God of Fishing - ตอนที่ 132
Chapter 132: รอบที่สาม
หานเฟยนั่งอยู่กับทีมของเขา
เฉินเจียเอ๋อร์และจางเผิงไปหาหานเฟยและถามเขาอย่างสงสัยว่า “ทําไมคุณไม่ไปเล่นเกมผจญภัยล่ะ”
หานเฟยเม้มริมฝีปาก “เราไม่เล่นเกมของเด็กๆ …”
ทั้งสองคนพูดไม่ออก คุณพูดราวกับว่าคุณไม่ใช่เด็กอย่างนั้นแหละ!
หานเฟยถามว่า “พี่สาวเจียเอ๋อร์ทําไมหมู่บ้านของเรามีปรมาจารย์ตกปลาระดับสูงสุดแค่คนเดียวล่ะ”
จากผู้เล่น 5 คนของหมู่บ้านน้ําสวรรค์มีเพียงชิ้นไห่เท่านั้นที่เป็นปรมาจารย์ตกปลาระดับสูงสุด จําวต้าเปย,เฉาเฟยและอีกสองคนที่เขาไม่รู้จักเป็นเพียงปรมาจารย์ตกปลาขั้นสูงเท่านั้น
ไม่ไกลนักจางเผิงก็ให้คําตอบว่า “เนื่องปรมาจารย์ตกปลาระดับสูงสุดคนอื่นๆถูกสังหารในการแข่งขันชิงทรัพยากรครั้งก่อนน่ะ”
หานเฟยและคนอื่นๆตกใจ พวกเขาทั้งหมดถูกฆ่างั้นหรอ?
จางเผิงกล่าวต่อว่า “นี่คือการต่อสู้แบบมีเป็นหรือตายจริงๆ หากคุณไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ก่อนในตอนแรกอีกฝ่ายจะฆ่าคุณอย่างแน่นอน”
เหอเสี่ยวหยู่ถามอย่างว่างเปล่า “พวกเขาทั้งหมดเป็นปรมาจารย์ตกปลาระดับสูงสุดไม่ใช่หรอ? ทําไมพวกเขาถึงยังถูกฆ่าอีกล่ะ”
หานเฟยเย้ยหยัน “ถามแปลกๆ มันต้องยังมีช่องว่างระหว่างความแข็งแกร่งอยู่แล้วแม้ว่าจะอยู่ในระดับเดียวกันก็ตาม”
หานเฟยคิดกับตัวเองนี่ก็เป็นการทดสอบเช่นกัน มันเป็นวิธีการบ่มเพาะคนที่ยอดเยี่ยมที่สุด แต่มันก็โหดร้ายไปหน่อย
ในไม่ช้าทั้ง 40 คนจะถูกแบ่งออกเป็น 20 คู่
ผู้ตัดสินกล่าวว่า “ ผลการจับสลาก: โจวมินจากหมู่บ้านดวงใจสวรรค์จะเจอกับเฉาเหรินจากหมู่บ้านเพลิงสวรรค์ หลี่เสินจากหมู่บ้านไม้สวรรค์ปะทะหวังกํายจากหมู่บ้านจันทร์สวรรค์… จ๋าวต้าเปยจากหมู่บ้านน้ําสวรรค์ปะทะลู่เฟิงจากหมู่บ้านสายลมสวรรค์…”
ในไม่ช้าลําดับการต่อสู้ก็ถูกตัดสินและด้วยเสียงเชียร์ของฝูงชนการต่อสู้ก็เริ่มขึ้น
การต่อสู้ครั้งแรกโจวหมินจากหมู่บ้านหัวใจสวรรค์ปะทะกับเฉาเหรินจากหมู่บ้านเพลิงสวรรค์
ทั้งสองคนดูเหมือนจะเป็นคนรู้จักกันและไม่ได้ทักทายพวกเขาก็เริ่มลุยกันทันที
โจวหมินหยิบธนูออกมาและยิงลูกศรเจ็ดดอกติดต่อกัน ลูกศรทั้งเจ็ดพุ่งตามจ่าวเหรินจากหมู่บ้านเพลิงสวรรค์ทันที
เปลือกตาของหานเฟยกระตุก “ให้ตายสิ! ลูกศรบ้านั่นมันมีตาหรือยังไงน่ะ”
เนื่องจากเขาเห็นคนในเมืองใช้ธนูเมื่อครึ่งปีก่อนเขาจึงเตรียมที่จะลองธน ด้วยธนูแล้วเขาสามารถสังหารศัตรูได้จากระยะไกลโดยไม่ต้องเคลื่อนไหว แต่เขายุ่งอยู่กับการฝึกฝนกับเจียงซินทําให้เขาไม่มีเวลาลองฝึกธนูเลย แต่หลังจากได้เห็นภาพนี้ทําให้ตอนนี้เขาต้องการใช้ธนูเป็นอาวุธอีกครั้ง
เฉินเจียเอ๋อร์อธิบายว่า “มันเป็นทักษะการต่อสู้ด้วยธนู หมู่บ้านของเราไม่มีทักษะการต่อสู้ด้วยธนูที่ทรงพลังเช่นนี้”
