Guild Master จอมราชันโลกออนไลน์ - ตอนที่ 54
ตอนที่ 54
ออกหน้า
ผลัก!!
ร่างของกวีถูกผลักออกมาจากประตูอาคารที่แก๊งดาวแดงใช้เป็นรังท่ามกลางสายตาของ NPC ที่เป็นชาวเมืองและเหล่าผู้เล่นที่เป็นคนของแก๊งดาวแดงและของแก๊งเล็ก ๆในเขตทางเหนือของเมืองการ์กัน เพียงแต่…สภาพของกวีที่โดนโยนออกมานั้นไม่ได้ทำให้ใครในที่นี้สนใจเลยแม้แต่คนเดียวเพราะภาพคนโดนโยนออกมาจากอาคารของแก๊งดาวแดงนั้นเป็นภาพที่หาได้ไม่ยากเลย
“พี่กวี…..”ทันทีที่กวีโดนผลักออกมา มีนที่มารอกวีอยู่ที่หน้าอาคารอยู่ก่อนแล้วก็รีบเข้าไปพยุงตัวทันที โดยด้านหลังของมีนนั้นมีร่างของเมฆ ไอช่า เจ และมายด์ยืนอยู่ด้วยท่าทีเป็นห่วงเช่นเดียวกันแม้เมฆกับไอช่าจะไม่ค่อยแสดงท่าทีอะไรออกมาก็ตาม
“ขอโทษนะที่ทำให้ทุกคนเสียเวลา แล้วเจ้าหัวหน้ากลุ่มโจรล่ะ”กวีถามพลางมองไปบนหลังของเจ ตอนนี้หัวหน้ากลุ่มโจรไม่อยู่กับเจเสียแล้ว
“เอ่อ….พวกทหารรับฝากขังเอาไว้ก่อนแล้วครับ เขาบอกว่าพอพี่กลับมาแล้วค่อยไปรายงานอีกที”เจตอบพลางมองสภาพของกวีด้วยท่าทีเป็นห่วง แต่หากมองดี ๆแล้วร่างกายของกวีก็ไม่ได้มีบาดแผลอะไร แถมพลังชีวิตก็ยังเต็มอีกต่างหาก
“พี่กวี…..อย่าพึ่งห่วงเรื่องโจรเลยค่ะ พวกเรารีบออกไปจากที่นี่ก่อนเถอะ”มีนว่าพลางดึงแขนของกวีเอาไว้ สำหรับมีนที่ไม่รู้ว่าแผนของกวีคืออะไรแล้ว การที่กวีโดนแก๊งที่คุมครึ่งเมืองเอาไว้จับตัวไปมันน่ากลัวมากสำหรับเธอ หากยังอยู่ที่นี่อีกเธอห่วงว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับกวีอีกก็ได้
“ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรแล้ว”กวียิ้มรับด้วยท่าทีดีใจ ไม่นึกว่ามีนคนนั้นจะเป็นห่วงตนเองขนาดนี้ ถึงขนาดพูดเยอะกว่าปกติเสียด้วยซ้ำ ทำให้กวีเผลอเอามือไปลูบหัวของมีนเหมือนที่ทำกับไอช่าก่อนจะเดินไปหาพวกเจเพื่อจะเข้าไปรับรางวัลนำจับกันเสียที
จึก…
ระหว่างเดินไปที่ค่ายทหาร อยู่ ๆไอช่าก็เอาไม้คทาของตัวเองจิ้มไปที่เอวของกวีเหมือนไม่พอใจอะไรบางอย่าง
“มีอะไรเหรอไอช่า”กวีถามพลางมองไปทางไอช่าด้วยท่าทีสงสัย เธอเอาคทาจิ้ม ๆเหมือนเด็กกำลังงอนเลย
“กลิ่นน้ำหอมมันติดตัวพี่นะ คนนิสัยเสีย”ไอช่าทำหน้าบึ้งก่อนจะเดินไปหาเมฆแทนเสียอย่างนั้นทำเอากวีได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ไม่นึกเลยว่าจะมีกลิ่นน้ำหอมติดตัวมาด้วย เกมนี้มันทำสมจริงเกินไปแล้ว แบบนี้ก็แก้ตัวอะไรกับไอช่าไม่ได้นะสิ แต่แค่กลิ่นน้ำหอมติดตัวมาก็รู้สึกแล้วพวกผู้หญิงนี่น่ากลัวจริง ๆ
.
.
