God-level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ! - ตอนที่ 1062
ตอนที่ 1062
เมฆหนายังคงปกคลุมฟากฟ้า สายฝนยังคงร่วงหล่นสู่พื้นแผ่นดิน ประกายแสงระยิบระยับของสายฟ้าจะปรากฏเป็นครั้งคราว เสียง “ครืน” ของฟ้าที่ผ่าลงมาก็ปรากฏดังเป็นบางครั้ง
พายุฝนที่ตกกระหน่ำต่อเนื่องกลายเป็นชั้นน้ำหนาย้อมฟ้าดินให้ยากมองเห็น
หลายสิบร่างปรากฏบนอากาศไกลห่าง เพียงครู่พวกเขาต่างเข้ามาใกล้ เหล่านี้คือกลุ่มลูกค้าที่เพิ่งออกมาจากร้านต้นตำรับ
ชาวไซเรนที่อยู่ในคณะเดินทางนี้ค่อนข้างชอบสภาพอากาศเปียกชื้น เพราะมีธาตุน้ำประกอบหนาแน่น ทางด้านชาวทะเลก็มีอาการไม่ต่างกันเท่าใดนัก
ลั่วฉวนเพิ่งเดินกระดานโกะกับอานเหวยหยาจบไป ตอนนี้จึงมารับชมการถ่ายทอดสดผ่านโทรศัพท์วิเศษ เรื่องนี้ทำมังกรสาวเกิดไม่ชอบใจจนต้องกล่าวออกมา
“เถ้าแก่ หากสงสัยทำไมไม่ออกไปรับชมด้วยตนเองกันล่ะ?” อานเหวยหยาอดไม่ได้ที่จะต้องถาม
“เพราะข้าไม่อยากออกไปไงล่ะ” ลั่วฉวนให้คำตอบที่กระจ่างชัด
“เรื่องนี้…” อานเหวยหยาชะงักไป นางค่อยได้ตระหนักว่านี่เป็นความเกียจคร้านส่วนตัวของลั่วฉวน ตอนนี้จึงได้แต่ต้องเผยยิ้มอับจน “ก็ได้ ข้าควรทราบแต่แรกแล้ว”
“เถ้าแก่ เหมือนว่าจะไปถึงกันแล้ว” เหยาซือหยานที่ยืนใกล้เคียงพลันเอ่ยคำขึ้น นางกำลังรับชมการถ่ายทอดสดผ่านโทรศัพท์วิเศษ
เหล่าลูกค้าที่กำลังดูการถ่ายทอดสดนั้นเป็นเอเลน่าดำเนินการ ลั่วฉวนไม่ทราบว่าไซเรนสาวผมสีเทาจะมีงานอดิเรกเป็นการถ่ายทอดสด
เพราะเรื่องของโบราณสถาน จำนวนคนดูการถ่ายทอดของเอเลน่าตอนนี้จึงเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล กระทั่งว่าปีนป่ายขึ้นไปยังทำเนียบด้านบนสุด
ด้วยเพราะเป็นสินค้าที่ร้านต้นตำรับขาย โทรศัพท์วิเศษถือเป็นของสารพัดประโยชน์เกินกว่าราคาขายของมัน แม้บินด้วยความเร็วสูงระหว่างการถ่ายทอดสดมันก็ยังสามารถลอยตามได้อย่างง่ายดาย
ในการถ่ายทอดสด เอเลน่านั่งบนฟองน้ำโปร่งแสง รอบฟองน้ำจะปรากฏละอองสีน้ำเงินเยือกแข็ง สิ่งนี้น่าจะเป็นพลังวิเศษของชาวไซเรน
ส่วนชาวไซเรนที่เหลือซึ่งร่วมทางไปด้วยต่างก็ใช้ฟองน้ำเช่นเดียวกันนี้ ระหว่างทางพวกนางยังนำเอาโทรศัพท์วิเศษออกมาถ่ายรูปรอบด้าน
