God of Fishing - ตอนที่ 79
Chapter 79: นักรบวิญญาณ
“ทักษะการต่อสู้หรอ”
แน่นอนหานเฟยต้องการเรียนรู้พวกมันอยู่แล้ว เมื่อเขากลับมาจากทะเลเมื่อหนึ่งเดือนที่แล้วเขาได้ตระหนักถึงปัญหานี้ ทักษะการต่อสู้ในปัจจุบันของเขาหายากเกินไป นอกเหนือจากการโจมตีด้วยเบ็ดของเขาสิ่งที่เขารู้ก็คือการโจมตีด้วยการระเบิดพลังวิญญาณ เขารู้สึกว่าแม้แต่เจ้าดำก็มีประโยชน์มากกว่าเขาเพราะมันสามารถกัดคนได้
หานเฟยตอบทันที “แน่นอน พี่สาวซินคุณจะสอนทักษะการต่อสู้ให้ฉันหรอ”
เจียงซินพยักหน้า “ฉันสอนคุณได้ แต่คุณต้องสัญญากับฉันว่า…”
หานเฟยถามว่า “ว่าอะไรหรอ”
“..มันไม่มีประโยชน์ที่จะบอกคุณตอนนี้ แต่คุณต้องให้คำมั่นสัญญา ถ้าวันหนึ่งคุณกลายเป็นนักรบวิญญาณที่แข็งแกร่งคุณต้องกลับมาที่หมู่บ้านสักครั้ง”
เมื่อมองไปที่การแสดงออกที่จริงจังของเจียงซินหานเฟยก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “แข็งแกร่งหรอ แข็งแกร่งแค่ไหนล่ะ”
“อย่างน้อยก็แข็งแกร่งกว่าฟางเจ๋อ”
หานเฟย: “…”
หานเฟยเกาหัวของเขา “เอ่อ..พี่สาวซิน คุณกำลังพูดถึงฟางเจ๋อ นักตกปลาลึกลับในตำนานน่ะหรอ! แข็งแกร่งกว่าเขาหรอ? จะเป็นไปได้ไหมล่ะนั่น”
เจียงซินพูดต่อ “ถ้าคุณไม่สามารถแข็งแกร่งไปกว่าเขาได้ก็ลืมๆมันไปซะ ฉันสามารถสอนคุณได้ฟรีและคุณไม่จำเป็นต้องทำตามสัญญาอะไร”
หานเฟยรู้สึกมานานแล้วว่าปู่และหลานสาวคู่นี้แปลกมาก เห็นได้ชัดว่าชายชราแข็งแกร่งมากซึ่งเห็นได้ชัดจากการต่อสู้กับหัวหน้าหมู่บ้าน ในตอนนั้นหัวหน้าหมู่บ้านได้ทำทุกวิถีทางแล้ว แต่ชายชราเพียงแค่ขยับนิ้วและเหวี่ยงหัวหน้าหมู่บ้านออกไป เขาแน่ใจว่าเจียงซินก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน
หานเฟยเกาหัวอีกครั้ง “ถ้าอย่างนั้นให้ฉันลองดูก็ได้”
เจียงซินมองไปที่หานเฟยอย่างจริงจัง “ลองคิดดูสิ ฉันรู้ว่าคุณมีพรสวรรค์ในการเป็นผู้เก็บเกี่ยววิญญาณ เมื่อคุณไปถึงระดับของฟางเจ๋อคุณจะได้รับการบูชาจากทุกคน อย่างไรก็ตามผู้เก็บเกี่ยววิญญาณไม่ใช่ผู้ที่จะต่อสู้ในการสู้รบ แม้ว่าพวกเขาจะสามารถควบคุมพลังวิญญาณได้ แต่ก็ยากสำหรับพวกเขาที่จะบรรลุผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม”
หานเฟยสับสน “ยังไงนะ?”
