Half Line ข้ามเส้นนี้ไป ระวังตกหลุมรัก - ตอนที่ 103
อย่างไรก็ตาม แม้แต่กระแสน้ำที่เงียบสงบในท้ายที่สุดแล้วมันก็มีขีดจำกัดในการอดทน ฮาจุนสูดลมหายใจอย่างช้าๆ และคลานสั้นๆ ราวกับกำลังพยายามจะยกร่างกายตัวเองขึ้น แต่ทว่าก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้าดีๆ นั้น มือใหญ่ก็ดึงเอวเขากลับมาแล้วให้เขานั่งลงที่เดิมอีกครั้ง จากนั้นอีกฝ่ายก็ซุกใบหน้าของตนเองไว้เหนือบั้นท้ายของเขาอีกครั้ง
“ฮึก คิม มูคยอม ตอนนี้ ของนาย เอาของนาย…” ฮาจุนเอ่ยขึ้นมาอย่างรีบร้อน
“หืม”
“ไม่เอาปาก เอาของนาย…”
“อะไรของฉัน มือเหรอ”
แม้ว่าในขณะที่ถามแบบนั้น อีกฝ่ายก็ไม่ยอมหยุดการหยอกเล่นเล็กๆ น้อยๆ อย่างการจูบที่แผ่นหลัง
“ไม่ ไม่ใช่ มือ มือ…”
“แล้วอะไรล่ะ”
เมื่ออีกฝ่ายยื่นลิ้นออกมาอย่างกว้างและยาวเลียลงไปบนช่องทางเข้า ฮาจุนก็เอาหน้าไปถูกับผ้าปูที่นอนแล้วส่งเสียงคร่ำครวญออกมา ทันที่อีกฝ่ายใช้ปลายลิ้นทิ่มที่จุดอันคับแคบนั้น ร่างกายของฮาจุนก็ตอบสนองโดยการขมิบเอาไว้อย่างแน่นหนา แม้เสียงที่เปล่งออกมาจะดูอ่อนแรง แต่การเอ่ยเอื้อนคำพูดนั้นกลับรวดเร็วขึ้น
“อ๊ะ ได้โปรด อื้อ…! ก็มีของนาย นี่นา… เร็วสิ…”
“ถ้าเอาแต่เรียกว่าของนายๆ ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าหมายถึงอะไร”
“อื้อ ฮะฮึก…”
ในท้ายที่สุด ขณะที่ยังคงลูบไล้ที่ทางเข้าที่เป็นรอยจีบอยู่มูคยอมก็ได้ให้คำตอบแทนฮาจุนที่พูดไม่ออก
“ของของฉันเหรอ”
“ฮ้า อ๊ะ! อะ อื้อ คะ…อันนั้นน่ะ ใส่เข้ามาหน่อย…”
มูคยอมที่เงียบไปชั่วครู่ จู่ๆ ก็เข้ามาซ้อนตัวเหมือนกับกำลังกอดฮาจุนเอาไว้
“เห้อ…บ้าไปแล้ว”
ร่างกายที่เคยนอนคว่ำนั้นได้ถูกจับให้นอนราบลงอีกครั้ง อวัยวะเพศที่ร้อนและแข็งซึ่งชูชันมานานสัมผัสกับช่องทางเข้าทันที ขณะที่เลื่อนเข้าไปอย่างตรงๆ ฮาจุนสงสัยว่าส่วนหัวของลำแท่งนั้นทิ่มเข้าไปหรือเปล่า เพราะเส้นเลือดบนลำแท่งนั้นเสียดสีกับช่องทางเข้าจนทั่วไปหมด เขาหน้าแดงขึ้นมาเพราะถูกกระตุ้นตรงส่วนที่อยู่ระหว่างช่องทางเข้าและโคนแกนกายไปจนถึงพวงสวรรค์จนเอียงคอและครวญครางออกมา
“ฮื่อ ฮ้า!”