ส่วนทางด้านลูกค้าคนอื่นที่ตามกันไปก็ค่อนข้างธรรมดา กระนั้นการบินด้วยความเร็วสูงจึงทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของอากาศจนเสื้อผ้าพลิ้วไหวดูน่าเกรงขามระดับหนึ่ง
ขณะมุ่งหน้ามาได้พักหนึ่งแล้ว ไม่ช้าพวกเขาจึงได้เห็นที่หมายปลายทาง มันคือโบราณสถานที่ปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหันโดยไม่ส่งสัญญาณใดแจ้งบอก
ฟากฟ้าไกลห่าง มันราวกับถูกกระชากเปิดออก
หากมองจากระยะไกล มันจะเป็นราวกับภาพที่ถูกกรีดตรงกลางและหย่อนลง ทว่ารอยแยกนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างฟ้าดิน
มิติโดยรอบเกิดรอยแตกร้าวอย่างไม่เป็นธรรมชาติ หลายส่วนบิดเบี้ยว ร่องรอยพลังงานปะทะรุนแรงเผยให้เห็น สิ่งประหลาดคือสภาพมิติตอนนี้ราวกับเป็นผืนน้ำที่ปรากฏคลื่นวงน้ำมากมาย
พื้นดินเบื้องล่างแยกออก น้ำฝนที่รวมตัวกันอยู่จากทั่วสารทิศต่างไหลลงไปจนเกือบจะกลายเป็นทะเลสาบ
“พลังงานรุนแรงที่นี่คงต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่าจะกระจายหายหมด สภาพเช่นตอนนี้คงมีแต่ขอบเขตทดสอบเต๋าจึงสามารถต้านรับเอาไว้” จักรพรรดิปีศาจหรี่ดวงตาลงเล็กพร้อมเผยความเห็นออกมา
ตอนนี้เองที่เขานำเอาแก้วชานมออกมาจากที่ใดไม่ทราบจิบไปอึกหนึ่งด้วยสีหน้าพึงพอใจ
จากปากคำของจักรพรรดิปีศาจ เข้าไม่คิดเข้าไปยังโบราณสถาน เพราะเขากล่าวว่า “ก็แค่ซากทางประวัติศาสตร์”
ส่วนเหวินเทียนจีและคณะที่มาเยือนโบราณสถาน ก็เพราะเขาคิดอยากค้นพบอะไรอย่างเช่นค่ายอาคมโบราณ
และ… ที่เหลือก็เป็นแค่ความสงสัยใคร่รู้
ลูกค้าหลายคนที่ผ่านเงื่อนไขเข้าร่วมทีมแต่ไม่ได้ร่วมทางมา พวกเขามีความเห็นคล้ายคลึงกัน คือโบราณวัตถุในโบราณสถานมีหรือจะเทียบของที่ขายในร้านต้นตำรับได้?
“อืม… ตรงหน้านี้น่าจะเป็นจุดที่ข้าตาย” เอเลน่าชี้ไปยังตรงหน้าพร้อมเผยยิ้ม ทว่าคำกล่าวนั้นทำผู้อื่นยิ้มตามไม่ออก
หญิงสาวงดงามคนหนึ่งชี้บอกที่เกิดเหตุ “เมื่อครู่ข้าตายตรงนี้” มันช่างดูแปลกประหลาดเกินจะคาดคิด
แน่นอนว่าข้อความแชทสดตอนนี้พลันปรากฏไหลบนหน้าจอ
“นี่… เหมือนเมื่อครู่ได้ยินอะไรแปลกไป”
“หูฝาดหรือ?”