เจียงซินอธิบายว่า “นักรบวิญญาณมีพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดและอาวุธที่ดีที่สุด นักรบวิญญาณที่ดีที่สุดสามารถมีทั้งความสามารถในการป้องกันที่ยอดเยี่ยมของนักเกราะและพลังระเบิดที่เทียบได้กับนักล่า คุณเต็มใจที่จะเป็นนักรบวิญญาณหรือเปล่า”
หานเฟยรู้สึกราวกับว่าเขากำลังฝัน เมื่อไม่นานมานี้เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้เก็บเกี่ยววิญญาณคืออะไร เมื่อเขาเห็นชุดเกราะของตระกูลหวังเขาคิดว่าผู้ชายคนนั้นดูเท่มากและอิจฉาเขา แต่ตอนนี้เขาไม่เพียงกลายเป็นผู้เก็บเกี่ยววิญญาณเท่านั้น แต่ยังอาจกลายเป็นนักรบวิญญาณด้วย
หานเฟยรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นแรง เขากลืนน้ำลายและถามว่า“ทำไมคุณถึงเลือกจะสอนฉันล่ะ”
“คุณมีโชคแบบที่คนอื่นไม่มี ตามปกติคุณน่าจะเสียชีวิตในทะเลหลังจากประสบอุบัติเหตุมากมายในการประมง แต่คุณรอดมาได้ ไม่เพียงแค่นั้นคุณจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ และยัง … ฆ่าปรมาจารย์ตกปลาได้ด้วย”
หัวใจของหานเฟยสั่น “คุณรู้เรื่องนี้แล้วหรอ”
เจียงซินส่ายหัว “แม้ว่าฉันจะไม่ได้เห็นการต่อสู้ครั้งนั้น แต่ฉันรู้ว่าหลี่หลางแห่งพยัคฆ์ได้ออกไปทะเล แต่เขาก็ไม่เคยกลับมาเลย เขาคงจะต้องตายไปแล้ว”
“พี่สาวซินคุณเลือกฉันเพราะความสามารถของฉันหรือเปล่า”
เจียงฉินถามด้วยรอยยิ้ม “แล้วคุณมีพรสวรรค์อะไรหรือเปล่าล่ะ”
“ก็นะ…”
หานเฟยรู้สึกว่าเขาถูกดูหมิ่น แต่ยังไงก็ตาม! เขาอาจเป็นนักรบวิญญาณ! ถ้าเขาเรียนรู้ทักษะการต่อสู้เขาก็ไม่จำเป็นต้องเคาะศัตรูด้วยเบ็ดเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป!
เจียงซินกล่าวว่า “คุณปู่ต่อต้านการที่คุณกลายเป็นนักรบวิญญาณด้วยเหตุผล มีน้อยคนที่สามารถทำอาชีพสองอาชีพได้ แม้ว่ามันจะมี แต่มีเพียงไม่กี่คนที่มีความเชี่ยวชาญในทั้งสองอาชีพ คุณยินดีที่จะรับความเสี่ยงมั้ย”
หานเฟยพยักหน้าเหมือนไก่จิกข้าว “ได้เลย!”
หานเฟยเต็มใจอย่างแน่นอน เขารู้สึกว่าผู้เก็บเกี่ยววิญญาณในระดับปัจจุบันของเขาไร้ประโยชน์ในการต่อสู้โดยสิ้นเชิง! เมื่อศัตรูของเขาโจมตีเขาเขาทำได้เพียงใช้เบ็ดของเขา แต่เมื่อเขากลายเป็นนักรบวิญญาณแล้วเขาจะสามารถฟันศัตรูด้วยมีดแทงด้วยดาบหรือยิงพวกเขาด้วยอาวุธที่ซ่อนอยู่
เจียงซินพยักหน้าเล็กน้อย “คุณรู้ไหมว่าทำไมนักรบวิญญาณถึงแทบจะอยู่ยงคงกระพันในการต่อสู้ระยะประชิด”
หานเฟยส่ายหัว
เจียงซินอธิบายว่า “ก็เนื่องจากร่างกายที่แข็งแกร่งอาวุธที่ดีและทักษะการต่อสู้ที่เพียงพอ นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ฉันเลือกคุณ คุณมีพละกำลังมหาศาลซึ่งเป็นสิ่งที่คนธรรมดาขาด ฉันไม่รู้ว่าคุณได้อะไรมา แต่นั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงก้าวหน้าไปได้เร็วและมีความแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ”
“เมื่อคุณตัดสินใจได้จริงๆแล้วให้ไปที่ห้องสมุดของหมู่บ้านเพื่อตามหาฉันในวันพรุ่งนี้” เจียงซินสั่งทิ้งท้าย
…
มีห้องสมุดในหมู่บ้าน แต่ไม่มีใครสนใจ ว่ากันว่าทักษะการต่อสู้ที่เก็บไว้ในนั้นล้วนมีแต่ระดับต่ำ หลังจากการทดสอบตกปลาหานเฟยได้รับอนุญาตให้เข้าไปในห้องสมุดได้ตลอดเวลาเพื่อเลือกทักษะการต่อสู้ที่จะฝึกฝน แต่เขาก็ลืมมันไป แต่ตอนนี้เขาได้ยืนอยู่หน้าตึกเก่านี้และเขาสงสัยว่าในตึกโทรม ๆ นี้จะมีอะไรดีๆไหม?
