GODFATHER OF CHAMPIONS - ตอนที่ 130
ตอนที่ 130:กลิ่นผมของเธอทำให้หลงใหล
เรื่องของเฟรดดี้ อีสต์วูด ถูกตัดสินได้ง่ายมาก ในขณะที่เขากำลังเล่นให้กับทีมสมัครเล่น เขาถูกประเมินค่าในราคาที่ถูกมาก
น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ซื้อเขาในราคา 100,000 ปอนด์เพื่อพาเขาออกจากเกรย์ส แอธเลติก
ทั้งสองฝ่ายลงนามในข้อตกลงการโอนสโมสร ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นไป อีสต์วูดจะได้รับการพิจารณาให้เป็นสมาชิกของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
ถังเอิน ซึ่งเพิ่งกลับมาจากบาซิลดอเขาก็ได้ยินข่าวว่าทีมของ คอลลีมอร์ แพ้อีกนัดหนึ่ง เขารู้ว่าคอลลีมอร์ไม่ได้ห่างไกลจากการก้าวลงจากตำแหน่ง
ในเช้าวันจันทร์ ตลาดหุ้นลอนดอนเปิดทำการ และสโมสรน็อตติงแฮมฟอเรสต์ประกาศผ่านตลาดหุ้น การเปลี่ยนแปลงในหุ้นของสโมสร ปัจจุบันเอ็ดเวิร์ดได้ครอบครองหุ้นของน็อตติงแฮม ฟอเรสต์อยู่ 75%
ข่าวดังกล่าวยืนยันการคาดเดาของ ถังเอิน เขายังเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงสิ่งที่ เอ็ดเวิร์ดและที่ปรึกษาทางการเงินของเขาทำในช่วงครึ่งฤดูกาลที่ผ่านมา
การถือหุ้น 75% ของสโมสรฟุตบอลอังกฤษหมายความว่าอย่างไร หมายความว่าบุคคลนั้นจะอยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจสูงกว่าคณะกรรมการบริหาร และสโมสรทั้งหมดจะเป็นของเขาโดยสมบูรณ์ เขาสามารถประกาศการออกจากตลาดหุ้นของสโมสรได้ทันที และทำให้บริษัทจำกัดส่วนตัวที่มีระบบผู้ถือหุ้นกลายเป็นสโมสรส่วนตัว
นอกจากนี้ยังไม่จำเป็นต้องผ่านการประชุมคณะกรรมการเพื่อดำเนินการตามนโยบายและแผนการพัฒนาในอนาคตของสโมสร
รวมถึงการบูรณะ ขยายสนามฟุตบอลใหม่ การซื้อและการขายผู้เล่น การแต่งตั้งระดับสูง ของสโมสร… กล่าวอีกนัยหนึ่ง เขาจะกลายเป็นจักรพรรดิของสโมสร และไม่มีใครสามารถขัดต่อการตัดสินใจของเขาได้
แม้ว่าเอ็ดเวิร์ดจะพูดว่า “ตั้งแต่ฤดูกาลหน้าเป็นต้นไป ราคาตั๋วฤดูกาลของน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ จะเพิ่มขึ้น 300 เปอร์เซ็นต์
และราคาของอาหารและเครื่องดื่มที่จำหน่ายภายในสนามจะเพิ่มขึ้น 100 เปอร์เซ็นต์” ก็จะกลายเป็นการตัดสินใจที่ไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งที่แฟนๆทักท้วง
“แน่นอน ถังเอิน เชื่อว่า เอ็ดเวิร์ดจะไม่โง่เขลาถึงขนาดนี้”
ถังเอิน ดูอันดับคะแนนของลีก เนื่องจากนอตติงแฮม ฟอเรสต์ แพ้ติดต่อกันมา มันจึงตกอยู่อันดับที่ 4 ทีมสุดท้ายแล้วในแง่ของอันดับ
มันต้องเป็นที่รู้กันว่า 3 ทีมสุดท้ายของลีกจะตกชั้นสู่ลีกทูหลังจากสิ้นสุดฤดูกาล ถ้าน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ต้องตกชั้นจริงๆ เปอร์เซ็นต์ของหุ้นที่ เอ็ดเวิร์ดครอบครองจะไม่มีผลอีกต่อไป
ถ้าเขาต้องการสร้างทีมให้เป็นเครื่องจักรทำเงินที่ต้องใช้คนไม่กี่คน ทีมจะต้องสร้างผลงานที่ดี
ถังเอิน รู้ดีว่าอีกไม่นานก็ถึงเวลาที่เขาจะต้องลงเอง
เอ็ดเวิร์ด! โทรหาผม! บอกผมสิว่าคุณต้องการผม?