“ฉันกะว่าจะทำช้าๆ…แต่นายก็ไม่ให้ความร่วมมือเลยแฮะ”
หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง… แกนกายชนเข้าที่ช่องทางเข้าราวกับว่าจะไม่เข้าไปด้านใน แต่มันลื่นไถลและแทงลงไปที่ด้านล่างของพวงสวรรค์แทน ฮาจุนสะดุ้งทุกครั้งที่วัตถุหนาและร้อนสัมผัสเข้ามา ช่องทางอันว่างเปล่าที่เตรียมรับนั้นหดตัวลงและท้องก็ร้อนขึ้นเรื่อยๆ
ใครกันนะที่ขอให้ทำช้าๆ มูคยอมกำลังจะโกรธแล้ว
น้ำตาที่แห้งเหือดไปแค่ครู่เดียวเริ่มเอ่อขึ้นมาอีกครั้ง ฮาจุนไม่รู้เลยว่าโดนลำแท่งถูที่ช่องทางเข้าไปกี่ครั้งนั้นทนไม่ไหวจนร้องไห้ออกมา
“อ๊ะ อื้อ พอ อ้า พอแล้ว…! คิมมูคยอม ตอนนี้พอได้แล้ว…!”
ลืมความตั้งมั่นตั้งใจที่จะบอกให้มูคยอมหยุดไปชั่วครู่แล้วเรียกร้องอีกฝ่ายดังที่ใจต้องการ หลังจากนั้นในท้ายที่สุดแล้ว แรงกดอย่างหนักหน่วงที่ช่องทางเข้าก็ค่อยๆ แทรกเข้าไปด้านใน
“คราวหน้าก็บอกว่าตรงๆ ว่าของฉันเลยก็ได้นะ”
“อ๊ะ อ้า… อ๊า!”
การสอดใส่เป็นไปอย่างเชื่องช้า เพราะว่าท้องอันว่างเปล่าบิดเร่าต้อนรับแกนกายที่สอดเข้าไปด้วยความกระตือรือร้น ด้านในที่คับแคบขึ้นนั้นจึงสั่นระริกราวกับการปล่อยไอเสียของรถยนต์
ช่องทางด้านในที่ติดแน่นกับสิ่งสิ่งนั้นของมูคยอมดีเดือดจนถึงขนาดที่ว่า ฮาจุนรู้สึกได้ถึงรูปร่างและเส้นเลือดที่ปรากฏบนพื้นผิวบนแกนกายของอีกฝ่ายว่าเข้ามาถึงตรงไหนและกำลังขยับในมุมไหน แม้แต่จะเปล่งเสียงออกมาให้เป็นคำพูด ฮาจุนก็ยังทำไม่ได้
“ฮู่ ฮือ… ฮ้า อ้า….”
ในขณะที่เลื่อนเข้าไปอย่างช้าๆ ราวกับกำลังถูไถช่องทางด้านในนั้น ส่วนหัวที่ปูดออกมาก็สัมผัสกับต่อมลูกหมากที่มันเคยทรมานเป็นระยะเวลาครู่หนึ่งด้วยนิ้วของมูคยอม และมูคยอมก็แสร้งทำเป็นโยกเอวขึ้นอย่างสั้นๆ
ในขณะที่รู้สึกชาอย่างหนักหน่วงทั้งภายในและภายนอกร่างกาย ทันใดนั้นความสุขที่ท่วมท้นก็ถาโถมเข้ามาราวกับสายฟ้าฟาดอย่างรวดเร็ว ฮาจุนเอ่ยขึ้นมาและเอนศีรษะไปด้านหลัง
“ฮ๊า ฮ๊าาา อะ อ๊ะ…!”