เจียงซินเห็นใบหน้าของหานเฟยและถามว่า “ทำไมถึงมองแล้วทำหน้าแบบนั้นล้ะ คุณดูหมิ่นห้องสมุดอยู่งั้นหรอ”
“ไม่ๆๆ ฮ่าฮ่า…ฉันแค่คิดว่าการออกแบบห้องสมุดของหมู่บ้านเรา…อืม…เรียบง่ายมาก”
เจียงซินพูดอย่างใจเย็น “ไม่เพียงแต่คุณเท่านั้น หลายคนยังดูหมิ่นห้องสมุดนี้และไม่เชื่อว่าจะมีหนังสือเกี่ยวกับทักษะการต่อสู้ขั้นสูงอยู่ที่นี่ แต่ใครจะบอกคุณว่ายิ่งทักษะการต่อสู้สูงเท่าไหร่ก็ยิ่งดี”
หานเฟยเอียงศีรษะและมองไปที่เธอ “อืม..”
เจียงซินส่ายหัว “ยิ่งทักษะการต่อสู้มีระดับสูงขึ้นเท่าไรก็ยิ่งยากที่จะฝึกฝนมากขึ้นเท่านั้น ในทางตรงกันข้ามยิ่งระดับต่ำฝึกก็ยิ่งง่าย สำหรับนักรบวิญญาณทักษะการต่อสู้ใด ๆ ที่ใช้งานได้จริงถือเป็นสิ่งที่ดี แม้แต่ทักษะการต่อสู้ที่เลวร้ายที่สุดก็สามารถใช้ในการต่อสู้ได้ไม่ใช่หรอ”
หานเฟยเดาะลิ้นของเขา แม้ว่าสิ่งที่เจียงซินพูดจะดูสมเหตุสมผล แต่ก็ไม่มีใครต้องการทักษะการต่อสู้แบบกากๆหรอก
“เข้าไปเลย เลือกทักษะการต่อสู้ที่คุณสนใจและนำมันออกไป” เจียงซินให้งานแรกแก่เขา
หานเฟยถามว่า “ฉันจะเอาหนังสือออกไปได้กี่เล่มหรอ”
“มากเท่าที่คุณต้องการ ถึงแม้ว่าคุณจะเอามันออกไป แต่ฉันก็ไม่จำเป็นต้องรู้”
หานเฟย: “???”
มีเพียงชายชราที่เฝ้าห้องสมุดซึ่งดูเหมือนภารโรง หานเฟยเหลือบมองเขาด้วยความสงสัยว่าชายชราคนนี้เป็นปรมาจารย์ผู้สันโดษหรือเปล่า
แต่ชายชราคนนี้ธรรมดามากและดูราวกับว่าเขาอาจจะตายได้ทุกเมื่อ หานเฟยส่ายหัว จะมีปรมาจารย์ผู้สันโดษจำนวนมากได้อย่างไร
เขาเข้าไปในห้องสมุด อย่างที่เขาคาดไว้ข้างในมันทรุดโทรมและพื้นไม้ก็ดังเอี๊ยดเมื่อเขาเหยียบมัน ชั้นหนังสือดูราวกับว่าพวกเขาจะล้มลงเมื่อใดก็ได้และมีกลุ่มใยแมงมุมจำนวนมากอยู่ที่มุม โห..ที่นี่ไม่มีภารโรงเหรอ ทำไมถึงมีใยแมงมุมมากมายแบบนี้
ไม่เหมือนกับสิ่งที่บอกว่ายิ่งระดับทักษะการต่อสู้สูงเท่าไรก็จะวางชั้นที่สูงขึ้นในห้องสมุด เพราะห้องสมุดนี้มีเพียงชั้นเดียว
หานเฟยก้าวไปข้างหน้าและพบว่ามีรอยนิ้วมือบนหนังสือบางเล่ม เห็นได้ชัดว่าห้องสมุดยังคงมีผู้เยี่ยมชมอยู่ แต่ที่นี่มีฝุ่นมากเกินไป ทุกครั้งที่เขาแตะหนังสือมันจะทิ้งลายนิ้วมือไว้บนหนังสือ แต่ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่เต็มไปด้วยฝุ่นและไม่มีรอยนิ้วมือ
หานเฟยเหลือบมองไป
ทักษะการใช้เบ็ดตกปลา, โครงร่างทักษะกำปั้น, ทักษะการตกปลา, ศิลปะหมัดเหล็ก, คันเบ็ดเหล็กและมีดสับปลา … หนังสือมากมายที่ทำให้เขาไม่อยากอ่านถูกวางไว้ที่นี่
หานเฟยกระตุกมุมปาก เนื่องจากห้องสมุดของหมู่บ้านเป็นแบบนี้ห้องสมุดของเมืองก็คงไม่ดีไปกว่านี้
หานเฟยไม่ได้สนใจฝุ่น และค้นหาทุกทางและดูชื่อหนังสือแต่ละเล่ม เมื่อใดก็ตามที่เขาพบชื่อหนังสือที่ถูกใจเขาเขาก็หยิบมันออกมาและโยนมันลงบนพื้นแล้วเลือกจากหนังสือเหล่านี้
เจ็ดมมีดสั้น ชื่อน่าสนใจ เก็บมันไว้.