“เจ้าสินะที่จับโจรมาได้”ทันทีที่พวกกวีไปถึงค่ายทหาร คนที่รอพวกกวีอยู่กลับไม่ใช่ทหารเฝ้าประตูก่อนหน้านี้ แต่เป็นนายทหารที่แต่งตัวดูดีกว่าคนก่อนมาก ท่าทางจะเป็นหัวหน้าของทหารเมืองการ์กันสินะ
“ครับ”กวีตอบด้วยใบหน้าหมอง ๆจนผิดสังเกต ทำให้นายทหารตรงหน้ารู้สึกได้อย่างชัดเจนเลย
“ได้ข่าวว่าเจ้าโดนพวกแก๊งดาวแดงจับตัวไปหลังจากช่วยพ่อค้าขายยา ขอโทษทีนะเมืองนี้มันเละเทะไปหมดแล้ว”นายทหารคนนั้นพูดด้วยท่าทีเหนื่อยใจ นาน ๆจะมีผู้เล่นที่เป็นห่วง NPC โผล่มาสักที แต่เขาคนนั้นกลับโดนพวกแก๊งดาวแดงเล่นงานเสียได้ พอรับเงินเสร็จเขาก็คงไม่กลับมาแล้วแน่ ๆ
“ครับ….”กวีตอบด้วยท่าทีหดหู่ สภาพคนโดนซ้อมก่อนจะโดนถีบออกมานั้นก็คงต้องประมาณนี้ล่ะ
“นี่เป็นรางวัลของเจ้า ขอบคุณที่ช่วยเหลือเมืองของเรา”นายทหารตอบก่อนยื่นถุงเงินมาให้กวีตามข้อตกลงในใบประกาศจับ
ติ๊ง….
[ ผู้เล่นกวีได้รับค่าชื่อเสียงเฉพาะของเมืองการ์กัน 2 หน่วย ]
2 หน่วย!! ทันทีที่กวีได้ยินเสียงจากระบบก็ยิ้มแทบไม่ออก ชื่อเสียงที่ได้จากการค้นพบเทวรูปองค์ที่ 5 กับการสังหารนางพญาผึ้งนั่นอย่างละ 100 เลยนะ ตอนแรกกวีคิดว่ามันไม่เยอะเท่าไรเสียอีก แต่หากทำคุณงามความดีให้เมืองยังได้แค่ 2 แล้วชื่อเสียง 200 หน่วยที่แยกออกมาของกวีนี่มันเยอะแค่ไหนกัน แต่ชื่อเสียง 2 หน่วยของเมืองการ์กันนี่จะทำอะไรได้หรือเปล่า
“แบบนี้ดีแล้วเหรอครับ”เมื่อได้รับรางวัลมาแล้วกวีก็เริ่มดำเนินการณ์ตามแผนทันที ตอนนี้ชาวเมืองกำลังเสียความไว้ใจกับผู้เล่นคนอื่น ๆไป อย่างน้อยกวีก็เป็นผู้เล่นที่ช่วยเหลือ NPC เอาไว้แถมยังมีค่าชื่อเสียงของเมืองอีกต่างหาก แม้จะน้อยนิดแต่เมื่อเทียบกับพวกแก๊งต่าง ๆในเมืองแล้วคนอย่างกวีย่อมน่าเชื่อถือกว่าแน่นอน
“หมายความว่ายังไง”นายทหารถามด้วยท่าทีประหลาดใจ อยู่ ๆกวีก็ถามคำถามออกมาแล้วจะให้เขาทำอะไรกัน
“เมืองของคุณมันไม่ควรเป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอครับ พวกคุณแทบจะไม่ออกจากบ้านกันด้วยซ้ำ แบบนี้มันดีแน่แล้วเหรอ”กวีถามพลางจ้องมองนายทหารตรงหน้าด้วยท่าทีจริงจัง
