God-level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ! - ตอนที่ 1111
ตอนที่ 1111
ฟ้ามืดลง เซ็นน่ายังคงส่องสว่าง ดวงดาวเจิดจรัสบนฟากฟ้ายามค่ำคืนกำลังประชันแสงต่อกัน
โรนาที่สวมใส่หมวกทรงสูง จัดแจงชุดสีดำให้เรียบร้อย ปิดแสงไฟในห้อง และผลักประตูเปิดเพื่อออกไป
วันนี้เป็นวันที่สาม เขาเกิดคาดหวังว่าจะได้รับอะไรจากร้านกาแฟแห่งนั้น
สำหรับโรนา กองอัศวินแห่งเซ็นน่าไม่มีใดให้หวาดเกรง ต่อให้เขาไม่อาจเอาชนะ แต่หนทางหลบหนีมีอยู่เสมอ
ที่เขาไม่ทราบ คือเหตุใดเถ้าแก่หนุ่มผู้ลึกลับคนนั้นเลือกเปิดร้านที่เซ็นน่า?
และไม่ว่ามองอย่างไร หากมีลูกค้าคนอื่นแวะเวียนไปเยือน ข่าวคราวเรื่องของสิ่งที่เรียกว่ากาแฟจะต้องแพร่กระจาย บรรดายอดฝีมือแห่งตำนานทั้งหลายจะยินดีเร่งรีบเดินทางมา…
ด้วยปล่อยความคิดไหลเวียนไปเรื่อย โรนาก้าวเดินไปตามเส้นทางสัญจร ห้องที่เขาเช่าอยู่ค่อนข้างไกลห่าง ดังนั้นผู้คนแถบนี้จึงบางตา
สายลมเย็นเยือกพัดผ่าน แสงจากไฟส่องทางของสองฟากถนนเป็นความงดงามหนึ่งเดียวที่เจิดจ้าในเส้นทางอันมืดมิด ร่างเงาที่สะท้อนทอดยาว มันผันเปลี่ยนไปมา
ฉับพลันโรนาหันมองด้านหลัง พบว่าเป็นถนนที่ว่างเปล่า มีเพียงแต่เงาดำที่ไม่แปรเปลี่ยนจากต้นไม้และสิ่งปลูกสร้างใกล้เคียง
เหมือนว่าเขาจะมองไปอย่างนั้น ความเร็วของโรนาที่เดินต่อไปไม่ได้เปลี่ยนแปลง เขายังคงรักษาท่าทีเช่นเดิมเอาไว้
ในโลกแห่งความฝัน เฮอร์แมนขมวดคิ้ว เขามั่นใจว่าโรนาไม่มีทางตระหนักถึงตนเอง เพราะแม้เป็นยอดฝีมือแห่งตำนานทั้งหลายยังไม่อาจมองผ่านโลกแห่งความฝันจากโลกความเป็นจริง
แต่เหมือนว่าอำนาจรับรู้ทางลับที่ไม่อาจอธิบายเป็นคำพูดจะมีอยู่ มันอาจคล้ายสิ่งที่เรียกว่าสังหรณ์ซึ่งรับรู้ถึงสายตาผู้อื่นที่มองจากทางด้านหลัง
แต่ก็เท่านั้น เฮอร์แมนเกิดสงสัย ว่าอะไรที่ทำให้โรนาอยู่ที่เซ็นน่าต่อแม้ต้องแบกรับความเสี่ยง ถึงกับทำให้ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ยอมอยู่ต่อได้ มันจะต้องมีเรื่องราวใดแน่
ที่พักของโรนาค่อนข้างอยู่ไกลจากที่ตั้งร้านกาแฟ แต่สำหรับโรนาและเฮอร์แมนไม่นับเป็นอะไร ทางด้านโรนาไม่คิดโดยสารรถรางเวทมนตร์ เขาเพียงเดินไปเรื่อย
เมื่อเลี้ยวตรงมุมหนึ่ง มองไกลออกไป โรนาอดไม่ได้ที่จะชะงัก
