God-level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ! - ตอนที่ 1115
ตอนที่ 1115
อานเหวยหยาและคณะตอนนี้ต่างเลือกรสชาติมันฝรั่งแผ่นทอดกรอบกันได้แล้ว เสียงขบเคี้ยวภายในร้านจึงดังต่อเนื่องไม่เว้นช่วง
“กล่าวไป เกือบลืมแล้วว่าเครื่องเล่นเกมเสมือนจริงมีของใหม่เพิ่มเข้ามาด้วย” ปู้หลี่เกื๋อเพิ่งนึกขึ้นได้
“ของใหม่?” อานเหวยหยาเกิดสงสัย อาการตอบสนองของนางกระทั่งว่าหยุดกินมันฝรั่งทอดโดยไม่รู้ตัว
“หือ? เหมือนได้กลิ่นของใหม่จากในร้าน” ยี่ลาเดินผ่านประตูแสงเข้ามาที่ร้าน กลิ่นแปลกปลอมปรากฏเด่นชัดในอากาศ นางทราบดีว่าไม่ใช่สินค้าเช่นที่เคยมี
อาหารไม่ค่อยมีความหมายกับไซเรน เพราะเป็นสิ่งมีชีวิตธาตุน้ำ สิ่งที่กินเข้าไปจะกลายเป็นธาตุน้ำ พวกนางไม่ค่อยได้สัมผัสกันถึงรสชาติ ข้อสรุปที่มีต่ออาหารก็คือความรู้สึกยามเคี้ยว
แต่ด้วยเพราะพื้นฐานที่แตกต่างระหว่างสินค้าของร้านต้นตำรับและอาหารทั่วไป ต่อให้เป็นชาวไซเรนที่แทบไม่เคยรับรู้ถึงรสชาติก็ยังเอร็ดอร่อยได้ ทั้งหมดนี้จึงกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ชาวไซเรนมองร้านต้นตำรับเป็นประหนึ่งโรงอาหาร
“มันฝรั่งทอดสามารถช่วยเสริมความมั่นคงแก่ร่างกาย ราคาสิบผลึกวิญญาณ สรรพคุณเหล่านี้พวกเจ้าไม่น่าได้อะไร” อานเหวยหยาเคี้ยวมันฝรั่งทอดพลางบอกเล่า เพราะอันที่จริงสำหรับตัวนางเองก็ไม่ได้รับผลประโยชน์ใด
ร่างกายอันแข็งแกร่งของมังกร ถือเป็นจุดสูงสุดของห่วงโซ่แห่งกายภาพ ดังนั้นมันฝรั่งทอดจึงแทบไม่อาจส่งผล หรือหากส่งผลก็คือดีกว่าไม่ได้อะไรเลย เรียกได้ว่ามีก็เหมือนไม่มี
สำหรับปิงชวง… สรรพคุณของมันฝรั่งทอดไร้ผลต่อร่างของนางอย่างสิ้นเชิง แน่นอนว่านางไม่คิดสนใจ ที่นางสนใจหนึ่งเดียวคือรสชาติ
“กล่าวไป มันฝรั่งทอดน่าจะส่งผลให้เห็นชัดเจนกับลูกค้าที่ขอบเขตการฝึกฝนต่ำ เช่นพวกเรา” ปู้หลี่เกื๋อกล่าวพลางเคี้ยวขนมไปพลาง เหมือนว่ามันฝรั่งทอดจะส่งผลกับตัวเขาได้ดีเยี่ยม
“พูดไป ไม่ใช่เจ้าบอกเมื่อกี้หรือว่าเครื่องเล่นเกมเสมือนจริงมีอะไรใหม่?” อานเหวยหยานึกถึงหัวข้อเมื่อครู่ขึ้นมาได้
ปู้หลี่เกื๋อและคณะจึงบอกเล่าสิ่งที่ลั่วฉวนบอกกล่าวก่อนหน้านี้ รวมถึงสอดแทรกความคิดเห็นของตนเองลงไปด้วย
“เป็นการอ่านความทรงจำอะไรทำนองนั้นนี่เอง” อานเหวยหยาขมวดคิ้วเล็กน้อย ท่าทีของนางคือกังวล
“เครื่องเล่นเกมเสมือนจริงที่ร้านแห่งนี้มีการเก็บรักษาข้อมูลความลับลูกค้าเป็นอย่างดีไม่มีแพร่งพรายออกไป” ลั่วฉวนดื่มโคล่าพลางกล่าวบอก “นอกจากนี้แล้ว ข้าเองก็ไม่มีงานอดิเรกแปลกประหลาดเช่นการไปสอดส่องความทรงจำผู้อื่น”
