Great Doctor Ling Ran - ตอนที่ 456
EP 456
By loop
ผู้อาวุโสเหม่ย รูปร่างของเขาอ้วนและดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนที่ค่อนข้างดุเลยทีเดียว
ตอนนี้หัวของเขาเต็มไปด้วย งอก และเนื้อปกคลุมปลายจมูกของเขาดูหนาและมีกล้ามเนื้อ บริเวณคางของเขายื่นออกมาเล็กน้อยทำให้ดูมีภาพลักษณ์เป็นคที่น่าจะเป็นพวกที่ไม่ยอมใครง่ายๆอย่างแน่นอน
คอไหล่แขนและท้องของเขาก็ถูกปกคลุมด้วยชั้นไขมันหนา หลิงรันให้ความสนใจเป็นพิเศษกับท้องของเขา เขากำลังคิดว่ามีดเอนโดเทอร์มน่าจะไม่เหมาะกับผู้อาวุโสเหม่ยสักเท่าไรนัก
มีดเอนโดเทอร์มเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่น่าอัศจรรย์และเมื่อใช้กับคนทั่วไปต้องใช้มีดเฉือนเพียงไม่กี่ครั้ง เพื่อทำให้เกิดเป็นแผลลึกโดยไม่ทำให้เลือดออก แต่ถ้าแพทย์ต้องใช้มีดเอนโดเทอร์ เมื่อทำการผ่าตัดแบบส่องกล่องกับคนอ้วนโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ท้องถูกปกคลุมไปด้วยเนื้อเยื่อไขมันที่หนาเช่นนี้จะต้องใช้ค่อนข้างนานกว่าปกติ ในการทำแผล …
หลิงรันพยายามครุ่นคิดอยู่สักผักหนึ่ง ขณะที่จ้องมองไปที่ผู้อาวุโสเหม่ย
เขาเป็นพวกคนแก่ที่มีโรคประจำตัวมากมายและน่าจะเป็นช่วงเฟสท้ายของการเป็นโรคแล้ว นอกจากนี้วินิจฉัยแล้ว ผู้ป่วยคนนี้เป็นเคสที่หาได้ยากมาก อีกทั้งเขายังมีน้ำหนักมาก ฉันจะต้องเตรียมตัวให้ดีก่อนเข้าถึงการผ่าตัดแบบส่องกล่อง… ‘
“ หมอหลิงคุณดูค่อนข้างขี้อาย” ลูกสาวของผู้อาวุโสเหม่ยนั่งอยู่ข้างๆ ขณะที่เธอจ้องมองมาที่หลิงรันเธอไม่ได้มีใจที่จะปฏิบัติต่อเขาอย่างเข้มงวดเหมือนอย่างที่สมาชิกในตระกูลเหม่ยมักจะทำ เธอปลอบหลิงหรันด้วยรอยยิ้ม “ หมอหลิงแค่แสร้งทำเป็นว่าคุณอยู่ในโรงพยาบาลตอนนี้และพ่อของฉันเป็นคนไข้ในขณะที่เราเป็นสมาชิกในครอบครัวของคนไข้ เนื่องจากคุณเป็นหมอคุณสามารถบอกอะไรก็จตามที่คุณต้องการให้พวกเราทำ
ลูกชายของผู้อาวุโสเหม่ยซึ่งนั่งอยู่อีกด้านของเขาไม่ได้ดูเป็นมิตรเหมือนกับกับน้องสาวของเขาเลย เขาเม้มริมฝีปากและพูดว่า“ พี่ เราควรทำตัวให้ดูสง่า และ น่าเครารพยิ่งกว่านี้สิ? ครอบครัวของเราก็ไม่ใช่ครอบครัวธรรมดาอ ครอบครัวธรรมดาจะเชิญหมอมาได้อย่างงั้นหรือ? หมอหลิงเนื่องจากนี่เป็นการพบกันครั้งแรกของเราเรากฎอยู่สามข้อ”
ศาสตราจารย์หวางมองไปที่หลิงรันอย่างกังวลและกังวลว่า ชายคนนั้นจะพูดอะไรต่อไป
อย่างไรก็ตามหลิงรันเพียงแค่ยิ้มออกมาเท่านั้น
หลิงรันเองเคยรักษาผู้คนมาเยอะมากและพบป่ะกับเหล่าญาติๆของคนไข้มาอย่างมากกมาย และการเรียกร้องเช่นนี้พบได้บ่อยกับหลายๆครอบครัว
เห็นได้ชัดว่าลูกชายของผู้อาวูโสเหม่ยไม่ได้เปิดโอกาสให้หลิงรันได้พูดเลย เขายกนิ้วชี้ขึ้นและพูดว่า“ อันดับหนึ่งการรักษาความลับ อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วยของพ่อไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีและยาทุกตัวที่คุณใช้ คุณไม่ได้รับอนุญาตให้พูดถึงเรื่องนี้คุณสามารถทำสิ่งนี้ได้หรือไม่”
