God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ - ตอนที่ 1906
ตอนที่ 1906
“ข้าเข้าใจแล้ว นี่คือแผนการของเขา ทั้งหมดนี้เป็นแผนการของไอ้ลูกหมากู้ที่!”
ผู้อาวุโสของนิกายสวรรค์ชั้นฟ้าที่ตะโกนออกมาเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “ในความเป็นจริงเจ้าบัดซบนั่นค้นพบดินแดนสีเหลืองนี้เป็นระยะเวลานานแล้วแต่เพราะว่าภาย ในดินแดนแห่งนั้นมีค่ายกลยับยั้งที่ทรงอํานาจอยู่รวมถึงเดม่อนที่น่าสะพรึงกลัว เขาจึงไม่มีทาง เลือกใดๆ”
“ดังนั้นเจ้าบัดซบนั่นจึงตั้งใจเปาประกาศออกมาทางอินเทอร์เน็ตเพื่อยั่วยุพวกเราทําให้พวก เราสูญเสียเหตุผล ตามมาล้างแค้นเขาจากนั้นก็พึ่งพาอาศัยพลังอํานาจของพวกเราในการทําลายค่ายกลยับยั้งของดินแดนแห่งนั้น อีกทั้งก็ยังใช้พวกเราเป็นเหยื่อล่อในการต้านทานบรรดาเดม่อนที่หลุดออกมาจากผนึกของดินแดน สุดท้ายเจ้าเด็กนั่นก็ใช้โอกาสนี้ในการปล้นชิงดินแดนไป ครอบครองผลทารกน้อยแต่เพียงผู้เดียว”
“พวกเราต่างก็หลงกลเจ้าเด็กนั่นกลายเป็นหมากในกระดานของเจ้าเด็กนั่นอย่างสมบูรณ์ การที่พวกเราทุ่มเทพยายามมาทั้งหมดนี้สุดท้ายก็เป็นการช่วยให้เจ้าเด็กนั่นได้ครอบครองผลประ โยชน์ไปทว่าพวกเรากลับไม่ได้มาแม้กระทั่งผายลมด้วยซ้ํา นอกจากนี้ก็ยังเผชิญกับความเสียหายอย่างรุนแรง”
เขาคํารามออกมา มีสีหน้าที่มืดมนอย่างถึงที่สุดปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆจนได้ผลลัพธ์เช่น นี้ออกมา
“เจ้าปีศาจร้าย ช่างยโสโอหังอย่างถึงที่สุดเห็นพวกเราเป็นอะไรกันไม่คาดคิดว่าจะเห็นพวก เราเป็นหมากในกระดานของเขาหลอกลวงพวกเราจนหัวหมุน ช่างล้ําเส้นเกินไปจริงๆ ล้ํา เส้นเกินไป อ้ากก!”พระผู้อาวุโสก็กัดฟันอย่างแน่น เขาไม่คาดคิดว่าจะถูกฝ่ายตรงข้ามหลอกลวงจนตกอยู่ในสภาพที่น่าสมเพชเช่นนี้ ถูกฝ่ายตรงข้ามหลอกลวงจนหัวหมุน
“บัดซบเอ๊ย!”
