God-level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ! - ตอนที่ 1128
ตอนที่ 1128
ท้องฟ้าเป็นสีเทาราวกับโลหะ เศษเถ้าถ่านกระจัดกระจายเหมือนดังเกล็ดหิมะ เหล่านี้คือสิ่งที่ย้อมโลกหล้าแต่เดิมจนแปรเปลี่ยนสิ้น
พื้นแผ่นดินมีแต่รอยแตกแยก ลาวาสีแดงฉานกำลังทะลักล้นออกจากพื้น อากาศโดยรอบมีแต่กลิ่นกำมะถันรุนแรง
นครจิ่วเหยากลับกลายเป็นเศษซาก อัคคีเพลิงร้อนแรงปกคลุมเผาไหม้ต่อเนื่อง อุกกาบาตจากฟากฟ้าร่วงหล่น หางอัคคีกำลังพาดผ่านท้องฟ้าเคลื่อนตัวลงมา แรงระเบิดปะทุดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า กลุ่มควันลูกดอกเห็ดปรากฏฟุ้งกระจายในฟากฟ้า
ร้านต้นตำรับยืนหยัดท่ามกลางหายนะวันสิ้นโลก แม้โลกแทบพินาศจบสิ้น ร้านแห่งนี้ก็ยังไม่ได้รับผลกระทบใดแม้แต่น้อย
รอยแยกประหนึ่งกระจกแตกร้าวปรากฏ ฟากฟ้าเริ่มพังทลาย หมอกสีดำนับไม่ถ้วนกำลังไหลหลั่งออกมา แสงสีแดงชาดเผยประกายจากด้านในความมืด พวกมันคือดวงตาสีแดงนับจำนวนไม่ถ้วน
เสียงคำรามร้องประหลาดดังก้องสะท้านจิต พายุพลังงานสีดำม้วนตัวพุ่งเข้าหาร้านต้นตำรับ ห้วงมิติรอบด้านแตกสลายกระจัดกระจาย สภาพตอนนี้หากมองจากระยะไกล มันราวกับมีเส้นสีดำพาดผ่านปรากฏจากฟากฟ้า
ลั่วฉวนยืนที่ตรงหน้าร้าน มองขึ้นไปยังสายฝนสีดำที่ร่วงหล่น ในดวงตาเขาไม่เผยความผันแปรใด กระทั่งว่าหาวออกมาให้เห็น
“รูปแบบชีวิตที่ประหลาด… ฟ้าดินไม่รู้จักทำงาน ต้องให้คนอื่นออกมาแก้ปัญหา”
ลั่วฉวนบ่นพึมพำ ร่างเขาเลือนหายจากตรงหน้าร้าน พุ่งทะยานขึ้นบนฟากฟ้าโดยตรง หมอกสีดำพุ่งเข้าปะทะตรงหน้าเขาเพื่อขัดขวาง
พลังงานสีดำควบแน่นที่ปลายนิ้ว ลูกแก้วขนาดเล็กปรากฏหายวับเข้าไปในกลุ่มหมอกสีดำ ถัดจากนั้นเขาจึงกลับมาหยุดยืนตรงหน้าร้านอีกครั้ง
หมอกสีดำหยุดนิ่ง ราวกับกาลเวลาก็หยุดค้างตามไปด้วย
ตอนนี้เองที่ลำแสงสีดำร่วงหล่น มันเลือนหายเมื่อปะทะสัมผัสเข้ากับร้านต้นตำรับ ทว่าที่อื่นซึ่งปะทะ เสียงระเบิดดังสนั่นปรากฏกึกก้อง พื้นแผ่นดินเกิดเป็นความยุ่งเหยิงซับซ้อน
สายลมเย็นเยือกม้วนตัว พลังงานสารพัดของฟ้าดินเริ่มเคลื่อนไหวจนเกิดอากาศเคลื่อนตัว พลังงานเหล่านี้มุ่งเข้าหาหมอกสีดำบนฟากฟ้าจนมีเสียงกรีดร้องแหบห้าวดังปรากฏ
ด้วยพลังงานอันมหาศาลท่วมท้น แสงสว่างนับไม่ถ้วนเริ่มปรากฏจากหมอกสีดำในพริบตา มันเจิดจ้าและหลากสีสัน ภายใต้แสงสีอันงดงาม ออร่าแห่งความตายที่รุนแรงเริ่มพัดกระจาย
ดวงตานับไม่ถ้วนเริ่มหยุดเคลื่อนไหวทันทีที่พลังงานเข้าปะทะ สิ่งมีชีวิตรูปลักษณ์หมอกสีดำกำลังสูญเสียออร่าแห่งชีวิต
