Guild Master จอมราชันโลกออนไลน์ - ตอนที่ 53
ตอนที่ 53
แขก VIP
“บ้าจริง โดนไอ้พวกนั้นเล่นงานได้ไง”ชายที่แต่งตัวเหมือนโจรผู้อ้างตัวว่าเป็นคนของแก๊งหมีใหญ่เดินเข้ามาในเมืองการ์กันด้วยท่าทีไม่พอใจนัก พอเกิดมาก็โดนพวกลูกพี่เรียกตัวไปเลย ยังไม่ทันได้หายโมโหจากตอนโดนพวกกวีเล่นงานเลย
“เห้ย มัวทำอะไรอยู่ รีบมาได้แล้วลูกพี่วันนี้จริงจังมากเลยนะ”ชายคนหนึ่งเห็นชายสวมผ้าปิดปากเดินเข้ามาก็รีบเข้าไปหาก่อนจะเรียกตัวมายืนเข้าแถวพร้อมกับคนอื่นทันที
“พี่ วันนี้มีอะไรงั้นเหรอ แบบนี้มันโคตรแปลกเลยนะ”ชายสวมผ้าปิดปากถามพลางมองไปรอบ ๆ ปกติเมืองการ์กันสามารถทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ แถมแก๊งต่าง ๆในเมืองต่างให้อิสระกับคนในแก๊งเต็มที่ทำให้การเข้าแถวแบบนี้ออกจะเป็นเรื่องผิดปกติสำหรับคนในเมืองการ์กันเลยก็ว่าได้
“วันนี้พี่ใหญ่เชิญแขกมาพบ เห็นว่าเป็นแขกสำคัญมากขนาดเรียกลูกน้องทุกคนมารวมตัวกันเลยนี่ไง”ชายที่พาคนสวมผ้าปิดปากมาเข้าแถวตอบพลางหันไปสั่งให้พวกลูกน้องพากันเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ในตอนนี้ทุกคนต่างก็คิดในหัวว่าแขกสำคัญที่ว่านี่มันใครกัน ทำไมลูกพี่ใหญ่ถึงได้ทำตัวแปลก ๆแบบนี้
“มาแล้ว ทุกคนห้ามเสียมารยาทนะ”ลูกพี่คนคุมแถวเห็นประตูห้องเปิดออกก็รีบสั่งให้ทุกคนตั้งแถวอย่างสวยงามเอาไว้ไม่ให้ขยับไปไหนอย่างกับกำลังทำพิธีต้อนรับพระราชาไม่มีผิด ต่างกันตรงที่อาคารในเมืองการ์กันนั้นตอนนี้แทบจะสกปรกเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ไม่สามารถแก้ไขได้ในไม่กี่วันหรอก
“…………”ทันทีที่ประตูเปิดออก แม้จะเสียมารยาทแต่คนของแก๊งหมีใหญ่ก็พากันมองชายคนที่เดินเข้ามาด้วยท่าทีสงสัยทันที เพียงแต่อุปกรณ์สวมใส่ของชายคนนั้นกลายเป็นไอเทมของคนเลเวลต่ำเสียอย่างนั้น หากมองด้วยสายตาคนในแก๊งทุกคนต่างก็คิดว่าชายคนนั้นต้องมีเลเวลต่ำกว่า 40 แน่ ๆ เพียงแต่ท่าทีของชายคนนั้นดูไม่ธรรมดาเลย
“เชิญครับ….”ลูกพี่ของแก๊งหมีใหญ่ว่าพลางเดินเข้าไปต้อนรับชายคนนั้นด้วยท่าทีนอบน้อม แม้จะเลเวลน้อยแต่ท่าทางชายคนนั้นจะเป็นคนที่หัวหน้าเชิญมาจริง ๆ
“คน ๆนั้น…..”ทันทีที่ชายสวมผ้าปิดปากเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความตกใจทันที ใบหน้านั่นเหมือนเขาเคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย ถึงจะสวมอุปกรณ์เลเวลต่ำแต่ใบหน้านั่นไม่ผิดแน่
