God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ - ตอนที่ 1904
ตอนที่ 1904
ไม่ทันรอให้คนกลุ่มนี้ได้จับตัวเซียปิง พลังฉีเดม่อนที่น่าสะพรึงกลัวก็เอ่อล้นออกมาจากดินแดนแห่งนั้น ทันใดนั้นก็ราวกับเป็นกลุ่มนักโทษที่หลุดออกจากคุกเดม่อนที่ทรงอํานาจจํานวนนับไม่ ถ้วนปรากฏตัวขึ้นมา
“ฮ่าฮ่า ในที่สุด…ในที่สุดก็ออกมาได้”
“เจ้าผีแก่เทวลิขิตบัดซบนั่น กักขังพวกเราเป็นระยะเวลาอันเนิ่นนาน นึกว่าจะต้องถูกจองจําจนตายไปเสียอีก”
“ในเมื่อออกมาได้แล้ว ข้าจะต้องสังหารลูกศิษย์และสมาชิกตระกูลของเขาทั้งหมด!”
“ที่นี้ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตมากมาย มีพลังฉีเลือดที่อุดมสมบูรณ์ทีเดียว เป็นอาหารชั้นยอด”
“สังหารพวกมัน ในเมื่อหลุดพ้นจากความลําบากมาได้แล้ว พวกเราจะต้องเฉลิมฉลองด้วยการฆ่าล้างพวกมัน”
เดม่อนจํานวนมากก็หัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย ยโสโอหังอย่างถึงที่สุด พวกมันก็รีบกระโจนออกมาจากดินแดนผืนนั้น เกรงกลัวว่าหากช้าไปเพียงก้าวเดียว พวกมันจะถูกปิดผนึกอีกครั้ง
พวกมันก็เห็นบรรดาลูกศิษย์ของวิหารแห่งความมืดและคนอื่นๆ แต่ละตัวก็ตื่นเต้นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เปรียบเสมือนกับบุคคลที่กระหายน้ําจนใกล้ตายทว่ากลับมาพบกับบ่อน้ําอย่างกะทันหันมีที่ไหนที่จะอดใจไหว
การที่ถูกปิดผนึกมาเป็นระยะเวลานาน ไม่มีใครสามารถที่จะจินตนาการได้ว่าตอนนี้พวกมันจะหิวโหยและกระหายถึงขั้นไหน
“ตายซะ ตายไปให้หมด ตายไปด้วยลาวาของข้า”
เดม่อนลาวาก็บินออกมา ทั่วทั้งร่างกายดูเหมือนจะควบแน่นขึ้นมาจากลาวา มีกลิ่นไอของกํามะถันแผ่ออกมา ดูเหมือนกับเป็นปีศาจร้ายที่ออกมาจากขุมนรก ร่างกายของมันมีความสูงกว่าแปดพันฟุต
เห็นเพียงแค่ว่ามือขนาดใหญ่ของมันโบกออกไป ทําให้พื้นที่ในระยะหลายพันกิโล เมตรเปลี่ยนกลายเป็นอ่างลาวาอย่างกะทันหัน ภูเขาไฟผุดขึ้นมาในทุกหนแห่ง ควันโขมงลอยออกมาจากทุกทิศทาง
แม้แต่เปลวไฟที่ปะทุออกมาเหล่านี้ก็ไม่ใช่เปลวไฟธรรมดาทั่วไป ทว่าเป็นเปลวไฟของเดม่อนแห่งอบิส แอบแฝงไปด้วยการกัดกร่อน พิษ การลุกไหม้ การแพร่เชื้อและธรรมชาติอื่นๆผู้บ่มเพาะปกติธรรมดาที่สัมผัสเข้ากับมันแม้เพียงเล็กน้อย จะสลายหายไปในพริบตา
“อ้ากก!!”