“อึก…..แล้วจะให้ข้าทำยังไง กำลังทหารในตอนนี้สู้พวกนักผจญภัยไม่ได้ แถมจะส่งคนไปแจ้งเมืองหลวงก็โดนฆ่าหมด แล้วจะให้ข้าทำยังไง”ทันทีที่ได้ยินคำถามของกวี นายทหารก็กำหมัดแน่นด้วยท่าทีเจ็บใจ แถมยังทุบมันลงบนโต๊ะจนทหารรอบ ๆหันมามองอีกต่างหาก เพราะบอสมอนสเตอร์ที่บุกเข้ามาอย่างกะทันหันทำให้เมืองการ์กันอ่อนแอลง ตอนนี้ก็เลยคุมเมืองจากผู้เล่นไม่ได้ แต่ที่หนักกว่านั้นก็คือการแจ้งขอความช่วยเหลือไม่สามารถทำได้เลย เพราะ NPC ไม่สามารถออกนอกเมืองได้แม้แต่ก้าวเดียว ทันทีที่พวกเขาออกพ้นประตูเมืองไปไม่ว่าจะเป็นใครพวกผู้เล่นก็ดักโจมตีจนต้องกลับมาหรือตายไปทั้ง ๆแบบนั้นเหมือนกันหมด เมืองการ์กันตอนนี้กำลังนับเวลาถอยหลังก่อนจะกลายเป็นเมืองเถื่อนที่มีแต่ผู้เล่นชั้นสวะเข้ามาอาศัยกันจริง ๆแล้ว
“ผมจะช่วย…”กวีตอบด้วยท่าทีหนักแน่นและจริงจัง สายตาเช่นนั้นทำให้เหล่าทหารไม่อาจมองข้ามการตัดสินใจของกวีได้
“เจ้านะเหรอจะช่วย…..”นายทหารยิ้มเยาะออกมาด้วยท่าทีไม่อยากจะเชื่อ อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ แต่ตัวกวีก็พึ่งโดนแก๊งดาวแดงจับตัวไปไม่ใช่หรือไง แล้วจะให้ไว้ใจกวีให้จัดการแก๊งต่าง ๆในเมืองได้ไง
“ไม่ใช่แค่ผมหรอก ยังมีเพื่อน ๆของผมแล้วก็สมาชิกกิลด์ด้วย”กวีตอบด้วยท่าทีมั่นใจ ตอนเลเวล 50 กวีจะสามารถสร้างกิลด์ได้ เลเวลแค่นั้นใช้เวลาไม่กี่วันหรอกหากตั้งใจจริง ๆ และจำนวนสมาชิกกิลด์ 50 คนก็หาได้ไม่ยากสำหรับกวี เพราะคนที่รอจะกลับเข้ากิลด์ของกวีนั้นยังมีอีกมาก แถมแก๊งดาวแดงยังให้ความร่วมมืออีกต่างหาก ขอเพียงกำจัดแก๊งหมีใหญ่ที่ครอบครองพื้นที่ทางทิศใต้เอาไว้ก็เป็นอันเรียบร้อยแล้ว
“เจ้ายังเลเวลน้อยอยู่เลยไม่ใช่หรือไง อย่าว่าขาดูถูกเลยนะ ส่งเจ้าไปสู้ให้ข้าไปเองยังมีโอกาสมากกว่าอีก”นายทหารตอบด้วยท่าทีไม่เห็นด้วย เพราะข้อมูลการส่งเควสก่อนหน้านี้ทำให้นายทหารทราบว่ากวีมีเลเวลเท่าไร ซึ่งมันน้อยกว่าทหารในห้องนี้เสียอีก
“งั้นผมจะทำลายแก๊งดาวแดงในหนึ่งอาทิตย์ และในอีกหนึ่งเดือนผมจะขับไล่แก๊งพวกนั้นออกไปจากเมืองนี้ให้หมด ผมจะทำให้เมืองของคุณกลับมาสงบอีกครั้ง”กวีเห็นอีกฝ่ายไม่เชื่อก็เลยประกาศสิ่งที่ตนจะทำออกไป ขอเพียงทุกอย่างเป็นไปตามแผนกวีย่อมสามารถทำได้ แต่การขับไล่แก๊งออกไปจากเมืองเฉย ๆนั้นไม่ทำให้กวีได้รับประโยชน์อะไร กวีจะต้องเป็นผู้ขับไล่ในสายตาของเหล่าทหารและประชาชนของเมือง และเมื่อนั้นความเชื่อใจของกวีต่อชาวเมืองก็จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
“…………”แน่นอนว่านายทหารไม่อยากจะเชื่อหรอกว่ากวีจะทำได้ แต่อีกฝ่ายยืนยันหนักแน่นขนาดนี้บางที…. แต่ทำไมกวีต้องทำถึงขนาดนี้ล่ะ หรือว่าจะเป็นความแค้นที่มีต่อแก๊งดาวแดง?
