God-level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ! - ตอนที่ 1067
ตอนที่ 1067
การค้นพบพืชพรรณพิเศษที่เป็นสิ่งมีชีวิตกึ่งโลหะเป็นผลให้ลูกค้าอื่นที่รับชมการถ่ายทอดสดต่างอุทานร้องกันออกมา
ลั่วฉวนรู้สึกได้ถึงสาเหตุที่พวกเขาตื่นเต้น เพราะมันคือการค้บพบสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน มันใหม่หมดจด ซึ่งก็เหมือนดังสินค้าทั้งหลายของร้านต้นตำรับ
ความแตกต่างก็คือพืชประหลาดซึ่งอยู่ใต้ดินของโบราณสถานไม่อาจซื้อได้ด้วยราคาสิบผลึกวิญญาณ
“พืชเช่นนี้สมควรมีพลังงานพิเศษอัดแน่นอยู่ แต่มันใช้ทำอะไรได้กัน?” ลั่วฉวนก็เพียงกล่าวถามไปเรื่อย
จากข้อมูลยาวิเศษทั้งหลายในทวีปเทียนหลัน มันจะแบ่งเป็นระดับและตามปี ยิ่งมากขึ้นก็ยิ่งส่งผลให้เกิดความยอดเยี่ยมทางกายภาพและยืดอายุขัย
อานเหวยหยาที่ทานไอศกรีมหมดแล้วคิดเดินกลับไป นางพลันต้องหยุดยามได้ยินคำถาม “เรื่องนี้ข้าไม่ทราบ แต่น่าจะใช้ประโยชน์อะไรได้บ้างไม่มากก็น้อย”
จากตัวตนของนาง ที่กล่าวออกมาว่าไม่มั่นใจนั้นจริงหรือ? แต่จากสีหน้าที่แสดงให้เห็นก็ไม่น่าใช่เรื่องโกหก
“แต่ไม่ว่าสรรพคุณของมันจะเป็นอะไร สำหรับเถ้าแก่แล้วก็ไม่น่าต่างจากดอกไม้ธรรมดากระมัง?” อานเหวยหยานึกถึงเรื่องราวที่ได้เห็นเมื่อหลายวันก่อน จากนั้นสายตาที่นางมองลั่วฉวนจึงแปลกออกไปเล็กน้อย “เม็ดยาไม่อาจส่งผลกับเถ้าแก่ ดังนั้นกับพืชพวกนี้อย่าได้กล่าวถึงดีกว่ากระมัง?”
ลั่วฉวนไม่อาจปฏิเสธเรื่องนี้ ดังนั้นจึงพยักหน้าตอบรับ “เป็นเช่นที่ว่า”
เมื่ออานเหวยหยากลับไปแล้ว เหยาซือหยานค่อยวางโทรศัพท์วิเศษลง “เถ้าแก่คิดยังไงกับพืชนั่น?”
“รูปลักษณ์ค่อนข้างดี เติบโตได้โดยอาศัยโลหะ สมควรเอามาใช้ประดับตกแต่งพื้นที่ได้” ลั่วฉวนชี้ไปยังมิติส่วนต่อขยายของร้าน
“น่าสนใจ” เหยาซือหยานพยักหน้ารับก่อนจะถามด้วยความสงสัย “เถ้าแก่คิดไปเอากลับมาด้วยตนเองหรือไม่?”