ทันใดนั้นผู้บ่มเพาะจํานวนมากก็ต้านทานเปลวไฟเหล่านี้ไม่ได้ ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสมเพช ทั่วทั้งร่างกายปกคลุมไปด้วยเปลวไฟ ถูกแผดเผาอย่างกะทันหัน แต่ ละคนเปลี่ยนกลายเป็นคบเพลิงขนาดใหญ่เปลวไฟทะยานขึ้นสู่สวรรค์
“จิตวิญญาณ จิตวิญญาณที่เอร็ดอร่อย”
เดม่อนสวรรค์ก็หัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย พวกมันล่องหนไร้กายเนื้อ ข้ามผ่านความว่างเปล่ามีพลังฉีเดม่อนที่น่าสะพรึงกลัวแผ่ออกมา ลุกลามเข้าไปในร่างกายของยอดฝีมือแต่ละคนอย่างกะทันหันกลืนกินจิตวิญญาณของฝ่ายตรงข้าม
ภายในระยะเวลาอันสั้น ดวงตาทั้งสองดวงของผู้บ่มเพาะเหล่านี้ก็สูญเสียร่องรอยของชีวิตไปเหลือเพียงแค่เปลือกนอกของร่างกายเท่านั้น จิตวิญญาณสลายไป
“เจ็บกระเพาะเหลือเกิน ปวดท้อง ปวดท้องจริงๆ เหตุใดข้าจึงมีอาการท้องเสียอยู่ตลอดเวลาสวรรค์ บอกข้าได้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใด?” เดม่อนอสรพิษก็ส่งเสียงคํารามออกมาทั่วทั้งร่างกาย ของมันควบแน่นมาจากของเหลวสีดํา มีดวงตาสามพันดวงอยู่รอบร่างกายมีกลิ่นเหม็นโชยออก มาจากร่างของมัน พิษปริมาณมหาศาลหมักหมมอยู่ภายในร่างกายของมัน
มันชื่นชอบการกินมวลสารที่เป็นพิษมากที่สุด ทว่าร่างกายกลับไม่สามารถย่อยสลายได้อย่างรวดเร็วดังนั้นจึงมีอาการปวดท้องอยู่บ่อยครั้ง ท้องเสียอยู่ตลอดเวลา
ทว่าของเสียที่ออกมาร่างกายของมันนั้นแอบแฝงไปด้วยพิษที่ร้ายแรง เป็นมลพิษต่อโลกทําให้พื้นที่ในระยะหลายพันกิโลเมตรเปลี่ยนกลายเป็นบึงพิษในทันที เทียบเท่าได้กับมลพิษเคลื่อนที่ก็ว่าได้
บ่อยครั้งที่ดาวเคราะห์ที่มันเข้าไปจะเปลี่ยนกลายเป็นสถานล้างบาปของโลก เต็มไปด้วยมลพิษระยะเวลาหลายร้อยล้านปีที่ผ่านไป ก็ยังไม่มีใครที่สามารถเข้าไปอยู่อาศัยได้
เห็นเพียงแค่ว่ามันคํารามออกมาอย่างคลุ้มคลั่ง พิษนับไม่ถ้วนเปลี่ยนกลายเป็นลูกศรที่แหลมคม พุ่งทะลวงออกไป เจาะทะลุร่างกายของผู้บ่มเพาะแต่ละคน ซึ่งพิษหลากหลายประเภทก็ได้ลุกลามเข้าไปในร่างกายของกลุ่มคนเหล่านี้ในทันที
“อ้ากกก!!”
ผู้คนจํานวนนับไม่ถ้วนส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสมเพช พิษเช่นนี้น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าพิษของนิกายหมื่นพิษกว่าสิบเท่า บางคนที่ถูกพิษนี้เข้าไป ไม่คาดคิดว่าทั่วทั้งร่างกายจะละลายภายในเสี้ยววินาที แม้แต่เศษซากก็ไม่มีเหลือ
ต่อให้จะมีสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ประเภทป้องกัน ทว่ามันก็ไม่สามารถป้องกันการกัดกร่อนของพิษเหล่านี้ได้ในเสี้ยววินาทีสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ชิ้นนั้นก็จะถูกกัดกร่อนจนละลายหายไป ค่ายกลและอักขระภายในจะถูกทําลายล้างไปจนหมดสิ้น
“เจ้าพวกเดม่อนสารเลว สังหารพวกมัน สังหารพวกมันให้หมด!”
