบางส่วนอาจจะแตกต่างไปจาก eng น้าาาา
เจียงซิ่วส่ายหัวก่อนจะพูด “ดูเหมือนว่าความพ่ายแพ้ของเซียวหยวนฉานจะออกมาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น พลังของเขายังด้อยกว่าฝ่ายตรงข้าม โอกาสที่จะชนะนับว่ามีน้อยมาก พวกคุณได้เงินจากที่นี่เยอะแล้ว ออกไปจากที่นี่ได้แล้ว อย่าเอาชีวิตไปเสี่ยงจะดีกว่า”
ไกด์เฉินแลกเงินมาด้วยแรงกายแรงใจอย่างเหน็ดเหนื่อย แต่เขาก็ค่อนข้างรับผิดชอบต่อคนอื่นอยู่พอสมควร น่าเชื่อถือมากเลยทีเดียว ตอนนี้คนในสังคมยังคงทำอะไรแบบลวกๆ เขาตั้งฐานที่มั่นและหาเส้นทางหนีไว้แล้ว เจียงซิ่วรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ใช้ได้เลย เพราะแบบนี้ถึงโดนชักชวนได้ง่าย
สมบัติของฟ้าและดิน ที่นี่ต้องยังมีอยู่แน่ๆ แต่คงไม่มาง่ายๆเหมือนในตำนานปกรณัมแน่ๆ แต่ต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะได้มา นั่นคือผลของการต่อสู้มาตลอดสามพันปีของเขา
แต่ไกด์เฉินก็ยังไม่แม้แต่จะเปิดปาก หลี่เยียนพูดขึ้น “ฉันมีกล้องแต่ก็ยังมองไม่เห็นเลย นายไม่ได้มองด้วยกล้องด้วยซ้ำ ทำไมถึงมองเห็น? อย่ามาพูดพร่อยๆ นะ”
“ฉันเห็นนายพูดเหมือนอยากให้พวกเราออกไปจากที่นี่ ไม่อยากให้พวกเราไปเจอสมบัติของตระกูลอย่างไงอย่างนั้น ฝันไปเถอะนะ”
เจียงซิ่วพูดไม่ออก
“พวกคุณเป็นคนแผ่นดินใหญ่ หน้าเนื้อใจเสือแบบนี้มีเยอะสินะ”
ไกด์เฉินไตร่ตรองก่อนจะพูดออกมา “รอก่อน พวกเราไม่กี่คนพี่น้องนี่ก็จากบ้านมาก ตายไปเกือบครึ่ง เงินยังไม่พอจะแบ่งกันเลย มองยังไงก็ไม่มีโอกาสหรอก”
เงาของคนคนหนึ่งอยู่ไม่ไกลจากห้องใต้หลังคาที่รกร้าง ตอนนี้ที่นี่กลายเป็นที่ปลอดภัยไปแล้ว พวกสัตว์ต้องไปที่บนภูเขาหรือไม่ก็น่าจะอยู่รอบนอก แต่ขนาดของคนก็แตกต่างกับพวกสัตว์อยู่มากพอตัว ง่ายต่อการรับรู้และไม่มีอะไรน่าตกใจมาก
การต่อสู้บนภูเขานั้นเริ่มดุเดือดและรุนแรงขึ้น เซียวหยวนฉานต่อสู้เพื่อโต้กลับ เขาระเบิดพลังครั้งสุดท้ายของเขาออกมา ดวงตาของเขากลายเป็นสีแดงฉานและรุนแรง ในลำคอเปล่งเสียงออกมาเสียงดัง
ที่เหลียวตงมีวิธีการพูดแบบหนึ่ง บอกว่าเซียวหยวนฉานจริงๆ แล้วเป็นลูกครึ่งระหว่างคนจีนกับรัสเซีย แต่ก็มีคนพูดว่าเซียวหยวนฉากจริงๆ แล้วนั้นเป็นเสือ ว่ากันว่าเสือตงเป่ยออกมาจากหิมะสีขาว
ความเห็นที่แตกต่างกันนี้ก็มีแค่ระยะสั้นๆ เท่านั้น ต้นกำเนิดที่ลึกลับแบบนี้ หลังจากสงครามที่วุ่นวานตอนนั้นจนถึงตอนนี้ ไม่นานก็มีชื่อเสียงเรียงนามออกมา คือผู้แข็งแกร่งที่อยู่ใต้ดินเหลียวตง
“ครืกกก ครืกก….”
