Girl, I’ll Teach You Cultivation – ฉันจะสอนเธอบ่มเพาะเอง - ตอนที่ 370
ตอนที่ 370 คนแปลกหน้า
ที่นั่งเจ็ดที่ของไต๋ยัวไท๋มารวมตัวกัน ข้างนอกยังมีไว้เผื่ออีกสิบกว่าตัว รวมไว้ด้วยกัน “กู่เต่อคังเป็นอะไร ถึงกล้าระดมกำลังทหารไปปิดเจียงหนานตามอำเภอใจแบบนี้ ช่างบุ่มบ่ามจริงๆเลย”
ชายวัยกลางคนพูดด้วยหน้าตาจริงจัง “เจียงหนานส่งข้อความมาว่า คุณเจียงโกรธมาก”
ข่าวที่เจียงลั่วเซี่ยมีชีวิตอย่าแว่วมา ไต๋ยัวไท๋ก็ประหลาดใจอย่างมาก
คนแซ่เย่ใบหน้าโกรธขึง “เขากลับมาทำไมไม่บอกไต๋ยัวไท๋ มีเรื่องอะไรก็ต้องปรึกษากัน ใช้วิธีการที่รุนแรง ส่งผลร้ายมากมาย ยังสงสัยโลกนี้วุ่นวายยังไม่พออีกเหรอ”
ตอนที่พูดคำนี้ ในใจไม่มั่นใจเท่าไหร่
หลังจากที่เจียงซิวตายแน่นอนว่าสมบัติก็ต้องกลับไปอยู่ที่ครอบครัวของเจียงซิว หลังจากสร้างคุณประโยชน์ ได้รับเกียรติยศอำนาจนั่นก็สมเหตุสมผลแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเดิมทีก็เป็นสิ่งที่เจียงซิวมี แม้ว่าจะไม่สามารถสืบทอดได้ทั้งหมด สอบทอดบางส่วนก็เป็นขึ้นต่ำสุดแล้ว มีเสื้อผ้าอาหาร แต่เมื่อตระกูลจูเก๋อทำร้ายเจียงซิว ไต๋ยัวไท๋เห็นแต่ทำเป็นไม่เห็น ทำให้เจียงซิวมีปัญหากับไต๋ยัวไท๋
ยังมีอีกเรื่อง ในตอนแรกไต๋ยัวไท๋ก็ไม่ได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเจียงซิว กู้เต๋อจรือลงไปแล้ว ยังปล่อยศัตรูของเจียงซิวตระกูลจูเก๋อ นี่มันใจกว้างจริงๆ
ธนูเฟยเหนี่ยวที่ซ่อนความอุบบาทว์ไว้ถูกเปิดเผยออกมา
ในตอนนั้นนายใหญ่พยายามแล้ว แต่สนับสนุนคนตาย แน่นอนว่าไร้ประโยชน์ ไต๋ยัวไท๋ไม่ใช่ที่หนึ่ง โดยเฉพาะหลังจากที่ซืออู๋เสียออกปากสนับสนุนตระกูลจูเก๋อให้เข้าร่วมกับเจียงซิว คนที่สนับสนุนตระกูลจูเก๋อมีมากแล้ว ผลลัพธ์สุดท้ายแน่นอนว่าตระกูลจูเก๋อเข้าร่วมกับเจียงหนาน และแน่นอนนที่ก่อตั้งมาแต่ดิมถูกทอดทิ้ง กู้เต๋อจรือก้ไม่สามารถเลื่อนขั้น จนกระทั่งกลุ่มของเจียงซิวสูญเสียอำนาจและสลายกำลังไปในที่สุด
แต่ใครจะคิด เจียงซิวมีชีวิตกลับมา และยังก่อความวุ่นวายยกใหญ่
“คุณเจียงโกรธแล้วจะทำไม ไม่ชนะแล้วยังคิดจะโต้ตอบยังไงก็ไม่ชนะ เขาไม่กลัวทำให้อู๋เสียกงโกรธแล้วออกกมาจัดการกับเขาเหรอ” ชายคนนี้ก็โกรธมาก
นายใหญ่พูด “ข่าวของคุณช้าแล้ว สาแหตุที่เรื่องราวปะทุคือ ซืออู๋เสียถูกคุณเจียงฆ่าตาย”
หะ คนๆเดียวที่ททำให้คลื่นมันใหญ่
“อะไรนะ?”
