God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ - ตอนที่ 1920
ตอนที่ 1920
“เจ้าพวกลาหัวโล้น พวกเจ้าอยากมีส่วนร่วมด้วยอย่างนั้นรี?!”
เซี่ยปิงก็หันไปทันที เขาสัมผัสได้ว่ากลุ่มของพระผู้อาวุโสกําลังควบคุมลูกประคําวังวนเพื่อโจมตีเขา บทสวดทางพระพุทธศาสนากําลังสั่นไหว ก่อตัวกลายเป็นอาณาเขตพระพุทธศาสนา
บทสวดทางพระพุทธศาสนาเหล่านี้แอบแฝงไปด้วยพลังอํานาจระดับสุดยอดของพระพุทธศาสนา เหมือนกับว่าจะทําให้พื้นที่บริเวณนี้ล่มสลายไปก็ว่าได้ พลังอํานาจที่ชั่วร้ายทั้งหมดทั้งมวลจะถูกชําระล้างไป
เห็นได้ชัดว่ากลุ่มของพระผู้อาวุโสเหล่านี้คิดจะลอบโจมตีข้างหลังตนเอง แอบแฝงไปด้วยจิตสังหารที่ไร้ที่สิ้นสุด
เขาก็ยกปากกาสังสารวัฏขึ้นมาและวาดออกไปเพียงหนึ่งครั้ง
ปัง!
เพียงแค่การโจมตีนี้ บทสวดสีทองนับไม่ถ้วนก็แหลกสลายไปอย่างกะทันหัน ถูกตัดกลายเป็นส่วนๆ บรรดาพระผู้อาวุโสก็ไม่ทันได้ระวังตัว ทั่วทั้งร่างกายถูกผ่าจนกลายเป็นครึ่งท่อน
แม้แต่พระผู้อาวุโสที่บ่มเพาะร่างอรหันต์ทองคําก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีนี้ได้ เพียงแค่เลือดเนื่อของพวกเขาไม่สามารถต้านทานความแหลมคมของปากกาสังสารวัฏได้ เหมือนว่าในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดที่จะต้านทานแสงที่แหลมคมของปากกาสังสารวัฏได้
“นี่มันเป็นไปไม่ได้ ไม่คาดคิดว่าแม้แต่ร่างอรหันต์ทองคําของพระผู้อาวุโสเหล่านี้ก็ต้านทานแสงคมของปากกานี้ไม่ได้ สุดท้ายมันคืออะไรกัน เป็นสมบัติระดับสุดยอดที่เซนต์เทวลิขิตได้ทิ้งเอาไว้เช่นกันหรือ?”
บางคนที่อดตะโกนออกไปไม่ได้ รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
ร่างอรหันต์ทองคําเป็นที่ล่วงรู้ว่าเป็นร่างไร้เทียมทาน มีภูมิต้านทานต่อพลังอํานาจทั้งมวลยากที่จะทะลวงผ่านไปได้ สิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ทั่วๆไปไม่มีทางที่จะทิ้งร่องรอยไว้บนร่างอรหันต์ทองคําได้ ดังนั้นร่างที่แข็งแกร่งนี้จึงมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งจักรวาล
ทว่าตอนนี้ไม่คาดคิดว่าจากการที่ปากกวาดออกไปเพียงครั้งเดียว มันกลับทะลวงผ่านร่างอรหันต์ทองคําได้ในพริบตา นี่มันช่างเป็นเรื่องที่เหนือจินตนาการจริงๆ เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช้สิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ที่สิ่งประดิษฐ์เซนต์ทั่วๆไปจะเทียบด้วยได้
“ข้าก็ไม่แน่ใจ ข้าไม่เคยเห็นสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์เช่นนี้มาก่อน ข้าสัมผัสได้เพียงแค่พลังอํานาจที่ไร้ที่สิ้นสุดของแสงแหลมคมนั่นเท่านั้น เหมือนว่าจะสามารถตัดผ่านห้วงมิติ กาลเวลาและเวรกรรมได้”
ยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าผู้หนึ่งก็ได้เอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม
“นี่มันตลกสิ้นดี เจ้าอย่าพูดเกินความจริง แม้แต่สิ่งประดิษฐ์เซนต์ขั้นสุดยอดก็ไม่สามารถบรรลุถึงจุดๆนั้นได้ นี่เจ้ากําลังหวาดกลัวเจ้าอู๋ตี่จนตาฝาดไปหรือไม่?” ยอดฝีมือจํานวนมากก็ไม่เชื่อในสิ่งที่คนผู้นั้นเอ่ยออกมา
“แน่นอนว่าสิ่งที่ข้าเอ่ยออกมาอาจจะฟังดูเกินจริงไปสักหน่อย ทว่าก็ต้องยอมรับถึงความร้ายกาจของปากกนี้ ไม่ใช่สิ่งที่สิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ทั่วๆไปจะเทียบด้วยได้อย่างแน่นอน หากบอกว่ามันเป็นสิ่งประดิษฐ์เซนต์ขั้นสุดยอดล่ะก็ ข้าก็กล้าคัดค้าน”
คนผู้นั้นก็กล่าวอย่างเคร่งขรึมเช่นเดิม
“เวรเอ๊ย อันที่จริงบนตัวของเขามีสมบัติมากมายเพียงใดกัน แม้แต่สิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์เช่น นี้ก็สามารถนําออกมาใช้ได้”
กลุ่มของผู้คนก็กัดฟันอย่างแน่น ไม่เต็มใจอย่างมาก พวกเขาต่างก็รู้สึกไร้พลัง เจ้าอู๋ตี่จะลึกลับซับซ้อนเกินไปแล้ว มีไพ่ในมืออยู่นับไม่ถ้วน ไม่รู้ว่าจะแสดงอะไรออกมาอีก ไม่สามารถคาดการณ์ได้เลย
“ก่อนหน้านี้ที่เจ้าเด็กนั่นไม่ได้นําสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์นี้ออกมาเพราะคิดว่าพวกเราไม่ใช่ภัยคุกคามที่เพียงพอต่อเขาอย่างนั้นรึ?” เซียงหยุนตงของวิหารแห่งความมืดก็มีสีหน้าที่มืดมนอย่างถึงที่สุด เขารู้สึกว่าตนเองถูกเจ้าเด็กนี่เหยียดหยามอย่างแท้จริง
ทว่าเมื่อลองคิดดูดีๆ ตอนที่เจ้าเด็กนี่ยังไม่ได้ใช้ไพ่ในมือออกมาก็ยังสามารถต่อกรกับพวกเขาอย่างง่ายดาย ไม่ได้ตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบแม้แต่น้อย การที่อีกฝ่ายจะดูถูกเหยียดหยาม พวกเขาก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด
ทว่าทันใดนั้นเขาก็ยิ่งรู้สึกโกรธขึ้นมา ไม่พอใจกับการไร้ความสามารถของตนเอง
วิซ!
วินาทีต่อมา เซี่ยปิงก็ยื่นมือออกไป สร้างแรงดึงดูดที่มหาศาล ดึงดูดลูกประคําวังวนนั่นเข้ามาในมืออย่างกะทันหัน
“หยุด เจ้าสารเลว นั่นมันสิ่งประดิษฐ์เซนต์ของพระพุทธศาสนาของข้า อย่าบังอาจขโมยมันไป ยังไม่รีบส่งกลับมาอีก!” พระผู้อาวุโสคนหนึ่งที่เห็นเช่นนี้ก็จ้องมองตาเขม็งทันที
นี่คือหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์เซนต์ทางพระพุทธศาสนาของพวกเขา แอบแฝงไปด้วยพลังอํานาจที่น่าสะพรึงกลัว หากสูญเสียมันไป นี่จะเป็นความสูญเสียที่ไม่สามารถรับมือได้ จะเป็นความสูญเสียที่ใหญ่หลวงต่อทางพระพุทธศาสนา
เมื่อเห็นว่าเจ้าอู๋ตี่ได้แย่งชิงลูกประคําวังวนไป มีที่ไหนที่จะพวกเขาจะนิ่งเฉยอยู่ได้
“นั่นคือลูกประคําวังวนสมบัติระดับสุดยอดของทางพระพุทธศาสนาของข้า เป็นสิ่งที่เซนต์ พระพุทธศาสนามอบให้พวกเรา ข้างในแอบแฝงไปด้วยพลังงานของเซนต์ ต่อให้เจ้าจะได้มันไป เจ้าก็ไม่มีทางควบคุมมันได้ รีบคืนมันกลับมาซะ และข้าจะลืมเรื่องในวันนี้ไป ไม่อย่างนั้นเจ้าจะต้องถูกกลุ่มพระพุทธศาสนาของพวกเราไล่ล่าไปทั่วทั้งจักรวาล ไม่ว่าจะหลบซ่อนอยู่ที่ใด พวกเราก็จะตามหาเจ้าจนเจอ!”
