Half Line ข้ามเส้นนี้ไป ระวังตกหลุมรัก - ตอนที่ 107
“นายก็เป็นผู้ชายคนแรกของฉันเหมือนกัน”
จากคำพูดนั้น ฮาจุนจึงกะพริบตา ทำให้หางตาของอีกฝ่ายดูเหมือนพระจันทร์เสี้ยวพลางตอบ
“ฉันรู้”
“หลังจากนั้น นายเป็นคนแรกที่ฉันเคยหลับนอนบนเตียงเดียวกัน”
“อื้อ”
“นายเป็นคนแรกที่ฉันบอกว่าชอบ”
“…”
“มันเป็นครั้งแรกของฉัน แต่ทุกอย่างมันดีมาก”
“ฉันด้วย…มันดีมาก” เสียงเล็กๆ พรั่งพรูออกมาบริเวณเหนือศีรษะ
จากนั้นมูคยอมก็ลืมตาขึ้นและถามออกไปพลางเสยเส้นผมบนหน้าผากไปทางด้านหลัง
“ครั้งแรกเป็นยังไงบ้าง”
“ครั้งแรกเรื่องอะไร”
“เซ็กส์”
ทันใดนั้นฮาจุนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ถามอะไรเนี่ย… ฉันไม่ค่อยชอบคุยเรื่องแบบนี้เลย”
“ฉันเองก็ผ่านเรื่องนี้มามากพอแล้ว ฉันไม่หึงกับเรื่องที่ผ่านมาหรอกน่า แค่สงสัยก็เลยลองถามดูน่ะ”
เขาตอบโดยแทรกคำโกหกเล็กน้อยและจูบลงบนแก้มของฮาจุนที่ปิดปากเงียบอยู่อย่างไม่ลังเล มูคยอมจึงถามต่อ
“ครั้งแรกของนายก็เป็นผู้ชายเหรอ”
“…อืม”
“เป็นยังไงบ้าง ครั้งแรกดีเหมือนกับตอนนี้ไหม”
จากคำพูดนั้น ฮาจุนก็หัวเราะอย่างเจื่อนๆ และตอบอย่างรวดเร็วด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่นราวกับว่ามันเป็นเรื่องเหลวไหล
“เจ็บ”
“จริงเหรอ”
“ใช่ มันเจ็บมากจนเกือบจะเป็นลมเลย”
ดวงตาของมูคยอมเบิกกว้างราวกับตกใจ จากสีหน้าของเขา ฮาจุนจึงค่อยๆ ใช้นิ้วดันหน้าผากของมูคยอม และลุกขึ้นอย่างรีบร้อนราวกับว่ามีอะไรน่าอายพลางกล่าวเสริม
“แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ดี”
“…”
“ฉันไปอาบน้ำนะ”
ถ้าเป็นแต่ก่อนเขาก็จะตามอีกฝ่ายไปพร้อมกับขอให้อาบน้ำด้วยกัน แต่ตอนนี้เขาตกอยู่ในสภาพที่ช็อกเล็กน้อย จึงได้แต่ผงกศีรษะรับคำและไม่สามารถคว้าฮาจุนได้เลย
ปัง หลังจากได้ยินเสียงประตูห้องน้ำปิดลง คิ้วของมูคยอมก็เริ่มขมวดขึ้นมาอย่างช้าๆ
บอกว่าเจ็บอย่างนั้นเหรอ
เกือบเป็นลมเพราะเจ็บ ไม่ใช่เพราะเสียวอย่างนั้นเหรอ
นั่นมันหมายความว่าอย่างไรน่ะ บอกว่าแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ดีอย่างนั้นเหรอ