“ไม่ต้องสงสัย พวกเจ้าได้ยินไม่ผิด”
“…”
หลายคนที่รับชมการถ่ายทอดสดอยู่ต่างไม่ทราบเรื่องที่เอเลน่า “ถือกำเนิดขึ้นใหม่” ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจะสับสนกันก็ไม่แปลก
“ได้เห็นกับตาตัวเองก็จริง แต่พอได้ฟังแล้วทำไมรู้สึกแปลกกันนะ?” เหยาซือหยานเผยสีหน้าเคร่งเครียด
“เพราะเป็นความพิเศษของชาวไซเรน” ลั่วฉวนบอกกล่าวออกไปตามตรง
ตอนนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ของทางร้านต่างก็กำลังรับชมการถ่ายทอดสดนี้กันอยู่
เพราะม่านที่เคยบดบังโบราณสถานกำลังจะเผยออก การสนทนาจึงยิ่งเท่าทวีความร้อนแรง
พลังงานการปะทะที่โบราณสถานชักนำมาส่งผลให้เกิดม่านพลังธรรมชาติปกคลุมพื้นที่ หากไม่แข็งแกร่งพอจะไม่มีทางเข้าใกล้รอยแยกที่ทะลวงผ่านโลกเข้ามาได้
แน่นอนว่าสนามพลังงานที่เหลืออยู่นั้นไม่อาจขัดขวางคณะสำรวจจากร้านต้นตำรับเอาไว้ได้ พวกเขาเพียงมุ่งหน้าผ่านเข้าไป ไม่ใช่คิดทำลายมันเพื่อเปิดทางเข้า
เพราะพลังงานที่ตกค้าง หลังผ่านมาพักหนึ่งมันจึงเริ่มมีความเสถียรเกิดขึ้น แต่หากความเสถียรตรงนี้ฉับพลันทลายลง คงมีแต่พระเจ้าที่ทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
หากโบราณสถานหายไปเพราะสาเหตุนี้ เช่นนั้นก็คงเป็นการเดินทางอย่างสูญเปล่า…
“สนามพลังงานแข็งแกร่งมาก หากไม่ทราบว่ามาทำอะไรที่นี่กันแน่ อย่าลองดีจะดีกว่า” เอเลน่าทำหน้าที่ผู้ถ่ายทอดสดได้ดีเยี่ยม
ผลกระทบจากพลังงานภายนอก พื้นผิวของฟองน้ำที่นางโดยสารมาจึงเกิดเป็นแสงสว่างรอบด้าน ผลลัพธ์ที่ได้คือการหักล้างของพลังสองชนิดที่ราวกับมีเท่าเทียมกันพอดิบพอดี
ระยะห่างเริ่มเข้าใกล้มากขึ้น รอยแยกที่นำไปสู่โบราณสถานกำลังเผยออกให้ทุกคนได้เห็น
หากมองจากไกลห่าง มันราวกับรอยแผลเป็นที่ด่างพร้อยของฟ้าดิน สีสันอันแปลกประหลาดวกวนไปมาที่ใจกลาง มันราวกับประตูสู่ขุมนรกที่รอคอยเหยื่อมาเยือน
“นี่มัน… ดูแปลกมาก” เหยาซือเย่ว์เกิดนึกเสียใจที่เลือกเดินทางมา “แต่พี่หญิงบอกว่าไม่อันตราย…”
เมื่อมองที่โทรศัพท์วิเศษ ข้อความของเหยาซือหยานปรากฏบนหน้าจอ ความตึงเครียดของนางค่อยเลือนหายไปมาก
ตรงหน้ามันคือเส้นทางประหลาด คณะสำรวจจากร้านต้นตำรับตอนนี้ต่างหยุดเพื่อรับชมกันคนแล้วคนเล่า
“ทำไมถึงมองเข้าไปยังโบราณสถานไม่ได้?” หู่ขวงถึงกับต้องกุมศีรษะ
“เป็นโบราณสถานที่แตกต่างจากแห่งอื่นอย่างมหาศาล ดังนั้นมองไม่เห็นก็ไม่แปลก” เหวินเทียนจีสำรวจมองรอบแยกรอบด้าน เขาขมวดคิ้วพึมพำกับตนเอง “แต่โบราณสถานครั้งนี้ดูผิดปกติยิ่งกว่าครั้งใด…”
“เมื่อครู่ว่าอะไรนะ?” หยวนก่วยหันมองมา
หยวนก่วยเข้าร่วมคณะสำรวจได้ จากปากคำของเขา ภายในโบราณสถานอาจมีวัตถุดิบที่ทวีปเทียนหลันไม่มีคงอยู่
จากมุมมองนี้จึงค่อยทราบ ว่าสมแล้วกับฉายาเทพแห่งอาหาร
“ไม่มีอะไร” เหวินเทียนจีส่ายศีรษะตอบ “โบราณสถานครั้งนี้ไม่น่ามีเรื่องราวร้ายแรงใด ไม่ต้องกังวลไป”
ด้วยฐานะจ้าวตำหนักจักรกลสวรรค์ คำของเหวินเทียนจีได้รับการยอมรับ ผู้คนค่อยสงบใจกันลงได้จากเหตุที่ทางเข้ามันแปลกประหลาดจนเกินไป