“ รับทราบ” หลิงรัน ตอบตามนั้น
ลูกชายของผู้อาวูโสเหม่ยพยักหน้า เขาค่อนข้างพอใจกับสิ่งที่ได้ยิน เมื่อพิจารณาจากวิธีที่หลิงรันตอบเขาดูเหมือนเขาจะเป็นหมอไม่เรื่องมากและดูเชื่อฟังเขา
“ ข้อสอง” ลูกชายของผู้อาวูโสเหม่ยยกนิ้วขึ้นอีกครั้งและพูดว่า“ คุณต้องสื่อสารกับเราตลอดเวลา คุณต้องบอกเราเกี่ยวกับยาที่คุณใช้และเหตุผลเบื้องลึกเบื้องหลัง คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ทดลองยากับพ่อของเรา หรือ เอาชื่อของพ่อเราไม่เป็นผลงานเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองเป็นอันขาด ไม่อย่างงั้นคุณจะต้องถูกฟ้อง”
“ ได้เลย” หลิงรันไม่ได้คัดค้านการสื่อสาร
“ข้อที่สาม. ถ้าคุณต้องการอะไรเพียงแค่พูดต่อหน้าเรา และ ไม่มีการพูดลับหลังเป็นอันขาด” ลูกชายของผู้อาวูโสเหม่ยชูนิ้วที่สาม
“ได้.” ตามปกติคำตอบของ หลิงรันคือสั้น ๆ เขาไม่พบว่าข้อเรียกร้องเหล่านี้เป็นปัญหา
หลังจากจ้องมองหลิงรันอยู่สองสามวินาทีลูกชายของผู้อาวูโสเหม่ยก็ยิ้มออกมาในที่สุด
เขาชำเลืองมองพ่อ จากนั้นเขาก็หันไปมองไปที่หลิงรันและยิ้มออกมา “ ตราบใดที่คุณสามารถรักษาคำพูดของคุณและทำในสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดและดูแลพ่อของฉันให้กลับมามีสุขภาพดีคุณจะได้รับรางวัลอย่างงามอย่างแน่นอน”
เมื่อศาสตราจารย์หวงาเห็นว่าลูกชายคนโตของตระกูลเหม่ยกำลังยิ้มเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ‘หลิงรันดูเหมือนว่าเขาจะรู้ว่าเขาควรทำอะไร อืม…อย่าบอกนะว่าเมื่อกี้เขาจงใจยั่วฉัน? ‘
ศาสตราจารย์หวางเองก็ยังติดอยู่ในอาการสงสัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“ คุณชื่อหลิงรันใช่ไหม หมอหลิงฉันเหมยเทียนกุ้ย คุณสามารถเรียกหาฉันได้ถ้าเกิดปัญหาอะไรที่ทำให้คุณไม่สบายใจ ” ลูกชายคนโตของตระกูลเหม่ยฉายรอยยิ้มและพูดว่า“ ไม่มีประเด็นอะไรให้พูดมาก ตราบใดที่คุณสามารถดูแลพ่อของฉันให้กลับมาแข็งแรงได้ฉันจะให้ทุกอย่างที่คุณต้องการ”
“ คุณจะให้ผมทุกอย่างที่ฉันต้องการ?” หลิงรันเหลือบมองเหม่ยเทียนกุ้ยอย่างสงสัย ถึงเขาจะเจอคนชอบโอ้อวดมาเยอะ แต่ก็มีไม่กี่คนในโลกที่กล้าพูดเรื่องแบบนี้
“ ฉันจะให้ทุกอย่างที่คุณต้องการ” เหม่ยเทียนกุ้ย พยักหน้าและพูดว่า“ ตราบใดที่คุณสามารถดูแลพ่อของฉันให้กลับมาแข็งแรงได้”
ผู้อาวุโสเหม่ยนั้นเขาดูเป็นผู้ทรงอิทธิพลมากๆ ในขณะที่เขานั่งลงบนเก้าอี้ เขาไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เหม่ยเทียนกุ้ยพูดเลย
หลิงรันนึกถึงบางอย่างชึ้นมาและพูดว่า“ ผมต้องการข้อมูลทั้งหมดของคนไข้”
อันที่จริงแล้วหลิงรันก็ไม่กล้าให้คำมั่นสัญญาใด ๆ โดยไม่ดูข้อมูลของคนไข้ก่อน
เหม่ยเทียนกุ้ยตัวแข็งอยู่ครู่หนึ่งและหัวเราะออกมาดัง ๆ เขาพูดกับศาสตราจารย์หวาวง ว่า“ พี่หวาง หมอที่คุณหามานี้เขาดูน่าสนใจดีนะ”
