God-level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ! - ตอนที่ 1169
ตอนที่ 1169
ลั่วฉวนที่เพิ่งฟื้นคืนชีพ สภาพยังคงสับสน
เขาไม่ทราบว่ามันเกิดอะไรขึ้นก็จบเสียแล้ว
ถือว่าน่าขบขัน
ระบบ นี่มั่นใจหรือว่าเป็นความยากระดับที่สามารถท้าทายสำเร็จได้?
การแบ่งกำลังมีหลากหลายวิธีการ ทวีปเทียนหลันก็มีขอบเขตหลอมกายเป็นจุดเริ่มต้น เก๋อหลัวก็มีระดับต้นและระดับกลาง
ในการแบ่งขนาดใหญ่ มันยังแยกย่อยอีกหลากหลาย ลั่วฉวนมักคุ้นเคยกับการจำแนกประเภทมากกว่า
สาเหตุก็ไม่ยาก นั่นเพราะจดจำได้ง่าย
ห้วงเวลาและมิติหยุดชะงัก ศัตรูของชั้นแรกอยู่กลางอากาศ มันยังคงลอยอยู่เช่นนั้น แต่หากปล่อยให้ขยับต่อก็หมายถึงลอบโจมตีได้สำเร็จ
ลั่วฉวนจ้องมอง สิ่งมีชีวิตนี้ค่อนข้างดูแปลก
ร่างกายของมันปกคลุมด้วยเกราะสีดำเรืองแสง รูปลักษณ์คล้ายแมลงมีขา หัวค่อนข้างกลม ขนาดตัวราวผู้ใหญ่โตเต็มวัย หางยังมีความคมพร้อมประกายแสงอันเย็นเยือก
ลำพังจากรูปลักษณ์ สิ่งมีชีวิตนี้สมควรเกิดมาเพื่อสังหาร
เหนือสิ่งอื่นใดคือพวกมันมีหลายสิบตัว แต่ที่เหลือรายล้อมและจับจ้องหาโอกาส
การออกล่าเหยื่อของพวกมัน เป็นวิธีอำมหิตแต่ได้ผล
ลั่วฉวนยังไม่พร้อมจะปล่อยให้ภาพฉากเคลื่อนไหวต่อ
พิจารณาจากข้อมูลที่ระบบมีให้ ความยากส่วนใหญ่ของโหมดท้าทายที่ลูกค้าเลือก มักหยุดแค่ระดับฝันร้าย
ระหว่างนรกและฝันร้าย แม้แตกต่างกันแค่หนึ่งก็ถือว่าแตกต่าง
ด้วยเพราะเป็นเถ้าแก่ ลั่วฉวนไม่จำเป็นต้องทำตามกฎ ทุกชั้นของโหมดท้าทายสามารถเข้าถึงทุกระดับความยากได้
ลั่วฉวนเกิดรู้สึกว่าเป็นเรื่องยากที่โดนสิ่งมีชีวิตคล้ายเอเลี่ยนนับสิบตัวปิดล้อมที่ระดับความยากนรกกับความแข็งแกร่งเพียงแค่ระดับหนึ่ง
มันยากเกินไป…
จากการคิดท้าทายตัวเอง กลับกลายเป็นน่าเบื่อ
อย่างไรตัวเขาก็เหมาะสมกับการนอนทอดกายเอกเขนกมากกว่า
“ระบบ ระดับความยากทั้งหลายของโหมดท้าทาย พวกมันคือสิ่งมีชีวิตในทวีปเทียนหลันงั้นหรือ?” ลั่วฉวนเปิดหัวข้อ
เขาเกิดฉุกใจคิดขึ้นมา รวมถึงว่างด้วย ตอนนี้พูดคุยเล่นกับระบบถือเป็นทางเลือกอันดี
“หน้าต่างการตั้งค่า” ระบบตอบกลับ ม่านแสงขนาดใหญ่กางปรากฏตรงหน้าลั่วฉวน
ม่านแสงถูกแบ่งออกเป็นช่องตารางขนาดเล็ก ภายในช่องตารางคือภาพสิ่งมีชีวิตหลากหลายพร้อมคำอธิบาย
ลั่วฉวนสำรวจมองจนแทบวิงเวียน
สัตว์ประหลาด อันเดต วิญญาณ สิ่งมีชีวิตคาร์บอน สิ่งมีชีวิตซิลิกอน…
ได้เห็นพวกมันถือเป็นการเปิดหูเปิดตาให้ลั่วฉวนอย่างแท้จริง
เหมือนควรดูและครุ่นคิด แต่ไม่คิดจึงดีกว่า เพราะข้อมูลมากมายเกินไป
สุดท้ายเขาถอนหายใจลากยาว ปล่อยความสงสัยโยนทิ้งไป
ขณะเดียวกันก็อดไม่ได้ที่จะคิด ‘ระบบซุกซ่อนอะไรเอาไว้อีกเท่าไหร่กันแน่! สักวันต้องเขย่าออกมาให้หมด!’