บริเวณที่เขาจำได้ มันไม่มีแสงส่องผ่านจากหน้าต่างออกมา สิ่งปลูกสร้างของทั้งสองฟากเส้นทางมืดมิด แสงจากไฟส่องทางก็ค่อนข้างหมองหม่น มันยิ่งทำให้บริเวณนี้ยิ่งอ้างว้าง
เฮอร์แมนที่อยู่ในโลกแห่งความฝันเกิดสับสน เหมือนว่าที่นี่จะไม่มีอะไรเป็นพิเศษ
เขาอยู่ที่เซ็นน่ามาก็หลายปี ทุกซอกมุมของเมืองชายทะเลแห่งนี้รู้จักดี ตามแนวทางพัฒนาเซ็นน่าในปัจจุบัน พื้นที่ตรงนี้ถูกลืมเลือนอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นผู้คนสัญจรจึงแทบไม่มี
ขณะเฮอร์แมนสับสน โรนาก็เริ่มก้าวเดินออกไปอีกครั้งยังร้านกาแฟ เฮอร์แมนยังคงตามติด
เมื่อเข้ามาใกล้ โลกแห่งความฝันของเฮอร์แมนฉับพลันพบเจอสิ่งผิดปกติ หากเทียบกับสิ่งปลูกสร้างอื่น ที่ตรงหน้าเขาตอนนี้มันพิเศษอย่างเห็นได้ชัด
หากสิ่งปลูกสร้างอื่นเป็นเส้นโครงร่าง สิ่งปลูกสร้างตรงหน้านี้คือการวาดอย่างบรรจง เห็นได้ชัดว่าผิดปกติ
โรนาไปหยุดยืนตรงหน้าต่างราวคิดอยากมองเข้าไปยังด้านใน เขาได้เห็นสองแสงในความมืด ในใจเกิดตื่นตะลึง
อย่างไรแล้วในความทรงจำของเขา ร้านกาแฟของลั่วฉวน มันเทียบเท่าดินแดนแห่งเทพปีศาจ เป็นปกติหากจะมีอะไรที่ไม่ธรรมดาให้พบเห็น
ด้วยแสงหม่นผ่านทางหน้าต่าง โรนาได้เห็นภาพขมุกขมัวของสองแหล่งกำเนิดแสง เหมือนจะเป็นดวงตาของสัตว์
ตระหนักรู้ถึงสายตา คิเมน่าหยุดกินและหันมาคำรามใส่โรนา
แม้โรนาไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตนี้มาก่อน เขาก็ยังวางใจ อย่างน้อยมันก็ไม่ใช่อะไรแปลกประหลาดจนเกินรับได้
เขาพยายามผลักประตูที่ปิด ไม่ได้ผล กระทั่งออกแรงเพิ่มทีละน้อยจนกระทั่งสุดแรง โรนาก็ยังไม่อาจผลักประตูเปิดได้
หากเป็นที่อื่นมันคงผิดปกติ แต่ที่นี่ถือว่าปกติ
โรนาไม่คิดเสียเวลาเพิ่มเติม ตอนนี้หันมองทางถนนว่างเปล่าทางด้านหลัง “ตามข้ามาจนถึงที่นี่ ไม่คิดแสดงตนหน่อยหรือ?”
เฮอร์แมนที่อยู่ในโลกแห่งความฝัน เขากำลังพยายามเปิดประตูร้านต้นตำรับ ซึ่งก็ไม่ได้ผล ทั้งยังได้ยินคำของโรนาที่ไม่เคยเตรียมใจจะได้ยิน เขานิ่งชะงักพยายามรักษาไว้ซึ่งความลับ
หลังรอคอยอยู่หลายนาที โรนาไม่พบเห็นใครแสดงตัว คิ้วอดไม่ได้ที่จะต้องขมวด ทั้งยังสงสัยว่าเป็นตนเองที่คิดไปเองหรือไม่
ทว่าเขาเคยได้อ่านเซ็นน่ารายวันและได้ทราบเรื่องสำนักงานนักสืบสร้างฝัน เขามั่นใจว่าไม่ได้คิดไปเอง “ผู้สร้างฝันเฮอร์แมน ไม่คิดออกมาให้เห็นตัวงั้นหรือ?”
