God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ - ตอนที่ 1913
ตอนที่ 1913
“ไม่มีทาง ไม่คาดคิดว่าจะแจกจ่ายเม็ดยาให้กับพวกเรา บนโลกใบนี้มีเรื่องดีๆเช่นนี้ด้วยรึ?!”
บางคนที่พูดอย่างเคลือบแคลงใจ
“ดูเร็ว เหนือท้องฟ้านั่น แม่เจ้า เม็ดยาหยินหยาง เม็ดยาวิญญาณปฐพี เม็ดยาจักรพรรดิ เม้ดยาชําระล้างจิตวิญญาณ เม็ดยากวงหลิง เม็ดยาเขียวขจี เม็ดยาน้ําแข็งครามและเม็ดยาอื่นๆอีกมากเม็ดยาเหล่านี้ต่างก็เป็นเม็ดยาคุณภาพสูง ไม่ได้มีมูลค่าที่น้อยเลยสวรรค์คาดการณ์ได้ว่าจะต้องมีเม็ดยาแห่งโชคชะตาอยู่ด้วย!”
ไม่ทันรอให้คนอื่นๆได้นึกสงสัย ผู้ที่เชี่ยวชาญด้านเม็ดยาคนหนึ่งก็อดที่จะตะโกนออกไปไม่ได้จิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ของเขาได้สัมผัสบรรดาลูกบอลแสงที่พุ่งออกมาและค้นพบว่าภายในลูกบอลแสงเหล่านี้ต่างก็มีเม็ดยาซ่อนอยู่มีมากกว่าหนึ่งหมื่นเม็ดเสียอีก
ยิ่งไปกว่านั้นลูกบอลแสงเหล่านี้ก็มีกว่าหนึ่งหมื่นลูก พุ่งออกไปสู่ทุกทิศทางของดินแดนแห่งนี้ออร่าของพลังงานเม็ดยาที่อุดมสมบูรณ์แผ่ออกมา ทําให้ผู้คนรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที
“เหตุใดจึงมีเม็ดยาปรากฏขึ้นมามากมายเช่นนี้? เป็นของฟรีทั้งหมดรึ?”
“ใช่ อันที่จริงกลั่นกรองเม็ดยาจํานวนมากเช่นนี้ออกได้อย่างไรกัน?”
“อย่าพูดเรื่องตลก นี่คือเตาหลอมแห่งความอ้างว้าง เป็นสิ่งประดิษฐ์เซนต์ขั้นสูง ในอดีตก็เคยติดตามเซนต์เทวลิขิต ความมั่งคั่งของมันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถจินตนาการได้ แม้แต่เซนต์ทั่วๆไปก็เทียบกับมันไม่ได้ การที่นําเม็ดยาเหล่านี้ออกมาไม่ใช่เรื่องที่ต้องคํานึงถึง”
“เป็นจริงอย่างที่ว่า สําหรับพวกเรา เม็ดยาเหล่านี้ต่างก็เป็นเม็ดยาที่ยากจะกลั่นกรองออกมาได้มีคุณภาพสูงยิ่งไปกว่านั้นส่วนผสมของพวกมันก็หามาได้ยากมาก ทว่าสําหรับเตาหลอมแห่งค วามอ้างว้างนั้น นี่เป็นเพียงสิ่งเล็กๆน้อยๆ เป็นดั่งหยดน้ําในมหาสมุทรเท่านั้น”
“นี่คือพายที่ตกจากท้องฟ้า นี่คือพายที่ตกจากท้องฟ้าอย่างแท้จริง”
“เป็นการเผชิญกับโชคลาภครั้งยิ่งใหญ่ นี่เป็นการเผชิญกับโชคลาภครั้งยิ่งใหญ่อย่างแน่นอนตราบใดที่พวกเราสามารถคว้าลูกบอลแสงเหล่านั้นมาได้ ทันใดนั้นก็จะร่ํารวยขึ้นมาภายในคืนเดียวประหยัดระยะเวลาการควบแน่นพลังเวทมนตร์ไปได้กว่านานหลายหมื่นปี แกนพลังฉีจะพัฒนาขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด
“จะมัวรีรออะไรอีก รีบไปกันเถอะ จับลูกบอลแสงเหล่านั้นมา”
บรรดายอดฝีมือที่เห็นเช่นนี้ พวกเขาก็มีดวงตาที่แดงก่ํา ส่วนลึกในแววตามีเปลวไฟที่ลุกโชนขึ้นมานี่ราวกับว่าเป็นเหตุการณ์ที่เศรษฐีโปรยเงินบนท้องฟ้าก็ว่าได้
ตราบใดที่คว้าลูกบอลแสงมาได้ เม็ดยาทั้งหมดภายในก็จะกลายเป็นของพวกเขา ไม่สา มารถยับยั้งต่อสิ่งล่อตาล่อใจเช่นนี้ได้ต่อให้เป็นพระผู้อาวุโสที่ปล่อยวางทางโลกก็ไม่มีทางที่จะอดใจไหว
เพราะว่าถึงอย่างไรนี่ก็มีความสัมพันธ์กับแกนพลังฉีของตนเองโดยตรง มีความสัมพันธ์ในการพัฒนาตนเอง ใครกันที่จะปฏิเสธโอกาสนี้ไป
“เม็ดยา?!”