ข่าวเหรินไม่สามารถต่อสู้กลับเลย เขายุ่งอยู่กับการหลบลูกศรและเข้าใกล้โจวหมินไม่ได้ด้วยซ้ํา ลูกศรได้ลอยว่อนไปทั่วเวที
ฉีก…
ขณะที่ร่างกายของจ่าวเหรินถูกแทงด้วยลูกศรเขาก็ตะโกนทันที่ว่า “ฉันแพ้แล้ว”
อย่างไรก็ตามลูกศรในอากาศไม่ได้หยุดลง เมื่อเขาตะโกนยังไม่ทันเสร็จดีร่างของเขาก็ถูกเจาะอีกครั้ง และถูกตอกลงกับพื้นโดยตรง
จางเผิงกล่าวว่า “เขายังมีชีวิตอยู่ แต่ฉันคิดว่าเขาจะไม่สามารถฟื้นตัวได้ภายในครึ่งปี โจวหมินไม่ต้องการฆ่าเขามิฉะนั้นเขาก็ตายไปแล้ว”
ทุกคนในทีมเด็กต่างก็ดูน่าเกรงขาม ผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งเกินไป แม้แต่เซียวู่ฉางที่เก่งกาจที่สุดก็ยังหน้าซีด “ฉันไม่คิดว่าจะป้องกันลูกศรเหล่านี้ได้!”
เหอเสี่ยวยขมวดคิ้ว “ฉันไม่ชอบการต่อสู้เลย ผู้คนล้มตายในการต่อสู้มากมายจริงๆ”
ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่เธอพูดเป็นความจริง
การต่อสู้ครั้งที่สองคือหลี่เซินจากไม้สวรรค์เจอกับหวังไคจากหมู่บ้านจันทร์สวรรค์ ทั้งสองคนเป็นปรมาจารย์ตกปลาขั้นสูง แต่พลังการต่อสู้ของหวังไคนั้นแข็งแกร่งมาก เขาโจมตีอย่างรวดเร็ว และทรงพลัง ภายในการโจมตีเพียงเจ็ดครั้งเขาใช้เบ็ดฟาดศีรษะของหลี่เซินและทําให้หลี่เซินเสียชีวิตคาที่
เฉินเจียเอ๋อร์ดูเคร่งขรึม “มันโหดร้ายมากในเวทีที่ไม่มีชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ มีแต่ชีวิตหรือความตายเท่านั้น”
เหอเสี่ยวยูรู้สึกกลัวเล็กน้อย “ฉันอยากกลับบ้าน ฉันอยากกินหม้อไฟ”
หานเฟยสั่งว่า “ถ้าศัตรูแข็งแกร่งเกินไปก็แค่ยอมรับความพ่ายแพ้”
จางเผิงและเฉินเจียเอ๋อร์ต่างก็พยักหน้า
ในไม่ช้าจําวต้าเปยและลู่เฟิงจากหมู่บ้านลมสวรรค์ก็เริ่มต่อสู้กัน โชคดีที่ทั้งคู่เป็นปรมาจารย์ตกปลาที่มีพลัง หลังจากต่อสู้อย่างดุเดือดเป็นเวลาสิบนาที่จําวต้าเปยก็ชนะ
การต่อสู้ครั้งแรก
การต่อสู้ครั้งที่สอง
ตอนนี้มีผู้เสียชีวิตสามคนในสนามรบแม้ว่าหลายคนจะยอมรับความพ่ายแพ้ล่วงหน้า ปรมาจารย์ตกปลาขั้นสูงจากหมู่บ้านน้ําสวรรค์ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส
การต่อสู้ 20 คนเหลือ 10 คนนั้นดุเดือดยิ่งขึ้น สี่คนเสียชีวิตในการต่อสู้และอีกหนึ่งคนจากหมู่บ้านน้ําสวรรค์ยอมรับความพ่ายแพ้ทันทีที่การต่อสู้เริ่มขึ้น
การต่อสู้ดําเนินต่อไปในช่วงบ่าย ตอนนี้เป็นการต่อสู้ 10 คนเหลือ 5 คน
ในขณะนี้เฉาเฟยต่อสู้กับชี้เฟยหยูจากหมู่บ้านจันทร์สวรรค์ซึ่งเป็นหน้าใหม่ซึ่งอายุน้อยกว่า 20 ปีที่ใช้หอก
ทันทีที่พวกเขาเริ่มต่อสู้เฉาเฟยได้ปล่อยการระเบิดพลังวิญญาณสามครั้งติดต่อกันทําให้เฟยหยูกระเด็นถอยหลังไปหลายสิบเมตรเฉาเฟยคํารามและยังคงระดมยิงเขาอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตามทันใดนั้นหานเฟยก็ตะโกนว่า “ยอมแพ้!”
