God-level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ! - ตอนที่ 1116
ตอนที่ 1116
ปู้หลี่เกื๋อและคณะตอนนี้ต่างเงียบหายเข้ามิติแห่งฝันร้าย ถึงขนาดว่ากระทั่งลืมบอกต่อข่าวคราวในกลุ่มแชทของร้านต้นตำรับ
“เถ้าแก่ เหตุใดหน้าจอของเครื่องเล่นไม่มีอะไรขึ้นเลยล่ะ?” แม้อานเหวยหยายืนกรานปฏิเสธเข้าสู่มิติแห่งฝันร้าย แต่นางกลับยินดีที่จะรับชมผู้อื่น แต่พบว่าไม่อาจรับชม ตอนนี้จึงเดินไปสอบถามลั่วฉวน
“ลืมกล่าวไป การตั้งค่าพื้นฐานคือไม่อาจแสดงภาพของมิติแห่งฝันร้ายบนหน้าจอ” ลั่วฉวนส่งแผ่นมันฝรั่งทอดเข้าปากพลางดื่มโคล่า “เครื่องเล่นเกมเสมือนจริงให้ความสำคัญกับการรักษาความลับของลูกค้า”
“นั่น… เอ่อ ก็จริง” อานเหวยหยาคิดตาม พบว่าคำของลั่วฉวนถูกต้อง
เช่นที่ทราบว่ามิติแห่งฝันร้าย คือการดึงเอาสิ่งที่หวาดกลัวลึกในความทรงจำของลูกค้าออกมา คงไม่มีใครยินดีให้ผู้อื่นพบเห็นเรื่องราวเช่นนั้นแน่
“เหมือนจะยังเช้าไปบ้าง ที่ร้านลูกค้ายังไม่เยอะเท่าไหร่” เว่ยฉิงจู่สำรวจมองภายในร้าน สายตาหยุดที่ลั่วฉวนก่อนจะเผยยิ้ม “อรุณสวัสดิ์เถ้าแก่”
ซ่งฉิวหยิ่งและหลินว่านฉวงต่างเดินตามเข้ามาในร้าน ทั้งสองพูดกล่าวทักทายเรียบร้อย สัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสามค่อนข้างดี ตลอดเวลามักไปมาด้วยกันเสมอ
“อรุณสวัสดิ์ เถ้าแก่เพิ่งนำสินค้าใหม่เข้าร้านพอดี ลองไปรับชม” เหยาซือหยานแนะนำทั้งสามถึงความเปลี่ยนแปลงภายในร้าน
“สินค้าใหม่?” เว่ยฉิงจู่เผยดวงตาเป็นประกาย “พวกเราไม่ได้มาร้านต้นตำรับสองวันก็มีสินค้าใหม่แล้วหรือนี่?”
ไม่ใช่ลูกค้าทุกคนจะเป็นเหมือนดังปู้หลี่เกื๋อ ที่มาร้านทุกวันและอยู่ตลอดจนหมดวัน ส่วนใหญ่ต่างมีงานมีการทำ อย่างดีก็แวะเวียนมาซื้อสินค้าแล้วก็กลับ
นครจิ่วเหยาช่วงเวลานี้ถือว่าสงบสุข ความรุนแรงใดไม่มีปรากฏ สินค้าเช่นโคล่าจึงไม่มีการใช้งานตามไปด้วย คนส่วนใหญ่จะเลือกเก็บไว้สองถึงสามขวดเพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน
“มันฝรั่งทอดที่ช่วยเสริมกำลังกาย ราคาสิบผลึกวิญญาณเหมือนเคย รสชาติมีหลากหลาย” ลั่วฉวนกล่าวแนะนำสินค้าที่ตนกินอยู่
ทั้งสามคนมองดูลั่วฉวนหยิบขนมส่งเข้าปาก กลิ่นของมันฝรั่งทอดลอยฟุ้งในอากาศ แม้ว่าทานมื้อเช้ากันมาเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ยังอดไม่ได้ที่จะเกิดหิวคิดอยากทานขึ้นมา
เว่ยฉิงจู่กลืนน้ำลาย “กลิ่นที่ดี ต้องซื้อมาลองรสชาติหน่อยแล้ว”