ขณะที่ถังเอินพึมพำอยู่ในใจ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น
“มันคงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกมั้ง?”ถังเอิน พึมพำในขณะที่เขารับสาย
มันเป็นเรื่องที่ยากลำบากจริงๆ แต่จุดประสงค์ของเขาในการตามหาทเวนไม่ใช่เพื่อขอให้เขากลับไปที่สนามกีฬา ซิตี้ กราวด์
แต่เพื่อบอกข่าวที่ไม่คาดคิดแก่เขา
“โทนี่ ผมเพิ่งได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าคอลลีมอร์ถูกทำร้ายในตรอกเล็กๆ นอกบาร์ และตอนนี้เขากำลังถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาล คุณรู้ข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างไหม?”
“อา?” ถังเอิน ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหัวและพูดว่า “ไม่ ผมไม่รู้ เหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบในทางลบ ใช่ไหม?”
อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเอ็ดเวิร์ดเพิ่งเข้าควบคุมสโมสร ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะมีความสัมพันธ์เชิงลบอยู่บ้าง
“อาจจะใช่ อาจจะไม่ใช่” แต่เมื่อได้ยินเสียงของเอ็ดเวิร์ด ดูเหมือนเขาจะไม่ได้กังวลอะไรมากนัก “ผมจะโทรไปตรวจสอบ ผมกลัวว่าคุณจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้”
ถังเอิน คิดถึงใครบางคน เขากลอกตา “ไม่ ทำไมเรื่องนี้ถึงเกี่ยวข้องกับผม คุณรู้ไหมว่าเมื่อเร็วๆนี้ผมยุ่งอยู่กับเรื่องของอีสต์วูด”
“อืม ในกรณีนี้ ผมก็โล่งใจ ยังไงก็เถอะ โทนี่… คุณพร้อมหรือยัง?”
“ผมพร้อมมาครึ่งปีแล้ว เอ็ดเวิร์ด”
ท่ามกลางเสียงหัวเราะของทั้งสองคนถังเอิน วางสาย
ถังเอิน ลุกขึ้นและแต่งตัว แม้ว่าจะเป็นเวลาเกือบ 22.00 น.
โซเฟียมองนาฬิที่แขวนอยู่บนผนังอย่างกังวลใจ
หนึ่งชั่วโมงที่แล้ว เธอให้วู้ดออกไปซื้อของ ด้วยความเร็วของ วู้ด เขาต้องใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้นแต่ตอนนี้ทำไมเขายังไม่กลับมา…
เธอได้ยินเสียงเคาะอย่างกังวลใจมาจากประตูที่ชั้นหนึ่ง เธอรีบไปที่หน้าต่างและมองลอดช่องเล็กๆ ของผ้าม่าน คนที่เธอเห็นกำลังเคาะประตูทำให้เธอตกใจ—โทนี่ ทเวน!
“ทำไมคุณทเวนถึงอยู่ที่นี่?
โซเฟียต้องการลงไปเปิดประตู แต่เมื่อเธอไปถึงบันได เธอได้กลับไปที่ห้องของเธอ โซเฟียยืนอยู่หน้ากระจก หยิบหวีของเธอและจัดผมให้เรียบร้อย
แม้ว่าผมของเธอจะไม่ยุ่งเลยก็ตาม หลังจากยืนยันว่าไม่มีปัญหาใดๆ รอยยิ้มที่ร่าเริงคล้ายกับเด็กสาวคนหนึ่งปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอก่อนที่เธอจะวิ่งไปเปิดประตูอย่างตื่นเต้น
เมื่อเปิดประตูออกเธอก็ได้ถามว่า“คุณทเวน คุณมาที่นี่ได้อย่างไร”
“เอ่อ ผมมาที่นี่เพื่อตามหาจอร์จ เขาอยู่หรือเปล่า” ที่จริงแล้วเมื่อ ถังเอินถามคำถามนี้ เขารู้คำตอบอยู่แล้ว
โซเฟียเดินไปที่ประตูแล้วตอบว่า “เขาออกไปซื้อของ เชิญคุณทเวนเข้ามาข้างในก่อน ข้างนอกอากาศมันหนาว”
ถังเอินลังเลอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ได้เดินเข้าไป
ผู้เช่าที่อาศัยอยู่ชั้นหนึ่งยังไม่กลับมาตอนนี้มีเพียงพวกเขาสองคนที่อยู่ด้วยกัน
“คุณทเวน คุณจะรับชาหรือนมดี
“ เอ่อ ไม่ต้องลำบากก็ได้ ผมจะไปทันทีที่เจอจอร์จ” ถังเอิน ต้องการหยุดเธอ แต่เห็นได้ชัดว่ามันไม่มีประโยชน์ โซเฟียเปิดตู้เย็นและหยิบบิสกิตสองกล่องออกมาก่อนจะถามว่า
“คุณชอบรสนมหรือรสช็อกโกแลต?”
