Guild Master จอมราชันโลกออนไลน์ - ตอนที่ 62
ตอนที่ 62
โล่ดี
“ได้โอกาสแล้ว..”กวียิ้มออกมาทันทีเมื่อเห็นว่าโล่ของแม่ทัพผีดิบหลุดมือไปแล้ว แน่นอนว่าจังหวะแบบนี้ทุกคนย่อมเข้าไปโจมตีพร้อมกันโดยแทบไม่ต้องสั่ง แม้แต่พวกเบสกับฟ่างที่เพิ่งร่ายเวทระดับ 4 ไปเมื่อครู่ยังรีบร่ายเวทมนตร์อื่นยิงเข้าไปเลย
“พอไม่มีโล่แล้วโดนเวทมนตร์แรงเชียวนะ”เบสยิ้มออกมาด้วยท่าทีสะใจหลังจากยิงเวทไฟออกไปแล้วสร้างความเสียหายรุนแรงให้กับแม่ทัพผีดิบได้อย่างเหลือเฟือ
ตูม!!
แม่ทัพผีดิบโดนโจมตีอย่างต่อเนื่องสร้างความเสียหายให้มันไม่น้อย มันเป็นบอสเลเวล 70 เมื่อเทียบกับอสรพิษทะเลลึกที่มีเลเวลต่ำไม่มากแล้วมันย่อมมีพลังชีวิตไม่ห่างจากอสรพิษทะเลลึกนัก ตอนนั้นกวีกับแก้วรุมโจมตีอสรพิษทะเลลึกอยู่นานกว่ามันจะตาย แต่กวีและแก้วในตอนนั้นยังเลเวลน้อยกว่านี้มาก แถมยังมีกันแค่ 2 คนอีกต่างหาก เมื่อเทียบกับตอนนี้ที่มีจอมเวท 3 คน มือธนู 1 คน นักดาบที่ถือดาบใหญ่ 2 คน ดาบเล็ก 2 คน พลังโจมตีย่อมเหลือเฟือที่จะฆ่าบอสลงได้ง่ายกว่าตอนนั้นมากแน่ๆ สิ่งเดียวที่ทำให้แม่ทัพผีดิบดูขัดการยากก็คือโล่ของมันที่ลดพลังโจมตีเวทลงไปจำนวนมากนั่นเอง
“……….”อยู่ๆดวงตาของแม่ทัพผีดิบก็เหลือบไปมองด้านหลังของตัวเอง ตรงนั้นมีโล่ของมันหล่นอยู่ หากเก็บโล่ขึ้นมาย่อมทำให้มันป้องกันพวกกวีได้อีกครั้ง….
“ไม่ปล่อยให้ไปหรอก”เจที่อยู่ใกล้ที่สุดเห็นอย่างชัดเจนเลยว่าดวงตาของแม่ทัพผีดิบมองไปทางไหน พริบตาที่รู้ว่ามันกำลังมองโล่อยู่เจก็วิ่งเข้าไปขวางมันเอาไว้ทันที
เปรี้ยง!!
พอโดนเจขวางทางเอาไว้ เวทมนตร์ของพวกกวีก็โจมตีอัดเข้าร่างของมันไปหลายครั้งก่อนที่พวกมีนจะตามเข้ามาเล่นงานอย่างหนัก ตอนนี้มีนเคลื่อนไหวเร็วกว่าตอนสู้กับพวกทหารผีดิบซะอีกเพราะตอนนี้มีนไม่ได้กำลังคิดว่าภายในชุดเกราะนั่นจะมีผีดิบอยู่หรือเปล่าอีกแล้ว ตอนนี้ในสายตาของมีนเห็นเจ้าชุดเกราะตรงหน้าเป็นตัวการ์ตูนไปเสียแล้ว
“แฮ….”แม่ทัพผีดิบส่งเสียงคำรามออกมาก่อนจะใช้ทั้งสองมือจับดาบใหญ่เหวี่ยงเข้าใส่เจ แม่ทัพผีดิบมีกำลังมหาศาลสามารถถือดาบใหญ่ได้ด้วยมือข้างเดียว แต่เพราะโล่หลุดมือไปแล้วแถมจะเก็บก็เก็บไม่ได้มันเลยเปลี่ยนมาโจมตีด้วยทั้งสองมือแทน
ตูม!!!