เสียงคำรามกระหึ่มนี้เหมือนราวกับเสือภูเขา เขาโต้กลับอย่างรุนแรง
“สัตว์ตัวนั้น กำลังมาแล้ว!”
ผิวของและมัดกล้ามเนื้อถูกย้อมด้วยเลือด ทั้งดุร้ายและน่ากลัวเป็นอย่างมากและกำลังวิ่งตรงมา แสงที่มาจากดวงตาของเขาเมื่อผ่านไปทางไหน ลมแรงก็พัดจนต้นไม้ใบหญ้าราบเป็นหน้ากอด
“พวกมนุษย์ที่โง่เขลา! ครืกกกก….”
ราชาสัตว์ส่งเสียงคำรามที่หน้ากลัวออกมาอีกครั้ง ความเร็วของมันยังคงเร็วกว่าของเซียวหยวนฉานแถมร่างกายก็ใหญ่ขึ้น
บึม!
กองกำลังทั้งสองไม่ได้ปะทะกันจริงๆแต่เป็นกระแสลมต่างหากที่ทำให้เกิดเสียงนั่น แรงเสียดทานที่รุนแรงนั้นยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แรงระเบิดทำให้เสียงดังกังวานแทรกเข้ามาในหู
“พระเจ้าช่วย!”
อู่ซิ่วเหมินมองเห็นภาพแบบนั้นเกิดขึ้น ทำให้ใจของเขารู้สึกอธิบายไม่ถูก นี่ยังเป็นการต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับสัตว์ร้ายแน่หรือ? นี่มันเหมือนกับสงครามเทพเจ้าแล้วนะ
บึม
เงาของคนๆหนึ่งพุ่งออกมาจากแสงจ้า มองจากรูปร่างแล้วนั่นคือเซียวหยวนฉาน แต่ฝ่ายตรงข้ามที่เป็นราชาสัตว์ก็ได้รับผลกระทบบ้างแล้ว
“ไม่ดีแน่!”
สีหน้าของผู้บัญชาการเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด วีดีโอที่ได้มาจากดาวเทียมดูไม่ชัดเจนแต่ก็ยังเห็นส่วนมากได้อยู่ ยิ่งถูกกระแทกยิ่งเหมือนโดนฆ่า เซียวหยวนฉานตกลงไปในสายลม ความแข็งแกร่งของราชาสัตว์นั้นเกิดกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการไปมาก
“นายครับ เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่!” คนที่อยู่ด้านข้างของเขาหน้าซีดเผือก
“ใช่ครับ หัวหน้าพวกเราจะวางเดิมพันทั้งหมดไว้กับเซียวหยวนฉานไม่ได้แล้วนะครับ” คนอีกข้างหนึ่งพูดให้คล้อยตาม “พอเซียวหยวนฉานพ่ายแพ้ แน่นอนว่าต้องโดนมันฆ่าตายที่นั่นแน่ๆ แถมยังมาแก้แค้นพวกเรามนุษย์อีก ถึงตอนนั้นไม่ต้องพูดถึงเมืองฮาเลย เมืองรอบๆเมืองฮา หรืออาจจะไปถึงเหลียวตง….”
เขาไม่กล้าที่จะพูดออกมาเพราะผลลัพธ์แบบนั้นมันน่ากลัวเกิดไป
“งั้นแกคิดว่าควรจะทำยังไง?” ผู้บัญชาการพูด
ตอนนี้ได้แต่หวังให้เซียวหยวนฉานสู้ได้เท่านั้น มันไม่มีวิธีอื่นอีกแล้ว
“ขนาดเซียวหยวนฉานยังชนะไม่ได้ แล้วใครจะชนะมันได้?”