เม็ดพันธุ์ที่เกิดขึ้นจากพลังงานความว่างเปล่า มันดึงดูดพลังงานสรรพชนิดระหว่างฟ้าดินมาเยือน ผลลัพธ์ที่ได้ คือการที่ตัวตนหนึ่งไม่อาจแบกรับต่อพลังงานอันมหาศาลไร้ขีดจำกัดได้ไหวจนต้องระเบิดตกตาย
“น่าจะจบแล้ว” ลั่วฉวนคว้าขวดโคล่าขึ้นมาดื่มพลางมองท้องฟ้าหลากสีสันที่มีเถ้าถ่านสีเทาลอยฟุ้ง มันกลายเป็นความงดงามประการหนึ่ง
ขณะที่สิ้นเสียง พลังงานที่หมอกสีดำดูดกลืนเข้าไปถึงขีดจำกัด พลังงานเหล่านั้นเกิดการไหลเวียนรุนแรงปะทุตัวออกกระจัดกระจายภายใต้ฟ้าดิน
พลังงานยังคงควบแน่นและพินาศอย่างต่อเนื่อง ห้วงมิติรอบด้านเผยสภาพบิดเบี้ยวแปรเปลี่ยนไปมา ลั่วฉวนรู้สึกเหมือนได้เห็นหลุมดำที่กระจัดกระจายทั่วฟากฟ้าแดนดิน…
ลั่วฉวนลืมตาขึ้นพลางหาว เสียงพูดคุยของลูกค้าในร้านดังกระทบโสดประสาท สภาพการมองเห็นและความคิดของเขาค่อยกระจ่าง
ฝันเมื่อครู่นี้ เขารู้สึกว่าหลายส่วนไร้ซึ่งความสมเหตุสมผล ส่วนว่าทำไมเขาถึงไม่ทำอะไรจนเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นก็ยังเป็นที่สงสัย และเหตุใดเหยาซือหยานไม่อยู่ที่ร้าน…
แต่อย่างไรความฝันก็คือความฝัน มันไม่ใช่ความเป็นจริง เพราะแบบนั้นจึงไม่ควรเก็บมาคิดให้มากนัก
ด้วยคว้าขวดโคล่าข้างกายขึ้นมา บิดเปิดฝา เสียง ‘ซ่า’ ดังปรากฏพร้อมดื่มไปอีกใหญ่ หลังเรียกความสดชื่นแล้วเขาค่อยล้มตัวลงเอนนอนสบายกายอีกครั้ง
ต่อสู้และฆ่าฟัน มันไม่ใช่อะไรที่เหมาะกับเขาแม้แต่น้อย ชีวิตที่มีอาหารและความสุขสบายจึงดีกว่าเป็นไหน
จำนวนของลูกค้าที่แวะมาร้านในช่วงบ่ายเยอะยิ่งกว่าช่วงเช้า ในร้านตอนนี้กำลังคึกคัก เสียงสนทนาตื่นเต้นดังปรากฏไม่ขาด หัวข้อส่วนใหญ่ไม่พ้นมิติแห่งฝันร้าย
ในร้านเวลานี้มีลูกค้าค่อนข้างมาก ซึ่งลูกค้าเหล่านี้ก็มาจากทั้งละแวกใกล้เคียงนครจิ่วเหยา รวมถึงสี่ภูมิภาคของทวีปเทียนหลัน กระทั่งชาวทะเลและชาวไซเรนจากห้วงทะเลลึกก็ด้วย
จากสภาพปัจจุบัน มีแต่ยอดฝีมือสูงสุดของสี่ภูมิภาคแห่งทวีปเทียนหลันที่คุ้นเคยกับร้านต้นตำรับดี ส่วนอาณาจักรและกองกำลังทั่วไป เหล่านั้นที่ไม่มีความสามารถมากพอจะสร้างค่ายอาคมเคลื่อนย้าย พวกเขาแทบไม่อาจส่งผู้ฝึกตนเดินทางผ่านทวีปเทียนหลันเพื่อมารับรู้เรื่องราวของร้านต้นตำรับที่เป็นเหมือนดังคำเล่าลือ
และก็ไม่ใช่ลูกค้าทุกคนจะมาเยือนร้านได้ทุกวัน ส่วนใหญ่พวกเขาจะแวะเวียนมาร้านซื้อสินค้าที่ต้องการและเดินทางกลับ อย่างไรเรื่องอื่นใดโทรศัพท์วิเศษก็แทบมีพร้อมให้ใช้งานได้ทุกอย่าง