คนๆหนึ่งคํารามออกมาอย่างโมโห ทันใดนั้นก็เริ่มลงมือ แสดงความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของตนเองออกมา
พวกเขาก็เคยได้ต่อสู้กับพวกเดม่อนมานับครั้งไม่ถ้วน แน่นอนว่าต้องรู้ถึงความโหด เหี้ยมของเดม่อนเหล่านี้เป็นอย่างดี ไม่มีทางที่จะเจรจาต่อรองกันได้อย่างแน่นอน ไม่สามารถที่จะอยู่ร่วมกันได้ เป็นศัตรูคู่อาฆาตที่ไม่มีทางญาติดีกัน
หากไม่ใช่กลุ่มของเดม่อนเหล่านี้ที่ตายไป ก็จะต้องเป็นพวกเขาที่ตายไปอย่างแน่นอน
ตอนนี้พวกเขาไม่มีเวลาที่จะไล่ล่าสังหารเชี่ยปิงอีก แต่ละคนต่างก็เปิดฉากโจมตีเดม่อนเหล่านี้ใช้พลังอํานาจทั้งหมดออกมา ต่อสู้อย่างสุดชีวิต
ทว่าเซียงหยุนตงของวิหารแห่งความมืดก็ยังไม่ล้มเลิกความพยายามที่จะตามหาเจ้าเชี่ยทิ้งต้องการใช้ดาบฟันเจ้าตัวตนแห่งภัยพิบัตินั่นจนตาย ทว่าตอนนี้เขากลับพบว่าเซียปิงได้หลบหนีออกไปแล้ว หลบซ่อนตัวอยู่ ไม่สามารถหาตําแหน่งของเขาได้
ดังนั้นเขาจึงต้องระบายความโมโหกับเดม่อนเหล่านี้แทน กวัดแกว่งดาบกระดูกบรรพ กาลในมืออย่างต่อเนื่องสังหารเดม่อนที่ทรงอํานาจเหล่านี้ ไม่แสดงให้เห็นถึงความเกรงกลัวแม้แต่
น้อย
ในอีกฝั่งหนึ่ง เซี่ยปิงก็แอบลักลอบเข้ามาในดินแดนที่ควบแน่นขึ้นมาจากผืนดินอําพันนี้อย่างเงียบๆ
“หืมม?!”
ทันทีที่มาถึง เขาก็ค้นพบว่าดินแดนแห่งนี้ผิดปกติอย่างมาก รวมกันเป็นปึกแผ่นเดียวกันทุกซอกทุกมุมของดินในดินแดนแห่งนี้ก็เหมือนจะจารึกไปด้วยค่ายกลยับยั้ง เหมือนว่าจะหลอมรวมกันจนกลายเป็นสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์
คาดการณ์ได้ว่าต่อให้มียอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าจํานวนมากที่ต่อสู้กันจนฟ้าถล่มดินทลายนั้น ก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับดินแดนผืนนี้ได้แม้แต่น้อย
ทว่าต่อให้จะสร้างความเสียหายให้กับดินแดนแห่งนี้ได้จริงๆ มันก็เหมือนจะฟื้นฟูตนเองขึ้นมาได้มีความสามารถในการฟื้นฟูตนเองอยู่ ไม่ประหลาดใจว่าทําไมกลุ่มของเดม่อนเหล่านั้นถึงได้รีบหลบหนีออกไปจากดินแดนแห่งนี้อย่างรวดเร็ว
บางทีหากพวกมันไม่หลบหนีออกไปอย่างรวดเร็วล่ะก็ ค่ายกลยับยั้งของดินแดนแห่งนี้ก็อาจจะฟื้นฟูขึ้นมาใหม่และปิดผนึกพวกมันอีกครั้ง
“นี่คือต้นทารกน้อยรี?”
