God-level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ! - ตอนที่ 1082
ตอนที่ 1082
หลังจากที่เหยาซือหยานและชิงหยวนกลับกันออกมาจากพื้นที่ส่วน
ต่อขยาย ทั้งสองก็เริ่มพูดคุยกันเรื่องร้านต้นตำรับ
“เหมือนว่าใกล้จะหมดเวลาทำการร้านแล้วนะ” ชิงหยวนหันมอง
กลุ่มลูกค้าที่เริ่มกลับกันไป “งั้นข้าก็ต้องไปบ้างแล้ว”
“อาหารที่ร้านน้อยหยวนก่วยค่อนข้างอร่อย เจ้าไปลองดูได้” เหยาซือ
หยานกล่าวแนะนำ
“ร้านน้อยหยวนก่วย? ร้านที่อยู่ในตรอกนี้น่ะหรือ?” ชิงหยวนย่อม
ได้ทราบข้อมูลของร้านน้อยหยวนก่วยมาบ้าง “ได้เห็นผ่านโทรศัพท์
วิเศษน่ะ ร้านนั้นเป็นเทพแห่งอาหารในตำนานมาเปิดเองจริงหรือ?”
วันนี้คือวันที่สองของนางที่ร้านต้นตำรับ และนางก็ยังไม่ได้พบเจอ
หยวนก่วย ดังนั้นจะไม่ตระหนักทราบตอนเดินผ่านร้านของหยวนก่วย
ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด
“ใช่ แต่ร้านเถ้าแก่หยวนมีขนาดค่อนข้างเล็ก ดังนั้นควรไปจับจอง
โต๊ะเสียก่อน” เหยาซือหยานยิ้มตอบ
“งั้นข้าขอตัวก่อนแล้ว” ชิงหยวนกลับออกจากร้านต้นตำรับตระเตรียม
ไปรับรู้รสของเทพแห่งอาหารที่ตำนานกล่าวขานถึง
เหยาซือหยานตอนนี้ค่อนข้างอารมณ์ดี หลังหารือกับลั่วฉวนว่าจะ
ทานอะไรเป็นมื้อกลางวันดี นางจึงเดินฮัมเพลงหายขึ้นชั้นที่สองไป
เมื่อลูกค้ากลับไปกันหมด ภายในร้านจึงเงียบเหงาและแห้งแล้ง หาก
จะมีเสียงก็คงเป็นเสียงฝนตกบางเบาที่กระทบเข้าโสดประสาทให้ได้
ยิน
ลั่วฉวนมองสายฝนที่ตกภายนอกร้าน เขาดีดนิ้ว ระบบกรองเสียง
เลือนหาย เสียงของฝนตกจึงดังปรากฏในร้านโดยทันที
ถัดจากนั้นเขาจึงไปนั่งเอนกายกับเก้าอี้พลางถือแก้วไวน์โปร่งแสง
ในมือ ของเหลวสีชมพูอ่อนซากุระที่อยู่ในแก้วเคลื่อนไหวไปมา
กลิ่นหอมอ่อนจางของเหล้าซากุระค่อนข้างเด่นชัด
ลั่วฉวนปล่อยความคิดไหลเวียนไปเรื่อย กระทั่งคิดเรื่องของร้าน
กาแฟที่เปิดในเก๋อหลัวเมื่อคืนนี้ แต่เขายังไม่ทราบด้วยซ้ำว่ามันตั้งอยู่
ที่ประเทศใดและเมืองใด
แต่หากคิดให้ดี ทราบหรือไม่ทราบก็ไม่ใช่ประเด็น แต่หากคิดถาม
ระบบโดยตรง ความรู้สึกแปลกใหม่ของสถานที่ก็อาจเลือนหายได้
ช่วงบ่ายไม่มีเรื่องราวใดให้ควรค่ากล่าวถึง ทางด้านลั่วฉวนก็ยังคงใช้
ชีวิตเหมือนเช่นเคย
แม้ว่าเรื่องราวของโบราณสถานที่ปรากฏในเทือกเขาจิ่วเหยาลดทอน
ความร้อนแรงลงไปแล้ว แต่ลูกค้าก็ยังมีการกล่าวถึงเรื่องการสำรวจ
พวกเขาคาดหวังให้มีการค้นพบอะไรใหม่เกิดขึ้น
เวลาผันผ่าน เพียงพริบตาก็ถึงช่วงเย็น ด้วยแสงจากสองฟากข้างถนน
ที่สาดส่องทำให้บรรยากาศอึมครึมเพราะฝนค่อยลดทอนลง
เหยาซือหยานกำลังจะเผยแพร่ผลงานที่นางตั้งใจปลุกปั้นขึ้นมาใน
แอพนักอ่านวันพรุ่งนี้ ดังนั้นนางจึงกำลังสำรวจผลงานเพื่อดูให้
แน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดพลาด
ทางด้านลั่วฉวนเดินไปใช้งานเครื่องเล่นเกมเสมือนจริง เมื่อเข้ามาถึง
เก๋อหลัว ตัวเขาถูกส่งมายังร้านกาแฟที่ยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่าอยู่ที่ไหน
เปรี้ยง!