“ผมเคยได้ยินอาจารย์เซียวพูดถึงอยู่ครั้งหนึ่ง เขาชื่นชมคนๆ หนึ่งอยู่ เขาพูดอยู่สองครั้งว่าเซียวหยวนฉานไม่จำเป็นต้องเป็นคู่ปรับกับคนนี้”เสนาธิการคนนั้นพูด
“ใคร?”สายตาของผู้บัญชาการวาวขึ้นมา
“เจียงโหลวเซี่ยแห่งเจียงหนาน เขาได้ชื่อว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศ”เสนาธิการตอบ
“คนที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศ?”ผมของผู้บัญชาการอาวุโสล้วนเป็นสีขาว จริงๆแล้วไม่ค่อยมีใครรู้เรื่องใต้ดินมากเท่าไหร่ นั่นก็เพื่อความแม่นยำของข้อมูล มันเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ อย่างไรก็ตามการที่เซียวหยวนฉานชนะสัตว์ร้ายตนนั้นก็ทำให้เรื่องพวกนี้เปลี่ยนไป “งั้นจะรออะไรล่ะ ทำไมไม่รีบไปพาเขามาช่วย?”
“สมยานามเจียงโหลวเซี่ยผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศ เป็นคนที่น่านับถือมาก ไม่ใช่คนที่จะเชิญมาง่ายๆ แต่ผมเคยได้ฟังคนที่เคยเรียนด้วยกันที่เมืองหลวง ฝั่งไต๋ยัวไท๋อยากให้เขาเข้าร่วมตำแหน่งสำคัญในกองทัพ เกรงว่าจะส่งคำเชิญให้เขาผ่านกลาโหมทั่วไป” เสนาธิการพูด
“ทำไมไม่พูดให้เร็วกว่านี้….”
หัวหน้ากองทัพได้ติดต่อกับนายพลทหารทันที ในความเป็นจริงมีคนจำนวนมากในกลาโหมทั้งหมดที่ให้ความสนใจกับสถานการณ์นี้ เมื่อได้รับการของร้อง กองกำลังก็ติดต่อหวังซินตงทันที
ตอนนี้เที่ยงคืนแล้ว ที่เมืองฮายังคนรบอยู่ แต่เจียงหนานนั้นยังคงสงบไม่มีภัย แต่ตอนนี้ยังเป็นช่วงปีใหม่อยู่ทำให้ทุกคนยังคงดื่มด่ำกับบรรยากาศรื่นเริง
หวังซินตงนี่อาจจะยังไม่หลับ คงกำลังคุยอยู่กับหวังเสว๋ฉางและครอบครัว เมื่อรับโทรศัพท์หวังซินตงก็กังวลอยู่ไม่น้อย เพราะว่าเธอไม่สามารถติดต่อกับเจียงซิ่วได้
“หัวหน้าหวัง เรื่องที่เมืองฮานี่ร้ายแรงถึงความเป็นความตาย ยังไงก็ต้องตามหาคุณเจียงให้ได้”
หวังซินตงรีบวิ่งกลับเข้ามาในห้อง “ฉันยังติดต่อไม่ได้ เขามักจะหายไปแบบนี้บ่อยๆ”
“การหายไปเฉยๆ ของคุณเจียงต้องไม่ใช่เรื่องเล่นๆ คุณรีบหาวิธีเถอะ”
“ได้!”
หวังซินตงได้ติดต่อสายการบินทันทีเพื่อตรวจสอบบันทึกการบิน เครื่องบินอยู่ที่สนามบินเหลียวตง “เขาไปทำอะไรที่เหลียวตง หรือว่าจะไปที่เมืองฮ๋า ไม่น่าเป็นไปได้ ถ้าเขาไปเมืองฮาจริงๆทำไมเขาไม่บอกฉันล่ะ?”
“มีอะไรหรอ?” หวังเสว๋ฉางถาม
หวังซินตงติดต่อกับกรมตำรวจเพื่อให้หาที่ตั้งของโทรศัพท์และเจียงซิ่ว แต่ผลปรากฏว่าเขาปิดโทรศัพท์ ไม่มีวิธีที่จะหาได้เลย “เรื่องที่เมืองฮาหนักมาก มันอยู่นอกการควบคุมไปแล้ว กระทรวงกลาโหมอยากให้คุณเจียงไปช่วย มันใกล้เข้ามาแล้ว”
“คุณเจียงไม่ยอมช่วยหรือไง?”
