God-level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ! - ตอนที่ 1073
ตอนที่ 1073 : ชิงหยวน
เมื่อออกจากหมู่บ้านซากุระ ชิงหยวนจึงตามเหยาซือหยานไปยังบริเวณชั้นวางสินค้า
“น้ำแร่สามารถเสริมศักยภาพให้ได้ เลือกซื้อมาสักขวดหนึ่ง” เหยาซือหยานชี้ไปยังชั้นวางที่มีน้ำแร่เรียงราย
กฎการซื้อได้แค่หนึ่งคนหนึ่งขวดไม่มีอีกต่อไปแล้ว และจำนวนน้ำแร่ที่ขายได้ในยามนี้ก็ไม่ใช่มากมายอะไร จะมีก็แต่ลูกค้าใหม่ที่ซื้อ
ลูกค้าทั่วไป การจ่ายหนึ่งหมื่นผลึกวิญญาณแค่ครั้งแรกครั้งเดียวก็ถือว่ามากพอแล้ว หากจะมียกเว้นก็คงเป็นลูกค้าผู้ร่ำรวยเช่นอานเหวยหยา
ชาวไซเรนค่อนข้างชอบน้ำแร่เช่นกัน จากปากคำพวกนางกล่าวว่า “น้ำแร่มีธาตุน้ำอันบริสุทธิ์เปี่ยมแน่น” อะไรทำนองนั้น
“เลือกหรือ? มองยังไงก็เหมือนกัน” ชิงหยวนพิจารณามองขวดบนชั้นวาง ถัดจากนั้นค่อยมองบัญชีในโทรศัพท์วิเศษ หนึ่งหมื่นผลึกวิญญาณถูกถอนออกไป “ใช้ผลึกวิญญาณได้โดยตรงจากบัญชี เป็นการซื้อที่สะดวกสบายนัก”
“ตอนนี้ผู้ฝึกตนแทบทุกคนในนครจิ่วเหยาต่างก็ใช้วิธีการรับส่งเงินตราผ่านโทรศัพท์วิเศษ ระหว่างทางมาไม่ค่อยได้สังเกตหรือ?” เหยาซือหยานเอ่ยถาม
ชิงหยวนพยักหน้ารับ “ระหว่างทางเห็นไม่น้อย ตอนแรกนึกว่าเป็นธรรมเนียมพิเศษอะไรขอนครจิ่วเหยาเสียอีก”
“ธรรมเนียมพิเศษ? จะกล่าวว่าอย่างนั้นก็ไม่ผิด” เหยาซือหยานกล่าวพลางเดินไป “ต่อไปเป็นมิติขายอาวุธ ดื่มน้ำแร่ที่นั่นได้ เพราะที่นั่นเกิดอะไรครึกโครมก็ไม่เป็นไร”
“มิติขายอาวุธ?” ชิงหยวนได้ยินชื่อแปลกใหม่อีกครั้งก่อนจะเดินตามเหยาซือหยานไป
“เป็นมิติพิเศษที่เถ้าแก่ร้านต้นตำรับสร้างขึ้นเพื่อใช้ขายอาวุธทั้งหลาย” เหยาซือหยานอธิบาย “มิติแห่งนั้นมีความเสถียรมั่นคงสูงกว่าโลกภายนอกอย่างมาก แม้เป็นขอบเขตราชันก็ไม่อาจสร้างความเสียหายอะไรได้มากนัก”
“ฟังดูแข็งแกร่งยิ่งนัก” ชิงหยวนรับคำพร้อมครุ่นคิด ถึงขนาดสร้างมิติที่แม้ขอบเขตราชันยังไม่อาจทำลาย เถ้าแก่ร้านต้นตำรับจึงแข็งแกร่งเช่นที่ได้ยินมา
แต่อีกฝ่ายท่าทีเหมือนไม่ค่อยสนใจอะไร นอกจากหน้าตาดีระดับหนึ่งแล้ว อื่นใดก็ไม่ต่างจากคนทั่วไป
ชิงหยวนที่บังเอิญเดินผ่านโต๊ะรับเงินได้ข้อสรุปในใจเช่นนี้ ขณะเดียวกันนางก็ได้ตระหนักว่าลั่วฉวนกำลังจับจ้องโทรศัพท์วิเศษ นิ้วมือยังรัวเร็วแตะสัมผัสหน้าจอ
ด้วยเหตุนี้นางจึงไปจิ้มถามเหยาซือหยาน “นั่นเถ้าแก่ทำอะไรอยู่กัน?”