เซียงหยุนตงลูกศิษย์ของวิหารแห่งความมืดก็มีสีหน้าที่มืดมนยิ่งกว่าถ่านก่อนหน้านี้เขาก็ได้ นําสิ่งประดิษฐ์เซนต์ขั้นกลางดาบกระดูกบรรพกาลออกมาและใช้พลังอํานาจทั้งหมดโจมตีทว่าท้ายที่สุดเจ้าเด็กนั่นก็ใช้พลังอํานาจของดาวเลื่อนดาราคล้อยเคลื่อนย้ายการโจมตีของเขาออกไป
ดังนั้นค่ายกลยับยั้งของดินแดนสีเหลืองแห่งนั้นจึงถูกทําลายไปด้วยเพลงดาบของตนเอง
ในอีกคําพูดหนึ่งก็คือ เขาเป็นตัวการหลักที่ช่วยให้แผนการของเจ้าอู่ที่ประสบผลสําเร็จ ไม่อย่างนั้นลําพังเพียงแค่พลังอํานาจของเจ้าเด็กนั่นก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทําลายค่ายกลยับยั้งที่เซนต์เทวลิขิตได้ติดตั้งเอาไว้ด้วยตนเอง
เมื่อคิดได้ว่าเจ้าเด็กนั้นกําลังแอบเยาะเย้ยกับการกระทําของเขา เขาก็โมโหจนปอดแทบจะระ เบิดออกมา
“จับตัวเขา จะต้องจับตัวเจ้าอู่ที่ให้ได้ จะปล่อยให้เขาแย่งชิงผลประโยชน์ทั้งหมดไปไม่ได้เด็ดขาด การที่หลอกลวงพวกเรามากมายเช่นนี้และใช้พวกเราเป็นเหยื่อล่อ ทว่าตอนนี้กลับต้องการที่จะกวาดทุกอย่างไปจนเรียบ ครอบครองผลประโยชน์แต่เพียงผู้เดียว มีที่ไหนที่พวกเราจะอดทนอดกลั้นกับเรื่องนี้ได้?!” ผู้อาวุโสของเผ่าพันธุ์เทวดาก็อดไม่ได้ที่จะคํารามออกมา
เทวดาจํานวนมากก็โมโหจนเจียนตาย พวกเขาเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ระดับสูงสุดในทา งตะวันตกของจักรวาล ไม่เคยเผชิญกับความสูญเสียเช่นนี้มาก่อน ตอนนี้ไม่คาดคิดว่าจะถูกมนุษย์คนหนึ่งหลอกจนหัวหมุนเช่นนี้ ช่างเป็นความอัปยศอดสูครั้งยิ่งใหญ่
“จะจับตัวอย่างไรกัน? เจ้าบัดซบนั่นราวกับเป็นปลาดุก หลบหนีไปรวดเร็วยิ่งกว่าโจรไหนๆใครกันที่จะจับตัวเขาได้?”
บางคนก็เอ่ยออกมาอย่างอับจนหนทาง ตอนนี้อย่าว่าแต่การตามจับเจ้าอู่ที่เลย แม้แต่แผ่นหลังของเจ้าอู่ที่ก็ไม่ได้ปรากฏให้เห็น หายไปอย่างไร้ร่องรอย
“เจ้าพวกสิ่งมีชีวิตชั้นต่ํา! ไม่คาดคิดว่าจะกล้าพูดคุยหารือกันต่อหน้าพวกข้าเดม่อน พวกเจ้าจงตายไปซะ!”
เดม่อนจํานวนมากก็โมโหขึ้นมา เดือดระอุอย่างมาก ไม่คาดคิดว่าเมื่อเผชิญหน้ากับพวกมันที่เป็นตัวตนแห่งหายนะนี้ พวกอาหารเหล่านี้จะกล้าเพิกเฉยต่อพวกมัน พูดคุยกันโดยที่ไม่เห็นหัวพวกมันนี่เป็นการดูถูกเหยียดหยามเดม่อนอย่างพวกมันเป็นอย่างมาก
“ไสหัวไปซะ ตอนนี้พวกเราไม่มีเวลาว่างมาเล่นกับพวกเจ้า พวกเรายังมีเรื่องสําคัญที่ต้องจัดการ”
“ลงมือสังหารพวกเดม่อนที่ขวางทางพวกนี้เถอะ จากนั้นก็ตามหาเจ้าอู่ที่อีกครั้ง จะปล่อยให้เขาเล็ดรอดออกไม่ได้”
“สังหาร สังหารเดม่อนเหล่านี้ให้หมดสิ้น เป็นเพราะกลุ่มของพวกบัดซบเหล่านี้ที่คอยขัดแข้งขัดขาพวกเรา ไม่อย่างนั้นพวกเราก็คงจะสังหารเจ้าอู่ที่ได้”
ลูกศิษย์ของวิหารแห่งความมืดและคนอื่นๆต่างก็โมโหขึ้นมาเช่นกัน กล่าวโทษโกรธเคืองกลุ่มของเดม่อนเหล่านี้ที่ทําให้เจ้าอู่ที่หลบหนีออกไปได้ ความเกลีย ดชังของใหม่ทับซ้อนกับของเก่าในทันทีทําให้พลังการต่อสู้ของพวกเขาปะทุออกมากว่า 300%