ศาสตราจารย์หวางยิ้มขณะที่เขาพยักหน้า เขาก็ยิ่งสงสัย ‘หมอหลิงทำยังงี้มันไม่ดีเลยนะ‘
กล่องข้อมูลสองสามกล่องถูกส่งเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็วภายใต้คำสั่งของลูกสาวคนโตของตระกูลเหม่ย
ในนั้นมีภาพยนตร์ภาพถ่ายทางการแพทย์มากกว่าหนึ่งร้อยแผ่นและนั่นยังไม่ร่วมถึงบันทึกอื่นๆอีกมากมาย
หลิงรันมองผ่านพวกมันไปทีละแผ่น
เขามีการวิเคราะห์ผลของอัตราซาว์ จากระดับผู้เชี่ยวชาญการวิเคราะห์เอ็มอาร์ไอ ระดับปรมจาน์เกี่ยวกับตับ และการวิเคราะห์ผลเอ็กซ์เรย์ ระดับสมบูรณ์แบบ …
แพทย์ทั่วไปจำเป็นต้องมีทักษะที่เฉพาะทางด้านด้านหนึ่งท่านั้นสำหรับการดูแลผู้ป่วยนอก ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติที่แพทย์ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีทักษะเฉพาะด้านแต่พวกเขาก็สามารถรับผู้ป่วยนอกได้
จากประสบการณ์ของศาสตราจารย์หวางแพทย์ส่วนใหญ่ที่เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์การสแกนหลายประเภทจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการถ่ายภาพทางการแพทย์ด้วย ถึงแม้ว่าหลิงหรันไม่ใช่ศัลยแพทย์เพียงคนเดียวที่มีความสามารถในการอ่านการสแกนหลายประเภท แต่ก็ถือว่าเขาก็เป็นแพทย์ที่มีน้อยในชุมชนทางการแพทย์แห่งนี้
กล่าวอีกนัยหนึ่งจากภาพยนตร์ภาพทางการแพทย์เหล่านี้หลิงรันมีความสามารถในการรับข้อมูลทั้งหมดและทำการตัดสินทั้งหมดที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการถ่ายภาพทางการแพทย์สามารถทำได้
“ ตอนนี้อาการป่วยที่รุนแรงสุดของผู้อาวุโสเหล่ยก็น่าจะเป็นโรคตับ” หลิงรันได้ข้อสรุปหลังจากดูข้อมูลทั้งหมดแล้ว
สำหรับเหม่ยเทียนกุ้ยเองเขาก็ขมวดคิ้ว “ คุณช่วยบอกสิ่งที่เราอยากรู้จะดีกว่าไหม อย่างเช่นคุณสามารถรักษาพ่อของฉันได้ไหม”
“ ผมสามารถรักษาพ่อของคุณได้” หลิงรัน กล่าว“ การตัดตับบางส่วนเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดในตอนนี้”
คราวนี้เหม่ยเทียนกุ้ยไม่พูดอะไร เขามองไปที่พ่อของเขา
ผู้อาวุโสเหม่ยพยักหน้าและพูดช้าๆ“ เอาล่ะ ยังไงฉันก็ตัดสินใจแล้ว โปรดช่วยดำเนินการต่อด้วย”
“ ศาสตราจารย์หวางนี่ไม่น่าจะเป็นปัญหาใช่ไหม”เหม่ยเทียนกุ้ย ถาม
“ ในบรรดาแพทย์ทั้งหมดที่ผมรู้จักหมอหลิงเก่งที่สุดเมื่อพูดถึงการผ่าตัดตับ” ไม่มีอะไรอื่นที่ศาสตราจารย์หวาง สามารถพูดได้
“ เอาล่ะหมอหลิง ฉันจะมอบความไว้วางใจให้คุณมีสุขภาพที่ดีของพ่อของฉัน”เหม่ยเทียนกุ้ยหายใจเข้าลึก ๆ และพูดต่อ“ หากคุณมีคำขอใด ๆ คุณสามารถบอกฉันเพิ่มได้ทันที ฉันเป็นคนรักษาคำพูด – ฉันจะให้ทุกอย่างที่คุณต้องการ”
ผู้อาวุโสเหม่ยและลูกสาวของเขาก็มองไปที่หลิงรันด้วยรอยยิ้ม