“ให้โอกาสผมได้ช่วยพวกคุณเถอะครับ”กวีว่าพลางจ้องมองดวงตาของนายทหารอย่างจริงจัง สิ่งที่กวีต้องการตอนนี้คือคำอนุญาตของทหารเท่านั้น ขอเพียงได้รับคำยินยอมกวีก็จะช่วยเหลือเหล่าชาวเมืองภายใต้ชื่อของทหารประจำเมือง ไม่ใช่ผู้เล่นจากที่ไหนก็ไม่ทราบ
ติ๊ง…..
หลังจากทำท่าตัดสินใจอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดหน้าต่างเควสก็เด้งขึ้นมาตรงหน้ากวีเสียที เป้าหมายคือช่วยเหลือเมืองการ์กันเอาไว้ และของรางวัลก็คือเงินและไอเทมจำนวนหนึ่งและค่าชื่อเสียงประจำเมืองการ์กัน 50 หน่วย….. ว่าแต่ชื่อเสียงที่ได้นี่มันน้อยเกินไปหรือเปล่านะ?
“ก็ได้ ข้าจะยอมเชื่อใจเจ้าดู”นายทหารตอบรับก่อนจะยื่นมือมาให้กวีจับเพื่อทำการตกลงกัน แน่นอนกว่ากวีย่อมตกลงอย่างไม่รีรอเลย
“หัวหน้า แย่แล้วครับ”มือของกวียังไม่ทันได้ปล่อยออกจากมือนายทหาร อยู่ ๆทหารคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาด้วยท่าทีแตกตื่นเสียอย่างนั้น
“มีอะไร”นายทหารถามพลางมองลูกน้องของตนด้วยท่าทีประหลาดใจ
“แก๊งดาวแดง…..แก๊งดาวแดงโดนโจมตีครับ”ทันทีที่ได้ยินคำรายงาน กวีกับนายทหารก็หันไปมองหน้ากันทันที คนหนึ่งกำลังสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ส่วนอีกคนกลับคิดว่ากวีลงมือเร็วจริง ๆ พอตกลงกันแล้วก็เริ่มโจมตีเลยงั้นเหรอ?
“นี่มัน….อะไรกัน”กวีขมวดคิ้วก่อนจะมองไปทางที่อาคารของแก๊งดาวแดงตั้งอยู่ กวียังไม่ได้เรียกตัวใครมาเลย แล้วทำไมถึงเกิดการโจมตีได้ล่ะ หรือว่าเป็นแก๊งอื่นในเมือง?
ตูม!!
“ไอ้พวกหมีใหญ่….”หัวหน้าแก๊งดาวแดงมองออกไปนอกอาคารด้วยท่าทีไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด พวกแก๊งหมีใหญ่ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับแก๊งดาวแดงมาตลอดกลับมาเริ่มโจมตีพวกแก๊งดาวแดงของเขาเอาตอนนี้เสียได้ ทั้ง ๆที่อีกไม่นานแผนของกวีก็จะเริ่มแล้วแท้ ๆ
“ดีมาก ฆ่าพวกมันให้หมด”อีกฝั่งทางด้านหัวหน้าของแก๊งหมีใหญ่ที่กำลังสั่งการเหล่าลูกน้องอย่างดุดันบนหลังคาบ้านกลับมีท่าทีกดดันไม่ต่างกัน ความจริงพวกเขาไม่ได้จะโจมตีแก๊งดาวแดงตอนนี้หรอก สภาพความสัมพันธ์ของทั้งสองแก๊งแม้จะไม่ถูกกันแต่ก็ไม่ยุ่งเกี่ยวกันมาพักใหญ่แล้ว แต่ละฝ่ายต่างไม่ก้าวก่ายกันก็เป็นเรื่องดี แต่ที่ทำแบบนี้ก็เพราะ…
“ท่านครับ ไม่ทราบแบบนี้พอใจหรือเปล่าครับ”หัวหน้าแก๊งหมีใหญ่ถามพลางหันไปทางนนท์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เป้าหมายของหัวหน้าแก๊งหมีใหญ่ก็คือการได้เข้าร่วมกับกิลด์หัตถ์อสูรที่นนท์เป็นรองหัวหน้ากิลด์อยู่ และสิ่งที่นนท์ตั้งเงื่อนไขเพื่อจะรับแก๊งหมีใหญ่เข้ากิลด์ก็คือการโจมตีแก๊งดาวแดงที่ยึดอีกครึ่งเมืองเอาไว้ให้ได้ เพราะแบบนั้นเรื่องเลยวุ่นวายอย่างที่เห็น