น้ำมันที่ค่อยๆ หยดลงทีละหยดถูกเทลงบนประกายไฟเล็กๆ ในทันที มูคยอมกัดฟันกรอดเมื่อใจเริ่มลุกเป็นไฟราวกับคบเพลิง
ไอ้ลูกหมาตัวไหนกัน เขาจะไปฉีกอกมัน
เมื่อนึกถึงที่ฮาจุนบอกว่าสำหรับฮาจุนแล้วประสบการณ์ครั้งแรกมันเป็นอะไรที่พิเศษ แต่ความรู้สึกแรกที่นึกออกคือมันเจ็บปวดมากจนแทบจะเป็นลมอย่างนั้นเหรอ
การที่จะทำให้ร่างกายที่รู้สึกดีได้ง่ายเจ็บปวดก็เป็นพรสวรรค์ที่น่าตกใจ ดูท่าทางแล้วคงเป็นผู้ชายที่ไม่รู้เรื่องเซ็กส์เสียด้วยซ้ำ ฮาจุนมีอะไรกับผู้ชายพรรค์นั้น แต่บอกว่าถึงอย่างนั้นมันก็ดีอย่างนั้นเหรอ ไอ้ตัวไหนกันวะ
มันทำเขาโมโหจนน้ำตาแทบจะไหลเลย ไอ้หน้าด้าน ไม่ยอมยกโทษให้แน่ เขาอยากสืบให้รู้ว่ามันเป็นใคร เขาอยากจะแก้แค้นให้สาสมจนกว่ามันจะร้องไห้อ้อนวอนขอร้อง!
มูคยอมพรวดพราดลุกขึ้นยืนจากโซฟาพร้อมกับความโกรธและอารมณ์ที่พลุ่งพล่านขึ้นมา เขาเดินไปยังห้องอาบน้ำอย่างรวดเร็วแล้วเปิดประตูออกมา ทันใดนั้น ฮาจุนที่ยืนเปียกอยู่ด้านล่างฝักบัวที่เพิ่งปิดก็เอ่ยทักทายมูคอมด้วยรอยยิ้ม
“นายก็จะอาบเหมือนกันเหรอ”
ใบหน้าใสที่มีหยดน้ำเกาะอยู่นั้นทำให้เขารู้สึกเจ็บหัวใจ มูคยอมเดินเข้าไปหาฮาจุนและกอดร่างกายที่เปียกชื้นของอีกฝ่าย ราวกับว่าฮาจุนคุ้นเคยกับการกอดอย่างกะทันหัน อีกฝ่ายจึงโอบแขนรอบหลังเอวของมูคยอมทันทีพลางถอนหายใจออกมา
“เสื้อผ้านายเปียกหมดแล้วนะ…”
ท่าทางนั้นมันช่างน่าเอ็นดู มูคยอมจึงกระชับแขนพร้อมกอดให้แน่นขึ้น
“นายคงลำบากมากสินะที่ได้เจอกับไอ้สถุลพวกนั้น อีฮาจุน”
“อะไรนะ”
“ในอนาคตจะมีแต่กลีบดอกไม้โรยไว้ใต้เท้านายนะ เพราะว่าฉันจะทำให้เอง ลืมพวกไอ้ลูกหมาที่เคยพบเจอก่อนหน้านั้นเถอะ ไอ้คนแรกของนาย ไอ้คนที่ทำให้นายต้องเจ็บด้วย”
“…อือ…”
“ใช่ ฉันรู้ ที่ผ่านมาฉันก็ไม่ได้ทำดีกับนาย แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องเซ็กส์ของพวกเรามันก็เข้ากันได้ดีนี่นา ว่าไหม”
“อะ อือ ใช่”
ฮาจุนพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น ถ้าจะให้บอกออกไปอย่างสบายๆ ว่าอันที่จริงก็ไม่เคยทำดีอะไรแล้วล่ะก็ สิ่งที่มูคยอมเคยทำตัวขยะๆ ก็แย่ในระดับกองที่ทิ้งขยะเลยละ แต่อย่างไรก็ตาม ฮาจุนก็สนับสนุนคำพูดเขาด้วยความกระฉับกระเฉงอย่างน่าเอ็นดูมากขึ้น และในขณะเดียวกันความโกรธของมูคยอมที่มีต่อไอ้คนชาติหมาก็เพิ่มขึ้นตามสัดส่วน
“ใจจริงแล้วสำหรับไอ้ลูกหมาที่เป็นคนแรกของนายน่ะ แม้กระทั่งตอนนี้ฉันก็ยังอยากตามหาแล้วทำให้มันวิงวอนร้องขอโทษที่ทำให้นายต้องเจ็บอยู่เลย ถ้าเกิดว่ามันเดินๆ อยู่แล้วโชคร้ายล้มคะมำจนขาหักก็คงจะดี”
“คิมมูคยอม อย่าพูดแบบนั้นสิ! ไม่รู้หรือไงว่าพูดแล้วมันจะกลายเป็นจริงน่ะ”
ฮาจุนตกใจพลางทำหน้าเคร่งขรึมต่อว่ามูคยอม มูคยอมจึงขมวดคิ้วยิ่งกว่าเดิม
“แค่พูดถึงคนที่ผ่านมาแล้วทำไมต้องทำหน้าเคร่งขรึมขนาดนั้นด้วย ถึงอย่างนั้นแล้วนายก็ยังอยากที่จะเข้าข้างคู่นอนคนแรกอีกเหรอ”
“เข้าข้างอะไร ถ้าฉันจะเข้าข้างแล้วมีปัญหาอะไร มันไม่ใช่เรื่องที่จะไปพูดกับคนอื่นโดยไม่คิดแบบนี้นี่นา”
น้ำเสียงของฮาจุนที่ดูสับสนนั้นหนักแน่นขึ้น
“ไหนว่าจะไม่หึงกับเรื่องที่ผ่านมาไงล่ะ”
“…ไม่ได้หึง ไม่ได้หึงสักหน่อย โกรธต่างหาก”
จริงๆ นะ เขารู้ว่าอีกฝ่ายเจอผู้ชายมามากพอก่อนที่จะเจอเขา ดังนั้นมันจะมีเหตุผลอะไรกันที่เขาต้องหึงคนในอดีตที่เขาเองก็ไม่รู้จักแม้แต่ใบหน้าของคนคนนั้น เหนือสิ่งอื่นใด เขาก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะพูดถึงเรื่องราวในอดีต
แต่ว่าฮาจุนควรจะได้เจอผู้ชายที่ดีกว่านี้ ต่างกับตัวเขาที่มักจะอยู่ใช้เวลาแค่คืนสองคืนแล้วก็จบความสัมพันธ์ เขามีความสุขมากที่อีกฝ่ายบอกว่ามันพิเศษเพราะว่าเป็นครั้งแรก แต่เขาคิดว่าเขาก็คงไม่อารมณ์เสียหรอก ถ้าหากอีกฝ่ายอวดว่าคนที่เคยเจอในสมัยก่อนซื้อของที่อร่อยกว่านี้ให้ แน่นอนว่าถ้าอีกฝ่ายพูดไปแบบนั้นเขาก็ต้องหึงแน่นอน เขาพยายามที่จะแผดเผาเอาชนะพวกผู้ชายในอดีตของฮาจุน
ตอนนี้แทนที่จะอิจฉา เขากลับรู้สึกเหมือนกำลังโกรธราวกับว่าตนเองได้กลายเป็นอีฮาจุนที่มีประสบการณ์ครั้งแรกอย่างไม่เป็นธรรม ใช่แล้ว นี่มันต่างจากการหึงหวงแน่นอน!