เซียปิงก็หรี่ตาลง เขาก็สัมผัสได้ถึงกลุ่มลูกบอลแสงจํานวนนับไม่ถ้วนที่พุ่งมาจากท้องฟ้าเช่นกันทว่าทันใดนั้นก็มีลูกบอลแสงจํานวนกว่าสิบลูกที่พุ่งเข้ามาในบริเวณใกล้เคียงกับเขา
ลูกบอลแสงแต่ละลูกแอบแฝงไปด้วยเม็ดยากว่าหมื่นเม็ด นี่คือความมั่งคั่งที่ยิ่งใหญ่ แผ่พลังงานเม็ดยาที่อุดมสมบูรณ์ออกมา เหมือนว่าเพียงแค่สูดดมเข้าไปเล็กน้อย แกนพลังฉีก็จะพัฒนาขึ้น มาได้
นี่เป็นการบ่งบอกถึงเม็ดยาที่มีคุณภาพสูงประเมินค่าไม่ได้
ยอดฝีมือที่อยู่รอบๆก็พร้อมที่จะเคลื่อนไหวเช่นกัน พยายามที่จะแย่งชิงลูกบอลแสงเหล่านี้ไป
“กรงเล็บอีกานรกทองคํา!”
ภายในชั่วพริบตา เซียปิงก็ก้าวเท้าออกไปข้างหน้า กรงเล็บยักษ์สีทองดําก็คว้าออกไปบนท้องฟ้าสร้างพลังอํานาจของหลุมวนที่น่าสะพรึงกลัวขึ้นมา ราวกับก่อตัวกลายเป็นหลุมดําก็ว่าได้
ปัง!
อึดใจต่อมา ลูกบอลแสงมากกว่าสิบลูกก็ถูกดูดเข้ามาอย่างรวดเร็ว พุ่งเข้ามาสู่กรงเล็บยักษ์นี้ตกมาอยู่ในมือของเชียปิงอย่างกะทันหัน
“เจ้ามนุษย์บัดซบ ส่งเม็ดยาทั้งหมดมาทันที ไม่อย่างนั้นข้าจะทําการสังหารโดยที่ปรานีทั้งสิ้น!” พยัคฆ์หลากสีราชันปีศาจในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าขั้นเริ่มต้นก็จ้องมองมาจากระยะที่ห่างออกไปมันคํารามออกมา เป็นเสียงที่สะเทือนน้ําสะเทือนบก ดวงตาแดงก่ําแอบแฝงไปด้วยออร่าจิตสังหารที่สะท้านสวรรค์
มันควบคุมลมพายุทมิฬเข้ามา ร่างกายที่ราวกับเป็นภูเขาขนาดเล็กพุ่งกระโจนเข้ามา มีอํานาจบารมีที่น่าสะพรึงกลัวเหมือนกับว่าท้องฟ้าจะถล่มลงมาเพราะพลังอํานาจของมัน
“กรงเล็บพยัคฆ์ทะลวงโลก!”
พยัคฆ์หลากสีตัวนั้นก็เปิดฉากโจมตีด้วยความสามารถศักดิ์สิทธิ์ระดับสุดยอดของมันทันทีแอบแฝงไปด้วยพลังเวทมนตร์ที่น่าสะพรึงกลัวของราชันปีศาจในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าขั้นเริ่มต้นกรงเล็บพยัคฆ์ทั้งสองพุ่งทะลวงออกไป แผ่นหลังของมันก็เหมือนกับว่าจะมีเทพเจ้าเสือปรากฏขึ้นมาลางๆ
กรงเล็บพยัคฆ์นี้มีพลังอํานาจที่สะท้านฟ้าสะท้านสวรรค์ เหมือนจะฉีกผ่านทุกสิ่งทุกอย่างได้แม้แต่เหล็กไมก้าศิลาจารึกและวัสดุที่แข็งแกร่งทนทานอื่นๆก็ไม่สามารถต้านทานกรงเล็บนี้ได้ จะต้องถูกฉีกกลายเป็นชิ้นๆนับไม่ถ้วน ไม่จําเป็นต้องพูดถึงเนื้อหนังของสิ่งมีชีวิต
“กล้าที่จะครอบครองเม็ดยาทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว เจ้าเด็กมนุษย์ จะต้องทําการประหารเท่านั้น!”