อีกฝ่ายยังคงอยู่ในระหว่างการสอดใส่เข้าไป แต่ความรู้สึกอันแสนยินดีจนเกินที่จะทนไหวได้ครอบงำร่างกายของฮาจุน อย่าว่าแต่แรงที่จะต่อต้านเลย เพราะแม้แต่เสียงครางที่ปนกับเสียงลมหายใจนั้นเขาก็ยังส่งออกมาได้เพียงน้อยนิด
ในขณะที่ฮาจุนพ่นลมหายใจยาวๆ และพรั่งพรูเสียงที่ขาดหายเล็กน้อยออกมาอย่างไม่สม่ำเสมอจากริมฝีปากที่อ้าออกอย่างไร้เรี่ยวแรงนั้น มูคยอมก็ดันเอวเข้าไปและกระแทกเข้าไปจนถึงด้านในสุด ส่วนหัวของแกนกายมาถึงจุดที่ผนังด้านในที่แคบลงอย่างรวดเร็ว และมันก็ถูกโอบรัดแน่นราวกับกำลังจุมพิตด้วยเยื่อเมือกที่อ่อนนุ่มและราบเรียบ
เมื่อร่างกายผสานรวมกันกลายเป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์แล้ว ทุกครั้งที่มูคยอมเอ่ยออกมาเสียงของอีกฝ่ายก็เต็มไปด้วยความเร่งร้อนและไร้ซึ่งความผ่อนคลาย
“อ้า อีฮาจุน ดีมาก บ้าไปแล้ว…”
“อ๊ะ อ้า ฉันก็ ฉัน…ก็….”
แขนอันแข็งแรงโอบรอบคอและไหล่ของเขา ทันทีที่โอบรัดตัวตนของมูคยอมเข้ามาลึกๆ อย่างหนักหน่วงแล้ว เขาก็รู้สึกว่ามันยากที่จะหายใจจนถึงขนาดที่ว่ารู้สึกแน่นหน้าอก ฮาจุนนั้นยุ่งอยู่กับการดิ้นรนตะเกียกตะกาย
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่คิดที่จะอยากออกจากอ้อมแขนของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม เขายิ่งมุดเข้าไปในอ้อมกอดของอีกฝ่าย แม้ว่าแขนนั้นจะเคลื่อนไหวได้ไม่สะดวกสบาย แต่เขาก็พยายามที่จะขยับแขนนั้นไปโอบรอบไหล่ของมูคยอมเอาไว้
มูคยอมปัดหน้าม้าของฮาจุนขึ้นไปด้วยริมฝีปากของตนเอง จากนั้นก็กดจูบลงบนหน้าผากที่ชื้นเล็กน้อย และในขณะที่เลื่อนริมฝีปากลงไปที่ขมับและแก้ม อวัยวะเพศที่ฝังลึกด้านในร่างกายของเขาก็เริ่มที่จะหลุดออกมา
“…ฮื่อ อื้อออ!”
ร่างกายที่ถูกโถมทับด้วยน้ำหนักของมูคยอมนั้นไม่สามารถพลิกตัวอย่างดีๆ ได้ ขาของฮาจุนที่ยังคงแบะออกสั่นระริก ปลายเท้าขยุ้มเข้าหากันพร้อมกับจิกลงบนผ้าปูที่นอน ขาทั้งสองข้างไขว้กันไว้ที่หลังเอวของมูคยอมราวกับพยายามป้องกันไม่ให้แกนกายหลุดออกไปอีก
“ฮ้า อื้อ อ๊าา ฮึก! อื้อ!”
แต่ทว่าขาที่คลายออกเพราะความรู้สึกดีนั้นยังไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะหยุดเอวของมูคยอมได้ ผนังด้านในที่เคยเกาะติดกับแกนกายที่ค่อยๆ ถดถอยกลับออกไปนั้นถูกถูไถไปในคราวเดียวจนฮาจุนน้ำตาเอ่อและไหลพรากออกมา
ร่างกายที่อยู่ในอ้อมแขน ลิ้นที่อยู่ในปาก บั้นท้ายและผนังด้านในนั้นสั่นไหว ในระหว่างที่ฮาจุนกำลังจับทางไม่ถูกและไม่สามารถรวบรวมความคิดได้นั้น ส่วนหัวของแกนกายที่หลุดออกมาจนไปอยู่ที่ช่องทางเข้านั้นก็ได้กระแทกกลับเข้าไปด้านในจนลึกอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว
“อึก อ้าา…”
ร่างกายของฮาจุนสั่นไหวอย่างรุนแรง แต่ก็มีเพียงแต่เสียงครวญครางเบาๆ ที่เล็ดลอดออกมาจากปากที่เปิดอยู่ของเขา
ตอนนี้มูคยอมได้เลื่อนริมฝีปากมายังใบหูของฮาจุนแล้วก็กดจูบหนักๆ จนเกิดเสียงดังออกมา ขณะที่เสียงสั่นเล็กๆ ดังก้องในหู ความรู้สึกที่เคยเวียนหัวนั้นก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
“ฮ้า ฮื่อ…! อื้อ ฮึกก อ้าาา อ๊ะ!”
