God-level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ! - ตอนที่ 1148
ตอนที่ 1148
การต่อสู้ในโรงประมูลจบลงอย่างรวดเร็ว ขนาดที่ว่าเกินกว่าลูกค้าซึ่งรับชมการถ่ายทอดสดจะคาดคิดได้ถึง
ลั่วฉวนที่ทานมันฝรั่งทอดเผยสายตาเสียดาย
เขาเองก็ไม่ได้เห็นอย่างชัดแจ้งนัก
ไฉนเปิดตัวยิ่งใหญ่อลังการ แต่แล้วจบลงด้วยผลลัพธ์เช่นนี้ได้กัน?
จากที่เขาคาดการณ์ กระบวนการทั้งหมดตั้งแต่บุกโจมตีจนตกตายโดยร่างในชุดเกราะ มันใช้เวลาไม่น่าเกินสองวินาที
ก่อนจะลงมือไม่ได้คิดชั่งน้ำหนักความเป็นไปได้ก่อนเลยหรือยังไง?
“หือ? อะไรกัน? แค่ข้าหันไปครู่เดียวก็จบแล้ว?” ปู้หลี่เกื๋อเผยดวงตาเบิกกว้าง
“นึกว่าพวกที่ลงมือก่อการจะแข็งแกร่งเสียอีก ทำผิดหวังจริง” โจวหู่ถอนหายใจ
“ไม่ใช่ว่าพวกเขาอ่อนด้อย แต่เป็นร่างในชุดเกราะเหล่านั้นแข็งแกร่งเกินไป” ตี้อู๋ปาเต๋าจับจ้องเหล่าร่างในชุดเกราะผ่านหน้าจอด้วยสีหน้าคร่ำเคร่ง
เขาคือผู้รักชอบในวิชากระบี่ และเขาได้เห็นชัดว่าร่างในชุดเกราะเหล่านั้นใช้กระบี่จัดการผู้คนตรงหน้าเช่นไร แรงสั่นไหวที่เกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วนกับตัวกระบี่ มันแตกต่างจากเคล็ดวิชากระบี่ทั่วไปของทวีปเทียนหลันอย่างสิ้นเชิง
เขากระทั่งเกิดคาดหวังว่าจะได้เรียนรู้และเชี่ยวชาญมัน ถึงตอนนั้นอาจเป็นตัวช่วยให้ก้าวข้ามอาการตีบตันที่ประสบอย่างยาวนาน สุดท้ายจะนำไปสู่การก้าวถึงขอบเขตราชันในคราวเดียว!
“ชวนสะพรึงแท้จริง พลังอำนาจการโจมตีเหล่านั้นเทียบเท่าขอบเขตราชันระดับสูงแล้ว” ฟ่านเฉิงเทียนพยักหน้ารับ “แต่นั่นไม่น่าใช่กำลังสุดตัวของพวกเขา”
ทั้งคณะคือขอบเขตราชัน เช่นนี้หมายความถึงคฤหาสน์จ้าวเมืองมีอำนาจสุดหยั่งยิ่งใหญ่ในทวีปเทียนหลัน
“เหมือนว่าปัญหาจะคลี่คลายแล้ว” เซี่ยเมิ่งอู๋ปรบมือ เสียงใสดึงสติผู้คนที่จมดิ่งกลับคืนมากันได้
ใบหน้าของนางยังคงเผยยิ้มแย้ม ราวกับไม่คิดใส่ใจเรื่องราวเมื่อครู่แต่อย่างใด ในมือยังคงถือน้ำแร่ของร้านต้นตำรับเอาไว้เช่นเคย
“เรื่องราวเช่นนี้เกิดขึ้นในงานประมูล แม้จัดการได้เรียบร้อยหมดจดแล้ว แต่ข้าก็ต้องขออภัย” เซี่ยเมิ่งอู๋กล่าวคำขออภัยเสียงอ่อนนุ่ม
ทันทีเมื่อได้ยินถ้อยคำ เหล่าผู้ฝึกตนในโรงประมูลต่างร้องบอกว่าไม่ใช่ความผิดนาง
“องค์หญิงเซี่ยอย่าได้กล่าวเช่นนี้ เป็นพวกมันที่ควรกล่าวโทษ”
“กลุ่มคนหน้าโง่ไร้สมอง ตายไปเสียได้ก็ดี”
“คฤหาสน์จ้าวเมืองไม่ใช่อะไรที่ใครหน้าไหนจะมาท้าทายได้…”
อย่างไรแล้วกลุ่มคนก็ถูกองครักษ์แห่งคฤหาสน์จ้าวเมืองสังหารเรียบร้อย ผู้อื่นตอนนี้คร้านจะกล่าวถึงเรื่องเลวร้ายที่มันผ่านเลยไปแล้ว