เสียงสายฟ้าฟาดลงมาพร้อมเสียงฝนฟ้าคะนอง
ที่นี่ก็ฝนตกด้วย?
ลั่วฉวนเดินไปถึงตรงหน้าต่างเพื่อมองออกไปยังภายนอกร้าน
เม็ดฝนหยดและไหลลงตรงหน้าต่างทิ้งร่องรอยเอาไว้ ฝนที่ร่วงหล่น
ลงมามากมายกลับกลายเป็นม่านแห่งสายฝน น้ำจะรวมตัวขังก่อน
ไหลไปยังสองฟากข้างของถนนและหายไป
เหมือนว่าระบบระบายน้ำของเมืองแห่งนี้จะค่อนข้างดี
รับชมฝนที่ตกนอกร้านต้นตำรับมาก็นาน ตอนนี้มาที่นี่ก็ฝนตกจึง
ประหลาดใจ แต่ก็ไม่ได้เก็บมาคิดอะไรมากมาย
อย่างน้อยที่นี่ก็คงไม่ตกนาน
เมื่อคืนเขายังไม่ได้สำรวจใกล้เคียงให้ชัดเจน พบว่าสิ่งปลูกสร้าง
รอบด้านคล้ายถูกทิ้งร้าง เว้นก็แต่แสงไฟจากถนนที่น่าจะมีพลังเวท
เป็นพลังงาน ร้านนี้แทบจะเป็นแห่งเดียวที่มีแสงสว่างในระยะการ
มองเห็น
สิ่งปลูกสร้างรอบด้านแทบจะถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานาน แสงไฟจาก
ถนนที่สาดส่องไปยิ่งเผยให้เห็นถึงความเสื่อมโทรม
นี่คืออะไร? ทำไมรู้สึกว่าแย่เสียยิ่งกว่าออรัน
ก่อนหน้านี้ลั่วฉวนคิดออกไปเดินเล่นสำรวจ แต่ตอนนี้ความคิด
เหล่านั้นเลือนหายหมดแล้ว
ด้วยฝนที่ตกหนัก แม้กระทั่งตลาดสดก็ยังเงียบเหงาได้
อีกทั้งยังเป็นช่วงเวลาที่ฟ้ามืดแล้ว ผู้คนส่วนใหญ่ยิ่งไม่มีความคิด
ออกมาเดินเล่นในค่ำคืนที่ฝนตกอย่างแน่นอน แม้เป็นเขายังต้อง
เลือกขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านอันอบอุ่น
ช่างมัน อย่างไรแล้วครั้งร้านต้นตำรับก็อยู่ไกลห่างเช่นนี้ มันแทบไม่
มีอะไรไปสักเท่าไหร่
ก่อนอื่น ในเมื่อเป็นร้านกาแฟก็ต้องมีเคาน์เตอร์
เคาน์เตอร์สร้างขึ้นจากไม้ทั้งชิ้น สีโดยรวมเป็นน้ำตาลเข้ม เนื้อสัมผัส
คือไม้จริง และหากมองให้ดีจะพบเห็นจุดประกายแสงสีทองภายใน
เนื้อไม้ด้วย
พื้นผิวไม้ถูกขัดจนมันวาวแทบกลายเป็นกระจกสะท้อนได้
ลั่วฉวนกำลังสนุกในการจัดเตรียม อุปกรณ์และวัตถุดิบทั้งหลายถูก
วางบนโต๊ะข้างเคาน์เตอร์
แต่… เหมือนที่เขาขาดไปคือตนเองไม่ทราบวิธีการทำกาแฟ
แต่ก็ไม่น่าใช่เรื่องยากกระมัง? ลั่วฉวนคิดทดลอง
ยังไงแล้วที่นี่ก็ไม่มีอะไรอื่นให้ทำ หาทางฆ่าเวลาจึงเป็นเรื่องสนุก
กว่า
เมล็ดกาแฟหลากหลายชนิดถูกบรรจุในกล่องโปร่งแสง ขนาดนั้น
แตกต่างกันไป รูปลักษณ์ก็เช่นกัน มันคือความแตกต่างที่เข้ากัน
อย่างลงตัวและเหมาะสม