ถึงแม้ว่ากลุ่มของเดม่อนเหล่านี้จะร้ายกาจไม่น้อย ทว่าการที่ถูกกักขังมาเป็นระยะเวลาเนิ่นนานเช่นนี้ แน่นอนว่าพลังอํานาจของพวกมันก็ไม่ได้อยู่ในสภาวะสูงสุด เปรียบดั่งเหล็กที่ขึ้นสนิม
เมื่อเผชิญหน้ากับบรรดายอดฝีมือระดับสุดยอดจากทุกซอกทุกมุมของจักรวาลนั้น พวกมันก็ถูกโจมตีจนต้องล่าถอยออกไปซ้ําแล้วซ้ําเล่า
แน่นอนว่าถึงอย่างไรพวกมันก็เป็นสัตว์ประหลาดที่น่าสะพรึงกลัวจากอบิส ไม่มีทางตายไปง่ายๆ เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีสวนกลับเช่นนี้ พวกมันก็ต้านทานอย่างสุดชีวิตเช่นกัน
การต่อสู้นี้ก็ดําเนินไปถึงสามวันสามคืน
ภายใต้การที่เดม่อนส่วนใหญ่ถูกสังหารไป ทิ้งซากศพมากมายกลาดเกลื่อนไว้ในตอน นี้เดม่อนส่วนน้อยที่เหลืออยู่จึงคิดขึ้นมาได้ว่าพวกมันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของยอดฝีมือเหล่านี้ ดังนั้นพวกมันจึงใช้โอกาสนี้ในการหลบหนีออกไป พยายามรักษาชีวิตของตนเองเอาไว้
ทว่าวิหารแห่งความมืด เผ่าพันธุ์เทวดา พระพุทธศาสนาและกลุ่มอิทธิพลอื่นๆก็เผชิญกับความสูญเสียที่ร้ายแรง ถึงแม้ว่าสุดท้ายจะเอาชนะกลุ่มของเดม่อนเหล่านี้ไปได้ ทว่าผู้บาดเจ็บล้มตายก็มีเป็นจํานวนนับไม่ถ้วน
สิ่งที่สําคัญที่สุดก็คือต่อให้จะเอาชนะกลุ่มของเดม่อนเหล่านี้ได้ มันก็ไม่ได้สร้างผลประโยชน์อะไรให้กับพวกเขา มีเพียงแค่ความสูญเสียเท่านั้น
ส่วนผู้ที่น่าสิ้นหวังที่สุดก็คงจะเป็นเหล่ยเปาผู้นําของตระกูลปีศาจสายฟ้า เพ ราะว่ามันเป็นผู้ควบคุมพลังอํานาจสายฟ้าเป็นพลังอํานาจที่สร้างความเสียหายให้กับเดม่อนเหล่านี้ได้เป็นอย่างมากดังนั้นจึงตกเป็นเป้าหมายของเดม่อนทั้งหมด ต้องการกําจัดให้ได้โดยเร็วที่สุด
ด้วยเหตุนั้น กลุ่มของปีศาจสายฟ้าจึงถูกฆ่าล้างไปทั้งหมด ถูกกวาดล้างไปจนถึงตัวสุดท้ายแม้แต่ร่างกายของเหล่ยเปาก็ถูกพวกเดม่อนฉีกกลายเป็นชิ้นๆ จิตศักดิ์สิทธิ์ดับสลายไปตายไปอย่างน่าอนาถ
“จบสักที ในที่สุดก็กําจัดกลุ่มของเดม่อนเหล่านี้ได้ พวกเราชนะแล้ว”
“ชนะบิดาเจ้าสิ ข้าไม่ได้รู้สึกถึงชัยชนะแม้แต่น้อย พวกเราทั้งหมดต่างก็พลาดท่าครั้งใหญ่”
“อู่ตี้ นี่เป็นความผิดของเจ้าอู่ที่ หากไม่ใช่เพราะเจ้าบัดซบนั่น มีที่ไหนที่พวกเราจะต้องต่อสู้แลกชีวิตกับกลุ่มของเดม่อนเหล่านี้ ผลประโยชน์ทุกอย่างก็ถูกเขาปล้นชิงไป ไม่มีสิ่งใดที่หลงเหลือให้กับพวกเรา”
“รีบหาตัวเจ้าเด็กนั่นทันที ต่อให้ต้องควานหาทั่วทั้งพื้นที่ของแผนผังโชคชะตาราศี ก็จะต้องจับเจ้าบัดซบนั่นให้ได้นี่คือความอาฆาตแค้นที่ไม่มีวันสิ้นสุด”
“ทั้งชีวิตนี้ข้าจะไม่มีทางลืมเรื่องในครั้งนี้เด็ดขาด จะไม่มีวันลืม!”
“ข้าไม่เคยเผชิญกับความสูญเสียเช่นนี้มาก่อน รอก่อนเถอะ ข้าจะจดจําเจ้าไว้ อย่าให้เขาได้พบเจอเขาเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นข้าจะจับเจ้าบัดซบนั่นมาและฉีกให้กลายเป็นพันๆชิ้นทันที!”