“ไม่เป็นไร แค่ตัวอย่างก็มากพอแล้ว” ลั่วฉวนกล่าวตอบ
ตราบเท่าที่มีตัวอย่างที่ถูกต้อง เช่นนั้นทำการวิเคราะห์และบ่มเพาะมันขึ้นมาก็เป็นเรื่องง่าย
“ทราบแล้ว ข้าจะให้ซือเย่ว์นำกลับมา” เหยาซือหยานปิดการถ่ายทอดสดก่อนจะส่งข้อความหาเหยาซือเย่ว์
หลังอาการประหลาดใจต่อพื้นที่ใต้ดินของโบราณสถาน ลูกค้าหลายคนในคณะสำรวจจึงเริ่มตรวจสอบพืชพิเศษที่เติบโตกับโลหะโดยละเอียด
ความสามารถเติบโตโดยใช้โลหะ มันถือเป็นรูปแบบชีวิตที่แตกต่างจากพืชธรรมดาอย่างมหาศาล อีกทั้งยังกระตุ้นความสงสัยได้มากมาย
ชาวไซเรนกลับไปแล้ว สำหรับพวกนางการสำรวจคือความน่าสนใจ ตอนนี้พวกนางไปสำรวจพื้นที่อื่นซึ่งอยู่ใต้ดินของสิ่งปลูกสร้างเพื่อหาสิ่งแปลกใหม่
“เหมือนว่าจะแข็งไม่ใช่น้อย ฟากนี้ไม่น่ามีเส้นทางลับ” เอเลน่าเผยข้อสรุปหลังทำการตรวจสอบ “กลับไปยังภาคพื้นด้านบน ในเมื่อพวกเราหาเส้นทางตรงนรี้เจอ มันก็น่าจะมีเส้นทางอื่นที่ซุกซ่อนอยู่”
“หือ? ข้อความจากพี่หญิง?” เหยาซือเย่ว์ที่กำลังศึกษารากไม้อยู่ตรงมุมหนึ่งนำเอาโทรศัพท์วิเศษออกมา ความสนใจจากพืชพรรณเมื่อครู่จึงกลายมาเป็นที่โทรศัพท์วิเศษพลางยิ้ม
“มั่นใจหรือว่าจะลองด้วยตัวเอง?” เหวินเทียนจีกล่าวถาม
หยวนก่วยถือพืชที่ไม่สมบูรณ์ในมือ ดอกไม้สีน้ำเงินเย็นเยือกเผยประกายหมอกออกมา “ใช่”
ภายใต้สายตาของลูกค้าหลายคน เขาเด็ดเอากลีบดอกไม้ออกมาและใส่เข้าปาก เคี้ยวไปสองสามครั้งก่อนจะพิจารณาอย่างจริงจัง
ด้วยเพราะเป็นผู้แข็งแกร่งขอบเขตราชันระดับสูงสุด กายภาพของเขาเหนือล้ำกว่าผู้คนทั่วไป ดังนั้นจึงไม่ค่อยหวาดเกรงเรื่องพิษสักเท่าไหร่
นอกจากนี้เขายังเดินทางไปทั่วทั้งทวีปเทียนหลัน สืบเสาะค้นหาวัตถุดิบแปลกใหม่อยู่โดยตลอด ดังนั้นหยวนก่วยจึงรอบรู้และมีความมั่นใจ
จากรูปลักษณ์สีน้ำเงินเย็นเยือก สิ่งแรกที่รับรู้คือความเย็นอ่อนจาง กลิ่นหอมยากบอกรายละเอียดได้ปรากฏผ่านปากสู่ลำคอ
ในพื้นที่บริเวณนี้ มันมีกลิ่นอันพิเศษคงอยู่ ทว่าเบาบางขนาดยากตรวจสอบพบเจอได้
ขณะเดียวกันนี้ที่พลังอันละมุนได้เคลื่อนผ่านปากไปยังทั่วร่างกายทีละน้อย มันเป็นความอบอุ่นที่ชวนให้เกิดรู้สึกสบาย
“ไม่มีผลข้างเคียงอะไรกับร่างกาย เหมือนว่าจะมีสรรพคุณคือกำจัดความเหนื่อยล้าและเพิ่มการไหลเวียนของพลังวิญญาณ” หยวนก่วยกล่าวข้อสรุปออกมา
ถัดจากนั้นเขาจึงหรี่ดวงตา ผู้คนโดยรอบมีท่าทีมองเขาแปลกออกไปเล็กน้อย คล้ายพวกเขาลังเลที่จะกล่าวอะไรออก
หยวนก่วยเกิดสับสน เหวินเทียนจีถอนหายใจก่อนจะชี้ที่ปากเขา
หยวนก่วยเข้าใจความหมาย พลังวิญญาณควบแน่นกลางอากาศเกิดเป็นกระจกสะท้อน
เมื่ออ้าปาก รัศมีแสงสีน้ำเงินเย็นเยือกจึงปรากฏ มันเหมือนดังที่ดอกไม้เป็น
รับชมดอกไม้ในมือ หยวนก่วยถอนหายใจ “เหมือนว่าผลข้างเคียงจะชัดเจนแล้ว”
…..