เซี่ยเมิ่งอู๋เผยยิ้ม เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เก็บเรื่องเหล่านี้มาใส่ใจ “ตอนนี้เริ่มงานประมูลกันต่อ ก่อนอื่นคือความสามารถของสินค้า มิตรสหายในที่นี้ส่วนใหญ่คงทราบแล้ว ดังนั้นข้าจะเพียงกล่าวโดยคร่าว นั่นคือการเสริมศักยภาพให้ผู้ที่ดื่มโดยไร้ข้อจำกัด”
“องค์หญิงเซี่ยเมิ่งอู๋ คำว่าเสริมศักยภาพหมายความถึงอย่างไร มันมีค่ากำหนดที่แน่นอนหรือไม่?” ชายร่างกำยำที่มีรอยแผลเป็นตรงใบหน้าเอ่ยถาม น้ำเสียงของเขาดังประหนึ่งฟ้าคำราม
“ไม่มี” เซี่ยเมิ่งอู๋ส่ายศีรษะ “ตามข้อมูลที่พวกเราได้รับมา การเสริมศักยภาพเป็นค่าที่ไม่แน่นอน บางทีอาจได้รับเป็นร่างที่หายากโดยถูกปลุกให้ตื่นขึ้นหลังการดื่ม หรือบางทีอาจเป็นได้แค่ศักยภาพที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย”
“เป็นเช่นนี้ ขอบคุณสำหรับคำตอบ” ชายแผลเป็นพยักหน้ารับก่อนจะนั่งลงตามเดิม
คำของเซี่ยเมิ่งอู๋ไม่ได้ลดทอนความสนใจของผู้คน แต่มันยิ่งทำให้พวกเขามองน้ำแร่ด้วยความร้อนแรงที่มากขึ้น
ปลุกร่างกายภาพอันหาได้ยาก แค่มีโอกาสทำให้มันเกิดขึ้นก็ดีล้นเหลือแล้วไม่ใช่หรือยังไง?!
แม้ว่าค่าที่แน่ชัดไม่อาจคาดเดา แต่อย่างไรก็คือการได้รับ คำที่ไม่แน่นอนเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลกับเหล่าผู้ฝึกตนในโรงประมูลแม้แต่น้อย
“น้ำพุวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ราคาเริ่มประมูลที่…” เซี่ยเมิ่งอู๋เว้นช่วงพลางกวาดสายตามอง “หนึ่งผลึกวิญญาณ”
ลั่วฉวน : ?
เขาเผยความงงงัน เหตุใดน้ำแร่ร้านต้นตำรับกลับกลายเป็นมีชื่ออันยิ่งใหญ่เสียได้
เหยาซือหยานหลุดหัวเราะออกมาก่อนจะปิดปากไว้ ทว่าดวงตาไม่อาจปิดบัง
“ฮ่าฮ่า น้ำพุวิญญาณศักดิ์สิทธิ์!”
“น้ำแร่ของร้านเถ้าแก่ได้ชื่อใหม่แล้ว!”
“ชื่อนี้ดูยิ่งใหญ่กว่าน้ำแร่มากมายนัก…”
เสียงหัวเราะภายในร้านต้นตำรับดังขึ้นพร้อมบรรยากาศอันครื้นเครง
ส่วนราคาเริ่มต้นที่หนึ่งผลึกวิญญาณ หาได้มีผู้ใดใส่ใจไม่ อย่างไรแล้วราคาสุดท้ายมันจะไม่ต่ำเช่นราคาเริ่มประมูลอย่างแน่นอน
ยามเซี่ยเมิ่งอู๋กล่าวราคาต่ำเตี้ยออกมา เสียงรับคำอย่างประหลาดใจดังปรากฏในโรงประมูล แน่นอนว่าไม่มีใครคิดกล่าวถึงอื่นใด
พวกเขาเพียงจับจ้องขวดน้ำแร่ที่ปรากฏให้เห็น และกำลังรอคอยผู้เสนอราคาคนแรก
หลังความเงียบงันผ่านไปราวสิบวินาที เสียงหัวเราะคิกคักดังทำลายบรรยากาศ
ฉู่หยางบิดฝาขวดเก็บโคล่าที่เหลือ ลุกขึ้นจากโซฟา ก้าวเดินไปยังบริเวณกระจกใสหน้าห้อง “ในเมื่อไม่มีใครเสนอราคาเป็นคนแรก เช่นนั้นข้าทำให้เอง สิบผลึกวิญญาณ”
รอยยิ้มปรากฏพร้อมเสียงที่เงียบไป ทั้งโรงประมูลตอนนี้กลายเป็นเงียบงันอีกครั้ง
เซี่ยเมิ่งอู๋ : …
นับเป็นโชคดีที่นางฝึกฝนมาดีเยี่ยม แต่อย่างไรก็อดไม่ได้ที่จะมีสีหน้าแข็งค้างเล็กน้อย “สิบผลึกวิญญาณ ลูกค้าท่านนี้เสนอสิบผลึกวิญญาณ ถือเป็นสิบเท่าของราคาเริ่มประมูล!”