ในสนามล้วนเป็นคนที่มีกำลังความสามารถของจีนในตอนนี้ นานแล้วที่ทั้งเป็นเกียรติและเสื่อมเสีย แต่เวลานี้ที่ได้ยินข่าว ก็ตกใจมากจริงๆ
“ซืออู๋เสียถูกฆ่าแล้ว!?”
ยากที่จะคิดถึง ซืออู๋เสีย นั่นคือเทพที่ส่องแสงในจีนตั้งแต่สงครามทั้งที่สอง คาดไม่ถึงว่าจะถูกฆ่าแล้ว นั่นไม่ใช่เทพเจ้าเก่าแก่หรอกหรือ? เขาตายได้ด้วยหรือ?
“เจียงลั่วเซี่ยเขาทำไมถึงกล้า” ในสายตาเขา ซืออู๋เสียคือเทพที่ปราบปรามจีน ฆ่าเขาขัดต่อคุณธรรม ทำลายความโชคดีของประเทศ จริงๆแล้วมันเป็นบาป “ไม่มีภาพรวมความคิด ไม่มีภาพรวมความคิด จีนสามารถพัฒนาอย่างราบรื่นมาครึ่งศตวรรษ อู๋เสียกงไม่พูดไม่จาอะไรเกี่ยวกับความสั่นสะเทือนรอบๆ เขาทำไมถึง…”
ยังเหลือแค่พูดว่าเจียงซิวซื้อประเทศแล้ว แต่ไม่คิดเลย ตอนที่ตระกูลจูเก๋อทำร้ายคนรักทั้งสองของเจียงซิวนั้น ไต๋ยัวไท๋ก็ไม่พูดอะไร ไม่ใช่เพราะว่าไม่มีประโยชน์แล้วหรือ ถึงปฏิบัติต่อญาติพี่น้องของผู้มีบุญคุณเช่นนี้ เคยนึกถึงคุณธรรมบ้างไหม
“สรุปตอนนี้ต้องจัดการยังไง?”
นี้ถึงเป็นจุดสำคัญของคำถาม
นี่เป็นเรื่องที่น่ารำคาญ เรื่องราวใหญ่เกินไปแล้ว ไม่จัดการคาดว่าคงพูดออกไปไม่ได้ แต่ถ้าจัดการ ใช้ความแข็งแกร่งของเจียงลั่วเซี่ย ไม่รู้ว่าจะก่อกวนไปยังไง นอกซะจากว่าจะพัฒนาไปจนถึงระดับที่เก็บกวาดไม่ได้
“เรื่องนี้มีอะไรให้ต้องพูดคุย ต้องจัดการอย่างเข้มงวด” คนแซ่เย่หนักแน่นมาก
“ใช่!”