“นนท์….”เสียง ๆหนึ่งดังขึ้นมาจากคนในกลุ่มที่เข้าแถวอยู่ ชายผมดำผู้มีใบหน้านิ่งเฉยเย็นยะเยียบราวกับไม่สนใจสิ่งรอบตัวนั่นคือ นนท์ จอมเวทอันดับหนึ่งของประเทศไทยอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ใบหน้าหล่อเหลาที่ปล่อยกลิ่นอายชั่วร้ายออกมานั่นต้องเป็น นนท์ รองหัวหน้ากิลด์หัตถ์อสูรแน่ ๆ ในห้องของชายสวมผ้าปิดปากนั้นยังมีโปสเตอร์ของนนท์ติดอยู่เลย ไม่มีทางจำผิดแน่ ๆ มิน่าเล่าหัวหน้าถึงตื่นเต้นนัก ที่แท้ก็เชิญนนท์มาได้นี่เอง
“คุณนนท์เชิญทางนี้ครับ”หัวหน้าของแก๊งหมีใหญ่เดินเข้ามาต้อนรับนนท์ด้วยท่าทีนอบน้อม ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมคนระดับนนท์ถึงมาที่นี่ได้ แต่ผู้เล่นทุกคนที่ได้เห็นว่านนท์มาต่างก็ไม่มีใครกล้าดูถูกแม้อีกฝ่ายจะสวมใส่อุปกรณ์เลเวลต่ำเลย
.
.
.
“เชิญครับพี่กวี ทางนี้เลย ๆ”อีกด้านหนึ่งทางเหนือของเมืองการ์กัน ฝั่งกวีเองก็กำลังได้รับการต้อนรับจากแก๊งดาวแดงเช่นเดียวกัน แถมบรรยากาศการต้อนรับยังแทบไม่ต่างจากที่แก๊งหมีใหญ่ทำให้นนท์เลย
“ไม่ต้องตื่นเต้นหรอก ทำตัวตามสบายเถอะ”กวีว่าพลางนั่งลงช้า ๆ แต่ถึงจะพูดแบบนั้นหัวหน้าแก๊งดาวแดงก็ยังนั่งไม่ติดอยู่ดี
“ไม่ได้หรอกครับ พี่กวีให้เกียรติมาทั้งที เฮ้ยไปตามเด็ก ๆมา”หัวหน้าแก๊งดาวแดงว่าพลางสั่งให้ลูกน้องไปตามคนมาบริการกวีอย่างเร่งด่วน
“แล้วแผนที่บอก ตกลงตามนั้นหรือเปล่า”กวีถามพลางมองหัวหน้าแก๊งดาวแดงนิ่ง ก่อนหน้านี้คนของกวีทราบสถานการณ์ของเมืองการ์กันก่อนแล้ว และได้รายงานกวีไปตั้งแต่เข้ามาในเกมแล้วเสียด้วยซ้ำ ในจดหมายหลายร้อยฉบับที่ส่งมาให้กวีนั้นมีหลายฉบับที่เป็นรายงานสถานการณ์ปัจจุบันของเกม ทำให้กวีสามารถเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันได้ไม่เหมือนคนที่พึ่งกลับมาเล่นเกมหลังจากหายตัวไป 5 ปีเลย
“แน่นอนครับ ขอแค่พี่กวีสั่งมาคำเดียวผมจะทำตามทันที”หัวหน้าแก๊งดาวแดงตอบพลางยิ้มร่าด้วยท่าทียินดี
“แต่นั่นหมายความว่าแก๊งของนายจะโดนเล่นงานนะ”กวีถามย้ำอีกครั้ง ที่กวีเลือกมาเมืองการ์กันนั้นก็เพราะเมืองการ์กันมีสภาพเช่นนี้นั่นเอง ยามปกติการสร้างความเชื่อใจให้กับ NPC นั้นเป็นเรื่องลำบาก จะต้องผ่านเควสและพูดคุยกันเป็นเวลานาน เพราะงั้นชื่อเสียงจากการนำตัวผู้ร้านมีค่าหัวมาส่งให้จึงมีค่า แต่นั่นคงเทียบไม่ได้เลยกับการช่วยกอบกู้เมืองกลับมา
“แค่โดนเล่นงานครั้งเดียวเองครับ แถมตอนนี้เลเวลของพวกเราก็ยังต่ำ ลดไปหน่อยก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย….เมื่อเทียบกับการได้ช่วยเหลือพี่กวีแล้วมันเทียบกันไม่ได้เลยครับ”หัวหน้าแก๊งดาวแดงตอบพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีสบายใจ การขับไล่แก๊งต่าง ๆออกจากเมืองการ์กันนั้นก็ต้องทำสงครามกับแก๊งต่าง ๆเท่านั้น ไม่มีทางที่สงครามเหล่านั้นจะไม่สร้างความเสียหายหรอก แน่นอนว่าผู้เล่นของแก๊งดาวแดงเองก็ต้องโดนเล่นงานไปด้วยเพื่อความแนบเนียน คงจะต้องเสียเลเวลกันไปคนละ 7 – 8 เลเวลเลยมั้ง แถมยังต้องเสียฐานที่ตั้งไปอีกเพราะหลังจากจบสงครามพวกเขาก็ต้องถอยออกไปด้วย แต่…อย่างที่หัวหน้าแก๊งบอก ไม่ว่าจะเลเวลที่เก็บใหม่ได้ หรือ ฐานที่ตั้งที่หาเมื่อไรก็ได้สำหรับหัวหน้าแก๊งดาวแดงที่เมื่อก่อนแค่จะพบหน้ากวียังทำไม่ได้แล้วนั้น นับเป็นเรื่องเล็กน้อยมากกับการสร้างความดีความชอบให้กับกวี
“งั้นก็ดี หลังจากนี้มีเรื่องเดือดร้อนอะไรก็ติดต่อมาแล้วกัน”กวีพยักหน้าช้า ๆก่อนจะเปิดระบบสื่อสารออกมาเพื่อจะติดต่อไปทางพวกเมฆเพื่อบอกสถานการณ์ตอนนี้ เพราะหากปล่อยไว้เฉย ๆพวกมีนคงงงเป็นไก่ตาแตกแน่ ๆ
.
.
.
ติ๊ง….
ไม่ใช่แค่พวกเมฆเท่านั้นที่ได้รับข้อความเชิญชวน แม้แต่ทางเรย์เองก็ยังได้รับข้อความแจ้งเตือนเช่นเดียวกัน
“เริ่มแล้วงั้นเหรอ”เรย์พูดพลางอ่านจดหมายที่กวีส่งมาด้วยท่าทีไม่พอใจนัก นี่เขายังไม่ได้บอกเลยนะว่าจะกลับไปเข้าร่วมกับกวี ส่งจดหมายมาสั่งให้หาของอย่างกับตัวเองเป็นเจ้านายอยู่แบบนี้ได้ยังไง
“มีอะไรเหรอครับท่าน”ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังเรย์ถามด้วยท่าทีสงสัย เขาไม่สามารถมองเห็นจดหมายที่เรย์อ่านได้จนกว่าเรย์จะเปิดให้ดูเอง ทำให้ชายคนนั้นไม่ทราบด้วยซ้ำกว่าเรย์กำลังอ่านจดหมายของใครอยู่
“ไม่มีอะไรก็แค่ลูกค้าน่ารำคาญคนหนึ่ง”เรย์ตอบพลางทำหน้าบูดออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“ท่านเรย์ครับ คนของเราที่อยู่แผ่นดินทางเหนือบอกว่ารวบรวมหินเสริมพลังอาวุธและชุดเกราะมาได้อย่างละหกหมื่นชิ้นแล้ว ยังจะให้รวบรวมต่อหรือเปล่าครับ”ชายหนุ่มถามพลางมองเรย์ด้วยท่าทีสงสัย ไม่ทราบทำไมอยู่ ๆเรย์ก็สั่งให้คนของตนเองรวบรวมอาวุธและหินเสริมพลังอย่างบ้าคลั่งจนเงินทุนหายไปกว่าครึ่ง แม้เรย์จะเป็นเจ้าของกองทุนแต่การเสียเงินจำนวนมหาศาลขนาดนี้ไปไม่ว่าใครก็ต้องอยากจะถามทั้งนั้น
“ไม่พอ สั่งให้รวบรวมมาอีก”เรย์ตอบพลางส่ายหน้าช้า ๆ แม้เรย์จะสั่งด้วยท่าทีปกติ แต่คำสั่งของเขากลับทำให้ลูกน้องในห้องต่างมีท่าทีตกใจกันทั้งนั้น แค่ที่สั่งมาก็ล้นคลังแล้วนะทำไมยังจะสั่งมาอีกกัน…
“ครับ…..”แม้จะสงสัย แต่เหล่าผู้บริหารของกองทุนที่เรย์เป็นเจ้าของต่างบอกว่าให้อิสระกับเรย์เต็มที่ ทำให้เหล่าลูกน้องไม่กล้าขัดเรย์เลยแม้แต่คนเดียว สุดท้ายก็เลยต้องทำตามคำสั่งและส่งเรื่องให้คนของตนเริ่มหาหินเสริมพลังและอาวุธชุดเกราะเพิ่มตามที่สั่ง
“อ่อ สั่งให้คนจัดสินค้ามาตามนี้ด้วย ขอด่วนพิเศษนะ”เรย์ส่งข้อความที่คัดลอกเพียงส่วนสินค้าที่ต้องการจากจดหมายของกวีให้ลูกน้องของตน ก่อนจะกำชับให้เร่งมืออีกต่างหากทั้ง ๆที่พึ่งบ่นกวีไปแท้ ๆ
.