เหวี่ยงดาบแต่ละครั้งความหนักหน่วงเปลี่ยนไปอย่างกับมอนสเตอร์คนละตัว ดาบใหญ่ในมือแม่ทัพผีดิบฟาดทีเดียวพลังชีวิตของเจแทบจะหายไป 1 ใน 3 เล่นเอาไอช่ากับหลิวแทบจะรักษาไม่ทัน
“แบบนี้ไม่ดีแล้ว”เจกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก แบบนี้ถึงจะดีกับพวกสายโจมตี แต่กับเจที่เป็นตัวแทงค์กลับไม่ทราบจะร้องไห้ออกมาดีหรือไม่เพราะพอเจ้าบ้านี่โจมตีด้วยสองมือก็สร้างความเสียหายได้ดุมาก พอพลังชีวิตของเจลดไอช่ากับหลิวก็จะรักษาทันที แต่ตอนนี้ถึงเจจะดื่มยาฟื้นพลังไปด้วยพลังชีวิตก็ค่อยๆร่อยหรอลงทีละน้อยๆอยู่ดี แบบนี้พลังชีวิตของเจต้องไม่มากพอจะรับการโจมตีของแม่ทัพผีดิบแน่ๆ
“เบส ฟ่าง ขอเวทมนตร์ขั้นที่สี่อีกที เร็วๆด้วย”กวีเห็นเลือดของเจลดลงไปเรื่อยๆแม้จะมีไอช่ากับหลิวรักษาอยู่ก็เข้าใจทันทีว่าขืนปล่อยเอาไว้แบบนี้เจจะตายในไม่ช้า เท่ากับว่าตอนนี้ต้องจบเกมไวๆเท่านั้นแล้ว
“ชิ…..”เบสโดนสั่งแบบนั้นก็ส่งเสียงออกมาด้วยท่าทีไม่พอใจ แต่ถึงจะทำแบบนั้นเบสก็ร่ายเวทออกมาทันที หากช้าเกินไปแล้วปล่อยให้เจตายโอกาสชนะของพวกเขากลัวว่าจะไม่มีเลย
ตูม…ตูม!!!
การเหวี่ยงดาบหลังจากนั้นของแม่ทัพผีดิบทั้งหนักและรุนแรง ทำให้เจต้องกุมโล่เอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยแต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น….
“เวรเอ๊ย”เจสบถออกมาหลังจากแขนข้างซ้ายที่ใช้สวมโล่เกิดอาการชาขึ้นมา อาการแบบนี้เกิดขึ้นได้หากส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายต้องรับแรงกระแทกมากเกินไป และแขนของเจตอนนี้ก็กำลังรับแรงกระแทกอย่างหนักหน่วงจกดาบของแม่ทัพผีดิบเข้าพอดี
ตูม…!!
อย่างกับเจ้าแม่ทัพผีดิบจะรู้ตัวว่าเจเริ่มมีอาการชาแล้ว ดาบต่อมามันเลือกที่จะงัดดาบขึ้นมาจากด้านล่างเสยเอาโล่ที่เจถือหลุดออกจากมือไปทันที
“………..”แม่ทัพผีดิบที่ไม่มีโล่ยังมีพลังชีวิตมหาศาลในฐานะบอสอยู่ ส่วนเจแม้จะมีพลังชีวิตเยอะมากเช่นกันแต่ก็เป็นผู้เล่น จะให้รับการโจมตีแม่ทัพผีดิบด้วยพลังชีวิตอย่างเดียวไม่ไหวหรอก
ตูม!!
เจหลบการโจมตีของแม่ทัพผีดิบสุดตัวเล่นเอาใจหายใจคว่ำหมด แต่เจไม่ใช่มีนหรือพวกกวีเสียหน่อยจะได้หลบการโจมตีได้ตลอดแบบนั้น
ตูม!!
ดาบในมือของแม่ทัพผีดิบฟันลงมาเร็วขึ้นไปอีกเพราะเห็นว่าเจไม่มีโล่แล้ว มันเองก็คงรู้ว่าหากจะฆ่าเจก็ต้องฆ่าตอนนี้เท่านั้น
ตูม…ตูม…ตูม!!!
เจหลบการโจมตีของแม่ทัพผีดิบอย่างต่อเนื่องแต่ยิ่งหลบก็ยิ่งทุลักทุเลเพราะดาบแต่ละดาบของแม่ทัพผีดิบรุนแรงและว่องไวไม่น้อยเลย จนกระทั่ง…
เปรี้ยง!!
ดาบของแม่ทัพผีดิบเหวี่ยงเข้ากลางตัวของเจอย่างจังเพราะมัวแต่หลบการโจมตีก่อนหน้านี้ทำให้เจเสียหลักจนแม้แต่ดาบก็ยกมาป้องกันไม่ได้
โครม!!