“ไอ้คนนั้นมันหล่อกว่าฉันไหม”
“ไม่ เลิกคุยเรื่องนี้กันเถอะ”
“รวยกว่าฉันไหม”
“ไม่”
“ของมันใหญ่กว่าฉันเหรอ”
“ไม่…”
“แล้วมีส่วนไหนที่ดีกว่าฉันไหม”
“ไม่มีหรอก แล้วตอนนี้ก็เลิกคุยเรื่องนี้กันเถอะ เพราะครั้งแรกมันก็ทำแค่ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ”
พูดไม่ออกเลย ไอ้สารเลวที่ไม่ได้ดีไปกว่าเขา ทำให้ฮาจุนเสียประสบการณ์ครั้งแรกที่พิเศษไปแบบนั้น…
อีกฝ่ายบอกเขาว่าอย่าพูดเรื่องนี้มากกว่านี้อีกเลย เขาจึงไม่เอ่ยอะไรอีก แต่ข้างในใจเขาสาปแช่งไอ้คนนั้นพลางกอดเอวของฮาจุนเอาไว้ ฮาจุนมองไปที่ใบหน้าของมูคยอมนิ่งๆ และถอนหายใจออกมาเบาๆ
“นายยังคิดเรื่องนั้นอยู่ล่ะสิ”
“เปล่าสักหน่อย”
“ฉันไม่น่าเล่าให้นายฟังเลย ฉันโง่สินะที่เชื่อคำของนายที่บอกว่าแค่สงสัยก็เลยลองถามดู”
มูคยอมลังเลราวกับหาข้อแก้ตัว จากนั้นจึงยักไหล่
“เมื่อกี้ฉันสงสัยจริงๆ เลยลองถามดู แต่พอนายบอกว่าเจ็บ ฉันก็เลยโกรธน่ะ”
“…ฉันเห็นบนอินเทอร์เน็ต เขาบอกว่าปกติครั้งแรกก็ต้องเจ็บอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องโมโหหรอก”
“อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะเป็นครั้งแรก แต่ถ้าหากทำดีๆ มันก็คงไม่ถึงขั้นที่จะบอกว่าเจ็บเป็นคำแรกหรือเปล่า นายไม่จำเป็นต้องคิดในแง่ดีขนาดนั้นหรอก ไอ้สารเลวที่ทำให้ประสบการณ์ครั้งแรกของคู่นอนไม่รู้สึกอะไรเลยนอกจากรู้สึกเจ็บก็คือไอ้ลูกหมาตัวหนึ่งนั่นแหละ มันเป็นคนที่ไม่มีธุระอะไรที่ต้องได้เจอกันอีก เอาเป็นว่าด่ามันหน่อยก็แล้วกัน ถ้าขาหักมันหนักไป งั้นเอาเป็นแขน…”
มูคยอมที่กำลังจะพูดว่าถ้าแขนมันหักก็คงจะดีนั้นถูกฮาจุนเอามือปิดปากไว้อย่างรวดเร็ว ใบหน้าของฮาจุนเต็มไปด้วยความพะวักพะวนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
เป็นคนดีจนเกินไป นี่มูคยอมอ่อนไหวขนาดที่ว่าถ้าได้ด่าคนที่ไม่เคยแม้แต่จะเจอกันสักครั้งมันจะทำให้เขาอารมณ์เย็นลงเลยเหรอ
“ได้โปรดอย่าพูดแบบนั้น อย่าแม้แต่คิดด้วย”
เขาไม่สามารถตอบอะไรออกไปได้เพราะถูกปิดปากเอาไว้ มูคยอมขมวดและเลิกคิ้วเพื่อถามออกไปว่า ‘แค่ด่าก็ไม่ได้อย่างนั้นเหรอ’ ฮาจุนกลอกตาครู่หนึ่งราวกับกังวล จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นมาอย่างประหม่าเล็กน้อย
“คิมมูคยอม ฟังฉัน แล้วก็ไม่ต้องตกใจนะ”