จุดสุดยอดที่สองนั้นเริ่มต้นราวกับดึงขึ้นมาจากจุดที่ลึกที่สุด
โดนคลื่นซัดกระหน่ำจนตาลาย กระดูกเชิงกรานและเอวสั่นเบาๆ อย่างรวดเร็ว เกิดอาการกระตุกเป็นระยะๆ และปรากฏให้เห็นถึงกล้ามเนื้อยาวภายในต้นขาสีขาวนวลแล้วก็จางหายไป แม้จะผ่านการปลดปล่อยไปได้ไม่นาน แต่ก็ไม่มีอะไรหลั่งไหลออกมาจากแกนกายที่ตั้งตรงแค่เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น
ฮาจุนรู้สึกเหมือนตนเองคิดไปเองว่าร่างกายที่ลอยขึ้นไปในอากาศนั้นจมดิ่งลงไปในเตียงอย่างกะทันหัน จู่ๆ ก็รู้สึกกลัวในระหว่างที่รู้สึกปั่นป่วนภายในศีรษะจากความอ้างว้างราวกับตกลงไปในที่ที่ไกลลิบ ถึงมันจะอ่อนนุ่ม แต่ก็ไม่มีพื้นเฉกเช่นเดียวกับเหว
“อ๊ะ ฮื่อ ฮึก มันแปลกๆ…!”
“แปลกเหรอ”
“ฮึก…ฮ้า อ๊า! คิมมูคยอม ฉันรู้สึก แปลกๆ… อ๊ะ อ้า!”
“อื้อ ไม่เป็นไร มาทางนี้”
ราวกับกำลังหลับฝันขณะที่ลืมตาอยู่ ความสุขที่มากจนเกินไปทำให้ประสาทสัมผัสเกิดความสับสนราวกับว่าถูกผีอำ
ฮือ เสียงที่ร้องไห้ออกมานั้นดังมาก มูคยอมดึงข้อมือของฮาจุนที่ตนเองกักเอาไว้ และนำมันไปวางพาดไว้บนแผ่นหลังของตนเอง ฮาจุนโอบแขนไว้ด้านหลังคอของอีกฝ่ายอย่างรีบร้อน มันแนบแน่นราวกับว่าเขาถูกแขวนไว้กับมูคยอม
แขนที่หนาและแข็งแรงโอบรอบหลังไว้แน่นราวกับพยุงเอาไว้ มูคยอมกระซิบกระซาบที่ข้างหูราวกับจะปลอบประโลม และบังคับ
“ไม่เป็นไรนะ ฉันกอดนายเอาไว้อยู่ ฮ่าา อีฮาจุน ชอบนะ”
“ฮ้า ฮึก! อื้อ ฉะ ฉัน เองก็ ฮึก ชอบ ชอบเหมือนกัน”
“นายบอกชอบฉันหน่อยสิ หืม บอกว่าชอบฉันหน่อย”
“ชอบ แฮ่ก อ้า คิมมูคยอม…ชอบ ฉันชอบนาย…”
แม้ว่าราวกับจะถึงจุดสุดยอด แต่ก็เหมือนมีพลังอันแรงกล้าเข้าสู่ร่างกายมูคยอม มูคยอมจึงถอนหายใจออกมายาวๆ จากนั้นจู่ๆ ก็เริ่มสาวตัวที่รุนแรงอย่างไม่เอาความ
“ฮึก! อ๊ะ อ้าา อ๊ะ!”