“พูดถูกแล้ว นี่ไม่ใช่สมบัติที่เจ้าจะแย่งชิงไปได้ รีบนํามันมาคืนเดี๋ยวนี้”
“เจ้าอาจจะไม่รู้ว่าตนเองกําลังก่อความผิดร้ายแรงอะไรอยู่ ต่อให้จะถูกนําไปขังไว้ในหอคอยหมื่นปีศาจเป็นระยะเวลานับล้านปีก็ยังยากที่จะชดใช้ความผิดทั้งหมดได้ เจ้าปีศาจร้าย รีบกลับใจก่อนที่จะสายเกินไป”
พระผู้อาวุโสจํานวนมากก็วิตกกังวลอย่างถึงที่สุด รีบตะโกนห้ามปราบเซี่ยปิงไม่ให้นําสิ่งประดิษฐ์เซนต์ลูกประคําวังวนหลบหนีออกไป
“นั่นมันเรื่องของพวกเจ้า นี่เป็นสิ่งที่ข้าได้มาด้วยฝีมือของตนเอง หากพวกเจ้ามีความสามารถล่ะก็ ก็เข้ามาแย่งชิงมันไป”
เซี่ยปิงก็พูดออกมาอย่างดูถูกเหยียดหยาม ไม่ได้สนใจคําพูดของพระเหล่านี้แม้แต่น้อย การที่เนื้อเข้าปากแล้วนั้น มีที่ไหนที่จะคายออกมาได้
สําหรับพลังงานเซนต์ที่อยู่ภายในนั้น มันอาจจะเป็นเรื่องยากที่คนทั่วๆไปจะขจัดออกไปได้ แต่ปัญหาก็คือจะนําเขาไปเทียบกับคนทั่วๆไปได้หรือ? การที่เขามีระบบอยู่กับตนเองนั้น เขาก็สามารถขจัดพลังงานเซนต์นั่นออกไปได้ภายในเสี้ยววินาที และครอบครองมาเป็นสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ของตนเอง
ทว่าตอนนี้การที่ได้ปล้นชิงสิ่งประดิษฐ์เซนต์สองชิ้นมาและยังได้ครอบครองเม็ดยาแห่งโชคชะตามานั้น การเก็บเกี่ยวครั้งนี้ก็ถือว่ามากพอแล้ว ไม่จําเป็นที่จะต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป ควรที่จะหลบหนีออกไปโดยตรง
ปัง!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เซี่ยปิงก็ยกปากกาสังสารวัฏขึ้นมาและวาดออกไปข้างหน้า ตึบ ทันใดนั้นก็ผ่าเปิดหลุมหนอนขึ้นมากลางอากาศโดยตรงและบินเข้าไปในส่วนลึกของหลุมหนอนนี้
วิซ!
อึดใจต่อมา ทั่วทั้งร่างกายของเขาก็ปกคลุมไปด้วยพลังงานห้วงมิติของแหมลงหลุมดํา ทันใดนั้นก็หลบหนีและหายไปจากสถานที่แห่งนี้ในทันที
“หลบหนีงั้นรึ? ไล่ตาม ไล่ตามไปทันที”
พระผู้อาวุโสจ่างเหม่ยก็วิตกกังวลขึ้นมาทันที มีที่ไหนที่เขาจะปล่อยให้เจ้าอู๋ตี่นําสิ่งประดิษฐ์ เซนต์ลูกประคําวังวนหลบหนีออกไปได้ นี่คือสิ่งประดิษฐ์เซนต์ทางพระพุทธศาสนา หากปล่อยให้ถูกขโมยไป มันจะเป็นตราบาปของพวกเขา
เม็ดยาแห่งโชคชะตาก็ไม่ได้ครอบครองมา ทว่าตอนนี้ก็จะสูญเสียลูกประคําวังวนไปอีก ต่อให้จะนั่งหันหน้าเข้าหากําแพงเพื่อสํานึกความผิดของตนเองเป็นระยะเวลากว่าหลายหมื่นปี มันก็ไม่สามารถชดเชยให้กับความสูญเสียนี้ได้
“อย่าไล่ตามไป!”