“ต้องการปรับเปลี่ยนการตั้งค่าใดหรือไม่?” ระบบสอบถามความเห็นของลั่วฉวน
“อืม… ปรับสักเล็กน้อยน่าจะดี” หลังครุ่นคิด ลั่วฉวนเผยการตัดสินใจ
แม้เรียกว่าความเปลี่ยนแปลง แต่ก็เพียงปรับกลยุทธ์การบุกให้เกิดความหลากหลาย
แม้ปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อยก็ถือว่าปรับเปลี่ยนแล้ว!
แม้สิ่งที่ลั่วฉวนทำจะคล้ายเพียงกวาดตามองและออกคำสั่ง แต่ตอนนี้เขาก็กดปุ่มปิดม่านแสงไปเรียบร้อย
ร่างเอเลี่ยนเลือนหาย ลั่วฉวนค่อยเอนกายทิ้งตัวลงนอนกับพื้นหญ้า
ใบหญ้าสัมผัสแก้มเขาจนเกิดรู้สึกคันขึ้นมา รวมทั้งได้กลิ่นหญ้าและผืนดิน
ห้วงดาราจักรอันแปลกตาปรากฏกระจ่างบนฟากฟ้า มันคล้ายลอยสูงทว่าว่างเปล่า หากจ้องมองนานจะรู้สึกประหนึ่งหายเข้าไปในความฝัน
“ยอดเยี่ยม” ลั่วฉวนถอนหายใจ “เหมือนดาราจักรของจริงมาก”
“โลกแห่งนี้สร้างขึ้นโดยข้อมูลเป็นพื้นฐาน ตราบเท่าที่ข้อมูลคัดลอกถูกต้อง นั่นคือความสมจริงที่ไม่ผิดเพี้ยน” ระบบตอบคำถามอย่างมืออาชีพ “โครงสร้างของโลกเสมือนจริงเทียบเท่ากับการรับรู้ทั้งหมดของสิ่งมีชีวิตเท่าที่จะมีได้”
“ทำไมฟังเหมือนคัดลอกมาแล้วก็วางไปอย่างนั้น” ลั่วฉวนอดไม่ได้ที่จะถาม
“ห้วงจักรวาลอาจถูกมองว่าเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง ข้อมูลหลากหลายจะถูกเก็บไว้ในหน่วยเก็บความจำ” เสียงของระบบดังอธิบาย ทว่ามันไร้ซึ่งอารมณ์ใดเจือปน “ยามที่ข้อมูลถูกคัดลอก มันคือการสร้างใหม่ที่เหมือนจริงอย่างครบถ้วน”
ก็ถือเป็นเรื่องง่าย ไม่ใช่ยากเข้าใจ
หรือให้กล่าวคือโลกเสมือนจริงไม่ใช่แค่ชื่อ แต่มันคือโลกจริงที่ถูกจำลองขึ้นมา
ลั่วฉวนเพียงรับคำเรียบง่ายอย่างไม่คิดประหลาดใจ ตราบเท่าที่เข้าใจระบบคอมพิวเตอร์ คำอธิบายเมื่อครู่ก็ถือว่าเข้าใจได้
หลังชื่นชมกับบรรยากาศสายลมเย็นในทุ่งหญ้า ลั่วฉวนรู้สึกราวกับจิตนึกคิดไหลไปกับกระแสลม พัดพาหายไปในหมู่ดาว
ไม่ทราบเวลาผ่านไปนานเพียงใด ลั่วฉวนค่อยลุกขึ้น
แม้ใช้เวลาทั้งคืนที่นี่ยังได้ นอนบนผืนหญ้าอ่อนนุ่มในค่ำคืนพร่างพรายแสงดาว รับชมห้วงดาราจักรกันไกลโพ้นที่ส่องแสงมาถึง ไม่ทราบว่ามีกี่คนที่ฝันอยากทำเช่นนี้