เฉาเฟยหยุดชั่วคราว เขาบอกได้ว่าเป็นเสียงของหานเฟย แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่เข้าใจว่าทําไมหานเฟยถึงพูดเช่นนั้น
แต่ในช่วงเวลาต่อมาชี้เฟยหยูก็ถอยกลับไปสามก้าวเหวี่ยงหอกในมือของเขาควบแน่นพลังวิญญาณที่ปลายหอกและแทงไปที่หน้าอกของเฉาเฟย
ฉึก…
ฝูงชนส่งเสียงโห่ร้อง แต่ผู้คนจากหมู่บ้านน้ําสวรรค์กลับเงียบ
เฉาเฟยถูกแทงที่หน้าอกและแขวนอยู่ที่ปลายหอก
ทันใดนั้นหัวหน้าหมู่บ้านรีบตะโกนทันที “ยอมแพ้”
ชีหยูเฟยโบกหอกของเขาอย่างลวกๆและโยนเฉาเฟยลงไปที่พื้น หน้าอกและปากของเฉาเฟยมีเลือดไหลซิบๆ
เฉินเจียเอ๋อร์พูดด้วยลมหายใจ “หัวหน้า….”
จางเผิงตะโกน “ไอ้สารเลว!”
ซีเฟยหยูยิ้มอย่างดูถูก “มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะต่อสู้ด้วยกําลังอย่างดุร้าย”
ฉาวต้าเปยตบออกของเขา “แก ไอ้ตัวเล็ก! ถ้าฉันเจอคุณในเวที่ฉันจะฆ่าคุณ”
หลายสิบนาทีต่อมาที่ด้านข้างของหมู่บ้านน้ําสวรรค์หัวหน้าหมู่บ้านกลับมาด้วยใบหน้าสีดํา “อวัยวะภายในของเขาแตกเป็นเสี่ยงๆเขาตายไปแล้ว”
– หานเฟยไม่สามารถช่วยอะไรได้นอกจากกําหมัดแน่น เขาเคยเลี้ยงเฉาเฟยด้วยหม้อไฟแค่ไม่กี่ครั้ง ชายคนนี้ดูดุร้าย แต่จริงๆแล้วเป็นผู้ชายที่ใจดีมาก
ในขณะนี้ชี้เฟยหยมองไปที่หานเฟยและดูเหมือนจะแปลกใจที่ หานเฟยบอกให้เฉาเฟยยอมแพ้
หานเฟยก็จ้องกลับ ถ้าเขาทําได้เขาจะรีบไปฆ่าไอ้คนนี้
เชียบู่ฉางโกรธ “ผู้ชายคนนั้นกําลังหัวเราะเยาะเรา ให้ตายเถอะฉันต้องฆ่าเขาให้ได้”
เมื่อทุกคนโกรธพวกเขาก็ได้ยินเสียงผู้ตัดสินตะโกนว่า “จ๋าวต้าเปยจากหมู่บ้านน้ําสวรรค์ปะทะหยางเปยจากหมู่บ้านพระจันทร์สวรรค์”
เจียงน่านกระวนกระวาย “ให้ตายสิทําไมเป็นหมู่บ้านจันทร์สวรรค์อีกแล้วนะ”
หวังไปยขมวดคิ้ว “ตอนนี้เป็นการต่อสู้คัด 10 เหลือ 5 คนแล้ว ผู้เล่นทุกคนแข็งแกร่งมาก เราควรยอมรับความพ่ายแพ้ในการต่อสู้ครั้งนี้ถ้าเป็นไปได้!”
หัวหน้าหมู่บ้านแนะนําว่า “จําวต้าเปยยอมแพ้นะ”
จําวต้าเปยแตะศีรษะของเขาและคําราม “ยอมกับผีสิสู้เว่ย”
เฉาเฟยและจําวต้าเปยเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาก แต่ตอนนี้เฉาเฟยถูกฆ่าโดยบุคคลจากหมู่บ้านจันทร์สวรรค์ นั่นทําให้ดวงตาของจําวต้าเปยเป็นสีแดง… ตอนนี้เขาแค่ต้องการล้างแค้นให้เฉาเฟยเท่านั้น!
จําวต้าเปยกระโดดขึ้นไปบนเวทีอย่างรวดเร็ว “ไอ้สารเลวจากหมู่บ้านจันทร์สวรรค์ฉันจะล้างแค้นเฉาเฟยในวันนี้แหละ!”