ตัวตนถูกรู้เข้าจนได้ ความลึกลับที่เคยมีและรักษาเอาไว้ไม่มีอีกต่อไป เฮอร์แมนโบกมือพร้อมปรากฏหมอกรอบด้าน โลกแห่งความฝันที่เดิมมีหมอกสีขาวเริ่มกระจ่าง ในสายตาของโรนา ร่างของเฮอร์แมนปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าตรงหน้า
แม้ถูกเจอตัว เฮอร์แมนก็ยังคงเผยยิ้มบางที่ใบหน้าอย่างไม่มีใดผิดปกติ เขากระทั่งกล่าวทักทายโรนาด้วยซ้ำ “ในเมื่อทราบชื่อกันแล้วก็คงไม่ต้องแนะนำตัว มันทำกระผมเกิดสงสัย ว่าร้านอะไรกันที่ทำให้คุณชายโรนาถึงกับต้องอยู่โยงต่อที่เซ็นน่า? คุณชายสมควรทราบว่ากองอัศวินทั้งเมืองกำลังล่าตัวอยู่ไม่ใช่หรือ?”
กับท่าทีของเฮอร์แมน โรนาถึงขั้นชะงักพร้อมเผยสีหน้าจริงจัง “แล้วไม่แจ้งจับหรือยังไง? จำได้ว่าภารกิจเจ้าคือจับกุมตัวคนร้ายนี่”
เฮอร์แมนส่ายศีรษะพลางยิ้ม “กระผมก็แค่นักสืบ ภารกิจจับตัวเป็นของกองอัศวิน งานที่รับมาก็แค่สืบหาข่าวคราว”
ในเมื่อเฮอร์แมนไม่มีเจตนาลงมือ โรนาก็คร้านจะใส่ใจ เขายังอยากอยู่ที่เซ็นน่าไปตลอดเพราะร้านกาแฟแห่งนี้ด้วยซ้ำ
โรนาพยักหน้ารับก่อนจะคิดกลับ แต่แล้วเฮอร์แมนพลันเรียกหยุดเอาไว้ “ร้านแห่งนี้มีอะไรพิเศษ”
“หากพรุ่งนี้ประตูร้านเปิด เช่นนั้นก็ได้ทราบเอง” โรนาไม่หยุดฝีเท้า เสียงของเขาลอยตามสายลมเย็นยามค่ำคืนเข้าไปกระทบโสดประสาทรับฟังของเฮอร์แมน
เฮอร์แมนมองที่ประตูร้านสีแดงพร้อมใช้นิ้วจรดคาง แม้โรนาทราบว่าเขาตามอยู่ก็ยังไม่สนใจ ร้านนี้มันทำเขาเกิดคาดหวังจากก้นบึ้ง
ช่างมัน ไว้มาพรุ่งนี้อีกครั้ง อยู่ตากสายลมเย็นเยือกที่นี่ต่อไม่ใช่เรื่องดี เฮอร์แมนเร่งรีบแยกย้ายตามโรนากลับไป
โรนาหันมองโดยไม่พูดกล่าว ผ่านถนนหลายสาย สุดท้ายพบเห็นรถรางเวทมนตร์ เฮอร์แมนขึ้นโดยสารรถรางเวทมนตร์กลับ ขณะที่โรนายังคงเดินต่อ
ลั่วฉวนไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นที่เซ็นน่า ตอนนี้เขาเพียงเล่นไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ดไปเรื่อยจนชนะสะสมครบสิบครั้ง
เหยาซือหยานที่อยู่ใกล้เคียงกำลังพูดคุยกับมิตรสหายผ่านโทรศัพท์วิเศษ จากสีหน้ายิ้มแย้ม น่าจะกำลังอารมณ์ดีไม่น้อย
ทางด้านต้นไม้โลก ก้อนดำน้อย และคิเมร่าที่อยู่ร้านกาแฟที่เซ็นน่า ทั้งสามต่างนอนหลับกันเรียบร้อย