โฮ ตะบองไร้ขีดจำกัด ดีมาก! เก็บมันไว้.
ดาบในเฝือก ดูเหมือนอาวุธที่ซ่อนอยู่ เก็บมันไว้.
เบ็ดสายลม อืมอาจจะมีประโยชน์ เก็บมันไว้.
เทคนิคการเขย่าคันเบ็ด ใช้สำหรับตกปลาหรือเปล่า? มันจะดีกว่าตะขอจูบของฉันหรอ? ไม่สนใจๆ
…
กว่าครึ่งชั่วโมงต่อมาเจียงซินก็ต้องตะลึงเมื่อเห็นว่าหานเฟยออกมาพร้อมกับกองหนังสือที่สูงถึงคางของเขา
เจียงซินทำอะไรไม่ถูก “คุณอ่านหนังสือทั้งหมดนี้ได้หรอ”
“ไม่ๆ ช่วยฉันเลือกหน่อย ฉันเลือกหนังสือที่ฉันรู้สึกดีกับพวกเขามาหมดเลย”
“ไหนขอดูหนังสือที่คุณเลือกหน่อย”
หานเฟยดึงหนังสือสามเล่มออกมาจากด้านล่างซึ่งตามลำดับคือทักษะลมและคลื่น เทคนิคเบ็ดอยู่ยงคงกระพันและศิลปะดาบแยกทะเล
เจียงซิน:“ …”
หานเฟยยังคงใจร้อน เขาต้องใช้พลังงานอย่างมากในการเรียนรู้หนังสือมหัศจรรย์ทั้งสามเล่มนี้!
อย่างไรก็ตามเจียงฉินขมวดคิ้วและโยนหนังสือทั้งสามเล่มนี้ลงพื้น “คุณแค่เลือกทักษะการต่อสู้ตามชื่อไม่ได้หรอ คุณเลือกเฉพาะเล่มที่มีชื่อไพเราะมาใช่มั้ยเนี่ย”
หานเฟยตอบว่า “ใช่ ฉันคิดว่าผู้เขียนที่สามารถสร้างชื่อที่น่าทึ่งให้กับหนังสือของเขาต้องเป็นใครสักคนที่มีชื่อเสียง ใช่มั้ย”
“นักตกปลาที่เขียนวิชาดาบผ่าทะเลอืม..ชื่อคุ้นจริงๆ หลังจากเขียนหนังสือเล่มนี้เขาไปตกปลาธรรมดาด้วยดาบและถูกปลาดาบฆ่าตายน่ะ”
หานเฟย: “???”
เจียงซินกล่าวต่อว่า “ส่วนคนเขียนทักษะลมและคลื่นเขาเขียนหนังสือเล่มนี้ทันทีที่เขากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการประมง จากนั้นเขาก็ไปตกปลาระดับหนึ่งเพื่อรับลมและคลื่นที่ แต่สุดท้ายก็ถูกแทงตายด้วยปลาดาบอีกอยู่ดี”
หานเฟย: “???”
หานเฟยถามอย่างระมัดระวัง“ ถ้าอย่างนั้นคนเขียนเทคนิคเบ็ดอยู่ยงคงกระพัน?”
เจียงซินตอบด้วยน้ำเสียงเบ็นชาและเบื่อหน่าย “อืมเขาเผลอใช้เบ็ดกระแทกตัวเองจนเสียชีวิตน่ะ”
หานเฟย:“ ???”