สำหรับตระกูลเหม่ยนั้นพวกเขาเชื่อในเรื่องของคำสัตเอามากๆมันเป็นสิ่งที่คอยคำชูตระกูลอยู่นั้นถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรักษาคำสัตเมื่อพวกเขาได้เอ๋ยปากออกไปแล้ว อีกทั้งตระกูลเหม่ยเองยังมีอิทธิพลมากกมายในเมืองแห่งนี้ เขาสามารถสั่งให้ทุกคนทำตามสิ่งทีพวกเขาต้องการได้ทั้งเหล่าลูกน้องร่วมถึงแพทย์ และทุกเมื่อที่เขาต้องการ
ศาสตราจารย์หวางเองเมื่อคิดถึงคำสัตของตระกูลเหม่ย เขาก็พูดกับหลิงหรันโดยอธิบายแต่ละคำอย่างชัดเจนเพื่อชี้ให้เขาเข้าใจว่า“ หมอหลิงนี่เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการร้องขอใด ๆ ที่คุณมีหรือพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ในใจของคุณ”
หลิงรันพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม
เนื่องจากอีกฝ่ายยืนกรานมากตอนนี้เขาได้ดูข้อมูลของคนไข้แล้วและมั่นใจในการรักษาเขา …
คำว่า “ทรานฟอมเมอร์” ปรากฏขึ้นในความคิดของหลิงรันแต่เขาก็รีบลบมันออกจาความคิดไปในทันที่
ถ้าอีกฝ่ายสามารถเสก “ทรานฟอมเมอร์” เขาคงจะใช้พลังของเขาเพื่อรักษาอาการป่วยของพ่อของเขาไปแล้ว อีกทั้งหลิงรันก็คงไม่กล้าขอเช่นนั้น เพราะไม่งั้นทุกคนจะหาว่าเขาต้องเป็นผู้ป่วยทางจิตแน่นอน ถึงแม้ว่าเขาอาจจะป่วยก็ได้เพราะเขาสามารถมองเห็นระบบได้!
“ ผมต้องการห้อง ไอซียู” หลิงรันร้องขออย่างจริงจัง การขาดห้องไอซียูเป็นสิ่งที่สร้างปัญหาและทำให้หลิงรันเศร้าโศกเมื่อไม่นานมานี้ ถ้าเขามีห้องไอซียูเป็นของตัวเองเขาจะต้องจัดแผนการพักฟื้นของผู้ป่วยไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ได้รับการทำซีพีอาร์ หรือการผ่าตัดตับ ด้วยระดับมาสเตอร์ของเขาและแม้แต่ทักษะระดับสมบูรณ์แบบการวินิจฉัยของผู้ป่วยจะดีขึ้นมาก
เมื่อสมาชิกสามคนของตระกูลเหม่ยจ้องมองไปที่หลิงรันรอยยิ้มของพวกเขาก็หายไปอย่างช้าๆ
“ คุณต้องการไอซียู อย่างงั้นหรอ” เหม่ยเทียนกุ้ย ทวนคำขอของหลิงรัน
หลิงหรันพยักหน้า “ ไอซียูหมายถึงห้องผู้ป่วยหนัก เพราะห้องไอซียูมีระบบตรวจสอบส่วนกลางเครื่องช่วยหายใจเครื่องกรองเลือด…”
“ ฉันรู้จักไอซียู คืออะไร ที่ฉันหมายถึงคือคุณต้องการ ไอซียูเพื่ออะไร” เหม่ยเทียนกุ้ยทำสีหน้างงงวย “สำหรับเรื่องนั้น ฉันเปิดโอกาสให้คุณให้ขอใหม่อีกครั้ง”
“ โอ้เป็นไปไม่ได้เหรอ” เนื่องจากหลิงรันคาดหวังสิ่งนี้เขาจึงไม่ผิดหวังจริงๆ เขาเม้มริมฝีปากและพูดว่า“ คุณสามารถมอบศพให้ผมหนึ่งร้อยศพ ถ้าหนึ่งร้อยมากเกินไป คุณสามารถหาให้ผมห้าหรือสิบศพก็ได้”
แม้ว่าเขาจะได้รับประสบการณ์การผ่าทางกายวิภาคมากมาย แต่หลิงรันยังมีช่องว่างสำหรับการเติบโตอีกมากเมื่อได้สัมผัสกับประสบการณ์ในการผ่าซากศพทั้งหมด
นอกจากนี้เขายังมีความต้องการที่จะค้นคว้าทางการแพทย์อีกมากมาย
เหม่ยเทียนกุ้ย รู้สึกว่าริมฝีปากของเขากระตุกเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาพูดด้วยคิ้วขมวด“ จะบ้าหรอใครจะไปหาศพให้คุณได้ มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน? ทำไมคุณถึงขอเช่นนี้มา? ขอให้อีกครั้ง!”
