Great Doctor Ling Ran - ตอนที่ 455
EP 455
By loop
ทั้งศาสตราจารย์หวางและ หลิงรันก็ไม่ได้พูดอะไรมากมาย
แน่นอว่าพวกผู้สูงอายุนั้นไม่สนใจของเล่นอย่างเช่นไซเบอร์ตรอน [1] และดาวเนบิวล่า M78 [2] เลย พวกเขาคิดว่านี้เป็นความแตกต่างระหว่างวัยสำหรับคนที่มีอายุแตกต่างกัน
ถ้าไม่ใช่เพราะข้อเท็จจริงที่ว่าหลิงรันเป็นศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะที่ดีที่สุดที่ศาสตราจารย์หวางรู้จัก ศาสตราจารย์หวางคงจะเปลี่ยนใจให้ผู้ป่วยของเขาไปรักษากับแพทย์เฉพาะทางคนอื่นแล้ว
น่าเสียดายที่ไม่ได้มีแพทย์ที่มีทักษะเหมือนหลิงรันมากนัก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงทักษะการผ่าตัด นั้นคือความจริงหลังจากดูหลิงรันผ่าตัด สำหรับการผ่าตัดของศาสตราจารย์หวาง เขาเองเชื่อใจศัลยแพทย์ตับสองคนที่เขารู้จักก่อนหน้านี้อีกต่อไปเลย แม้ว่าพวกเขาทั้งสองจะเป็นหัวหน้าศัลยแพทย์ก็ตาม
ในช่วงหนึ่งศาสตราจารย์หวางได้เห็นการพัฒนาทักษะที่ก้าวหน้าแบบแบบทวีคูณของหลิงรันด้วยตัวเขาเอง
เขาเฝ้าดูหลิงรันทำการผ่าตัดตับฉุกเฉินผ่าตัดผู้ป่วยที่มี นิ่วในท่อน้ำดี นอกจากนี้เขายังได้เฝ้าดูหลิงรันรักษาผู้ป่วยที่มีถุงน้ำดีและฝีในตับอีกหลายเคส ซึ่งทุกเคสเขาอยู่ร่วมในเหตุการณ์นั้นทั้งสิ้น วันและเวลาพักฟื้นของผู้ป่วยที่หลิงรันดำเนินการกับผู้ที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคเดียวกันนั้นสั้นลงเรื่อย ๆ ผู้ป่วยทุกรายใช้เวลาน้อยลงในห้องไอซียูและได้รับการปล่อยตัวเร็วกว่าเมื่อเทียบกับผู้ป่วยรายก่อนหน้านี้
ที่สำคัญที่สุดคือพวกเขาทั้งหมดรอดชีวิต
ถึงแม้ศาสตราจารย์หวาง ไม่ใช่หมอที่มีคุณธรรมมากที่สุด บางครั้งเขารับของขวัญจากผู้ป่วยมักได้รับสินบนจากตัวแทนขายยาดำเนินการผ่าตัดอิสระเพื่อหารายได้พิเศษโดยไม่ได้รับอนุญาตจากโรงพยาบาลเป็นระยะ ๆ และพูดถึงหัวหน้าของเขาพูดในทางไม่ดีให้กับผู้ป่วยของเขาฟัง อย่างไรก็ตามแม้ว่าหลิงรันจะเหมือนขั่วตรงข้ามของมโนธรรมจองศาสตราจารย์หวาง แต่นั้นก็สะท้อนให้เห็นว่าหลิงรันนั้นแตกต่างจากเขาเพียงใด
‘เขายอดเยี่ยมมาก‘
‘เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ‘ ในความคิดที่ต่อมาของศาสตราจารย์ หวาง เขาไม่อาจปฏิเสธทักษะของหลิงรันได้เลย
แม้ว่าศาสตราจารย์ หวางจะเป็นหมอมาหลายปีแล้ว แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจกับทักษะการผ่าตัดของหลิงรัน ความประหลาดใจนี้เพิ่มขึ้นเพียงครั้งเดียวกับการผ่าตัดทุกครั้งของหลิงรันที่เขาเฝ้าดู
อย่างไรก็ตามศาสตราจารย์หวางไม่รู้ว่าจะเข้ากับแพทย์ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ได้อย่างไร
‘คนหนุ่มสาวทุกคนในปัจจุบันทำตัวแบบนี้ไหม?
แต่ไม่ว่าอย่างไรศาสตราจารย์หวางก็รู้สึกว่าเขาต้องการหยุดพักแล้ว เขาเชื่อว่าเขาต้องการการพักผ่อนก่อนที่เขาจะชินกับวิธีการกระทำของคนหนุ่มสาวในปัจจุบัน
ช่องว่างระหว่างวัยนั้นมีเพียงเวลาเท่านั้นที่จะช่วยในการให้เขาอยู่ร่วมกันได้
ในตอนนี้รถโตโย่ต้าโคสเตอร์ขับข้ามสะพานลอยก่อนเข้าสู่ทางหลวง จากนั้นก็ขับต่อไปอีกประมาณสองหรือสามร้อยไมล์ …
ในตอนแรกศาสตราจารย์หวาง ไม่ได้รู้สึกอยากพูดอะไร หลังจากนั้นไม่นานเขาก็รู้สึกอยากคุย แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มการสนทนาอย่างไร ในท้ายที่สุดเขาเพียงเฝ้าดูหลิงหรันที่หลับอยู่ระหว่างที่เขาขับรถเท่านั้น
หกโมงเย็น.
โตโยต้าโคสเตอร์ ชับเข้ามาในโรงพยาบาล
“ คุณหลับลึกมาก” ศาสตราจารย์หวางยื่นผ้าพันคอให้หลิงหรันและถอนหายใจ “ ในชนบทอากาศหนาวกว่านิดหน่อย ระวังอย่าให้เป็นหวัด”
“ โอ้เราถึงแล้วหรอ” หลิงรันเปิดไฟในรถและตรวจดูผ้าพันคอก่อนที่เขาจะสวมมัน
น่าแปลกที่ศาสตราจารย์หวางไม่พบนิสัยที่ผิดปกติของเขาและเขาอดทนรอหลิงหรันในขณะที่หลิงรันตรวจดูผ้าพันคอ
พนักงานสองคนที่สวมชุดสูทยืนอยู่นอกประตูเพื่อต้อนรับพวกเขา พวกเขาเฝ้าดูอย่างเงียบ ๆ ในขณะที่หลิงรันตรวจดูผ้าพันคอเสร็จและสวมผ้าพันคอนั้น ก่อนจะมองดูสภาพแวดล้อมของเขาและค่อยๆเดินไปที่ลานกว้างของโรงพยาบาล
“ ผมขอโทษที่ไม่ได้บอกคุณล่วงหน้าว่าโรงพยาบาลตั้งอยู่ไกลมาก พวกเขาไม่อนุญาตให้ผมทำเช่นนั้น” ศาสตราจารย์ หวาง อธิบาย
หลิงรันพยักหน้าอย่างเป็นมิตร “ ไม่เป็นไรผมไม่ได้รีบร้อนอะไร ในศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินมีเตียงเหลืออยู่ไม่มากเท่าไรด้วย”
นับตั้งแต่แผนกฉุกเฉินถูกขยายไปเป็นศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินหลิงหรันก็ประหยัดมากเมื่อต้องใช้เตียงในโรงพยาบาล
เขาทำการผ่าตัดปลูกถ่ายนิ้วน้อยลงเท่านั้น กลับกันขายังได้เข้ารับการผ่าตัดรักษาเอ็นร้อยหวายอิสระจำนวนมากขึ้นแทน
ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ต้องการ มารักษาเอ็นร้อยหวายผ่านวิธีการรักษาแบบจู้ หลิง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักกีฬามืออาชีพนักกีฬากึ่งมืออาชีพและผู้ที่ชื่นชอบกีฬาซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ พวกเขายินดีที่จ่ายเงินจำนวนมาก และเต็มใจที่จะจ่ายเงินเพื่อให้หลิงรัน ทำการผ่าตัดให้กับพวกเขา ดังนั้นผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ได้รับการผ่าตัดรักษาเอ็นร้อยหวายในโรงพยาบาลหยุนหัวนั้นจะเป็นชาวต่างชาติและโดยเฉลี่ยแล้วจะมีหนึ่งหรือสองรายต่อสัปดาห์
ถึงอย่างนั้นเนื่องจากหลิงรันดำเนินการเกี่ยวกับโรคตับมากขึ้นเรื่อย ๆ จำนวนเตียงในโรงพยาบาลที่ว่างเปล่าในศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินหยุนหัวจึงลดลงอย่างรวดเร็ว
ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์นี้หลิงรันก็จะออกไปเป็นแพทย์อิสระ
อย่างไรก็ตามสถานที่นี้อยู่ห่างจากหยุนหัวอยู่ไกลมาก ดังนั้นเขาจึงใช้เวลานานกว่าจะไปถึงเนื่องจากเขาไม่ได้โดยสารทางเครื่องบิน
“ ศาสตราจารย์หวางหมอหลิงผู้อาวุโสเหม่ยรออยู่ข้างในแล้ว เราจะใช้เวลาประมาณห้านาทีในการพบเขา กรุณาอย่าถ่ายภาพหรือเดินออกจากทางหลัก” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าวก่อนที่เขาจะเริ่มเดินไปข้างหน้า
เจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ แสดงท่าทางให้พวกเขาเดินไปข้างหน้า เขารอจนกระทั่งหลิงรันและศาสตราจารย์หววางเริ่มเดินและวิ่งเหยาะๆตามหลังพวกเขา
แม้ว่าจะมีเพียงสี่คน แต่พวกมันก็ต่อแถวยาวมาก
เจ้าหน้าที่รักษาระยะห่างจากหลิงหรันและศาสตราจารย์หวางทำให้พวกเขามีพื้นที่มากพอที่จะพูดคุย
“ ผู้อาวุโสเหม่ยเป็นอดีตผู้นำของมณฑลฉางซี เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากปัญหาเกี่ยวกับตับมาเป็นเวลานานและควบคุมโรคนี้ด้วยวิธีการใช้ยามาโดยตลอด เขาสนใจที่จะผ่าตัดเนื่องจากการใช้ยาไม่สามารถบรรเทาโรคของเขาได้อีกต่อไป” ศาสตราจารย์หวางเล่าให้หลิงหรันฟังเกี่ยวกับผู้ป่วยด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย
“ เขาป่วยเป็นอะไร? มีการวินิจฉัยที่แน่นอนหรือไม่”
“ โรคตับ. มันค่อนข้างจริงจัง” ศาสตราจารย์หวาง กล่าว
“โรคตับอย่างงั้นหรอ…” หลิงหรันพยักหน้า เขาไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตารอเป็นพิเศษ
เขาได้ทำการผ่าตัดที่คล้ายกันอย่างน้อย 10 ครั้งเมื่อเร็ว ๆ นี้ ในขณะที่เขาครอบครองการผ่าตัดตับระดับปรมาจาร์ยแล้ว หลังจากทำการผ่าตัดตับสิบเคสกับผู้ป่วยที่เป็นโรคตับแล้วเขาอาจกล่าวได้ว่ามีความเชี่ยวชาญในการผ่าตัดโรคตับอยู่พอสมควรแล้ว
ศาสตราจารย์หวางยิ้มขณะที่เขาจ้องมองขณะที่หลิงรัน หลังจากเป็นหมอมานานเขาก็รู้ดีว่าหลิงรันรู้สึกอย่างไรในตอนนี้ อย่างไรก็ตามหากไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าศาสตราจารย์หวางได้เห็นหลิงรันทำการผ่าตัดตับให้กับผู้ป่วยสิบคนที่เป็นโรคตับโตและการผ่าตัดเหล่านั้นประสบความสำเร็จเขาคงไม่กล้าแนะนำหลิงรันกับผู้อาวุโสเหม่ยอย่างแน่นอน
“ ผู้อาวูโสเหม่ยมีโรคประจำตัวค่อนข้างมาก ความดันโลหิตสูงเช่นเดียวกับปัญหาเกี่ยวกับหัวใจทำให้ท่อน้ำดีตีบจนนำไปสู่การอักเสบและความเจ็บปวดซ้ำ ๆ …” ศาสตราจารย์หวางเล่าต่อหลิงรันเกี่ยวกับผู้ป่วยด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล จากนั้นเขาก็พูดต่อว่า“ หลิงรันการผ่าตัดครั้งนี้มีความสำคัญ คุณต้องใส่หัวใจและจิตวิญญาณของคุณลงไป”
“ เข้าใจแล้ว”
“ คุณต้องทุ่มเททั้งหัวใจและจิตวิญญาณของคุณลงไป…” ศาสตราจารย์หวางด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“ โอเค” หลิงรันไม่รู้จะพูดอะไรกับศาสตราจารย์ หวางอีกต่อไป หรือเหมาะสมกว่านั้นเขาไม่รู้สึกอยากพูดมาก
ศาสตราจารย์หวางไอสองสามครั้งก่อนที่เขาจะถอนหายใจและพูดว่า“ หมอหลิงคุณไม่สามารถทักทายผู้อาวุโสเหม่ยเหมือนทั่วไปที่คุณทักทายผู้ป่วยได้ คุณอาจจะต้องรักษามารยาทสักหน่อย”
หลิงรันลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะยิ้มออกมา “ ผมควรทำอย่างไร”
“ ผมไม่ได้บอกให้คุณยิ้ม” ศาสตราจารย์หวางส่ายหัวและกล่าวว่า“ คุณต้องแสดงให้เห็นว่า…เราต้องแสดงให้เห็นว่าเราไม่ได้มองอาการป่วยของผู้อาวุโสเหม่ยเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย คุณอาจไม่รู้เรื่องนี้ แต่ถึงแม้ว่าผู้อาวุโสเหม่ยนั้นเกษียณแล้ว แต่เขาก็เป็นบุคคลที่มีอิทธิพลในมณฑลฉางซี ทุกครั้งที่มีงานเทศกาล…”
หลิงหรันฟังขณะที่ศาสตราจารย์หวางเดินเตร่อยู่ประมาณครึ่งนาที เขาดูงงงวย “ เนื่องจากผู้อาวุโสเหม่ยเป็นผู้ป่วยคนสำคัญเหตุใดพวกเขาจึงปล่อยให้คุณจัดการเคสนี้โดยลำพัง”
ศาสตราจารย์หวางตัวแข็งไปในทันที
ศาสตราจารย์หวางชี้ที่จมูกของตัวเองและพูดอย่างมีความหมายว่า“ ผมหวางหมิงหยู่เป็นศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีน ผมจัดว่าเป็นแพทย์ที่เก่งคนหนึ่งในประเทศ ผมเชี่ยวชาญในการดูแลผู้บาดเจ็บและเป็นผู้เชี่ยวชาญในการผสมผสานการแพทย์แผนจีนกับการแพทย์แผนตะวันตก พูดตรงไปตรงมามีแพทย์เพียงไม่กี่คนที่เก่งทั้งแพทย์แผนจีนและแพทย์แผนตะวันตกในประเทศของเรา ทุกคนที่มีชื่อเสียงมากกว่าผม และอาจมีทักษะที่สูงกว่าผม แต่พวกเขามีมีประสบการณ์น้อยกว่าผมแน่นอน…”
หลิงรันมองไปที่ศาสตราจารย์หวางด้วยความสับสนและพูดว่า“ ผมคิดว่าจะดีกว่าถ้าจะให้คำปรึกษาตามที่คุณพูดพวกเขาไม่ควรหาแพทย์ที่มีชื่อเสียงและมีความเชี่ยวชาญจำนวนมากในเวลาเดียวกันหรือ?”
ศาสตราจารย์หวางตะลึงอีกครั้ง หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ตอบว่า“ คุณหมายความว่าอย่างไร…เราไม่สามารถให้คำปรึกษาตลอดเวลาได้”
“ เนื่องจากจะต้องมีการผ่าตัดจึงเราควรที่จะนัดปรึกษากันล่วงหน้าหรือไม่”
“ โอ้คุณกำลังพูดถึงแผนการรักษาโรคตับของเขาหรือเปล่า? เราได้คิดขึ้นมาสักพักแล้ว เขาต้องการการผ่าตัดตับอย่างแน่นอน เขาสงสัยเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องนี้และเพิ่งตัดสินใจดำเนินการต่อเมื่อเร็ว ๆ นี้” ศาสตราจารย์หวางหัวเราะเบา ๆ
หลิงรันฮัมเพลงเพื่อรับทราบอีกครั้ง
ศาสตราจารย์หวางมองไปที่หลิงรันด้วยความอิจฉา “ อย่างไรก็ตามเรากำลังจะได้พบกับ ผู้อาวุโสเหม่ยเร็ว ๆ นี้ คุณไม่ประหม่าเลยเหรอ”
หลิงรันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ ผู้อาวูโสเหม่ย เราต้องประหม่าด้วยหรอ?”