ร่างของเจลอยขึ้นเพราะแรงกระแทกของดาบที่ฟันใส่เข้ากลางร่าง ก่อนจะตกกระแทกพื้นเสียงดังโครมใหญ่ ดาบของแม่ทัพผีดิบที่ฟันลงไปบนร่างกายของเจตรงๆนั้นเล่นเอาพลังชีวิตของเจแทบจะหมดในทีเดียวเลย
“รักษาเร็วเข้า”ไอช่าพูดกับหลิวก่อนจะรีบร่ายเวทรักษาทันที แต่ถึงจะใช้เวทรักษาที่ไอช่าและหลิวมีทั้งหมดแล้วก็ยังฟื้นพลังชีวิตให้เจได้แค่ 1 ใน 3 เท่านั้น
วูบ….
ดาบของแม่ทัพผีดิบถูกยกขึ้นสูงก่อนที่จะเหวี่ยงลงมาใส่ร่างของเจเพื่อคว้าชัยชนะครั้งนี้ไป
เปรี้ยง!!
“……….”ดาบของแม่ทัพผีดิบชะงักค้างอยู่ที่ตรงหน้าเจพอดี เพียงแต่ครั้งนี้ไม่มีใครเข้ามาขวาง แต่เพราะเจยกเอาโล่สีทองของตัวแม่ทัพผีดิบเองขึ้นมาป้องกันตัวนั่นเอง แถมพอเป็นโล่อันนี้แล้วพลังชีวิตของเจยังลดลงไปไม่มากด้วย
“โล่ดีนี่หว่า มิน่าถึงได้มั่นใจนัก”เจว่าพลางถือโล่ของแม่ทัพผีดิบเอาไว้แน่น จริงๆแล้วเจไม่สามารถสวมโล่ชิ้นนี้ได้ด้วยซ้ำ เพราะต่อให้กลายเป็นไอเทมสวมใส่ให้ใช้หลังจากแม่ทัพผีดิบตายก็ตาม เลเวลของโล่ชิ้นนี้ก็ยังสูงกว่าเจอยู่ดี แต่ที่เจเอามันมาใช้ได้เป็นเพราะมันเป็นโล่ที่ตกจากมือของแม่ทัพผีดิบ มันจึงถูกนับเป็นไอเทมบนฉากเท่านั้น ไม่มีเลเวลสำหรับใช้งานกำกับ
“โจมตี”กวีเห็นเจเอาตัวรอดมาได้ก็ยิ้มออกมาด้วยท่าทีดีใจ ในเมื่อเจยืนได้แล้วที่เหลือก็แค่โจมตีเข้าไปเท่านั้น แถมเบสและฟ่างยังร่ายเวทระดับ 4 จบแล้วด้วย
ตูม!!!
พอเวทระดับ 4 โจมตีเข้าใส่ร่างของแม่ทัพผีดิบ ทั้งดาบธนูและเวทมนตร์อื่นๆก็ประเคนเข้าใส่ร่างของแม่ทัพผีดิบอย่างต่อเนื่องจนพลังชีวิตของแม่ทัพผีดิบไหลเป็นน้ำ
ตุบ….
ในที่สุดแม่ทัพผีดิบก็ล้มลงนอนกับพื้นโดยไม่ทิ้งไอเทมอะไรเอาไว้เลยแม้แต่ชิ้นเดียวทั้งๆที่พวกกวีมีไอช่ามาด้วยแท้ๆ หรือว่าแม่ทัพผีดิบจะไม่มีไอเทมเลยแม้แต่ชิ้นเดียวกัน?
