Guild Master จอมราชันโลกออนไลน์ - ตอนที่ 58
ตอนที่ 58
เป็ด
“วากกกก”บนชั้น 2 ของดันเจี้ยนถ้ำผีดิบนั้นมอนสเตอร์จะเก่งกว่าชั้นแรกมากทำให้ไม่ค่อยเจอผู้เล่นเท่าไรแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเห็นผู้เล่นวิ่งหนีมอนสเตอร์ที่มากันมากกว่า 1 ตัวได้อย่างไม่ยากเย็นเท่าไร
“ถึงจะเป็นแค่ชั้นที่สองก็ระวังตัวเอาไว้นะ”กวีเตือนทุกคนในปาร์ตี้ขณะเดินผ่านทางลงชั้นสองมาได้สักพัก บรรยากาศที่มีผู้คนเดินไปเดินมาก่อนหน้านี้แทบจะหายไปแล้ว ตอนนี้ทุกปาร์ตี้ต่างต้องระวังตัวและเล็งหามอนสเตอร์เพียงตัวเดียวเพื่อรุมจัดการกันแล้ว
เปรี้ยง!!
ดาบในมือของผีดิบตนหนึ่งตรงเข้ามาหาเจที่ยืนอยู่ด้านหน้าอย่างจัง ผีดิบบนชั้น 2 มีเลเวล 45 ห่างจากชั้นแรกนิดหน่อย แต่พวกมันมีอาวุธถือในมือแตกต่างกันไปทำให้พลังโจมตีเหนือกว่าชั้นแรกแบบก้าวกระโดด หากประมาทละก็มีหวังโดนเล่นงานแน่ ๆ
“เจ้าพวกนี้มันเอาแรงมาจากไหนเนี่ย”เจกระแทกโล่กลับไปอย่างยากลำบากก่อนจะใช้ดาบของตัวเองฟันใส่ร่างของผีดิบตรงหน้าอีกรอบ เทียบกับพวกผู้เล่นที่สู้มาก่อนหน้านี้หรือพวกโจรในหมู่บ้านฟรอยแล้วผีดิบพวกนี้ยังเคลื่อนไหวช้ามากทำให้เจรับมือได้สบายกว่าหลายเท่าเลยทีเดียว
“เห็นเขาบอกว่าพวกซอมบี้ไม่รู้สึกเจ็บปวดก็เลยใช้พลังกายได้เต็มที่นะคะ”ไอช่าตอบพลางเอาไม้คทาตีซอมบี้ตรงหน้าเต็มแรง แม้เธอจะสร้างความเสียหายได้ไม่มากก็เถอะ
“ทำไมมันเหมือนมาจากการ์ตูนเลยล่ะ”เจกะพริบตาปริบ ๆเพราะเหมือนตนเองก็ได้ยินอะไรแบบนั้นมาจากหนังหรือการ์ตูนสักเรื่องนี่ล่ะ
“ก็นี่มันเกมนี่นา ก็ต้องอิงจากเรื่องพวกนั้นอยู่แล้ว”ไอช่าบ่นพลางทำแก้มป่องออกมาน้อย ๆเล่นเอาเจไม่ทราบว่าไปทำคุณน้องงอนตอนไหนเลยได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆออกมาอย่างช่วยไม่ได้
ตูม!!
ดาบของเมฆฟันลงมาบนหัวของผีดิบจนตายคาที่ สำหรับปาร์ตี้ของกวีในตอนนี้แล้วมอนสเตอร์เลเวล 45 ไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย เพียงแต่ตอนนี้มี 2 คนที่ยังสู้ได้ไม่เต็มที่นั่นคือมายด์กับมีนนั่นเอง
.
.