เสียงของร่างกายที่ประสานกันอย่างแน่นหนากระทบกันจนดังทั่วทั้งห้อง ผนังด้านในหลอมละลายเพราะโดนแกนกายของมูคยอมที่แข็งโป๊กกระแทกด้วยความเร็วที่ไร้ที่สิ้นสุด
ตอนนี้น้ำตาได้ไหลลงมาราวกับสายน้ำที่ไหลตามธรรมชาติ มันรู้สึกดีจนคลับคล้ายคลับคลาว่า เขาถึงจุดสุดยอดทุกครั้งที่ส่วนหัวบดขยี้ต่อมลูกหมาก ลำแท่งที่ทั้งใหญ่และหนาดันเข้าไปในผนังด้านในอันแคบจนกระทั่งติดอยู่ในช่องทางที่ลึก แม้ว่าร่างกายของฮาจุนจะสั่นไปทั่วทั้งตัว แต่กลับไม่มีคำพูดใดที่เอื้อยเอ่ยออกมาบอกให้หยุดหรือบอกว่าไม่เอาเลยสักนิด
ราวกับว่าไม่สามารถรู้สึกถึงอะไรได้อีกต่อไป ราวกับว่าร่างกายของเขาไม่ได้ประกอบขึ้นมาจากกระดูกและเนื้อ แต่เป็นต้นไม้ที่สุกงอมจนแตกพอง
ฉันชอบนาย ฉันรักนาย แค่นายเท่านั้น ท่ามกลางการโยกเอวที่หยุดไม่อยู่ มูคยอมก็กระซิบบอกจนล้นท่วมหัว เสียงหวานของอีกฝ่ายทำให้เขารู้สึกเหมือนจะสำลักจนตาย
ด้านบนของเยื่อเมือกอันอ่อนไหวที่ถูกกระแทกมานับครั้งไม่ถ้วน และในที่สุดของเหลวร้อนก็ถูกฉีดเข้าไปหลายครั้งในช่องทางลึกด้านในนั้น ความรู้สึกการแพร่กระจายของน้ำกามนั้นตราตรึงใจอย่างชัดเจนราวกับประทับตราเอาไว้ และเขารู้สึกว่าตัวเองเข้าใจผิดคิดไปเองว่าภายในร่างกายของเขานั้นมันเต็มไปด้วยน้ำกามของอีกฝ่าย
อ๊าา
ฮาจุนรู้สึกอิ่มเอมและปล่อยวางสติอย่างผ่อนคลาย
* * *
‘เพราะว่านักเตะคิมมูคยอมสามารถเอาชนะความกดดันและความกลัวได้ยิ่งกว่าตอนนี้อีกน่ะสิครับ’
เสียงที่ดูเหมือนจะมาจากที่ไกลๆ ราวกับเป็นเสียงสะท้อนแผ่วเบานั้น เมื่อฟังดูแล้วเขาก็คิดว่าเป็นเสียงของคนอื่นเพราะมันช่างเป็นเสียงที่ตัวเขาไม่คุ้นเคย
ยังมึนอยู่เลย เขากะพริบตาสองสามครั้งแล้วจึงหันหน้าไป มูคยอมที่สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วหันไปมองฮาจุนที่นอนอยู่ในอ้อมแขนของตนเอง
“ตื่นแล้วเหรอ”
“อือ…”
มูคยอมแย้มรอยยิ้มและวางโทรศัพท์ที่ถืออยู่
“ฉันกำลังดูรายการอยู่ ถึงแม้ว่ามันจะค่อนข้างน่าสะอิดสะเอียน แต่ก็มีข้อดีอยู่บ้าง นายออกมาดูดีเลยละ ฉันต้องเก็บวิดีโอนี้ไว้แล้ว เห็นหรือยัง ชื่อนายติดในอันดับการค้นหาด้วย”
“…ฉันเหรอ”
“โดยส่วนตัวแล้วฉันไม่ยินดีหรอกนะที่ความนิยมของอีฮาจุนดีขึ้นมาก แต่ฉันต้องยอมรับสายตาของคนดูสิ”