บรรดายอดฝีมือต่างก็กัดฟันกันอย่างแน่น เคียดแค้นเจ้าอู่ที่เป็นอย่างมาก หากเจ้าอู่ที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ จะต้องถูกแผดเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่านโดยเปลวไฟความแค้นของสาธารณะ
หลังจากที่ระบายอารมณ์ของตนเองออกมา พวกเขาก็แยกทางกันออกไป
เพราะว่าการต่อสู้ที่ดุเดือดนี้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ตาย ทว่าก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัส
หากในตอนนี้ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูอื่นๆอีกล่ะก็ พวกเขาจะต้องจบสิ้นอย่างแท้จริง บางทีอาจจะถูกลอบแทงข้างหลังก็เป็นได้
แต่ละคนต่างก็ไม่กล้าอยู่ที่นี่ต่อ รีบเดินทางออกไปเพื่อหาสถานที่หลบซ่อนเป็นการชั่วคราว
หลังจากที่กลุ่มยอดฝีมือเหล่านี้เดินทางกันออกไป ภาพเงาหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่า คนๆนี้ก็คือเซี่ยงนั่นเอง
เขาใช้ความสามารถในการปกปิดของแมลงหลุมดํา ขุดช่องว่างห้วงมิติชั่วคราวขึ้นมาในผืนอวกาศนี้และหลบซ่อนตัว มองดูกลุ่มยอดฝีมือเหล่านี้ต่อสู้อย่างสบายใจ
เมื่อพวกเขาจากกันไปหมดแล้ว เขาก็สามารถปรากฏตัวขึ้นมาได้ ผลประโยชน์ทั้งหมดก็ตกมาอยู่ในมือของเขา
“เป็นพลังงานวิญญาณที่อุดมสมบูรณ์จริงๆ ทั้งหมดนี้เป็นของข้า”
เชี่ยปิงก็มองอย่างน้ําลายไหล เขาโบกมือออกไป สร้างพลังการดูดกลืนขึ้นมา รวบรวมพลังงานวิญญาณที่หลงเหลืออยู่ในพื้นที่บริเวณนี้มาอย่างบ้าคลั่ง
อย่างน้อยก็มีเดม่อนจํานวนกว่าหมื่นตัวที่ตายไปในสถานที่แห่งนี้และยังมียอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าอีกประมาณหมื่นคน พลังงานวิญญาณของยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าที่ตายไปกว่าสองหมื่นคนนั้นก็เป็นปริมาณที่น่าอัศจรรย์อย่างถึงที่สุด
หลั่ว หลั่ว หลั่ว
หลังจากไม่กี่ลมหายใจ คริสตัลวิญญาณจํานวนมหาศาลก็ควบแน่นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ตกมาอยู่ในมือของเขา
“เลือดเนื้อของเดม่อนเหล่านี้ก็จะต้องเก็บไปเช่นกัน”
เซียปิงก็นําเลือดเนื้อของเดม่อนเหล่านี้มาไว้ในพื้นที่ของลูกปัดพิภพทั้งหมด
สําหรับผู้บ่มเพาะทั่วๆไป เลือดเนื้อของเดม่อนเหล่านี้เป็นดั่งพิษที่ร้ายแรง มีมลพิษสูง เพราะว่ามันแอบแฝงไปด้วยพลังฉีเดม่อนที่เข้มข้น สิ่งมีชีวิตปกติธรรมดาที่เข้าไปใกล้ จะต้องได้รับบาดเจ็บ
ทว่าเซี่ยป่งแตกต่างออกไป เขามีพลังอํานาจในการชําระล้างพลังฉีเดม่อนเหล่านี้
ตราบใดที่เขาชําระล้างพลังฉีเดม่อนเหล่านี้จนสะอาดหมดจด มันก็จะหลงเหลือเพียงพลังงานเลือดเนื้อที่บริสุทธิ์เท่านั้น ไม่ว่าจะนําไปกลั่นกรองเป็นเม็ดยา นําไปใช้เป็นปุ๋ยสําหรับพื้นดินหรือนําไปทําสิ่งอื่นๆ มันก็ล้วนเป็นตัวเลือกที่ดี
หลังจากที่เสร็จสิ้นธุระทั้งหมดนี้ ร่างของเขาก็กระพริบหายไป เดินทางออกไปจากสถานที่แห่งนี้