“เอ๊ะ ที่นี่ชั้นสามงั้นเหรอ”หลังจากผ่านพวกผีดิบติดอาวุธลงมายังชั้นที่ 3 เจที่เดินนำหน้ามาเป็นคนแรกก็พบว่าที่ชั้น 3 นั้นมีผู้เล่นจำนวนหนึ่งนั่งพักอยู่ เพียงแต่สภาพผู้เล่นจำนวนมากจากชั้น 1 หรือแม้แต่ชั้น 2 นั้นแทบจะลืมไปได้เลยเพราะตอนนี้มีผู้เล่นอยู่แค่ 5 คนเท่านั้น
“มีคนมาสักที”ชายคนหนึ่งในกลุ่มที่นั่งรออยู่เดินเข้ามาหาพวกกวีพร้อมคทาเวทที่ยาวกว่าตัวของเขาเองเสียอีก เรียกได้ว่าแทบไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นจอมเวทแน่ ๆ
“มีอะไรกันเหรอครับ”กวีเดินออกมาจากกลุ่มก่อนจะเข้าไปหาชายคนนั้นก่อนเป็นคนแรก ชั้น 3 นี้มอนสเตอร์เก่งกว่าชั้น 2 มากเพราะนอกจากเลเวลจะพุ่งขึ้นไปถึง 57 แล้วพวกมันยังมีเกราะสวมอยู่ด้วยทำให้จุดอ่อนของผีดิบอย่างการมีร่างกายเปราะบางนั้นหายไปด้วย และการที่กลุ่มคนตรงหน้ามาลงดันเจี้ยนกันแค่ 5 คนนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างแปลกทีเดียว
“แทงค์ของพวกเราโดนฆ่าไป พวกเราก็เลยอยากจะขอร่วมเรดกับพวกนายด้วย”จอมเวทหนุ่มตรงหน้าตอบพลางหันไปมองคนในปาร์ตี้ของตนเอง ในกลุ่มของชายคนนั้นมีจอมเวท 2 คน นักดาบที่ใช้ดาบใหญ่ 1 คน มือธนู 1 คน และนักบวช 1 คน ไม่มีแทงค์อย่างที่บอกจริง ๆ
“แล้วแทงค์ที่ตายไปล่ะ ไม่รอเขาเหรอ”กวีถามพลางเลิกคิ้วสงสัย ปกติถ้ามากับเพื่อนคนส่วนใหญ่มักเลือกจะไปหาอย่างอื่นทำเพื่อรอเพื่อนคืนชีพก่อนค่อยไปพร้อมกันสิถึงจะถูก
“เจ้านั่นเป็นคนที่รับเข้ามาใหม่ เพราะไม่ยอมฟังคนอื่นเลยวิ่งเข้าไปตายคนเดียว พอตายแล้วก็ออกจากปาร์ตี้ไปเลยคงไม่มาแล้วล่ะ”จอมเวทหนุ่มตอบพลางส่ายหน้าด้วยท่าทีเหนื่อยใจ มิน่าล่ะปาร์ตี้เฉพาะกิจนี่เอง
“ได้….งั้นผมจะส่งคำเชิญไป”กวีตอบพลางส่งคำเชิญร่วมเรดให้กับชายตรงหน้า อย่างที่บอกมอนสเตอร์ของชั้น 3 นั้นยากกว่าชั้น 2 มาก การมีคนมาเพิ่มก็ย่อมดีกว่าอยู่แล้ว
“ขอบใจมาก ไม่ต้องห่วงพวกเราเลเวลสี่สิบกันหมดแล้วไม่เป็นตัวถ่วงหรอก”พอได้รับคำเชิญเข้าร่วมเรด จอมเวทหนุ่มก็พูดออกมาด้วยท่าทียืด ๆเสียอย่างนั้น
“ฝากตัวด้วยนะคะ”จอมเวทหญิงของปาร์ตี้ตรงข้ามเดินเข้ามาหาพวกกวีก่อนจะก้มหัวน้อย ๆเป็นการทักทายเช่นเดียวกับคนอื่น ๆในปาร์ตี้ที่เข้ามาแนะนำตัวทีละคน
ปาร์ตี้ที่เพิ่งเข้ามานั้นดูเหมือนจะเป็นปาร์ตี้ที่เพิ่งรับคนมาจากทางเข้าถ้ำผีดิบโดยมี เบส จอมเวทที่เข้ามาคุยกับกวีก่อนหน้านี้เป็นหัวหน้าปาร์ตี้ ส่วนจอมเวทหญิงอีกคนนั้นชื่อ ฟ่าง มือธนูชายชื่อฟลุค นักดาบหญิงชื่อเก๋ และนักบวชชายชื่อหลิว
“พวกนายเพิ่งเลเวลยี่สิบกว่า ๆเองงั้นเหรอ แบบนี้ไม่ไหวมั้ง”อยู่ ๆนักดาบหญิงที่ชื่อเก๋ก็พูดออกมาด้วยท่าทีสงสัย เธอเป็นผู้หญิงแต่ถือดาบใหญ่แถมร่างกายยังสูงเกือบเท่าพวกกวีอีกต่างหาก ดูแล้วเป็นผู้หญิงตรงไปตรงมาดีไม่น้อยเลย