อานเหวยหยาค่อยยินดี ความกังวลของนางเลือนหาย “เถ้าแก่มีอารมณ์ขันไม่น้อย หาได้ยากนัก”
“เถ้าแก่ ข้ามีคำถาม” ยี่ลาเอ่ยคำขึ้น
ลั่วฉวนรับคำ “ว่า”
“ในเมื่อเป็นการนำความหวาดกลัวภายในออกมาแสดง หากลูกค้าแบกรับไม่ไหวจะทำยังไงกัน?” ยี่ลาเผยข้อสงสัย
“มิติแห่งฝันร้ายจะมีการตรวจสอบสภาพจิตใจอยู่โดยตลอด เมื่อใดที่เกินกว่าจะรับไหว เมื่อนั้นจะถูกบังคับให้ถอนตัวออกมา” ลั่วฉวนกล่าวตอบ
“เป็นเช่นนี้ งั้นก็ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว” ปู้หลี่เกื๋อม้วนแขนเสื้อขึ้น “ไม่ทราบเลยว่าตัวข้าเองหวาดกลัวอะไร วันนี้คงได้ทราบกันแล้ว”
นอกจากอานเหวยหยา ปู้หลี่เกื๋อและคณะต่างไปจับจองที่นั่งเข้าสู่โลกเสมือนจริงกันถ้วนหน้า
“ไม่ไปหรือ?” เหยาซือหยานมองทางอานเหวยหยาที่ยังยืนเฉย
“ข้า…” อานเหวยหยาเผยท่าทีลังเล นางส่ายศีรษะหนักแน่น “ไม่ไป ไม่เอา!”
อาการตอบสนองของอานเหวยหยาค่อนข้างรุนแรง เหยาซือหยานไม่คิดถามต่อ
ลั่วฉวนยังคงทานมันฝรั่งทอด คิดไปว่ามันน่าจะเกี่ยวข้องกับตัวตนของมังกรในโลกแห่งนี้ แต่อานเหวยหยาไม่เคยกล่าวถึง ลั่วฉวนจึงคาดเดาว่าสมควรเป็นเรื่องนี้
“มีแต่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับความกลัวจึงผ่านมันไปได้” ลั่วฉวนมองที่อานเหวยหยา “มิติแห่งฝันร้ายของร้านต้นตำรับมีความปลอดภัยมากพอ ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น”
ได้ยินคำกล่าว อานเหวยหยาเกิดหวั่นไหว แต่หลังนางครุ่นคิดก็ยังส่ายศีรษะ “ไม่เอา”
ท่าทีและคำตอบของอานเหวยหยามั่นคง ลั่วฉวนก็ไม่คิดกล่าวอะไรเพิ่ม ร้านต้นตำรับอยู่ที่นี่เสมอ หากเมื่อใดนางเปลี่ยนใจต้องการทดลอง เช่นนั้นทางร้านก็พร้อมให้บริการ
……
ในมิติเริ่มต้นขาวโพลน ปู้หลี่เกื๋อตระหนักพบเห็นไอคอนแปลกใหม่ มันเป็นของเหลวสีขาวเงินที่แปรเปลี่ยนรูปร่างไปมา
ผู้คนส่วนใหญ่ต่างเกิดความหวั่นใจ เพราะก่อนที่พวกเขาจะต้องเผชิญกับความหวาดกลัวของตน จิตสำนึกจะวิ่งเร็วครุ่นคิดว่ามันจะเป็นอะไร หรือจะผ่านมันไปได้หรือไม่ ปู้หลี่เกื๋อก็ไม่ต่างกัน
“นี่คือมิติแห่งฝันร้าย? รูปลักษณ์แตกต่างจากชื่อไปบ้าง” หลังกล่าวคำ เขาเดินออกไปยืนมือสัมผัส
มิติเริ่มต้นขาวโพลนกลับกลายเป็นสีดำสนิทประหนึ่งฝันร้าย แม้เขาคุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลงปะทันหันของโลกเสมือนจริงแล้ว ตอนนี้ก็ยังอดไม่ได้ที่จะหวั่นใจ ร่างกายเกิดหดเกร็ง
นับเป็นโชคดีที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ขณะกำลังโล่งใจ เขาก็เกิดความสงสัยขึ้นด้วย “เหตุใดไม่มีอะไรเลย?”