“แต่งนิยาย” เหยาซือหยานกล่าวตอบ
“แต่งนิยาย?” ชิงหยวนทวนคำซ้ำด้วยความงุนงง
เหยาซือหยานพยักหน้ารับ “ใช่ เป็นเช่นที่เจ้าคิดนั่นแหละ”
“เถ้าแก่เบื่อหน่ายขนาดแต่งนิยายให้เวลาผ่านพ้นเลยหรือ?” ชิงหยวนมองทางลั่วฉวนก่อนจะพึมพำกับตัวนางเอง อีกทั้งนางยังได้เห็น ว่าลูกค้าหลายคนไม่คล้ายสนใจราวกับคุ้นชินแล้ว
“อืม… จะกล่าวอย่างนั้นก็คงไม่ผิดกระมัง” เหยาซือหยานเผยยิ้มลำบากใจตอบกลับมา
ชิงหยวน : …
“ลองใช้งานแอพนักอ่านในโทรศัพท์วิเศษดู เทียบอันดับลำดับแรก อ่านแล้วจะได้ผลเหมือนดังการฝึกฝน รวมถึงจะได้ดื่มด่ำเข้าไปยังโลกแห่งวรรณกรรม” เหยาซือหยานกล่าวบอก
ชิงหยวนตอนนี้ถึงกับชะงัก นางค่อยทราบตอนนี้ว่าเหตุใดแอพนักอ่านได้รับความนิยม การอ่านนิยายให้ผลลัพธ์เหมือนดังการฝึกนที่น่าเบื่อหน่ายได้ เช่นนั้นทุกคนก็เลือกที่จะหาความบันเทิงไม่ดีกว่าหรือ
ระหว่างการสนทนา นางได้เดินผ่านม่านพลังมิติและเข้ามาสู่มิติขายอาวุธ
เสียงจากร้านอีกด้านหนึ่งเลือนหายวับ ชิงหยวนรู้สึกราวกับหลุดเข้ามายังอีกโลกหนึ่ง
พื้นที่โล่งกว้างสุดสายตาปรากฏให้เห็น แสงสาดส่องจากทั่วทิศอย่างไม่อาจทราบได้ว่าต้นกำเนิดแสงมาจากที่ใด และยังมีม่านแสงขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ไม่ไกลอย่างสะดุดตา
ที่นี่มีลูกค้าอยู่หลายคน ส่วนใหญ่กำลังถืออาวุธที่หน้าตาแตกต่างกันไปพร้อมทำการทดสอบอย่างหนักมือ
พลังวิญญาณที่แผ่พุ่งจากอาวุธกระทบเข้ากับตัวมิติ ตอนนี้นางค่อยได้เห็นถึงความมั่นคงแข็งแกร่งของมิติแห่งนี้
ครั้งลั่วฉวนขยายร้านก่อนหน้านี้ เขายังได้ปรับเปลี่ยนที่นี่ด้วย กล่าวคือยิ่งใช้พลังรุนแรงมากเท่าไหร อำนาจที่ต้านรับก็จะยิ่งแข็งแกร่งตามมากขึ้นเท่านั้น
แน่นอนว่าผลจากอำนาจต้านรับจะไม่ส่งผลกระทบต่อลูกค้า และพวกเขาแทบจะไม่รับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงกันเลยด้วยซ้ำ เพราะโดยพื้นฐานแล้วมิติแห่งนี้ก็มีอำนาจต้านรับอันแข็งแกร่งอยู่ไม่ใช่น้อย
“ความมั่นคงของมิติแห่งนี้น่าทึ่งจริง” ชิงหยวนผลักฝ่ามือออกไป ปลายนิ้วปรากฏแสงสีน้ำเงินสาดส่องพร้อมควบแน่นพลังวิญญาณขึ้นมา
หากเป็นที่ภายนอก มันต้องเกิดรอยแยกมิติแล้ว ทว่าที่นี่ไม่ใช่…
ชิงหยวนยังได้ตระหนักว่ามันมีความบิดเบี้ยวเล็กน้อยตรงบริเวณที่ปลายนิ้วเคลื่อนผ่าน แต่มันก็เล็กน้อยขนาดยากสังเกตเห็นถึงร่องรอย