“ไม่ต้องห่วงหรอก ถึงเลเวลพวกเราจะน้อยแต่พวกเรามีแทงค์ฝีมือเยี่ยมอยู่ตรงนี้ทั้งคนนะ”กวีว่าพลางตบบ่าเจเบา ๆเหมือนกำลังอวดสมบัติมีค่าอยู่เสียอย่างนั้น
“แน่นะ แทงค์ก่อนหน้านี้เลเวลสี่สิบสี่ก็ยังตายง่าย ๆเลย”เก๋ว่าพลางเดินเข้ามาจ้องหน้าเจด้วยท่าทีไม่ไว้วางใจ
“เชื่อสิ ถ้าเลเวลเท่ากันน้องชายคนนี้สามารถเป็นแทงค์อันดับไม่เกินร้อยของไทยได้เลยนะ”กวีตอบพลางยิ้มอย่างมั่นใจเล่นเอาเจแทบจะเอาหน้าไปซ่อนที่อื่น เขาเนี่ยนะฝีมือดีขนาดนั้น แบบนี้มันโม้ชัด ๆ
“เอาน่าเจ้เก๋ ตอนนี้เรามีนักบวชสองคนนี่นา แบบนี้น่าจะรักษาได้ทันนะ”หลิวนักบวชของปาร์ตี้ของเบสเดินเข้ามาห้ามทัพก่อนจะพูดหว่านล้อมให้เก๋ลองเชื่อใจพวกกวีดูก่อน
“ได้ งั้นก็แสดงฝีมือออกมาเลยก็แล้วกัน”เก๋ถอนหายใจออกมาก่อนจะชี้ไปที่ทหารผีดิบตนหนึ่งที่กำลังเดินอยู่ด้านในถ้ำ เจ้าพวกนี้ระยะสัมผัสไม่ไกลมาก ต่อให้เห็นพวกกวีอยู่ตรงทางลงก็ยังไม่วิ่งเข้ามาเลย
“ได้เลย”กวีออกหน้าแทนก่อนจะร่ายเวทไฟยิงใส่ผีดิบตนนั้นอย่างรวดเร็ว ในเมื่อไม่เชื่อฝีมือของเจงั้นก็ต้องพิสูจน์เท่านั้น
“เดี๋ยว ๆ พี่กวี…..”เจสะดุ้งวาบเมื่อเห็นกวีโจมตีใส่ผีดิบเข้าให้แล้ว เขายังไม่ทันได้เตรียมใจเลยเพราะผีดิบพวกนี้เลเวลสูงกว่าเดิมมาก เผลอ ๆตัวเขาอาจจะต้านไม่ไหวก็ได้
เปรี้ยง!!!
ดาบของทหารผีดิบกระแทกเข้าใส่โล่ของเจอย่างจังเล่นเอาเจรู้สึกว่าแขนของเขาสั่นไปหมด พลังโจมตีของทหารผีดิบนั้นแรงกว่าผีดิบที่ชั้น 2 มากจริง ๆถึงจะใช้โล่รับแต่ก็ยังเสียพลังชีวิตไปเป็นข้ออยู่ดี
“ทุกคนโจมตี”เบสตะโกนสั่งก่อนจะร่ายเวทใส่ทหารผีดิบพร้อม ๆกับฟ่างที่เป็นจอมเวทเหมือนกัน แน่นอนว่ามือธนูอย่างฟลุคย่อมเป็นคนแรกที่โจมตีไปถึงส่วนเมฆ เก๋ มีน และ มายด์ต่างก็วิ่งเข้าไปโจมตีจากระยะประชิดกันทันที เพียงแต่มีนยังมีท่าทีลังเลไม่ยอมเข้าไปโจมตี ส่วนมายด์ก็เหมือนเดิม เรียกได้ว่าเป็นความช้าของเธอเองอยู่แล้ว ทำให้เก๋ที่มีเลเวลสูงกว่าและดูท่าทางจะเคยชินกับการต่อสู้มากกว่าสามารถโจมตีได้ดีกว่ามีนเสียอีก
เปรี้ยง!!! เปรี้ยง!!
เวทมนตร์ของกวีโจมตีอย่างต่อเนื่องเช่นที่เคยทำมา ตอนนี้กวีไม่ใช่แค่ต้องเก็บเลเวลตัวละคร แต่ยังต้องเก็บความชำนาญของสกิลเวทมนตร์ด้วย ทำให้กวีต้องใช้เวทมนตร์แต่ละสายอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เวทมนตร์ทุกสายอัพขั้นขึ้นไปให้ได้
“…………”ทางฝั่งเจนั้นแม้จะโดนโจมตีแรงมาก แต่เพราะพลังชีวิตของเจมีมหาศาลเกินไปทำให้เจยังยืนอยู่ได้ แถมตอนนี้ยังมีนักบวช 2 คนอย่างไอช่ากับหลิวคอยสลับกันรักษาทำให้เจแทบไม่ต้องกลัวตายเลยก็ว่าได้
ตุบ…..