“น่าเสียดายชะมัด”เจมองโล่ในมือที่กำลังสลายหายไปพร้อมร่างของแม่ทัพผีดิบอย่างผิดหวัง โล่ดีๆแบบนี้ถึงจะยังใส่ไม่ได้แต่ก็อยากจะเก็บไว้ใส่จริงๆ พอเห็นมันหายไปพร้อมกับบอสแล้วก็เสียดายสุดๆไปเลย
“ของรางวัลของพวกเราอยู่ในนั้นต่างหาก”กวีเดินเข้ามาหาเจก่อนตบบ่าชมเชยเจด้วยท่าทียิ้มแย้ม แม้แม่ทัพผีดิบจะไม่มีไอเทมอะไรให้เป็นรางวัลเลย แต่ทันทีที่มันตายลงห้องที่มันเฝ้าเอาไว้ก็เปิดออกเผยให้เห็นแสงสีทองสว่างออกมาจากภายในถ้ำ
“พี่กวี….นั่นมัน……”เจมองภาพในท้องพระโรงด้วยท่าทีตื่นเต้น ภายในนั้นมีไอเทมจำนวนมากถูกวางเอาไว้ ไม่ว่าจะมองอย่างไรพวกมันก็ต้องเป็นไอเทมชั้นดีทั้งนั้นแน่ๆ
“ยอดเลย…”พอพวกกวีเข้ามาในท้องพระโรงที่แม่ทัพผีดิบเฝ้าเอาไว้ ทุกคนต่างก็แทบจะตาลายเพราะสมบัติที่อยู่รอบๆ จำนวนเงินที่กองอยู่บนพื้นต้องมีอย่างต่ำเป็นล้านเหรียญแน่ๆ แถมยังมีทั้งชุดเกราะ คทา ดาบ ธนู หอก หรือแม้แต่หนังสือสกิลอีกต่างหาก
“เจ้านี่น่าสนใจนี่นา”กวีเดินตรงไปยังบัลลังก์ของจักรพรรดิก่อนจะมองโครงกระดูกโครงหนึ่งที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ด้วยท่าทีพอใจ ในมือของโครงกระดูกถือคทารูปหัวกะโหลกเอาไว้ แถมที่มืออีกข้างก็ยังมีม้วนตำราเล่มหนึ่งถูกกำเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ซึ่งมันก็คือเวทมนตร์ปลุกชีพ ตำราเวทมนตร์สายเนโครแมนเซอร์นั่นเอง
“คุณกวี เบสเขาบอกว่าเรียนเวทมนตร์หลายๆสายไม่ดี งั้นเวทมนตร์นั่นคุณเอาไปเถอะ”ฟ่างพูดออกมาหลังจากเห็นกวีถือตำราเวทมนตร์เอาไว้ในมือ ปกติของรางวัลพวกนี้จะต้องแบ่งกันอย่างเหมาะสมอยู่แล้ว และตำราเวทก็ต้องมานั่งแบ่งในกลุ่มของจอมเวทเป็นเรื่องปกติทีเดียว แต่การที่ฟ่างชิงพูดแบบนั้นเพราะเธอรู้ว่าหากไม่มีพวกกวีพวกเธอคงไม่คิดจะเข้ามาที่นี่ด้วยซ้ำ
“ฉันไม่ได้บอกว่าจะให้สักหน่อย แต่แค่ว่าเวทมนตร์เยอะมันจะใช้งานได้ไม่ดีพอ เวทมนตร์ในมือนายเลยไม่จำเป็นกับฉันเฉยๆ”เบสว่าพลางหันหน้าหนีไปทางอื่น เจ้าหมอนี่แม้จะปากเสียแต่ก็ไม่คิดจะโกงไอเทมกันสินะ
“พี่กวีดูนี่สิ มีชุดเกราะชุดนี้ยอดไปเลย”เจว่าพลางนำชุดเกราะชุดหนึ่งออกมาจากกองสมบัติ ตอนนี้มีเจคนเดียวเป็นแทงค์ หากพบเกราะหนักหรือโล่เจก็ย่อมได้ผลประโยชน์อย่างแน่นอน
“ไอ้พวกชั่ว…..”ระหว่างกำลังเก็บสมบัติอยู่นั้น อยู่ๆเสียงเสียงหนึ่งก็ดังมาจากจุดที่กวียืนอยู่ แน่นอนว่าไม่ใช่เสียงของกวีแน่ๆ แต่เป็นเสียงจากโครงกระดูกที่นั่งอยู่ข้างๆกวีต่างหาก
“สมบัติของข้า วังของข้า…..”เสียงของโครงกระดูกที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ก็พูดออกมาด้วยท่าทีสยดสยอง ก่อนที่ไอพลังเวทจะไหลออกมาจากโครงกระดูกจำนวนมหาศาล
“ว่าแล้วคงไม่ให้สมบัติกันง่ายๆสินะ”กวียิ้มเจื่อนๆออกมาก่อนจะวิ่งออกมาห่างโครงกระดูกตัวนั้น
“ตาย…ซะ……”ทันทีที่โครงกระดูกส่งเสียงออกมา ร่างของทหารผีดิบนับร้อยตัวก็ปรากฏออกมาภายในท้องพระโรง แม้จะล้มแม่ทัพผีดิบได้แต่ให้เจอทหารผีดิบเป็นร้อยๆตัวแบบนี้ใครมันจะไปไหวกัน
“ได้สมบัติแล้วก็เผ่นกันเถอะ”กวีว่าพลางสั่งให้ทุกคนหนีเอาตัวรอดทันที ในเมื่อสู้ไม่ได้ก็ต้องหนีเท่านั้น