“สังหารโดยที่ไร้ความปรานี การที่กล้าแย่งชิงของๆพวกเรา มันจะต้องตายเท่านั้น”
“เม็ดยาเหล่านี้เป็นของราชันผู้นี้ทั้งหมด พวกเจ้ากลุ่มของขยะ ไสหัวไปซะ!”
นอกจากพยัคฆ์หลากสีนั้น ราชันปีศาจตัวอื่นๆอีกมากกว่าสิบตัวก็ได้พุ่งเข้ามาจากทุกทิศทางอย่างน้อยก็เป็นยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้า มีทั้งอีกาอสรพิษ นกอสูรมรกต หมาปาโลหิตจันทราหมีธรณีและราชันปีศาจตัวอื่นๆที่ทรงอํานาจไม่แพ้กัน
ทว่าบรรดาราชั้นปีศาจในระดับกฎเทวรูปต่างก็ไม่กล้าเคลื่อนไหวออกมา เพราะพวกมันรู้ดีว่าหากเข้าไปใกล้ พวกมันจะต้องตาย จะถูกราชันปีศาจในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าเหล่านี้ฉีกกลายเป็นชิ้นๆแม้แต่กระดูกก็ไม่มีเหลือ
หล่งหล่งหล่ง
กลุ่มของราชันปีศาจโจมตีเข้ามาจากทุกทิศทาง บัง แอบแฝงไปด้วยจิตสังหารที่น่าสะพรึงกลัวการโจมตีรวมกันกลายเป็นตาข่ายขนาดใหญ่ ปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่าง เหมือนว่าจะต้องทําลายพื้นที่บริเวณนี้ให้ราบเป็นหน้ากลอง
ความสามารถศักดิ์สิทธิ์จํานวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้ามา เหมือนจะฉีกผ่านห้วงอวกาศ ต่อให้จะต้องการหลบหนีก็ไม่มีช่องทางให้หลบหนีไปได้
“ไสหัวไปซะ!”
เชี่ยปิงเงยหน้ามองกลุ่มของราชันปีศาจเหล่านี้ เขาก็ไม่ได้ขยับเขยื้อนแต่อย่างใด ทันใดนั้นราชวังสีม่วงทั้งเก้าแห่งภายในร่างกายก็สั่นสะเทือน พลังเวทมนตร์ที่ทรงอํานาจเอ่อล้นออกมาจากส่วนลึกของร่างกายทะยานสู่ท้องฟ้า
ทันใดนั้นช้างศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสูงกว่าสามพันเมตรก็ก้าวออกมาอย่างจากความว่างเปล่าแรงกดดันที่มหาศาลแผ่ออกมาจากร่างกาย สั่นสะท้านโลก อากาศรอบๆสั่นสะท้าน นี่คือความทรงอํานาจที่แท้จริง ทําให้เลือดเดือดดาลขึ้นมา เหมือนว่าพื้นที่รอบๆก็ไม่สามารถต้านทานแรงกดดันของมันได้ ใกล้ที่จะล่มสลายเต็มที่
อีกทั้งก็ไม่เห็นว่ามันเคลื่อนไหวใดๆอีก เพียงแค่ขาหน้าของมันก้าวออกไปเล็กน้อย ทันใดนั้นพลังอํานาจที่น่าสะพรึงกลัวก็ปะทุออกมาอากาศรอบๆถูกปัดเป่าออกไป พื้นที่ในระยะหนึ่งหมื่นกิโลเมตรก่อตัวกลายเป็นสุญญากาศ
ทว่าอากาศเหล่านี้กลับควบแน่นกลายเป็นกําแพงความดันอากาศ บีบอัดอย่างบ้าคลั่ง กระแทกออกไปรอบทิศมีพลังอํานาจที่ไร้ขอบเขต
ตึบ!