“ โอ้นี่ก็เป็นไปไม่ได้เหรอ? อืมคุณสามารถเพิ่มจำนวนเตียงในโรงพยาบาลในศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน หยุนหัวได้หรือป่าว?” หลิงรันลดความต้องการของเขาลงมา
“ จำนวนบุคลากรทางการแพทย์จะต้องเพิ่มขึ้นเพื่อให้มีจำนวนเตียงในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น” จิตวิญญาณของศาสตราจารย์หวาง แทบจะหลุดออกจากร่างของเขาเมื่อเขาได้ยินเช่นนั้นเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากอธิบายให้เขาฟัง อย่างไรก็ตามเขารู้สึกดีจากภายใน ‘หลิงหรันไม่ได้จงใจที่กวนประสาทฉันใช่ไหม‘
แน่นอนว่าเหม่ยเทียนกุ้ย ไม่สามารถสัญญากับหลิงรัน ว่าจะเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินได้ มันมากเกินไป นอกจากนี้มันไม่ใช่เรื่องง่าย
ลูกสาวของพี่เหม่ยกระแอมในลำคอและขจัดความอึดอัด “ หมอหลิงคุณสามารถเพิ่มคำขอส่วนตัวอื่นๆได้”
“ นี่เป็นคำขอส่วนตัวของฉัน” หลิงรันตอบอย่างจริงจัง
“ ฉันหมายความว่าอย่างไร…” ลูกสาวของผู้อาวุโสเหม่ยพยายามดิ้นรนเพื่อให้ได้คำพูดที่ถูกต้อง “ ฉันได้ยินมาว่าตอนนี้คุณยังเป็นหมอประจำอยู่ คุณไม่มีความปรารถนาที่จะขึ้นไปเป็นระดับบริหารหรือทำอย่างอื่นหรือ? คุณไม่อยากเป็นหัวหน้าแพทย์บางหรอ”
หลิงรันส่ายหัวเล็กน้อย “ ไม่”
“ทำไม?”
หลิงรันมองเธออย่างงง ๆ “ ทำไมคุณไม่หาพวกหัวหน้าแพทย์มารักษาพ่อคุณล่ะ”
“ ฉันองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันในเรื่องนี้…” ลูกสาวของผู้อาวุโสเหม่ยรู้สึกสับสนเล็กน้อย
“ ฮ่าฮ่าฮ่า…” ผู้อาวุโสเหม่ยก็หัวเราะออกมาดัง ๆ
ทุกคนต่างมองไปที่ชายชราที่ดูอ้วนและดูดุซึ่งนั่งอยู่กลางห้องโดยพร้อมเพรียงกัน
“การเป็นคนพิเศษก็จะทำสิ่งต่างๆได้ดีเป็นพิเศษ หมอหลิงฉันขอโทษที่ทำให้คุณต้องลำบากในครั้งนี้” ผู้อาวุโสเหม่ยลุกขึ้นยืนยื่นมือไปจับมือของหลิงรันเบา ๆ จากนั้นเขาก็หันมาอย่างสง่างามเหมือนเสือชีตาห์ที่อ้วนพุงใหญ่ที่แต่ก็ยังคงสง่างามเหมือนเช่นเคย อีกทั้งยังดูน่าเกรงขาม
“ ให้ผมทำการตรวจร่างกายให้คุณก่อน” จู่ๆหลิงรันก็บอกให้ให้ผู้อาวุโสเหม่ยทำตามที่เขาบอก “ คุณช่วยหาที่นอนดีๆหน่อยนะ”
ผู้อาวูโสเหม่ย เขาหันมาถามว่า“ ตอนนี้เหรอ”
“ ใช่คุณนอนบนพรมก็ได้ ถอดรองเท้าและเสื้อผ้าของคุณ” หลิงรันได้จัดการทุกอย่าง อย่างสมบูรณ์แบบโดยไม่มีใครกล้าโต้แย้งกับการกระทำของเขาในตอนนี้เลย