เซียปิงก็เดินทางเข้ามาในดินแดนสีเหลืองนี้และมาถึงส่วนที่ลึกที่สุดของดินแดน จากนั้นก็มองเห็นสวนผลไม้ที่ครอบครองพื้นที่กว่าหลายหมื่นกิโลเมตร
เห็นเพียงว่าภายในส่วนลึกของสวนผลไม้นี้ มีต้นไม้ขนาดใหญ่อยู่เก้าต้นด้วยกัน แต่ละต้นมีขนาดที่ใหญ่โตมาก รากของพวกมันก็ขุดลึกลงไปใต้ดินกว่าหลายร้อยกิโลเมตร อีกทั้งก็ยังครอบคลุมระยะทางออกไปกว่า500กิโลเมตร ดูเหมือนเป็นต้นไม้เก่าแก่ที่เต็มไปด้วยราก
อีกทั้งก็เหมือนว่าต้นไม้ทั้งเก้าต้นนี้จะมีสติปัญญาเป็นของตนเอง มีพลังวิญญาณที่เข้มข้น ดูเหมือนว่าจะมีจิตใต้สํานึกที่กําเนิดขึ้นมาและเชื่อมต่อผสมผสานเข้ากับดินแดนสีเหลืองนี้รวมถึงค่ายกลยับยั้งของที่นี่ ก่อให้เกิดอาณาเขตขนาดใหญ่ของต้นไม้
ไม่ว่าใครที่เหยียบเข้ามาในอาณาเขตนี้จะต้องถูกขับไล่ออกไปหรือไม่ก็ถูกสังหารไปโดยตรง
ทว่าบนต้นไม้ทั้งเก้าก็มีผลทารกน้อยจํานวนมากที่ปรากฏให้เห็น เต็มเปี่ยมไปด้วยออร่าของผลไม้วิญญาณ ในขณะเดียวกันก็เปล่งแสงสีทองออกมา เหมือนว่าภายในจะแอบแฝงไปด้วยพลังอํานาจของกฎ ดูแปลกประหลาดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
“เป็นอย่างนี้นี่เอง”
เดิมทีเซียปิงก็สงสัยในจุดๆหนึ่งเช่นกัน นั่นคือเหตุใดพวกเดม่อนเหล่านั้นถึงไม่ได้ทําลายต้นทารกน้อยเหล่านี้ ทว่าเขาก็ค้นพบอย่างรวดเร็วว่าต้นทารกน้อยทั้งเก้านี้คือแกนหลักเก้าจุดของค่ายกลยับยั้งในดินแดนแห่งนี้
ภายใต้อาณาเขตของต้นไม้เหล่านี้ กลุ่มของเดม่อนเหล่านั้นไม่สามารถทําอะไรได้
หากกล้าที่จะโจมตีต้นไม้เหล่านี้ เกรงว่าพวกเดม่อนอาจจะถูกทําลายไปโดยตรง ดังนั้นสถานที่แห่งนี้จึงกลายเป็นพื้นที่เขตต้องห้ามของพวกเดม่อน ไม่มีตัวใดที่กล้าเข้าใกล้
“ดูเหมือนว่าการที่ต้องการจะขุดผืนดินอําพันเหล่านี้ไปจะไม่ใช่เรื่องง่าย”
เชี่ยทิ้งหรี่ตาลง ตามแผนการที่เขาคิดไว้ก่อนหน้านี้ ตราบใดที่เข้ามาในดินแดนแห่งนี้ได้และเพียงแค่โบกมือออกไป ทันใดนั้นก็จะสามารถนําพวกมันไปไว้ในพื้นที่ของลูกปัดพิภพได้ในทันที
ทว่าเมื่อดูตอนนี้ หากตนเองใช้กําลังฝืนเคลื่อนย้ายมันออกไปล่ะก็ มันจะต้องทําให้ต้น ทารกน้อยทั้งเก้าต้นต่อต้านขัดขึ้นอย่างแน่นอนกระตุ้นค่ายกลยับยั้งภายในดินแดน พลังอํานาจที่น่าสะพรึงกลัวจะปะทุออกมา
เมื่อถึงเวลานั้น เขาก็อาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ก็ถึงขั้นเสียชีวิตไป เพราะต้น ทารกน้อยทั้งเก้านี้ไม่รู้ว่ามีชีวิตอยู่มานานแค่ไหน ภายในตัวของพวกมันแอบแฝงไปด้วยพลังงา ที่มหาศาลอย่างถึงที่สุด อีกทั้งการที่พวกมันมีสติปัญญาขึ้นมานั้น บางทีพวกมันก็อาจจะพัฒนาขึ้นไปจนถึงระดับเซนต์แล้ว
นี่คือเฒ่าปีศาจที่แท้จริง