ในถ้อยคำของนางเจือความประหลาดใจ ราวกับว่ามันไม่ใช่สิบผลึกวิญญาณ แต่เป็นแสนหรือล้านผลึกวิญญาณ!
“สมกับที่เป็นผู้อาวุโสฉู่หยาง!”
“ทำเอาข้าตกใจเลย”
“สิบผลึกวิญญาณ… ข้านึกว่าจะเสนอไปสักหมื่นเสียอีก”
“…”
ข้อความแชทสดมากมายปรากฏเคลื่อนผ่านบนหน้าจอการถ่ายทอดสด มันมาพร้อมเสียงหัวเราะคึกคักในร้านต้นตำรับ
“ข้าเสนอหนึ่งหมื่นผลึกวิญญาณ!” สิ้นคำของเซี่ยเมิ่งอู๋ไปครู่ บรรยากาศในโรงประมูลค่อยคึกคัก มีคนเริ่มเสนอราคากันเข้ามาเพิ่ม
“หนึ่งหมื่นผลึกวิญญาณก็ยังกล้ากล่าวกันออกมาได้” บางคนนึกเหยียดหยาม “ห้าแสนผลึกวิญญาณ!”
“สองล้าน!”
“สามล้าน…”
ราคาถูกนำเสนอครั้งแล้วครั้งเล่า อย่างน้อยมันก็เพิ่มขึ้นจากสิบผลึกวิญญาณไปมากโข
เรื่องราวนี้ส่งผลให้บรรดาผ็รับชมการถ่ายทอดต่างถอนหายใจกันออกมา ผู้คนเหล่านี้ร่ำรวยกันเกินไปแล้ว
“เปิดโต๊ะเดิมพัน แจ้งราคาสุดท้ายของน้ำพุวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ซึ่งกำลังถูกประมูลในเมืองแห่งความโกลาหล เข้ามาเลือกวางเดิมพันกันได้” เสียงหู่ขวงดังตะโกนขึ้นในเวลาอันเหมาะเจาะ
ตราบเท่าที่มีเรื่องราวให้ลงมือ หู่ขวงย่อมไม่คิดพลาดการเปิดโต๊ะเดิมพัน กล่าวได้ว่าครั้งนี้เขาเลือกจังหวะเวลาได้ดีเยี่ยม
กลุ่มลูกค้าภายในร้านต่างคุ้นชินกันแล้ว ยามนี้ได้ยินเสียงตะโกน หลายคนไปรวมตัวกันรอบโต๊ะ วางเดิมพันพร้อมเขียนราคาชนะประมูลกันลงไป
แน่นอนว่าการวางเดิมพันทำได้เพียงใช้สินค้าภายในร้านต้นตำรับ นอกเหนือจากนั้นไม่มีการรับ สำหรับราชวงศ์สัตว์อสูร พวกเขาไม่ได้ขาดแคลนผลึกวิญญาณ ที่ต้องการก็แค่สินค้าภายในร้าน
เสียงดังคึกคักในโรงประมูลค่อยเบาลง เหล่าผู้ฝึกตนที่เข้าร่วมงานประมูล พวกเขาทราบว่าสุดท้ายครั้งนี้ตนเองไม่อาจเข้าไปเกี่ยวข้อง
ผลึกวิญญาณที่เพิ่มขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า มีแต่ผู้ร่ำรวยอย่างมหาศาลจึงทำได้
ผู้ที่ยังเข้าร่วมการเสนอราคาตอนนี้ล้วนเป็นเหล่าคนที่แข็งแกร่งในห้องแยกของโรงประมูล
“เจ็ดล้าน” ผู้เฒ่าอสูรโลหิตเผยสีหน้าเรียบเฉย แต่ในใจเกิดนึกเสียดายที่ใช้จ่ายไปมากกับกระบี่กร่อนวิญญาณ
“เจ็ดล้านสามแสน” ชายผู้หนึ่งที่มีสีหน้าเย็นเยือกขานราคาที่สูงยิ่งขึ้น