มูคยอมวางโทรศัพท์ลงแล้วกอดฮาจุนดีๆ ริมฝีปากสัมผัสที่บริเวณเหนือแก้ม มูคยอมยิ้มขณะที่แนบริมฝีปากลงบนใบหน้าของฮาจุนอยู่หลายต่อหลายครั้ง ฮาจุนมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเฉยๆ เพียงครู่เดียวแล้วจึงละสายตาลงไปอย่างเคอะเขิน มูคยอมเอ่ยถามพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย
“เป็นอะไรไป ไม่อยากจูบอีกแล้วเหรอ”
“ปะ เปล่า… ฉันแค่ รู้สึกทึ่ง…”
“อะไร”
“หลังจากที่มีอะไรกันแล้ว ฉันเพิ่งเคยอยู่ด้วยกันแบบนี้กับนายเป็นครั้งแรกเลย… เลยรู้สึกแปลกๆ นิดหน่อย”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฮาจุนหมดสติขณะที่มีอะไรกับอีกฝ่าย ย้อนกลับไปในตอนนั้น เมื่อลืมตาขึ้นมาฮาจุนก็นอนอยู่ตามลำพังในห้องอันมืดมิดที่มีเพียงแสงไฟสลัวๆ แต่ในวันนี้มันกลับแตกต่างออกไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
จุดสุดยอดที่มูคยอมมอบให้ยังคงเหมือนเดิมอย่างที่เขาคาดเอาไว้ ถึงแม้ว่าจะไม่เคยไม่ชอบมันเลย แต่ความรู้สึกดีที่ยึดเหนี่ยวร่างกายราวกับโดนตาข่ายผูกรัดตัวเอาไว้นั้น เป็นความรู้สึกแบบที่ทำได้แค่อดกลั้นในขณะที่ร่างกายที่สั่นไหวและจิกผ้าปูที่นอนจนกว่ามันจะสลายไป แต่วันนี้มูคยอมกอดเขา เขาเลยคิดว่ามันดีกว่าปกติมาก
รู้สึกดีจัง ฮาจุนยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวและฝังใบหน้าไว้ในอ้อมแขนของมูคยอม แขนของอีกฝ่ายโอบรอบหลังไว้แน่นและคำพูดขอโทษก็หลุดออกมาจากริมฝีปากที่วางอยู่บนศีรษะของเขา
“ขอโทษ”
“หา ไม่สิ ฉันไม่ได้ให้นายบอกขอโทษ ก็แค่รู้สึกดีน่ะ…”
ฮาจุนเขินอายขึ้นมาอย่างใจหายใจคว่ำเมื่อรู้สึกราวกับว่าตนเองเรียกร้องให้อีกฝ่ายทำ หลังจากที่ได้พูดคุยกันไม่กี่คำนั้น จิตใจของเขาก็ค่อยๆ สดใสขึ้น ฮาจุนจำได้แม่นว่าทำไมตนเองถึงมาที่นี่ตอนกลางดึกเพื่อมาสวมกอดอีกฝ่าย ฮาจุนเงยหน้ามองพิจารณาสีหน้าของมูคยอมแล้วเอ่ยถามขึ้นมา
“คิมมูคยอม ตอนนี้นายอารมณ์ดีขึ้นแล้วหรือยัง”
มูคยอมมองไปที่ฮาจุนนิ่งๆ แล้วส่งรอยยิ้มที่ฝืนทนและเลือนรางออกไป
“นี่เป็นสิ่งแรกที่นายอยากถามหลังจากที่ตื่นจากการสลบไปอย่างนั้นหรอกเหรอ”
จากนั้น อีกฝ่ายก็ดึงแขนออกมาราวกับฝังตนเองไว้ในอ้อมกอดของฮาจุน และใช้แขนโอบรอบคอของเขาแล้วเอ่ยขึ้นมา
“ถ้าฉันรู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ ฉันคงเปิดเผยมันตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วหาทางออกเอง เอาแต่ทำตัวลับๆ ล่อๆ มันน่าตลกนี่นา”
“เปิดเผยเหรอ เรื่องอะไร”
ขณะที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายถูที่รอบๆ คาง ฮาจุนก็กะพริบตาและรอให้อีกฝ่ายพูดต่อไป