อานเหวยหยารับชมคนทั้งสามที่ไม่อาจอดทนรอไหว ตอนนี้พุ่งตัวไปยังชั้นวางถุงมันฝรั่งทอดก่อนจะเริ่มเลือกหารสชาติ สีหน้าของนางที่รับชมไม่แปรเปลี่ยนพลางทานถุงในมือ “กร็อบ กร็อบ” ดังไม่หยุด
สินค้าที่มีขายในร้านต้นตำรับ ทุกอย่างมีสรรพคุณของตัวเอง รวมถึงรสชาติที่ดี รวมถึงราคาไม่ได้แพงมากมายอะไร อานเหวยหยาตอนนี้หยิบกินแผ่นแล้วแผ่นเล่าจนกระทั่งถุงว่างเปล่า
“หือ? หมดแล้ว?” นางก้มมองถุงที่ว่างเปล่าอย่างแทบไม่เชื่อสายตา จนต้องก้มมองซ้ำอีกรอบว่าเป็นเรื่องจริง
“หมดแล้ว” เหยาซือหยานพยักหน้ายืนยันให้ นางได้เห็นแล้วว่าในถุงไม่เหลืออะไร
“น้อยเกินไปแล้ว” อานเหวยหยาโยนถุงเปล่าเข้าถังขยะตรงหัวมุมของร้าน จากนั้นจึงหันไปกล่าวกับลั่วฉวน “เถ้าแก่ ข้าคิดว่าเพิ่มจำนวนมันฝรั่งหน่อยน่าจะดีกว่า ที่เป็นอยู่ตอนนี้ไม่พอให้กินนะ ราคาสูงขึ้นก็ได้ ลูกค้าคนอื่นต้องคิดเหมือนกันแน่”
“ไว้คราวหน้า” ลั่วฉวนรับคำไปเรื่อยพลางเล่นโทรศัพท์วิเศษ
“คราวหน้า?” อานเหวยหยาขมวดคิ้ว ความทรงจำวันคืนเก่าก่อนหวนย้อนกลับคืนขึ้นมา
“ควรชินกับคาถาของเถ้าแก่ได้แล้วแหละนะ” เว่ยฉิงจู่ที่เลือกได้เรียบร้อยเดินกลับมาพร้อมถุงมันฝรั่ง
“หือ? หมายความว่ายังไง?” อานเหวยหยาเกิดสนใจ
เว่ยฉิงจู่มองทางลั่วฉวนก่อน พบว่าไม่มีอาการตอบสนองใด นางเผยยิ้ม “เมื่อกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลง เถ้าแก่มักจะรับคำว่าสองสามวัน หรือคราวหน้า เป็นเช่นนี้เสมอตั้งแต่เปิดร้าน”
แม้ลั่วฉวนจับจ้องโทรศัพท์วิเศษอยู่ เขาก็ยังคงได้ยินคำของเว่ยฉิงจู่ชัดเจน ความสงสัยถึงกับปรากฏขึ้นในใจ
“ข้าพูดบ่อยหรือ?” ลั่วฉวนหันสายตาไปถามเว่ยฉิงจู่
“ไม่บ่อย แต่ก็นับไม่ถ้วน” เว่ยฉิงจู่กระแอมไอตอบ “ก็แค่ตอนที่รับคำสอบถามถึงความเปลี่ยนแปลงในร้าน อย่างไรแล้วเถ้าแก่ก็ไม่ค่อยพูดคุยกับลูกค้าสักเท่าไหร่”
งั้นหรือ? ลั่วฉวนคล้ายเข้าใจตัวเองขึ้นมา
“พอกล่าวถึงอะไรใหม่ เถ้าแก่ก็มักจะผลัดไปเรื่อยโดยตลอด” เหยาซือหยานกล่าวคำเสียงเบา
ผลัดไปเรื่อย? อืม ลั่วฉวนตระหนักรู้ตัว เขาผลัดไปเรื่อยจริง แต่ก็ไม่ใช่ไม่คิดว่าจะไม่เปลี่ยนแปลง เพราะหากเขาคิดว่าเมื่อใดจำเป็นต้องเปลี่ยน ก็คือเปลี่ยนเมื่อนั้น
รับชมลั่วฉวนที่ย้ายความสนใจกลับไปยังโทรศัพท์วิเศษอีกครั้ง เว่ยฉิงจู่และคณะต่างมองหน้ากันเองพลางถอนหายใจอยู่ภายใน เหมือนแผนการทำให้เถ้าแก่เปลี่ยนใจจะล้มเหลวอีกครั้ง
“กล่าวไป แอพพลิเคชั่นใหม่ของเครื่องเล่นเกมเสมือนจริงเพิ่งเปิดวันนี้ ลองไปดูหน่อยเป็นไร?” เหยาซือหยานกล่าวบอก
“แอพพลิเคชั่นใหม่?” ได้ยินคำ เว่ยฉิงจู่และคณะจึงหยุดทานมันฝรั่งทอด “ครั้งนี้ชื่อว่าอะไรกัน?”