ลั่วฉวนมองว่าระบบทำการเลือกจัดหามาได้ดีไม่น้อย
ถัดจากนี้จึงเป็นเครื่องมืออุปกรณ์ ส่วนใหญ่จะทำจากโลหะสีเงินมัน
วาวอันคุ้นเคยให้ความรู้สึกทันสมัยและคลาสสิคในเวลาเดียวกัน
แม้ไม่ทราบว่าใช้ยังไง แต่ก็พอคาดเดาโดยคร่าวได้จากรูปลักษณ์
ของพวกมัน แน่นอนว่าลั่วฉวนคิดอยากทดลองดูด้วยซ้ำ
ผ่านไปครู่หนึ่งลั่วฉวนค่อยนั่งบนโซฟาพร้อมถือแก้วกาแฟในมือที่มี
ไออุ่นกรุ่นออกมา
นี่คือผลงานจากการทดลอง ชื่อไม่สำคัญ แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่
รูปลักษณ์ต้องดูดีต่างหาก
แม้ว่าสาเหตุหลักแท้จริงที่มันออกมาดีจะเป็นเพราะคุณภาพของ
วัตถุดิบที่ระบบนำเสนอมาให้ แต่อย่างน้อยลั่วฉวนก็มองว่าตนเอง
ทำได้ดีแล้ว
กลิ่นหอมกาแฟค่อนข้างเข้มข้น รวมถึงมีกลิ่นผลไม้อ่อนจางเจือปน
เมื่อสูดดมจนพอใจแล้วจึงยกดื่มไปอึกหนึ่ง
รสชาติขมอันเป็นเอกลักษณ์ของกาแฟสัมผัสที่ปลายลิ้น
ในใจเขาตอนนี้ร้องบอก ว่าควรจะต้องเพิ่มน้ำตาลเข้าไปเสียหน่อย
ความหวานที่พอดีก็สามารถชูจุดเด่นของกาแฟได้ รวมเข้ากับกลิ่น
หอมผลไม้ที่ปะปนในกาแฟมันจะยิ่งลงตัว
หลังตระหนักรสชาติอย่างถี่ถ้วน พบว่ามันมีรสชาติที่เกินคาด
หรือเราจะมีพรสวรรค์ในการทำกาแฟ? ลั่วฉวนอดไม่ได้ที่จะเกิด
ความคิดเช่นนี้ขึ้นในใจ
ซึ่งอันที่จริงประเด็นสำคัญอยู่ตรงวัตถุดิบที่ระบบนำเสนอจัดหามาให้
ลั่วฉวนไม่ทราบเรื่องการจัดแบ่งประเภทของกาแฟสักเท่าใดนัก
ยกตัวอย่าง เขาไม่ทราบด้วยซ้ำว่าที่หมู่บ้านซากุระมีกาแฟกี่ชนิด
วางขาย ดังนั้นรายละเอียดความแตกต่างของกาแฟแต่ละชนิดคือ
อะไรอย่าได้ถามถึง
ด้วยเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจที่จะขายกาแฟโดยไม่แบ่งประเภทที่ต่าง
โลกแห่งนี้ ส่วนว่าจะทำยังไง นั่นก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของตัวเขาเอง
เรื่องหนึ่งฉุกใจคิดขึ้นมาได้ ประเทศนี้ใช้หน่วยเงินตราเป็นอะไร
การจะเปิดร้านค้าต้องไม่ลืมถึงหัวใจหลักแห่งการซื้อขาย
หลังดื่มกาแฟไปอีกหนึ่งอึก ลั่วฉวนจึงลืมเลือนความคิดจนสิ้น
ช่างมัน ลูกค้ายังไม่มีด้วยซ้ำ จะคิดเรื่องราคาไปทำอะไร
หรือก็คือร้านแห่งนี้สามารถรับงานอื่นได้ด้วย เช่นการรับจ้างเป็น
นักสืบ…
ความคิดของลั่วฉวนตอนนี้โบยบินออกไปถึงชีวิตที่น่าสนใจยิ่งกว่า
ที่เคยเป็น