“…”
“ก็เพราะว่าคนๆนั้น เป็นคนที่นายเองก็รู้จักยังไงละ เพราะงั้นฉันเลยไม่อยากได้ยินนายด่า”
จากคำพูดนั้นมือของมูคยอมก็คว้าข้อมือของฮาจุนเอาไว้โดยทันที
“บอกว่าเป็นคนที่ฉันรู้จักงั้นเหรอ ใคร”
หรือว่านายยูนเหรอ ไม่สิ ไม่ใช่ว่านายบอกว่าไม่มีอะไรไม่ใช่หรือไง หนึ่งในพวกที่มาเกาะแกะอยู่บ่อยๆ อย่างนั้นเหรอ หรือไม่ก็สตาฟ อย่าบอกนะว่า…โค้ชจอง
คนที่ฮาจุนเองก็รู้จักและเขาก็รู้จักมีแค่ตัวแทนทีมหรือสมาชิกทีมซิตี้โซลเท่านั้น ในบรรดาคนที่พบปะแล้วทักทายกันโดยไม่คิดอะไร อาจจะมีคนที่เขาต้องการฆ่าปะปนอยู่ในนั้นด้วยก็ได้
“รู้แค่นี้ไม่ได้เหรอ ไม่ต้องรู้หรอกว่าเป็นใคร”
“ฉันต้องรู้”
ขณะที่เอ่ยคำพูดเหล่านั้น แขนข้างหนึ่งของมูคยอมก็โอบเอวของฮาจุนแน่นขึ้น เมื่อการกอดที่นุ่มนวลเปลี่ยนไปเป็นการกอดรัดอย่างแน่นหนาราวกับถูกคุมขังไว้ ทำเอาฮาจุนหอบหายใจอย่างเร็ว
มืออีกข้างของมูคยอมเลื่อนลงไปที่แผ่นหลังของอีกฝ่าย นิ้วเรียบลื่นราวกับมัจฉาไล้ไปบนหลังอันเปียกชื้นของฮาจุน ริมฝีปากของมูคยอมที่ก้มศีรษะลงเล็กน้อยนั้นขบเข้าที่ใบหูแล้วสอดลิ้นเข้าไปด้านใน
ร่างกายของฮาจุนอ่อนแรงไปกับเสียงและการสั่นสะเทือนที่กระตุ้นโสตประสาทของตนเองโดยตรง ฮาจุนเอามือไปคล้องคอมูคยอมไว้อย่างรีบร้อน มูคยอมกระซิบข้างใบหูของฮาจุนที่กำลังครวญครางและเอนตัวพิงร่างกายของเขาอย่างไร้ซึ่งหนทางเพราะการเล้าโลมที่ได้เริ่มขึ้นอย่างกะทันหัน
“ได้โปรดบอกฉันหน่อยนะ ฉันไม่ไประรานหรอก จะรู้แค่ฉันคนเดียวและจะไม่เข้าไปถามด้วย”
“ฮื่อ งั้น ก็ไม่จำเป็น ตะ ต้องรู้ นี่นา…”
“ก็ฉันบอกว่าสงสัยยังไงละ!”
เมื่อพูดอย่างนั้น มูคยอมก็ดึงฮาจุนเข้ามากอดอย่างแนบแน่นอีกครั้ง
“อีฮาจุน ลองคิดกลับกันดู ถ้าหากพวกเราทั้งคู่ต่างก็รู้จักกับคนที่นอนกับฉันเป็นคนแรก นายจะสงสัยหรือเปล่าว่าคนคนนั้นเป็นใคร”
ดวงตาของฮาจุนสั่นเทาราวกับรู้สึกสับสนกับคำพูดนั้น มูคยอมเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้มากยิ่งขึ้น อีฮาจุนก็เป็นมนุษย์เช่นกัน ดังนั้นจึงไม่สามารถปฏิเสธคำถามนี้ได้เลยว่าตนนั้นไม่สงสัย เพราะว่าบ่อเกิดของความอยากรู้อยากเห็นก็เหมือนกับสัญชาตญาณ
“สงสัยใช่ไหมล่ะ”
“…”
“ถ้าพูดขนาดนี้แล้วยังไม่ยอมบอกเนี่ยถือว่าเป็นการทรมานเลยนะ ถ้าหากว่านายไม่บอก ฉันก็จะไม่ยอมอยู่เฉยๆ จนกว่านายจะยอมบอก”