ฟากฟ้าด้านบนปรากฏวังวนที่เคลื่อนตัวช้าหมุนไปมา พลังวิญญาณแห่งฟ้าดินรวมตัวกันจากทั่วทิศ มันแทบควบแน่นจนเกิดเป็นพลังงานอันแปรปรวนที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า มวลเมฆหนารายล้อมวังวนปรากฏพร้อมถูกฉีกกระชากเป็นเศษซาก
เหมือนดังเป็นพื้นที่หวงห้าม เมฆฝนที่เข้ามาใกล้กลายเป็นต้องถอยห่างจากพื้นที่ค่ายอาคมเคลื่อนย้ายศูนย์กลาง
พลังวิญญาณอันบริสุทธิ์ปรากฏตามอักขระที่แกะสลักเอาไว้บนแท่น สิ่งก่อสร้างอันสุดยอดนี้ทำงานด้วยตัวของมันเอง มันสามารถเปิดเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างมิติสองแห่งเพื่อเดินทางไปทั่วทั้งทวีปเทียนหลันได้
เหยาฮุยเฉินและคณะเดินออกมาจากเส้นทางมิติ
เศษซากพลังงานที่หลงเหลือจากโบราณสถานยังคงมี เมื่อมาถึงแล้วจึงแทบรับรู้ได้ในทันที
“ทางด้านนั้น” เหยาฮุยเฉินตระหนักทราบทิศทางก่อนจะนำไป
คณะผู้อาวุโสและนักปรุงยาระดับสูงของหุบเขาโอสถต่างตามกันไป
เป้าหมายของพวกเขากระจ่างชัด และพวกเขาไม่คิดเสียเวลา เพียงพริบตาจึงกลับกลายเป็นลำแสงพุ่งผ่านหายไปกลางสายฝน
“หัวหน้า เหมือนว่าเมื่อครู่นี้ค่ายอาคมเคลื่อนย้ายศูนย์กลางเกิดการทำงานขึ้น” ทหารที่เฝ้ายามตระหนักพบเห็นจึงรายงาน
“ทำงานอะไร? เจ้ามองผิดแล้ว” หัวหน้าทหารรักษาการณ์ส่ายศีรษะ
“ขอรับ!” ทหารที่เฝ้ายามจึงทำได้เพียงตอบรับอย่างขึงขัง
พลังงานอันแข็งแกร่งรวมตัวกันที่นี่ มันกระจายจากศูนย์กลางสู่โดยรอบ ระยะการมองเห็นเกิดความบิดเบี้ยว พื้นดินกลับกลายเป็นแดนเถื่อนที่มีแต่พลังรุนแรงพร้อมระเบิดออก
ที่บนพื้นศูนย์กลางของแรงระเบิด มันปรากฏเส้นทางมิติซึ่งถูกฉีกเปิดออก ราวกับเป็นกระดาษที่ถูกตัดตรงกลางหั่นออกอย่างแปลกประหลาด
แสงอันโกลาหลปรากฏออกจากรอยแยก ราวกับมันเชื่อมต่อกับมิติแห่งอื่นที่เป็นคนละโลก
“จากการถ่ายทอดสดเมื่อครู่ นั่นคือเส้นทางเข้าโบราณสถาน” ผู้อาวุโสที่สามจับจ้องไปยังรอยแยก
ราวกับโลกเกิดรอยแผลเปิดออก นั่นคือสิ่งแรกที่ปรากฏในความคิดผู้คน
“หวังว่าจะยังเหลือให้พวกเราบ้างนะ” นักปรุงยาคนหนึ่งกระซิบกับตนเอง
“ไม่ต้องห่วงไป” เหยาฮุยเฉินยิ้มรับ “ไม่ใช่ทุกคนจะสนใจเรื่องยาวิเศษเสียหน่อย”
ยังมีประเด็นสำคัญเช่นการที่เขาส่งข้อความหาหยวนก่วยและผู้อื่นไปก่อนแล้ว
“ไปกัน หวังว่าจะได้พบสิ่งใหม่ที่น่าสนใจ” เหยาฮุยเฉินและคณะเลือนหายเข้าไปยังแสงโกลาหล