หยางเปยใช้ดาบ เขาลากดาบยาวไปตามพื้นอย่างช้าๆ “คุณมีแต่จะเสียชีวิตนะสิ หากคุณยอมแพ้ในตอนนี้คุณก็จะไม่ต้องตาย”
“หยุดพล่ามแล้วสู้!”
จําวต้าเปยต่อสู้กับเขาอย่างบ้าคลั่งโดยไม่สงวนพลังงานทางจิตวิญญาณไว้เลย หลังจากผ่านไปซักพัก เลือดก็ไหลออกมาจากปากของหยางเปยในขณะที่จําวต้าเปยมีบาดแผลหลายสิบแห่ง
หัวหน้าหมู่บ้านตะโกนด้วยความโกรธ “จําวต้าเปยยอมแพ้ซะ!!”
แต่จําวต้าเปยไม่ฟังเขา “สารเลวเอ้ย..ตายซะ”
แซ่บ! แซ่บ! แซ่บ!
ในไม่ช้าจิ๋วต้าเปยก็เต็มไปด้วยเลือดและเขาก็ล้มลงกับพื้น ทุกคนในทีมหมู่บ้านน้ําสวรรค์ยืนขึ้นอย่างประหม่า หยางเปยถือมีดของเขาที่เต็มไปด้วยเลือดด้วยเลือดที่กําลังหยดลงที่พื้น และเขาก็ยิ้มและค่อยๆเดินไปที่จําวต้าเปย “ถ้ายังไม่ยอมแพ้ก็ตายซะนะ!”
“ฉันยอมแพ้”
ทุกคน: “???”
มีคนตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวทันทีว่า “คุณไม่ได้บอกว่าจะล้างแค้นให้เพื่อนเหรอ? ทําไมคุณถึงยอมแพ้?”
มีบางคนถึงกับด่าว่า “ขี้ขลาด!”
บางคนก็ด่าว่า “ไอ้บ้าคุณทําให้เราเสียเวลา!”
จําวต้าเปยยิ้มกว้าง “ฉันจะรักษาชีวิตของฉันไว้เพื่อฆ่าไอ้พวกนี้ มันไม่คุ้มที่จะตายที่นี่”
หยางเปยมองไปที่จําวต้าเปย “ครั้งต่อไปที่ฉันพบคุณคุณจะต้องตาย”
จําวต้าเปยยิ้มอย่างน่ากลัว “แม้ว่าฉันจะตาย แต่แกก็ต้องบาดเจ็บสาหัส!”
ในเวลานี้มีเพียงซินไห่และชายคนหนึ่งจากหมู่บ้านลมสวรรค์ท่ามกลางผู้เล่นจากหมู่บ้านที่อ่อนแอทั้งสี่
อย่างไรก็ตามทันทีที่การต่อสู้เริ่มขึ้นคนที่มาจากหมู่บ้านลมสวรรค์ก็ยอมรับความพ่ายแพ้ทันที
แต่ชิ้นไห้ไม่ทําคู่ต่อสู้ของเขาเป็นศัตรูเก่ามาจากหมู่บ้านตะวันสวรรค์เขาจะยอมรับความพ่ายแพ้โดยไม่มีการต่อสู้ได้อย่างไร?
ยี่สิบนาทีต่อมา
ฉินไห่ถูกนําตัวออกจากเวทีเช่นเดียวกับจําวต้าเปยที่ยอมรับความพ่ายแพ้ในนาทีสุดท้ายและได้รับบาดเจ็บสาหัส
การแข่งขันของทีมเด็กจะจัดขึ้นในวันที่สองและทีมผู้ใหญ่ของ หมู่บ้านน้ําสวรรค์ได้อันดับที่ห้าในวันนี้
ชิ้นไห่และจําวต้าเปยจําเป็นต้องได้รับการรักษาทันทีจากนั้นจึงถูกส่งกลับไปที่หมู่บ้านน้ําสวรรค์เพื่อพักฟื้น
ซินไร่กวักมือเรียกหานเฟยด้วยแรงเฮือกสุดท้าย
เขายังคงอาเจียนเป็นเลือด แต่เขากัดฟันและพูดว่า “ฉันรู้ว่าคุณมีพลังมาก เฉาเฟยบอกว่าเจ้าแข็งแกร่งกว่าเขามาก ฉันเชื่อว่าแค่กๆ…พรุ่งนี้หมู่บ้านน้ําสวรรค์จะขึ้นอยู่กับคุณแล้วนะ”
คราวนี้หานเฟยไม่ได้ทําท่าทางเล่นๆเหมือนที่ผ่านมา เขาพยักหน้าอย่างจริงจัง ได้เลย! ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่ในวันพรุ่งนี้ แต่น่าเสียดายที่คุณจะไม่ได้อยู่เห็น”
ฉินไห่ยิ้ม “ฉันล่ะอยากเห็นมันจริงๆ”