“ก็เรื่องของคนที่เคยป่วยเป็นโรคหวาดระแวงว่าภรรยาจะนอกใจน่ะ”
“แล้วสิ่งที่พ่อทำมันเกี่ยวอะไรกับนาย ไม่เป็นไรนะ คิมมูคยอม ผู้คนจะให้ความสนใจสักพัก แต่เดี๋ยวเดียวก็ลืมกันแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะออกอากาศไปโดยไม่ได้ขอความยินยอมกันก่อน แต่นายก็ไม่ต้องกังวลมากจนเกินไปนะ”
จากคำพูดที่เฉียบขาดนั้น มูคยอมจึงเปลี่ยนท่าทางหันไปสบตากับฮาจุน ฮาจุนที่นอนหนุนแขนในระนาบเดียวกันกับใบหน้าของมูคยอมหันมาสบตาอีกฝ่ายอย่างไม่หลบเลี่ยง ตอนนี้นัยน์ตาที่เคยเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองของมูคยอมดูเหมือนว่ามันจะเย็นลงอย่างแน่นอนแล้ว แต่ฮาจุนกลับยกมือขึ้นเหนือแก้มของมูคยอมโดยไม่รู้ตัว
ทำไมถึงได้ดูกังวลใจอย่างนี้ คงจะเป็นเรื่องน่าตกใจที่ชีวิตส่วนตัวที่ปกปิดไว้มาอย่างยาวนานได้ถูกเปิดเผยออกมาแบบนี้ แต่เดิมอีกฝ่ายก็ไม่ใช่คนประเภทที่จะใส่ใจสายตาของคนอื่นมากนัก
มูคยอมค่อยๆ เอ่ยออกมา
“เกี่ยว…สิ”
“หือ”
“ฉันคล้ายกับคนคนนั้นมาก ทั้งหน้าตา นิสัย หรือโรคที่น่าสงสัยนั่นก็ด้วย ทั้งหมดเลย”
มูคยอมคว้าข้อมือของฮาจุนที่คล้องคอตนเองไว้
“ที่นายเข้าโมเต็ลไปกับนายยุนนั่น…ฉันก็แอบตามไปด้วย ฉันสงสัยว่านายแอบฉันไปทำอย่างอื่นอีกหรือเปล่า ฉันตั้งหน้าตั้งตาพยายามจะเข้าไปในโมเต็ล ถึงแม้ว่าตอนนี้ฉันจะรู้แล้วว่ามันเป็นเรื่องที่ฉันคิดไปเอง แต่ตอนนั้น ฉันอยากจะฆ่าเขาทิ้งจริงๆ”
ใบหน้าของฮาจุนแข็งทื่อและเบิกตาโตขึ้น มูคยอมมองดูท่าทางของเขาอย่างนิ่งๆ และกอดเขากลับเข้าไปในอ้อมแขนของตนเอง
“แต่ว่าประตูโมเต็ลก็ส่องเงาสะท้อนตัวฉันกลับมา ทั้งหน้าหรือสีหน้าก็เหมือนกับไอ้บ้าคนนั้นมาก ฉันเองก็ตกใจเหมือนกัน ไม่สิ แค่บอกว่าตกใจยังไม่พอด้วยซ้ำ ฉันใช้ชีวิตมาจนถึงตอนนี้ คิดว่าจะไม่มีวันเป็นเหมือนคนนั้นอย่างแน่นอน…”
“…แล้วทำไม”
“ฉันอาจจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วก็ได้ เหมือนคนบ้าที่สงสัยนาย สะกดรอยตามนาย… แค่นายยืนหัวเราะกับคนอื่น ฉันก็รู้สึกเหมือนมีไฟมาแผดเผาอยู่ข้างใน ฉันไม่ควรเป็นแบบนั้นเลย”
“…”
“เพราะงั้นฉันจึงพยายามอยู่ให้ไกลจากนาย ฉันอยากให้นายรังเกียจฉัน แล้วฉันก็จะหายไปจากสายตาของนาย และเมื่อความสัมพันธ์มันจบลง ฉันก็จะไม่ต้องทำอะไรบ้าๆ แบบนี้อีกแล้ว แต่…”
เขาได้ยินเสียงหัวเราะที่ราวกับลมพัดหายไปอีกครั้ง