* * *
น้ำที่ไหลหยดลงติ๋งๆ มาจากปลายผมเปียกราวกับภาพวาดล้างหมึกนั้นตกลงบนช่องว่างของเรือนร่างที่เปลือยเปล่า ฮาจุนกังวลเพราะดูเหมือนว่าโซฟาจะมีราคาแพง
ฮาจุนมองดูคราบบนโซฟาและออกแรงบนมือที่วางบนไหล่ของมูคยอม ในไม่ช้า ความกังวลเรื่องคราบน้ำที่ดึงความสนใจนั้นก็หายไปจากความรู้สึกนึกคิดของเขา
“ฮ้า อื้อ…”
เสียงครางที่ออกมาดูเหมือนกับเสียงร้องไห้ แกนกายที่ชูชันถูกนวดถูในมือของมูคยอม มันเป็นการใช้มือสำเร็จความใคร่ที่ไร้แรงกดดันเพราะอีกฝ่ายทำเพียงแค่จับมันเบาๆ แล้วรูดถูมันเท่านั้น
“ฮ้า” ลมหายใจที่พรั่งพรูออกมาจากริมฝีปากของมูคยอมกระทบใบหูของเขา และในขณะเดียวกัน นิ้วทั้งสี่ที่เพิ่งเข้ามาทำเอากลืนคำพูดในคราแรกกลับเข้าไปอย่างช้าๆในเวลาเดียวกัน กล้ามหน้าท้องเรียบแบนของฮาจุนกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรวดเร็วเพราะการเคลื่อนเข้าไปที่ไม่รีบร้อนเลยแม้แต่น้อย ไม่สิ มันค่อนข้างช้าเกินไปเลยด้วยซ้ำ
“ฮื่อ อื้อ คิมมูคยอม ตะ ตอนนี้ พอได้แล้ว…”
ครั้งหนึ่งด้านหน้า อีกครั้งหนึ่งด้านหลัง ฮาจุนได้รับการกระตุ้นที่เนิบช้าและนุ่มนวลมาหลายครั้งแล้ว ยอดถันที่เคยถูกดูดมาสักพักก็บวมขึ้นแล้ว ช่องทางด้านหลังที่เปียกชื้นตั้งแต่อยู่ในห้องน้ำก็ค่อยๆ รับนิ้วทีละนิ้ว มันคลี่บานออกมาถึงแม้ว่าจะไม่ใช้เจลหรือสารหล่อลื่นอย่างอื่นเลยก็ตาม ตอนนี้ช่องทางด้านหลังกลืนกินนิ้วยาวทั้งสี่ของมูคยอมได้โดยไม่ยาก ราวกับอวดว่าได้เข้ามาจนถึงสุดทางแล้ว
นิ้วที่เคลื่อนไปจนสุดด้านในค่อยๆ งอเข้ามา และขูดเกาด้านในอย่างไม่สาแก่ใจ มันเป็นจุดที่ปกติแล้วมูคยอมจะขยับข้อมือเร้าจนเกิดเป็นเสียงเฉอะแฉะที่ทำให้ฮาจุนหูอื้อ แต่ในวันนี้นิ้วของมูคยอมเฉียดจุดจุดนั้นไปมาหลายครั้ง แต่เขาไม่แม้แต่จะขยับมือหรือเลื่อนให้ไปโดนจุดนั้นเลยสักครั้ง
“ถ้านายสารภาพ ฉันจะหยุดโดยที่นายไม่ต้องอ้อนวอนเลย”
มูคยอมกระซิบขณะที่ลูบแกนกายขึ้นมาอย่างสั้นๆ ด้วยมืออีกครั้ง ฮาจุนชักเอวของตนเองออกไปด้านหลังและพยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัส แต่มือที่จับแน่นอยู่ระหว่างบั้นท้ายของฮาจุนยังคงไม่ไหวติง ดังนั้นมันจึงไม่มีช่องทางให้หลบหนีไปไหนได้เลยไม่ว่าจะทางด้านหน้าหรือด้านหลัง
“ฮ้า อื้อ…!”