หวังซินตงส่ายมือปฏิเสธ “ตอนนี้ฉันยังหาเขาไม่เจอ”
เรื่องที่เจียงซิ่วกลับมาเจียงเฉิง ทั้งเจียงเฉิงก็พูดกันไปทั่วเมือง หลายคนกำลังนั่งอยู่และเตรียมพร้อมสำหรับงานเลี้ยง ทำไมอยู่ดีๆ ถึงไม่เห็นแม้แต่เงา ขนาดลูกของเขายังหาไม่เจอ แล้วใครจะไปหาเจอกัน
หัวหน้ากระทรวงกลาโหมโทรมาอีกครั้ง “หัวหน้าหวังหาคุณเจียงเจอหรือยัง?”
“ขอโทษด้วย ฉันยังหาเขาไม่เจอเลย แต่เขาน่าจะอยู่ที่เหลียวตงเพราะตอนนี้เครื่องบินอยู่ที่สนามบินเหลียวตง เขาอาจจะไปที่เมืองฮาได้”
“คุณแน่ใจนะ?”
หวังซินตงไม่กล้าที่จะรับประกัน เรื่องใหญ่ขนาดนี้เธอจะมาพูดไปเรื่องไม่ได้ “ฉันแค่คาดเดา เขาอาจจะอยู่ที่เหลียวตงเพื่อทำเรื่องอื่นอยู่ก็ได้”
เหลียวตงมีสามเขต พื้นที่ก็ใหญ่ขนาดนั้น ใครจะรู้ว่าเจียงซิ่วอยู่ที่ไหน
“ขอโทษครับ!”
ข่าวจากสำนักงานใหญ่เหลียวตงได้ส่งข่าวมาให้สำนักงาน หาเจียงโหลวเซี่ยไม่พบคงได้แต่พึ่งตนเองแล้วล่ะ
“เป็นไงบ้างครับผู้บัญชาการ?”
ผู้บัญชาการส่ายหัว “ไม่มีใครหาเจอ! คนเหล่านี้โอ้อวดมากเป็นทั้งคนที่แข็งแกร่งที่สุดของประเทศ พออยากจะใช้เขาจริงๆ ก็หดหัวอยู่ในกระดองเลย”
ทั้งสำนักงานเงียบลง
โอกาสสุดท้ายของเขาหายไปแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นทำยังไงดี คงจะยากที่จะมองสัตว์นั่นฆ่าเซียวหยวนฉาน ฆ่ามนุษย์?”
ชายกลางคนใส่แว่นพูดกับเสนาธิการ “ตอนนี้มีเพียงทางเดียวเท่านั้น นิวเคลียร์!”
“อะไรนะ?”
ผู้บัญชาการถลึงตา แว่นตาเกือบหลุดลงมา
“แกรู้ตัวไหมว่าพูดออกไรออกมา? ที่นี่มีคนตั้งมากมาย อยากให้พวกเขาถูกฝังที่นี่หรือไง ยังมีพื้นที่เมืองฮานี่อีก ยังไงก็ไม่มีทางใช้ชีวิตได้แน่หลังจากที่ใช้นิวเคลียร์น่ะ
“ผมรู้ดี แต่ผบ.ครับ เราไม่มีทางอื่นแล้วจริงๆ เซียวหยวนฉานก็ดูเหมือนจะแพ้ การสังหารหมู่มันใกล้เข้ามาแล้ว ถึงยังไงมันก็ต้องฆ่าทุกคนอยู่ดี ก็ทำให้มันกลับมาโต้เมืองของพวกเรา ทำให้เมืองรอบๆเป็นเหมือนเมืองฮา คุณจะไม่เสียใจทีหลังหรือ?” เสนาธิการพูด
สายตาของผู้บัญชาการนิ่งไปชั่วขณะ แต่ความรู้สึกของเขาค่อยๆเปลี่ยนไป ถ้าเป็นแบบนั้นไม่มีใครที่จะยอมให้ใช้นิวเคลียร์แน่ เขากระพริบตาอยู้นานพอสมควร “เดี๋ยวฉันติดต่อสำนักงานใหญ่เอง”