ด้านบนมีคนคล้อยตาม ศูนย์กลางหลายๆคนมีทัศนคติแบบนี้ ใช้กองทัพ ปิดทางเข้าออกเจียงหนาน นี่เป็นการจำกัดอิสระของคนในเจียงหนานนับร้อยคน ยังมีการค้าขายสินค้าระหว่างประเทศ ครั้งนี้สูญเสียไปแล้วเท่าไหร่
นายใหญ่พูด “ท่านเคยพิจารณาไหม ผลลัพธ์ของการจัดการเจียงลั่วเซี่ย คาดว่าทุกคนอาจจะลืมไปแล้วว่าเขาคือใคร ต่างประเทศล้วนหวาดกลัวคนที่แข็งแกร่งคนแรกของจีน และเมื่อสักครู่เขายังฆ่าซืออู๋เสีย”
แซ่เย่พูด “แล้วยังไง ยังไม่ถูกควบคุมอีกเหรอ ถ้าไม่เห็นด้วย ก็ให้ทั้งจีนทำสถิติ ใช้อิทธิพลของประเทศเรา เขาก็จะกลายเป็นผู้ร้ายที่ทั้งโลกออกหมายจับ ผลลัพธ์แบบนี้จะสามารถรับได้ไหม”
นายใหญ่ถามกลับ “ถ้าเขากล้าจริงๆล่ะ คนที่แม้แต่อาวุธนิวเคลียร์ก็ฆ่าไม่ตายอย่างเขา จะทำอะไรได้ ที่น่ากลัวไปกว่านั้นคือในมือของเขายังมีอาวุธ”
คำเดียวปลุกคนให้ตื่นจากฝัน ใบหน้าของทุกคนล้วนเปลี่ยนสี
ในมือของเจียงลั่วเซี่ยมีอาวุธ มีทะเลทราย ตอนนี้กู่เต่อคังกลายเป็นลูกน้องของเขา ถ้าหากเขาไม่เชื่องล่ะ ผลลัพธ์ที่ได้คงไม่น่าคิดถึง
ยังมีจังหวัดหัวตงอีกเหรอ
จังหวัดหัวตงถูกครอบครองโดยคนเถื่อนอย่างป๋ายจวง รัฐบาลได้รับความกดดันอย่างมาก เดิมทีต้องการใช้อาวุธนิวเคลียร์ แต่ประชาชนของหัวตงมีมากเกินไป ใครกล้าทำคงถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ว่าเป็นคนร้าย นี่ก็เป็นความอัจฉริยะของป๋ายจวง เขาไม่ได้พูดเกี่ยวกับการปกครองของหัวตง พวกเราคนเถื่อนมาแล้วพวกคุณที่เป็นคนก็รีบออกไปซะ แต่ทุกคนกำลังมองหาวิธีที่จะอยู่ร่วมกัน ต่อมาหนึ่งปีครึ่ง ระยะเวลาเหมาะสม เล่ากันว่าตอนนี้เทพของหัวตงกำลังแข็งแกร่งน่ากลัว นั่นเพราะว่าไม่หยุดที่จะปะทะกับคนเถื่อน
แซ่เย่พูด “ฉันยังมีความคิดเห็นให้ลงโทษเจียงลั่วเซี่ยอย่างหนัก พวกเราไม่สามารถก้มหัวให้คนชั่วร้ายได้ ยิ่งก้มหัว สิทธิของพวกเรายิ่งถูกแย่งไป”
ในเหตุการณ์หลายคนพูดว่า ในตอนแรกที่ซืออู๋เสียต้องการให้ตระกูลจูเก๋อข้าร่วมกับเจียงซิวนั้น บีบให้ประเทศต้องยอมศิโรราบ ทำไมคุณไม่พูดคำนี้ ยังไม่ทำให้เกิดประโยชน์ พูดตอนนี้มันชัดแจ้งไป ใครไม่รู้ความสัมพธ์ของคุณกับตระกูลจูเก๋อ
ในตอนนี้เจียงหนานมีชื่อเสียงในวงสังคม เหมือนลมฝนที่พัดปลิว
เฉิงหลิงหรานมองไปที่เจียงซิวที่สง่างามเหมือนเทพ ไม่มีจุดไหนที่ไม่ปรากฏความงามออกมา มองไปที่เท้าเขา ตรงไหนผิดปกติ เมื่อสักครู่น่าเกรงขามมาก พลังนั้น ทำให้เฉิงหลิงหรานได้เห็นผู้ยิ่งใหญ่มีบุคลิกเป็นยังไง ตอนที่สั่งคำสั่งนั้น ทั่วทั้งเจียงหนานสั่นสะเทือนอยู่ใต้ร่างของเขา ตรงไหนเสีย ตรงไหนพิการ ตรงไหนน่าสงสาร ตรงไหนต้องการให้ตนเองปลอบโยน ให้กำลังใจ
เดิมทีเขาก็เป็นพวกหลอกลวงตั้งแต่หัวจรดเท้า ถ้าพูดว่า ที่เจียงซิวปลอมตัวทั้งหมดเพื่อจัดการกับศัตรูที่ทรงพลังพวกนั้น แม้แต่เธอก็ยังปิดบัง เธอไม่มีอะไรให้ต้องไม่พอใจ แสดงละครต้องแสดงให้สุด หลอกตัวเองได้ถึงจะสามารถหลอกคนอื่นได้
แต่ปัญหาตอนนี้คือ เจียงซิวใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้เอาชนะความรู้สึกของตนเอง กำจัดความไร้เดียงสาของตนเองออกไป นี่คือสิ่งที่มีค่าของผู้หญิงคนหนึ่ง นี่คือการหลอกลวงที่เปลือยเปล่า
“นั่นอะไร หรานหรานฟังฉันอธิบายก่อน”
เฉิงหลิงหรานแววตาสลดใจ “เจียงซิว….” เธอหยุดคำพูดของเจียงซิว ทำให้เจียงซิวรู้สึกไม่ค่อยดี เฉิงหลิงหรานไม่เคยเรียกชื่อเต็มของเขามาก่อน ต้องเป็นเรื่องไม่ดีแน่ๆ “ไม่ได้ต้องการให้นายอธิบาย เรื่องมันชัดเจนอยู่แล้ว นายพิการเหรอ?”