.
“เอาล่ะ แล้วจะแจ้งแผนมาอีกที คอยรอคำสั่งจากทางเราอีกทีแล้วกัน ส่วนตอนนี้ก็พยายามสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านเข้าไว้ล่ะ”หลังจากส่งจดหมายไปสั่งคนของตนแล้วกวีก็หันไปสั่งหัวหน้าแก๊งดาวแดงทันที แน่นอนว่าหัวหน้าแก๊งดาวแดงไม่คัดค้านแต่อย่างไรเพียงแต่….
“พี่กวี อย่าพึ่งรีบกลับเลยครับ”หัวหน้าแก๊งดาวแดงว่าพลางเดินเข้ามาห้ามไม่ให้กวีลุกขึ้น
“มีอะไรงั้นเหรอ”กวีถามพลางขมวดคิ้วด้วยท่าทีสงสัย
“ไหน ๆพี่กวีก็มาแล้ว อยู่พักผ่อนก่อนเถอะครับ ปกติแล้วแก๊งของเราจับตัวคนมาก็สั่งสอนนานอยู่แล้ว พี่กวีรีบออกไปจะผิดสังเกตเปล่า ๆนะครับ”หัวหน้าแก๊งดาวแดงว่าพลางสั่งให้ลูกน้องเปิดประตูออกส่งสองสาวเข้ามาในห้องตามที่ร้องสั่งไปเมื่อครู่ ทันทีที่สองสาวเข้ามาในห้องพวกเอก็รีบเข้าไปนั่งข้าง ๆกวีก่อนจะยิ้มหวานและเกาะแขนของกวีเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
“พี่กวีไม่ได้เล่นเกมเสมือนจริงเลยอาจจะยังไม่รู้ แต่ในเกมเนี่ยมีข้อดีอยู่นะครับ”หัวหน้าแก๊งดาวแดงยิ้มกว้างก่อนจะหัวเราะออกมาเบา ๆ หลังจากเห็นสาว ๆเริ่มเอาตัวเข้าไปแนบชิดกวีมากขึ้น หากพวกสาว ๆไม่ยินยอมกวีแค่จะแตะตัวพวกเธอยังไม่ได้ด้วยซ้ำเพราะมีระบบปกป้องสิทธิ์ของแต่ละเพศอยู่ แต่ในทางตรงกันข้าม ขอเพียงพวกเธอยินยอมและปลดระบบห้ามออก ไม่ว่าจะแตะต้องตรงไหนความสมจริงของเกมก็ทำให้เหล่าผู้เล่นพึงพอใจกันถ้วนหน้า
……………………………………………………………………………………..
*ตอนต่อไปเป็นตอน NC นะครับ โดยเนื้อหาในตอน NC นั้นจะไม่มีผลกับเนื้อหาหลักของเรื่องแต่อย่างไร สำหรับท่านที่ไม่ชอบตอน NC สามารถข้ามไปอ่านตอนต่อไปได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อเนื้อเรื่องครับ