แต่หลังได้ทราบว่าเครื่องเล่นเกมเสมือนจริงมีแอพพลิเคชั่นใหม่เปิดให้ใช้งาน มิติแห่งฝันร้ายจึงกลายเป็นเป้าหมายที่ลูกค้าหลายคนต้องเดินทางมาเยือน กระทั่งว่าเร่งรีบมายังนครจิ่วเหยาเพื่อให้ได้ลองเป็นกลุ่มแรก
ในช่วงเช้า เวลาส่วนใหญ่ของพวกเขาคือใช้เดินทาง กว่าจะมาถึงนครจิ่วเหยาก็เกือบเที่ยง ดังนั้นจึงต้องพักทานมื้อเที่ยงก่อนจึงค่อยมาที่ร้าน เพราะเหตุนั้นช่วงบ่ายคนจึงเยอะกว่าปกติ
หลายคนที่เพิ่งมาถึงเมื่อครู่ ตอนนี้เผยสีหน้าซีดเผือดถอดหมวกออกด้วยมือสั่นเทา พวกเขาเพิ่งเข้าไปเปิดประสบการณ์จากมิติแห่งฝันร้ายกันมา
“พี่ชายเป็นยังไงบ้าง? สนุกไหม ได้พบเจออะไรในมิติแห่งฝันร้ายกัน?” ตอนนี้เองที่มีคนเดินเข้ามาสอบถามด้วยความสงสัย
“สนุกกับผี! ใครบอกข้าว่ามิติแห่งฝันร้ายไม่มีอะไรน่ากลัว?!” เสียงคำรามดังขึ้น
“จุ๊ จุ๊ จุ๊ เรื่องนี้แต่ละคนมีความแตกต่างกันไป” คนหนึ่งส่ายศีรษะพร้อมเอ่ยคำขึ้น “มิติแห่งฝันร้ายจะสะท้อนความกลัวในใจผู้ใช้งาน ครั้งพวกเราใช้ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรสักเท่าไหร่”
“ถูกต้องแล้ว เหมือนว่าสิ่งที่เจ้าหวาดกลัวจะแข็งแกร่งเกินไป ขอรับฟังหน่อยว่าเจ้าพบเจออะไรน่าสนุก… แค่ก แค่ก หมายถึงบอกเล่าประสบการณ์เจ้าให้พวกเราได้ทราบ” คนหนึ่งเอ่ยคำขึ้น
ในเมื่อหลายคนพร้อมใจกันกล่าว เดิมที่คิดโวยวายก็กลายเป็นต้องโอนอ่อนลง “บางที… คงเป็นเพราะตัวข้าเอง…”
“ก็น่าจะเป็นเช่นนั้น… แต่ไม่ต้องกังวลไป ลองปรับระดับให้ลดน้อยลงหรือไม่ก็ลดลงต่ำสุดเพื่อลองดูอีกที มิติแห่งฝันร้ายมีไว้เพื่อให้พวกเราพิชิตความกลัวในใจกันอยู่แล้ว” คนหนึ่งกล่าวคำแนะนำอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ
ลูกค้าหลายคนพยักหน้าเห็นพ้อง “ถูกต้องแล้ว พี่น้องหลายคนกำลังมาถึงนครจิ่วเหยา อีกไม่ช้ามาถึงร้าน พวกเขามาแล้วค่อยแบ่งปันประสบการณ์ต่อกัน”
คิดได้ดังนี้ โทรศัพท์วิเศษถูกนำออกมา สีหน้าผู้พูดเผยยิ้มแย้มก่อนจะส่งข้อความออกไป
ตอนนี้เองที่ผู้ประสบภัยรายใหม่เพิ่งทราบความหมายในถ้อยคำทั้งหลาย เป็นเขาเองที่โดนหลอกให้มาเผชิญกับมิติแห่งฝันร้าย และประเด็นสำคัญเหนืออื่นใด กลุ่มคนเหล่านี้รวมหัวกันหลอกให้คนอื่นมาประสบชะตากรรมร่วมกัน!
แต่คิดสะสางบัญชีหนี้แค้นกับคนกลุ่มนี้ไม่อาจทำได้ ที่จะทำได้คือล่อลวงผู้อื่นให้มาเผชิญเรื่องราวด้วยกันทีละคน จากนั้นค่อยหลอมรวมกับพวกเขาหาความสำราญบนความทุกข์คนที่มาใหม่ไปด้วยกัน…