ทันใดนี้เองที่ปู้หลี่เกื๋อได้เห็น ว่าตรงส่วนล่างของสายตา มันมีไอคอนตัวเลือกลอยปรากฏพร้อมส่องแสงเบาจาง เมื่อกดเข้าไป ม่านแสงตัวเลือกจึงปรากฏให้รับชม
ตอนที่ลั่วฉวนเข้ามาใช้งานมิติแห่งฝันร้ายเมื่อครู่นี้ เขารู้สึกว่าตัวเลือกมองเห็นยากเกินไป ดังนั้นจึงปรับให้มันกระพริบส่องแสงสว่างเพื่อสะดุดตา
“เลือกระดับงั้นหรือ? เลือกฉาก? เลือกประเภท… ทำไมมีตัวเลือกเยอะ?”
ปู้หลี่เกื๋อมองตัวเลือกหลากหลายบนม่านแสง กลายเป็นเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมา ตอนนี้ที่ทำคือสุ่มเลือกกดและยืนยันไป
ความมืดรอบด้านเริ่มกลับกลายเป็นภาพอันคุ้นเคย หลังตระหนักรู้อีกที เขาก็ได้พบว่ามันเป็นสถานที่อันคุ้นเคย บ้านของเขาเอง!
คฤหาสน์ขุนนางใต้ที่มีพื้นที่สีเขียวค่อนข้างมาก บรรยากาศดีเยี่ยม แม้เป็นกลางฤดูร้อน แต่ต้นไม้มากมายในบริเวณสวนก็มากพอให้รู้สึกถึงความร่มรื่นและน่าอยู่ เงาที่แทรกจากบนต้นไม้จะขยับเคลื่อนไหวไปมาให้พบเห็น
“นายหญิงน้อยส่งข้อความหานายท่านแล้ว ไม่ช้านายท่านน่าจะกลับมาถึง”
“มือสังหารนั่นกล้าดียิ่งนัก ถึงขั้นลงมือในนครจิ่วเหยา โชคดีที่ทหารรักษาการณ์ติดตามไปพบนายน้อยได้ทัน”
“แต่แผลซ่อนเร้นของนายน้อย… โอ้…”
แผลซ่อนเร้น? ปู้หลี่เกื๋อแตะสัมผัสหน้าอกตนเองโดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกเจ็บปวดจะพุ่งขึ้นมาทุกครั้งที่หายใจ มันเป็นความรู้สึกที่ตกค้างในร่างกาย
นี่มัน เป็นตอนที่เราได้รับบาดเจ็บ?
ความทรงจำผุดปรากฏ มันค่อย ๆ ทับซ้อนกับความเป็นจริง จิตสำนึกของเขาก้าวเดินไปต่อ
“หยุดพูดกล่าว นายน้อยมาแล้ว” หญิงรับใช้พบเห็นปู้หลี่เกื๋อ นางเอ่ยคำเสียงเบาย้ำเตือนผู้อื่น
“นายน้อย” หญิงรับใช้หลายคนกล่าวทักทายอย่างนอบน้อม
“อืม” ปู้หลี่เกื๋อพยักหน้ายิ้มรับก่อนจะเดินไป
พบเห็นแผ่นหลังปู้หลี่เกื๋อเลี้ยวตรงหัวมุมหายไปเรียบร้อย หญิงรับใช้หลายคนจึงหันมองหน้ากันเอง พวกนางราวกับไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เหตุใดนายน้อยกลับยังดูอารมณ์ดีอยู่ได้
ปู้หลี่เกื๋อเข้าใจถึงการทำงานของมิติแห่งฝันร้ายแล้ว ก็เหมือนดังชื่อของมัน ดึงเอาฝันร้ายภายในใจของคนออกมา เพื่อที่… จะได้ก้าวข้ามมันไป