“ผมชอบทั้งสองอย่าง”
ดังนั้น โซเฟียจึงวางกล่องบิสกิตทั้งสองกล่องลงบนโต๊ะก่อนจะหยิบจานออกจากตู้ เมื่อเห็นท่าทางยุ่งๆ ของโซเฟียอย่างมีความสุขถังเอินก็ยอมแพ้ที่จะโน้มน้าวเธอ ตราบใดที่เธอมีความสุข
ก่อนที่เขาจะรู้จักเธอ บ่อยแค่ไหนที่เธอมีความกระตือรือร้นพร้อมรอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมบนใบหน้าของเธอ?
ดูเหมือนโซเฟียต้องการจะหยิบจานที่อยู่แถวสูงสุด แต่ดูเหมือนเธอไม่สามารถเอื้อมถึง ถังเอินจึงตัดสินใจช่วยเธอ
เขายืนขึ้นและเดินไปหาโซเฟียซึ่งยืนอยู่ข้างหลังเธอ จากนั้นเขาก็หยิบจานที่อยู่แถวบนสุดลงมา
“คุณต้องการสิ่งนี้หรือ อืม..” ถังเอิน ที่ถามคำถามนี้ รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ร่างกายทั้งสองสัมผัสกันโดยไม่รู้ตัว แม้ว่าจะเป็นฤดูหนาวและพวกเขาสวมเสื้อผ้าที่หนา แต่ความอึดอัดที่เกิดขึ้นก็ยังหลีกเลี่ยงไม่ได้
ห้องเงียบไปครู่หนึ่ง แสงสีเหลืองทำให้เกิดเงารอยต่อที่คลุมเครือบนผนังข้างๆทั้งสองคน ถ้าถังเอินวางมือที่ยกขึ้นสูง ลงมามันจะดูเหมือนว่าเขากำลังกอดโซเฟีย
โซเฟียไม่สูง ดังนั้นเมื่อถังเอิน ยืนอยู่ข้างหลังเธอ ผมของเธอก็อยู่ใต้จมูกของถังเอินกลิ่นหอมใสๆ และเขาก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าอย่างตะกละตะกลาม
ถังเอินรู้สึกได้ถึงร่างกายที่เขาได้สัมผัส เขาฟื้นคืนสติในทันทีและถอยกลับไปสองสามก้าว ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมโทษ!” เขายังคงจับจานอยู่ในมือในขณะที่เขาขอโทษ
โซเฟียรู้สึกจั๊กจี้กับการกระทำของถังเอิน “คุณช่วยส่งจานนั้นให้ฉันหน่อยได้ไหม คุณทเวน” เธอยื่นมือมาจับจาน แต่แก้มของเธอกลับเผยอายเล็กน้อย
“ถังเอิน มองดูจานในมืออย่างเขินอายก่อนจะยื่นให้เธอ”
โซเฟียยืนอยู่หน้าโต๊ะโดยก้มศีรษะลง ขณะที่เธอวางบิสกิตลงบนจาน ผมยาวสีดำของเธอลดต่ำลงราวกับน้ำตก เมื่อเห็นสิ่งนี้ ถังเอินนึกถึงเหตุการณ์นั้นตอนที่กลิ่นหอมนั้นลอยมาจากเส้นผมของเธอ?
เมื่อหลับตาลง เขาก็พลาดความรู้สึกนั้นไปในทันใด
เขาสัมผัสได้ถึงลูกเพลิงที่กำลังลุกไหม้ที่สัมผัสกับร่างกายของเขาในขณะนั้นอย่างชัดเจน อากาศเต็มไปด้วยกลิ่นหอมที่ชวนให้หลงใหลซึ่งเข้าใจยากอย่างยิ่ง
“กลิ่นหอมจริงๆ” เขาถอนหายใจเบาๆ
เมื่อถังเอิน ลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาพบว่าโซเฟียกำลังมองมาที่เขาและยิ้ม บิสกิตถูกวางลงบนจานแล้ว และกลิ่นหอมของชาก็อบอวลไปทั่ว