แต่ที่โลกจริง ตัวเขายังคงนั่งอยู่ เรพาะขี้เกียจเดินไปยังพื้นที่ส่วนต่อขยาย ดังนั้นจึงใช้เครื่องเล่นเกมเสมือนจริงตามปกติ
เมื่อดึงสติกลับคืน ลั่วฉวนค่อยลุกขึ้นพลางหาว
มืดแล้ว และรู้สึกง่วงแล้วด้วย
เหยาซือหยานยังคงนั่งประจำที่เหมือนเช่นเคย สายตานางจับจ้องโทรศัพท์วิเศษ กำลังอ่านผลงานของนักเขียนที่ติดตามซึ่งปล่อยในช่วงค่ำ
หลังได้เห็นว่าเนื้อหาดูมีความสุขดี นางอดไม่ได้ที่จะเผยยิ้ม ทว่าไม่ส่งเสียง เป็นเพียงการยิ้มอย่างเงียบงัน
ตระหนักพบเห็นลั่วฉวนเข้ามาใกล้ นางค่อยวางโทรศัพท์วิเศษลงก่อนจะรับคำ “เถ้าแก่” เสียงอ่อนนุ่ม
ทุกอย่างยังไม่มีอะไรแปลกไปจากที่เคยเป็น
“ง่วงแล้ว ขอตัวไปนอนก่อน” ลั่วฉวนกล่าวพลางหาววอด
ด้วยเดินขึ้นชั้นบน ล้างหน้า แล้วจึงไปนอนยังห้องเดิมเช่นที่นอนทุกวัน
เขามองทางหน้าต่างซึ่งเปิดอยู่ มองออกไปภายนอก เม็ดฝนเริ่มเบาบางลงแล้ว
แสงไฟส่องสว่างในนครจิ่วเหยายังคงมี ยามสะท้อนกับเม็ดฝันมันจะเคลื่อนไหวไปมาราวมีชีวิต
อากาศยังคงเย็น ลั่วฉวนยื่นมือออกไปรับน้ำฝนยามค่ำคืน มันเย็นกว่าตอนกลางวัน เพราะความเย็นที่สัมผัสได้ เขาเร่งรีบดึงมือกลับคืนเข้ามา
เวลาเช่นตอนนี้บนถนนหนทางของนครจิ่วเหยาแทบไม่พบเห็นผู้คนสัญจร ส่วนใหญ่ต่างกลับบ้านไปพักผ่อนกันแล้ว
ด้วยอากาศที่เย็นตัวลง เหล่าคนทำงานมักจะพักผ่อนกันเร็วขึ้น ครั้งลั่วฉวนมาถึงนครจิ่วเหยา หากเป็นเวลาเช่นตอนนี้คงยังคึกคักกันอยู่เป็นแน่
ด้วยปิดหน้าต่างเพื่อตัดเสียงฝนตกให้เลือนหาย เขาค่อยนอนทอดกายลงกับที่นอน
นุ่มและสบายเหมือนเช่นที่เคยเป็น
หลังสำรวจมอง ลั่วฉวนเกิดรู้สึกว่านอนไม่หลับด้วยเพราะเหตุผลบางประการ
เสียงเช่น “ยินดีต้อนรับสู่ลีกออฟเลเจ็นดส์” “กรุณานั่งประจำที่” ดังขึ้นในจิตใจ
เขาเกิดนึกอยากเล่นเกมเก่าก่อนขึ้นมา
ลั่วฉวนพยายามโยนความคิดที่ทำให้ไม่อาจนอนหลับ
สุดท้ายเขาตัดสินใจเรียกระบบขึ้นมา “ระบบน่าจะรู้จักเกมมากมายใช่ไหม?”
“ถูกต้อง” ระบบตอบกลับมาอย่างชัดเจน
“นำออกมาหน่อย อันที่โลกมีให้เล่น” ลั่วฉวนกล่าวออก
“ไม่ได้” เสียงเรียบเฉยทว่าไร้เยื่อใยของระบบตอบกลับ
“แค่ไม่กี่เกมเอง” ลั่วฉวนยังไม่คิดยอมแพ้