นิ้วหัวแม่มือถูเบาๆ ที่ด้านบนของส่วนหัวที่เกิดการหลั่งน้ำหล่อลื่นออกมาก่อนการหลั่งน้ำอสุจิ และนิ้วที่อยู่ในช่องทางด้านในก็ยังคงนิ่งและไม่ขยับเขยื้อน ท้องน้อยรู้สึกชาและปวดเมื่อยอย่างหนักมาตั้งแต่เมื่อครู่นี้แล้ว แต่ก็ไม่ได้มีโอกาสปลดปล่อยความร้อนออกมาได้อย่างปกติ
ฮาจุนคงจดจ่ออยู่กับการอดทนต่อการกระตุ้นอันรุนแรงที่ไม่สามารถรับมือได้เสมอ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ฮาจุนได้รับการเล้าโลมเบาๆ เป็นเวลานาน ฮาจุนไม่รู้ว่าจะจัดการกับความสุขและความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยนี้ได้อย่างไร จึงเอาหน้าไปซบที่ไหล่ของมูคยอม แผ่นหลังและปลายนิ้วของอีกฝ่ายถูกวางพาดไว้บนไหล่ของเขา จากนั้นอีกฝ่ายก็ขมิบด้านหลังโดยไม่รู้ตัวเมื่อรู้สึกว่านิ้วหลุดออกไปจากร่างกาย
“อ๊ะ อ้าา…”
“ขืนทำแบบนี้ก็คงเสร็จสินะ”
มูคยอมที่พึมพำราวกับพูดกับตัวเองใช้มือใหญ่ทั้งสองข้างของตนเองจับบั้นท้ายแล้วกางมันออกพร้อมบีบนวด
มัน ไหล่ของฮาจุนสั่นสะท้านทุกครั้งที่ปลายนิ้วสัมผัสกับทางเข้าโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ มูคยอมเลื่อนริมฝีปากไปชิดที่ใบหูและกระซิบออกมา
“ยังไม่คิดที่จะบอกอีกเหรอ ไม่อยากเสร็จหรือไง”
“ปะ เปล่า อยาก อยากเสร็จ…. อ๊ะ ฮื่อ”
“ถ้านายยอมบอก ฉันจะทำให้นายเสร็จเอง รูของนายมันร้อนแค่ไหนกันเนี่ย ดูเหมือนว่านิ้วของฉันมันจะละลายไปหมดเลยนะ”
ฮาจุนส่ายหน้าเบาๆ ราวกับไม่อยากได้ยินคำพูดลามก อย่างไรก็ตาม มูคยอมไม่ยอมปล่อยใบหูและดึงร่างของฮาจุนเข้ามาชิดตนเองอีกขั้นหนึ่ง เมื่อบั้นท้ายสัมผัสกับขาหนีบของเขา สิ่งที่ลุกขึ้นราวกับอาวุธก็ถูไถที่บริเวณฝีเย็บ
เมื่อลำกายที่ชูโด่ขึ้นไปด้านบนอย่างแข็งทื่อเสียดสีเข้ากับบริเวณระหว่างบั้นทายอย่างลับๆ มันจึงทำให้เกิดการจินตนาการถึงการสอดแทรกที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ “หยุดแกล้งฉันได้แล้ว อีฮาจุน” มูคยอมพูดต่อราวกับบ่น
“ใคร ใคร…อ๊ะ อ้า!”
“ฉันเองก็อยากจะเสียบเข้าทางด้านหลังนายเร็วๆ เหมือนกัน ถ้าฉันกระแทกเข้าไปแล้วขยับล่ะก็ ตอนนี้นายก็คงจะสลบไปแล้ว ไม่ถึง 5 วินาทีก็คงแตกด้วยซ้ำ”
“อ้า อย่าพูดแบบนั้น….”
ฮาจุนมุดเข้าไปในอ้อมอกของมูคยอม มุมที่หลบซ่อนที่อยู่ในอ้อมกอดของเขานั้นมันจะน่ารักมากขนาดไหนกันนะ เพราะท่าทางตอนนี้มันเหมือนกระต่ายภูเขาที่มุดหัวและยื่นบั้นท้ายออกมาเลย