เพราะใช้ 2 ปาร์ตี้รุมโจมตีทำให้ทหารผีดิบที่รับมือยากสุด ๆตายลงในไม่ช้า แถมค่าประสบการณ์ที่ได้รับยังน่าพึงพอใจอีกด้วย
“…………….”เพียงแต่ พอทหารผีดิบล้มลงไป เก๋ ก็หันไปมองเจด้วยท่าทีแปลก ๆเสียอย่างนั้น
“ขอถอนคำพูด…นายเก่งดี”เก๋พูดออกมาด้วยท่าทีเขิน ๆอย่างบอกไม่ถูก เมื่อครู่เธอเพิ่งดูหมิ่นเจไปหมาด ๆ แต่พอเริ่มสู้แล้วเจกลับทำได้ดีกว่าที่เธอคิดมาก นอกจากมอนสเตอร์จะนิ่งแล้วเจยังยืนได้สบายไม่ทำให้นักบวชลำบากอีกต่างหาก เมื่อเทียบกับแทงค์คนก่อนที่โดนโจมตีทีหนึ่งก็ต้องรีบดื่มยาฟื้นฟูทันทีแล้วเจดูจะเก่งกว่ามาก ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเธอตัดสินเจจากเลเวลทำให้มองเจผิดไปนั่นเอง
“มะ ไม่เป็นไรครับ”เจยิ้มเจื่อน ๆออกมาด้วยท่าทีเกรงใจ ที่เขายืนได้แบบนี้ไม่ใช่แค่ทักษะส่วนตัวของเจหรอก แต่เป็นเพราะพลังชีวิตที่ได้จากพรของคราวรวมถึงไอเทมที่เมฆหามาให้ด้วย หากไม่มีสองอย่างนี้กลัวว่าเจเองก็คงยืนไม่ไหวหรอก
“แต่คุณกวีนี่ยอดไปเลยนะคะ ร่ายเวทได้เร็วแถมยังมีหลายเวทมนตร์อีกต่างหาก”อยู่ ๆฟ่างนักเวทหญิงของปาร์ตี้เบสก็เอ่ยปากชมกวีออกมา สำหรับนักเวทด้วยกันที่รู้ความยากในการร่ายเวทนั้นย่อมรู้สึกชื่นชมกวีเป็นธรรมดา เขาร่ายเวทได้ไวและร่ายได้ทีเดียวพร้อม ๆกันหลายบททำให้พลังโจมตีโดยรวมสูงกว่าเบสที่เลเวลมากกว่าเสียอีก
“ก็ไม่เท่าไรหรอก เรียนเวทมนตร์หลาย ๆอย่างแบบนั้นมันจะเป็นเป็ดซะเปล่า ๆ ถือว่าผมแนะนำนะตอนนี้คุณยังสร้างตัวละครใหม่ทัน แล้วเรียนเวทมนตร์แค่สองธาตุก็พอ”ฟ่างกำลังจะพูดต่อ อยู่ ๆเบสก็เอ่ยปากขัดขึ้นมาเสียอย่างนั้น ซึ่งสิ่งที่เบสพูดมาก็ไม่ผิดนักหรอก นักเวทของเกมนี้ส่วนใหญ่เน้นเล่น 2 – 3 ธาตุเท่านั้น เพราะอาชีพระดับสูงของจอมเวทนั้นจะมีสายอาชีพแบ่งออกไปตามธาตุด้วย ทำให้นักเวทคนนั้นเก่งธาตุนั้น ๆเป็นพิเศษ และยังได้สกิลโจมตีพิเศษของธาตุนั้น ๆด้วย
“เป็ด?”ฟลุคมือธนูของปาร์ตี้เบสเลิกคิ้วด้วยท่าทีสงสัย ท่าทางเขาจะไม่ทราบว่าเป็ดในที่นี้หมายถึงอะไร
“ก็พวกทำอะไรก็ได้ แต่ทำได้ไม่สุดสักอย่างไง พวกที่เรียนเวทมนตร์หลาย ๆสายก็เป็นแบบนั้นล่ะ”เบสว่าพลางยักไหล่พร้อมกับส่ายหน้า เหมือนจะบอกว่าคนพวกนั้นไม่ไหวเอาเสียเลย แต่การทำแบบนี้ต่อหน้ากวีที่เรียนเวทมนตร์ทุกสายที่มีให้รวมถึงยังมีเวทมนตร์สายฟ้าเพิ่มมาอีกนั้นออกจะเสียมารยาทไปหรือเปล่า……