“เดี๋ยวเจ้าก็ชิน” เหยาซือหยานใช้คำเดิมซ้ำบ่อยหลายครั้ง ตอนนี้ยังได้เห็น ว่าชิงหยวนตระหนักถึงการคงอยู่ของหลุมขนาดใหญ่ใกล้เคียง “นั่นเป็นเถ้าแก่จงใจทำเอาไว้ เหมือนดังเครื่องประดับที่ชวนให้ต้องหยุดแวะชม รอบด้านมีม่านพลังคุ้มกันเอาไว้ ลูกค้าทั่วไปจะไม่อาจเข้าไปใกล้”
“ประดับตกแต่ง?” หลังทวนคำซ้ำ ชิงหยวนตอนนี้ค่อยมีภูมิต้านทานต่อเรื่องราวชวนประหลาดใจของร้านต้นตำรับ มุมมองต่อโลกของนางถึงขั้นแปรเปลี่ยน “แม้ว่าให้ความรู้สึกอันตรายออกมา แต่ก็แค่ของประดับสินะ น่าสนใจจริง”
ขณะนี้นางนำเอาน้ำแร่ออกมาถือและก้าวเดินออกห่างไปยังทิศทางที่ไร้ผู้คน
“แค่ดื่มเข้าไปใช่หรือไม่?” ชิงหยวนถามเหยาซือหยานเป็นการยืนยันอีกครั้ง
“ใช่” เหยาซือหยานพยักหน้าตอบรับ
“สรรพคุณของมันจะทำได้เพียงใดกันนะ” ชิงหยวนพึมพำกับตนเองพลางบิดเปิดฝาขวด
แรกคือการดมกลิ่น พบว่าน้ำแร่ไม่มีกลิ่นใด “เหมือนว่าจะไม่มีอะไรพิเศษเลยแม้แต่น้อย”
หลังดื่มเข้าไป นางค่อยพิจารณารสชาติ ทั้งหมดล้วนธรรมดา
ผ่านไปอึดใจ สีหน้าของนางเผยความประหลาดใจออกมา เพราะนางรับรู้ได้ว่าร่างกายกำลังเกิดความเปลี่ยนแปลงอยู่ภายใน
ด้วยไม่คิดลังเลใดอีก นางดื่มเข้าไปรวดเดียวหมด
จากนั้นจึงหลับตาและพิจารณาถึงกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในร่าง
จากที่เหยาซือหยานได้เห็น ร่างกายของชิงหยวนกำลังเผยแสงสีครามฟุ้งออกมา มันราวกับเป็นรัศมีแสงที่ขยายออกจากกายนาง
เป็นภาพที่งดงาม
ลูกค้าหลายคนที่กำลังทดลองใช้งานอาวุธอยู่ไกลห่างต่างก็มองมาด้วยความสงสัย
พบเห็นเป็นเหยาซือหยาน ส่วนใหญ่เกิดความหวาดกลัวกันขึ้นมา
ถัดจากนั้นจึงมองไปยังทิศทางต้นเรื่อง พวกเขากำลังคาดเดาว่าสตรีที่กำลังเปล่งแสงอยู่คือใคร
ร่างชิงหยวนกำลังเปล่งแสง… และมันคงอยู่ไม่นานเท่าใดนัก เพียงราวสิบวินาทีก่อนมันจะเริ่มเลือนหายไป
เมื่อลืมตาตื่นขึ้น ในดวงตากลับกลายเป็ฯต้องเผยความประหลาดใจก่อนจะมองสำรวจตนเอง
“เป็นยังไงบ้าง?” เหยาซือหยานก้าวเดินเข้ามาเผยยิ้มแย้มสอบถาม
“เหลือเชื่อมาก” ชิงหยวนแทบไม่อาจบรรยายเป็นคำ “เสริมคุณสมบัติ ที่ได้รับมานี้ไม่ใช่เล็กน้อยเลย ทำได้ยังไงกัน?”
“อืม… จากที่เถ้าแก่เคยกล่าว มันเกี่ยวข้องกับข้อมูลแท้จริงของโลก แก่นแท้คือสินค้าของร้านต้นตำรับสามารถปรับเปลี่ยนค่าที่เคยมีแต่เดิมได้” เหยาซือหยานนึกย้อนถึงคำกล่าวของลั่วฉวน
“อืม ข้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี” ชิงหยวนรับคำอย่างเสียมิได้