Half Line ข้ามเส้นนี้ไป ระวังตกหลุมรัก - ตอนที่ 117
ด้วยสรีระหรือปริมาณกล้ามเนื้อที่ต่างกัน ความแตกต่างของน้ำหนักจึงมีมากกว่าเมื่อเทียบกับส่วนสูงที่ต่างกันประมาณ 10 เซนติเมตร พอลองสวมชุดดูแล้วก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงความแตกต่างของรูปร่าง แน่นอนว่าเสื้อที่เหลือเนื้อที่เยอะเพราะรอบอกกว้างย่อมห้อยลงมาด้านล่าง เสื้อที่พอดีกับตัวมูคยอม แต่กลับห้อยลงมาคลุมต้นขาของฮาจุน
“พอใจแล้วใช่ไหม จะเปลี่ยนกลับแล้วนะ”
ถึงจะแกะป้ายเสื้อออกไปแล้ว แต่เขาก็ไม่คิดจะเอาชุดบอลตัวใหม่ที่เคยเก็บเอาไว้อย่างดีมาใส่เป็นชุดทำงานตอนเก็บของย้ายบ้าน ฮาจุนจับชายเสื้อกำลังถอดออกแต่มูคยอมจับมือเอาไว้
“ถอดให้หมดสิ”
“อะไรนะ”
“ถอดกางเกงด้วย ไม่สิ เดี๋ยวฉันถอดให้”
“ถอดกางเกงทำไม อ๊ะ ปล่อยนะ คิมมูคยอม!”
ฮาจุนตีหลังมูคยอมเบาๆ แต่อีกฝ่ายกลับไม่สนใจ มูคยอมโอบรัดเอวