Guild Master จอมราชันโลกออนไลน์ - ตอนที่ 52
ตอนที่ 52
เมืองคนโฉด
“พี่กวี…..นี่มันอะไรเนี่ย”ทันทีที่มาถึงเมืองการ์กัน สิ่งแรกที่เจได้เห็นก็คือบ้านเมืองที่ดูเงียบเหงากว่าปกติหลายเท่า นอกจากทหารบางคนที่ยืนเฝ้าประตูเมืองแล้ว ภายในเมืองกลับมี NPC และผู้เล่นอยู่ไม่มาก แถมบ้านแต่ละหลังยังปิดเงียบอย่างกับเมืองร้าง เทียบกับหมู่บ้านฟรอยก่อนหน้านี้แล้วหมู่บ้านที่สร้างมาหลอกตาผู้เล่นยังดูมีชีวิตชีวากว่าเลย
“เพราะแบบนี้สินะ NPC ถึงได้รวมตัวกันหลอกลวงผู้เล่นแบบนั้น”เมฆมองไปตามเมืองด้วยท่าทีเหนื่อยใจ ปกติ NPC ไม่น่าจะคิดร้ายกับผู้เล่นได้ แต่พวกคนในหมู่บ้านฟรอยกลับวางแผนล่อผู้เล่นให้โดนโจรเล่นงาน ที่แท้ก็ไม่ได้ทำไปเพราะหวังเงินอย่างเดียวนี่เอง
“ดูเหมือนผู้เล่นในเมืองนี้จะเป็นพวกไม่ได้เรื่องแน่ ๆ”กวีเดินเข้าไปที่ประตูเมืองด้วยท่าทีนิ่ง ๆ สภาพเมืองการ์กันตอนนี้อย่างกับถูกย้อมไปด้วยความหม่นหมอง ถนนหนทางสกปรกเหมือนไม่ได้ทำความสะอาดมานาน และหากมองให้ดีจะเห็นว่า NPC ในเมืองนั้นกำลังพยายามซ่อนตัวหรือกำลังแอบมองพวกกวีมาจากในบ้านอยู่ด้วย
“พวกเจ้า….มีธุระอะไรงั้นเหรอ”ทหารเฝ้าประตูถามพลางถอยห่างออกจากตัวกวีไปนิดหน่อย น่าแปลกพวกทหารเป็นองครักษ์ของเมือง มีหน้าที่ควบคุมความสงบเลยจะเป็น NPC ที่มีเลเวลสูงพอสมควร ทำไมพวกเขาถึงทำท่าอย่างกับไม่กล้าเข้าใกล้ผู้เล่นกันล่ะ
“พวกเราจับโจรได้ก็เลยเอามาส่งทางการครับ”กวีตอบพร้อมรักษารอยยิ้มเอาไว้ อย่างน้อยก็ไม่อยากให้อีกฝ่ายกลัวไปมากกว่านี้
“งะ งั้นเหรอ…..ตามมา”ทหารเฝ้าประตูตอบพลางบอกให้กวีตามตนเองไป ไม่ว่าจะดูอย่างไรท่าทีหวาด ๆของทหารและชาวเมืองก็ดูแปลกอยู่ดี เพียงแต่เรื่องนี้กวีได้รับรายงานมาก่อนแล้วจึงไม่แปลกใจเท่าไร จะมีแต่ เจ มายด์ และ มีน เท่านั้นที่ดูจะกังวลกับสภาพของเมือง ส่วนเมฆและไอช่านั้นเหมือนจะรู้แล้วว่าทำไมเมืองถึงได้เป็นแบบนี้
“อะไรกัน….ลดให้มากกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง”ระหว่างเดินตามทหารเฝ้าประตูเข้าไปในเมืองนั้น พวกกวีก็ได้ยินเสียงบางอย่างดังมาจากภายในร้านค้าที่เปิดอยู่ไม่กี่ร้าน ท่าทางร้านนั้นจะเป็นร้านขายยาฟื้นฟูพลังชีวิตเสียด้วย
“ไม่ได้แล้วครับ ถ้าถูกไปกว่านี้แม้แต่ต้นทุนก็…”ชายวัยกลางคนที่เหมือนจะเป็นเจ้าของร้านตอบกลับผู้เล่นที่มาซื้อของด้วยสีหน้าหวาดกลัว แถมผู้เล่นคนนั้นยังมีสีแดงส่องสว่างอกมาจากร่างกายอีกต่างหาก แต่ทหารเฝ้าประตูกลับไม่มีท่าทีสนใจอะไรเลย แบบนี้ที่พวกกวีรอจนโทษสังหารผู้เล่นหมดเวลาแล้วค่อยเดินทางเข้ามาในเมืองก็ดูเป็นเรื่องไร้ค่าไปเลยนะสิ
“อะไรวะ พวกเราแก๊งดาวแดงมาซื้อของ ทำไมถึงลดไม่ได้”ผู้เล่นคนนั้นตอบกลับด้วยท่าทีโมโห แถมยังถีบเข้าที่เคาน์เตอร์ร้านอย่างแรงอีกต่างหากทำให้ชายเจ้าของร้านแทบจะมุดลงไปด้านหลังเคาน์เตอร์เพื่อหลบอีกฝ่าย
“พอเถอะ”แม้ทหารเฝ้าประตูจะไม่ทำอะไร แต่กวีเห็นแบบนั้นแล้วกลับเดินเข้าไปห้ามก่อนจะจับบ่าของผู้เล่นที่กำลังขู่พ่อค้าขายยาเอาไว้เพื่อไม่ให้ทำไปมากกว่านี้
“มีปัญหาอะไร ออกไปให้พ้น”ชายคนนั้นพยายามผลักกวีออก แต่เพราะตัวเองเป็นผู้เล่นติดโทษสีแดงอยู่แล้วทำให้กวีสามารถโจมตีอีกฝ่ายได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องโทษที่จะตามมา พริบตาที่วางมือลงไปกวีก็ปล่อยพิษของอสรพิษทะเลลึกลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เปรี้ยง!!
ไม่ต้องรอใครกล่าวเปิดงานให้เสียเวลา กวีเหวี่ยงไม้เท้าของตนเองตีไปที่แผ่นหลังของชายคนนั้นจนชายคนนั้นหลบออกไปนอกร้าน
“หน็อย เดี๋ยวพวกเอ็งเจอแน่”ชายคนนั้นชี้มาที่หน้าของกวีก่อนจะหันหลังวิ่งหนีไปเสียก่อน ไม่นึกเลยว่าชายคนนั้นจะเลเวลไม่สูงมาก แค่กวีใช้พิษนิดหน่อยรวมกับใช้ไม้เท้าฟาดก็ถึงกับต้องหนีไปเลย
“คุณน้า ไม่เป็นอะไรนะครับ”กวีหันไปทาง NPC คนขายยาก่อนจะคุกเข่าลงไปกุมมือของชายคนนั้นเอาไว้ด้วยท่าทีเป็นห่วง ใบหน้าอ่อนโยนของกวีตอนนี้ทำเอาชายคนขายยาถึงกับทำสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมาเลย
“ไม่เป็นไร แต่เดี๋ยวพวกมันจะมากันอีก พ่อหนุ่มหนีไปเถอะ”คนขายยาว่าพลางมองมาทางกวีด้วยท่าทางเป็นห่วง นานมากแล้วที่ไม่ได้พบผู้เล่นที่ทำดีกับพวกเขาแบบนี้
“นี่มัน เกิดอะไรขึ้นกันแน่”กวีกำหมัดแน่นด้วยท่าทีเจ็บใจอย่างเห็นได้ชัด ความรู้สึกสงสารชาวเมืองที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ไม่ว่าใครมาเห็นก็ต้องรู้สึกไม่ดีทั้งนั้น แถมไม่ใช่แค่กวี คนอื่น ๆในปาร์ตี้เองก็มีท่าทีเช่นนี้เหมือนกัน
“เป็นเพราะโดนมอนสเตอร์บุกก่อนหน้านี้ พวกเราก็เลยอยู่ในสภาวะอ่อนแอ ท่านเจ้าเมืองก็ตายจากไป ทหารมีฝีมือก็เหลือไม่มาก พอพวกนักผจญภัยรู้เข้าแทนที่จะช่วยเหลือพวกมันกลับ…..”คนที่ตอบกลับมากลายเป็นคนขายยาเสียอย่างนั้น ก่อนหน้านี้ไม่ทราบทำไม อยู่ ๆก็มีบอสตัวหนึ่งเข้ามาโจมตีเมือง ท่านเจ้าเมืองและทหารที่แข็งแกร่งของเมืองต่างเข้าไปปกป้องเมืองสุดกำลัง แม้จะไล่บอสตัวนั้นไปได้แต่เมืองก็เสียหายอย่างหนัก แต่ทว่านรกที่แท้จริงกลับอยู่หลังจากนั้น ไม่ทราบว่าเป็นคราวเคราะห์ของชาวเมืองการ์กันหรือไม่ ผู้เล่นที่อาศัยอยู่ในเมืองนั้นเป็นผู้เล่นชั้นเลวเสียส่วนใหญ่ พอพวกทหารไม่มีแถมยังรู้อีกว่าสามารถขู่ NPC เพื่อเอารัดเอาเปรียบได้ พวกผู้เล่นก็พากันหาประโยชน์เข้าตัว แม้แต่ค่ายาค่าอาหารก็ไม่คิดจะจ่าย ยิ่งพอข่าวว่าทหารของเมืองการ์กันอ่อนแอจนทำอะไรผู้เล่นไม่ได้ เหล่าผู้เล่นมีโทษสีแดงติดตัวก็เข้ามาอาศัยในเมืองกันอย่างสบายใจราวกับเมืองคนโฉด ทำให้สภาพเมืองตอนนี้เลวร้ายยิ่งกว่าเดิมหลายเท่านัก
“บ้าจริง ๆ เจ้าพวกนั้นทำอะไรตามใจไม่สนพวกชาวบ้านเลย”กวีว่าพลางพยุงร่างของคนขายยาขึ้นมา แบบนี้มันน่าเกลียดเกินไป
“เอาเถอะ อย่างน้อยก็ยังมีพ่อหนุ่มที่ดีกับพวกเราบ้าง”คนขายยาว่าพลางมองกวีด้วยท่าทีซึ้งใจ พวกผู้เล่นธรรมดาพอจะเข้าเมืองก็เจอพวกโจรดักปล้นก็เลยไม่มีผู้เล่นดี ๆเข้ามาในเมืองเลย ตอนนี้ชาวเมืองได้แต่รอความหวังว่าเมืองหลวงจะส่งเจ้าเมืองคนใหม่ลงมาหรือไม่ก็ให้ความช่วยเหลือขับไล่ผู้เล่นเหล่านี้ออกไปบ้าง
โครม!!
กวีและคนอื่น ๆยังไม่ทันได้ออกจากร้านขายยา อยู่ ๆก็มีคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาในร้านแถมยังถีบประตูร้านขายยาจนหลุดลงมาอีกต่างหาก เพียงแต่คงไม่จำเป็นต้องถามว่าคนกลุ่มนี้เป็นใครเพราะในกลุ่มนี้มีคนที่กวีพึ่งไล่ไปหมาด ๆอยู่คนหนึ่ง แถมคนส่วนใหญ่ยังมีสีแดงส่องสว่างออกมาจากร่างกายอีกต่างหาก
“พี่กวี…”มีนที่อยู่ด้านหลังเตรียมชักดาบออกมาสู้ แม้คนพวกนี้จะท่าทางเลเวลห่างกับพวกตนมาก แต่หากเป็นกวี เมฆ แล้วก็ไอช่าละก็โอกาสชนะก็ใช่ว่าจะไม่มี
กึก….
มีนยังไม่ทันจะเข้าไปโจมตี อยู่ ๆเมฆก็จับแขนของมีนเอาไว้ให้อยู่เฉย ๆพร้อมส่งสายตามาทางเจเหมือนจะบอกว่าไม่ต้องทำอะไรเสียอย่างนั้น
“แกเองสินะที่ทำร้ายคนของเรา เก่งนักหรือไงวะ”ชายคนหนึ่งเดินออกมาทางกวีก่อนจะเอาด้ามดาบกระทุ้งเข้าที่ท้องของกวีเข้าอย่างจัง ด้วยพลังที่ต่างกันมากแถมกวียังเป็นผู้เล่นสายเวทอีกต่างหากทำให้กวีล้มลงไปคุกเข่ากับพื้นตั้งแต่การโจมตีแรกเลย
“ห้าวเหรอมึ_”ทันทีที่กวีล้มลงไปนั่งกับพื้น ชายคนที่กวีไล่ไปก่อนหน้านี้ก็เข้ามาเตะใส่ร่างของกวีเข้าอย่างจังเล่นเอามีนกับเจงงไปหมดว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมกวีถึงได้ยอมง่าย ๆแบบนั้นกัน
“เอาตัวมันไป”ชายอีกคนเห็นกวีล้มลงไปกองกับพื้นแล้วก็สั่งให้ชายร่างใหญ่ที่อยู่ด้านหลังแบกตัวกวีไป เจอคนมากแบบนี้ไม่แปลกที่กวีจะไม่กล้าสู้ล่ะนะ
“ฉลาดนี่….อย่าหาเรื่องใส่ตัวแบบนั้นล่ะดีแล้ว”ทหารเฝ้าประตูพูดพลางมองมาทางเมฆและคนในปาร์ตี้ของกวี ตอนนี้ทุกคนไม่เข้าไปช่วยกวีก็เพราะเมฆห้ามเอาไว้ แต่ถ้าทำแบบนั้นทุกคนก็คงโดนลากไปด้วยแน่ ๆ
“พี่เมฆ นี่มันหมายความว่ายังไง”มีนถามด้วยท่าทีแตกตื่นอย่างเห็นได้ชัด นี่มันไม่ใช่การประลองนะ ถ้าพวกนั้นทำอะไรกวีจนตายกวีก็ต้องมาเกิดใหม่ที่เมืองนี้นะ แบบนั้นไม่ทำให้กวีโดนเล่นงานซ้ำ ๆเลยหรือไง
“ตอนนี้พวกเราทำอะไรไม่ได้”เมฆตอบพลางส่ายหน้าช้า ๆ แม้เมฆจะเป็นจอมดาบอันดับหนึ่ง แต่ตอนนี้เลเวลก็แค่ยี่สิบกว่า ๆ จะทำอะไรก็มีข้อจำกัดอยู่ดี
“แต่ว่า….”มีนมองกวีที่โดนพาตัวไปด้วยท่าทีเป็นห่วง กวีรู้จักคนเยอะนี่นา ถ้าเป็นคนพวกนั้นละก็อาจจะช่วยกวีได้ก็ได้ แต่เรื่องนั้นเมฆเองก็น่าจะรู้แล้วทำไมไม่ติดต่อไปล่ะ
.
.
.
“ในเกมก็เจ็บเหมือนกันนะเนี่ย”หลังจากคนกลุ่มนั้นลากตัวกวีมาจนถึงสถานที่แห่งหนึ่งภายในเมือง กวีก็ยืดตัวตรงก่อนจะจับไปที่ท้องของตนเอง การโดนด้ามดาบกระแทกเต็มแรงแบบนั้นหากเป็นข้างนอกคงจุกจนลุกแทบไม่ขึ้นไปแล้ว แต่ในเกมนี่กลับแค่รู้สึกเจ็บ ๆเอง
“ขอโทษด้วยนะครับ หัวหน้าสั่งว่าต้องทำให้เนียนที่สุด”ชายที่เอาดาบกระทุ้งร่างของกวีพูดพลางมองไปรอบ ๆ ตรงนี้เป็นเขตที่แก๊งดาวแดงยึดครองเอาไว้ทั้งหมด ไม่มี NPC อยู่เลยแม่แต่คนเดียว พวกเขาเลยไม่ต้องแกล้งทำอีกแล้ว
“ไม่เป็นไรฉันเข้าใจ”กวีตอบก่อนจะเดินเข้าไปในตึกที่พวกคนของแก๊งดาวแดงพามา ภายในตึกแห่งนี้มีเหล่าผู้เล่นแต่งกายน่ากลัวค่อนข้างเยอะทีเดียว แถมกลิ่นอายก็ยังน่ากลัวอีกต่างหาก
“พี่กวี…ในที่สุดเราก็ได้พบหน้ากันสักที”ทันทีที่กวีเดินเข้ามาในห้องแห่งหนึ่งชายตัวอ้วนหัวล้านคนหนึ่งก็ลุกขึ้นมาต้อนรับกวีด้วยท่าทียินดี
“หัวล้านขึ้นนะ ไม่ดูแลเส้นผมเลยหรือไง”กวีถามพลางมองไปที่หัวล้าน ๆของชายตรงหน้า แต่คำถามเล่น ๆของกวีกลับทำเอาคนในแก๊งต่างสะอึกกันถ้วนหน้า ในนี้ไม่มีใครกล้าพูดเรื่องหัวล้านต่อหน้าหัวหน้าแก๊งดาวแดงหรอก แต่ผู้ชายคนนี้กลับพูดออกมาหน้าตาเฉยเสียอย่างนั้น
“แฮะ ๆ พี่อย่าพูดแทงใจดำกันสิ ผมก็พยายามแล้วนะแต่ผมมันก็ไม่งอกขึ้นมาสักที”นอกจากจะไม่โกรธแล้วชายหัวล้านยังพูดถึงหัวตัวเองต่ออีกต่างหาก แม้จะทราบอยู่แล้วว่าชายคนนั้นเป็นแขกของหัวหน้าแก๊งแต่หัวหน้าเกรงใจขนาดนี้เจ้าหมอนั่นเป็นใครกันแน่