“มิติแห่งฝันร้าย” อานเหวยหยากล่าวบอก
หลังเงียบไปพักหนึ่ง หลินว่านฉวงเผยท่าทีลังเล “ชื่อนี้ออกจะ…”
แม้คำถัดมาไม่เอ่ยออก แต่ความหมายชัดเจน อย่างไรแล้วมิติแห่งฝันร้าย ชื่อมันก็มากพอจะบ่งบอก
“ไม่ต้องกังวลไป ที่ร้านของเถ้าแก่ไม่มีใดอันตราย” เหยาซือหยานเผยยิ้มก่อนจะเริ่มอธิบายการทำงานของมิติแห่งฝันร้าย
“การจัดการความกลัว…” เว่ยฉิงจู่ครุ่นคิดตาม “ข้าพอคาดเดาได้ว่าจะพบเจอกับอะไร ทั้งหมดทั้งมวลคงเป็นวิกฤตที่เจอในเทือกเขาจิ่วเหยา”
ซ่งฉิวหยิ่งและหลินว่านฉวงต่างพยักหน้ารับเห็นพ้อง สำหรับผู้ฝึกตนส่วนใหญ่ที่เลือกอาชีพเป็นทหารรับจ้าง บ่อยครั้งต้องเผชิญหน้าฟันฝ่าอันตรายเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพ
อานเหวยหยาเดินกลับไปเพราะมันฝรั่งทอดหมด ตอนนี้กำลังไปหยุดยืนเลือกรสชาติไอศกรีม พิจารณาจากท่าทีของนาง คงจะใช้เวลาเลือกอีกสักครู่หนึ่ง
“เหมือนว่าในกลุ่มแชทยังไม่มีใครกล่าวถึง น่าจะต้องบอกต่อหน่อยแล้วกระมัง” เว่ยฉิงจู่นึกอะไรขึ้นมาได้ก่อนจะเข้าใช้งานเครื่องเล่นเกมเสมือนจริง
“รวมถึงมิติแห่งฝันร้ายของเครื่องเล่นเกมเสมือนจริงด้วย” ซ่งฉิวหยิ่งกล่าวเสริม “คิดดูแล้วคงได้รับการตอบรับไม่ใช่น้อย”
“ที่ร้านต้นตำรับวันนี้มีของใหม่ มันฝรั่งทอด ราคาสิบผลึกวิญญาณ ช่วยเสริมแกร่งให้ร่างกายได้ และเครื่องเล่นเกมมีแอพพลิเคชั่นใหม่ เป็นมิติแห่งฝันร้ายที่เอาไว้เผชิญหน้ากับความกลัว”
หลังอ่านทวนเรียบร้อย เว่ยฉิงจู่จึงส่งข้อความขึ้นไป
ช่วงเช้าตรู่เช่นนี้มีคนในกลุ่มแชทไม่มาก แต่เพียงเว่ยฉิงจู่หย่อนข่าวคราวลงไป มันประหนึ่งทิ้งหินลงทะเลสาบน้ำนิ่ง ตอนนี้ถึงขั้นเกิดคลื่นน้ำซัดเข้าฝั่งจนท่วมแล้ว