เจียงซิวพูด “เรื่องนี้ เหมือนไม่…..”
ไม่ใช่ว่าผู้หญิงเป็นสัตว์ที่การมองเห็นดีเหรอ เขาที่ตอนนี้ร่างกายกลายเป็นเทพ เพียงแค่สวยไร้ที่ติ เชื่อว่าผู้หญิงคนไหนเห็นจะต้องละสายตาไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นคือความรู้สึกลึกๆของตนเอง เฉิงหลิงหรานที่ยังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด แต่เขาคิดผิดไปแล้ว เฉิงหลิงหรานไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาจริงๆ
“ในเมื่อไม่พิการก็ดี งั้นก็ไม่ต้องให้ฉันปลอบนายแล้ว ความสัมพันธ์ที่ไม่ปรกติระหว่างเราก็ให้มันจบตรงนี้เถอะ เป็นแค่เพื่อนธรรมดา…..”
ใจของเจียงซิวจมดิ่งลงไป “ทำไม เธอคิดว่าฉันลงแรงไปมากขนาดนี้ เพื่อที่จะจัดการกับมดตัวน้อยอย่างตระกูลจูเก๋อซืออู๋เสียนะเหรอ หรือว่าจะเอาสิ่งที่ฉันสูญเสียไปคืนกลับมา กลับไปเป็นคุณเจียงแบบแต่ก่อน ไม่ใช่ ไม่ใช่ทุกอย่าง พวกนั้นสำหรับฉันมันไม่สำคัญ ฉันต้องการมอบสิ่งที่สวยงามให้เธอ ทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก”
เฉิงหลิงหรานยิ้มขึ้นมา แต่ความงบของรอยยิ้มนั้นทำให้คนใจกร้าว “ขอบคุณนะ แต่ฉันไม่มีโชคแบบนี้ และไม่ต้องการ เอาแบบนี้เถอะเจียงซิว ต่อไป นายก็เป็นคุณเจียงของนายต่อไป และฉันก็จะเป็นเฉินหลิงหรานของฉันต่อไป ดีที่สุดถ้าพวกเราติดต่อกันน้อยลง”
พูดจบเฉินหลิงหรานก็หมุนตัวเดินจากไป
ดวงจันทร์กลมโตบนท้องฟ้า ดวงดาวส่องแสงระยิบระยับ เมืองที่เจริญรุ่งเรืองดูคึกคัก แต่ทุกอย่างก็ดูเงียบเหงา เหงาจนทำให้ใจคนพังทลาย ทุกอย่างออกไปไกลจากเขา ใกล้แค่เอื้อมแต่เหมือนห่างกันสุดขอบฟ้า
เจียงซิวถาม “ทำไม?”
เฉิงหลิงหรานทิ้งคำพูดสุดท้ายไว้ “เพราะว่านายทำให้ฉันรู้สึกเหมือนคนแปลกหน้า!”
เจียงซิวอ้าปากอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่คำพูกลับติดอยู่ที่ลำคอ เขาคิดว่าตนเองทำอะไรตั้งมากมายสุดท้ายมันก็ไร้ประโยชน์ หวังซินตงเดินมายืนข้างๆเขา “จูเก๋อสือหนีไปแล้ว หนีไปทางช่องทางพิเศษ”