ทว่าไม่ทันรอให้เขาได้เคลื่อนไหวออกไป ทันใดนั้นพระผู้อาวุโสที่อยู่ใกล้ๆก็ขัดขวางเอาไว้
“จะห้ามข้าทําไมกัน? จะต้องมองดูเขาหลบหนีออกไปจากไร้หนทาง ปล่อยให้ลูกประคําวังวนถูกขโมยไปดื้อๆอย่างนั้นหรือ?” พระผู้อาวุโสจ่างเหม่ยก็ไม่สามารถยับยั้งอารมณ์โมโหของตนเองได้ จ้องมองไปที่สหายซึ่งขัดขวางตนเองด้วยสายตาที่ดุร้าย
“ไม่เห็นหรือว่าเจ้าเด็กนั่นเปิดหลุมหนอนขึ้นมา? ข้างในจะต้องมีกับดักรออยู่อย่างแน่นอน หากไล่ตามเข้าไป เจ้าเด็กนั่นอาจจะปิดหลุมหนอนในทันที ส่งผลให้ช่องทางล่มสลาย จากนั้นพวกเราก็จะตกเข้าไปอยู่ท่ามกลางห้วงมิติที่ปั่นป่วน ถูกพายุห้วงมิติฉีกกลายเป็นชิ้นๆ”
พระผู้อาวุโสคนนั้นก็อธิบายออกมา บอกเหตุผลที่ห้ามปราบเขาไว้
“อะไรนะ? เจ้าเด็กนั่นหลบหนีออกไปไม่พอ ทว่ายังคิดที่จะวางกับดักรอพวกเราอีกหรือ?”
พระผู้อาวุโสจ่างเหม่ยก็จ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง มีสีหน้าที่มืดมนอย่างถึงที่สุด ทว่าเมื่อคิดขึ้นมาได้ เขาก็ขนลุกซู่ขึ้นมา ร่างกายหนาวสั่น รู้สึกเสียวสันหลังวาบ
เขาก็รู้ได้ทันทีว่าตนเองเกือบที่จะพลาดท่าให้กับเจ้าเด็กนั่นแล้ว ช่างเป็นแผนการที่แยบยล วางกับดักในทุกหนแห่ง
หากตนเองไล่ตามไปอย่างโง่เขลาและเข้าไปในหลุมหนอนของฝ่ายตรงข้าม เขาก็จะเผชิญกับห้วงมิติที่ปั่นป่วนอย่างแน่นอน หลังจากนั้น คาดการณ์ได้ว่าต่อให้เป็นเซนต์ก็ไม่สามารถช่วยเหลือเขาได้
“เจ้าบัดซบนั่นเจ้าเล่ห์เกินไป ไม่สามารถประมาทได้ ที่ผ่านมาบุคคลที่กล้าดูถูกเขาต่างก็ต้องกลายเป็นศพ นี่คือการเรียนรู้จากความผิดพลาดของผู้อื่น ครั้งนี้พวกเราพระพุทธศาสนาสูญเสียไปมากแล้ว ไม่สามารถเผชิญกับความสูญเสียได้อีก ยิ่งไปกว่านั้นต่อให้เขาจะขโมยลูกประคําวังวนไปได้ ทว่าข้างในก็ยังมีประทับตราวิญญาณที่เซนต์ได้ทิ้งเอาไว้ หากเขากล้ากลั่นกรองมันล่ะก็ จะต้องเผชิญกับหายะอย่างแน่นอน”
พระผู้อาวุโสจํานวนมากก็รู้สึกอับจนหนทาง ถึงแม้ว่าจะไม่เต็มใจอย่างมากที่สิ่งประดิษฐ์เซนต์ของพวกเขาถูกแย่งชิงไป ทว่าพวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น
“ดูเหมือนว่าคงต้องปล่อยไปเช่นนี้”
พระจ่างเหม่ยก็รู้สึกจนปัญญาเช่นกัน
ยอดฝีมือของวิหารแห่งความมืด ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นและกลุ่มอิทธิพลอื่นๆก็ทําได้เพียงกําหมัดขึ้นมา ทว่าก็แอบรู้สึกดีใจอยู่ลึกๆ โชคดีที่พวกเขาไม่ได้ทําอะไรบ่มบ่ามไม่ยั้งคิด ไม่อย่างนั้นสิ่งประดิษฐ์เซนต์ของตนเองก็อาจจะถูกเจ้าเด็กนั่นปล้นชิงไปได้
ในเวลานี้บรรดายอดฝีมือต่างก็ตัดสินใจกันอย่างเด็ดขาด ในอนาคตข้างหน้า หากพบกับเจ้าที่และไม่ได้มั่นใจจริงๆว่าจะสามารถสังหารฝ่ายตรงข้ามได้ พวกเราก็จะล่าถอยออกไปทันที ไม่อย่างนั้นไม่รู้ว่าจะเผชิญกับความสูญเสียแค่ไหน