ภายในชั่วพริบตา พยัคฆ์หลากสี อีกาอสรพิษ นกอสูรมรกต หมาป่าโลหิตจันทรา ห มีธรณีและราชันปีศาจตัวอื่นๆก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสมเพช พวกมันไม่สามารถต้านทานพลังอํานาจนี้ได้ ทั่วทั้งร่างกายระเบิดออกมากลายเป็นชิ้นๆอย่างกะทันหัน ชิ้นเนื้อกระจุยกระจายออกไปรอบๆเปลี่ยนกลายเป็นก้อนเนื้อบด เลือดสาดกระเซ็นไปรอบๆเหมือนกับเป็นหยาดฝนร่วงลงมาจากบนอากาศย้อมทะเลสาบจนกลายเป็นสีเลือด
ทันใดนั้นราชันปีศาจจํานวนกว่าสิบตัวก็ตายไปอย่างน่าสลด ไม่สามารถตอบโต้ได้แม้แต่น้อย
“เวรเอ๊ย นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกัน ไม่มีใครรอดเลยหรือ?”
ราชันปีศาจบางตัวที่เพิ่งก้าวเข้าสู่ระดับลงทัณฑ์สายฟ้าก็หวาดกลัวจนนี่ราดทันที พวกมันรีบหลบหนีออกไปทันทีราวกับเป็นชาวนาที่มาเจอกับเข้าอสรพิษก็ว่าได้
พวกมันต่างก็หวาดกลัวจนไม่หลงเหลือความกล้าหาญอีกต่อไป เพราะว่าราชันปีศาจในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าเหล่านั้นต่างก็เป็นตัวตนที่ทรงอํานาจอย่างมาก ไม่ว่าใครก็ให้ความเคารพ
ทว่าตอนนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น เจ้ามนุษย์นี่เพียงแค่แสดงเทวรูปฟ้าดินของตนเองออกมาเท่านั้นใช้เพียงการโจมตีเดียว ร่างของราชันปีศาจกว่าสิบตัวก็ระเบิดออกมา ส่งเสียงร้องที่น่าสมเพชออกมาไม่สามารถที่จะต้านทานได้ นี่มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อเกินไป นี่คือมนุษย์จริงๆรึ?
ราชันปีศาจในระดับกฏเทวรูปบางตัวก็หวาดกลัวจนสีหน้าซีดเซียว แม้แต่ราชันปีศาจในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าเหล่านี้ก็ตายไปอย่างง่ายดาย หากเจ้ามนุษย์ชั่วร้ายนี่ต้องการจัดการกับพวกมัน ไม่ใช่แค่เพียงเปาลมก็สังหารพวกมันได้แล้วรึ?!
“ขอโทษด้วย เพราะว่าข้าเพิ่งพัฒนาพลังอํานาจขึ้นมา ดังนั้นจึงยังควบคุมพลังอํานาจของตนเองได้ไม่ดีนัก เพียงแค่โจมตีออกไปเบาๆ ไม่คาดคิดว่าร่างของพวกมันจะระเบิดกลายเป็นชิ้นๆเช่นนั้น ช่างน่าเสียดายจริงๆ ราชันปีศาจเหล่านี้เป็นแรงงานชั้นยอด ควรที่จะจับไปเป็นแรงงานมากกว่าดูแลสวนสมุนไพรให้กับข้า”
เซี่ยปิงก็ตบศีรษะของตนเอง มีสีหน้าที่รู้สึกผิดอย่างมาก การที่กําจัดราชันปีศาจเหล่านี้ไปเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก พื้นที่ภายในลูกปัดพิภพของเขายังคงขาดแคลนแรงงานอยู่หากจับราชั้นปีศาจเหล่านี้มาเป็นแรงงานได้ ไม่รู้ว่ามันจะแบ่งเบาภาระหน้าที่ของกระทิงสีครามได้มากแค่ไหน
เพราะว่าถึงอย่างไรทาสเช่นนี้ก็ไม่ได้หามาง่ายๆ
“อู่ที่ ชายคนนี้คือเจ้ามนุษย์ชั่วร้ายอู่ตี๋ แม่เจ้า วิ่งหนี วิ่งหนีเร็ว อ๊ากก!!”
ราชันปีศาจตัวหนึ่งก็กรีดร้องออกมาในทันที ราวกับเป็นเสียงหมูที่ถูกเชือดก็ว่าได้ เป็นเสียงที่น่าสมเพชอย่างยิ่ง เห็นได้ชัดว่ามันล่วงรู้ถึงตัวตนของเซี่ยปิง ทว่าทันทีที่ล่วงรู้นั้น มันก็หวาดกลัวจนฉีราดทั่วทั้งร่างกายสั่นเทิ้ม รีบหลบหนีออกไปอย่างไม่คิดชีวิต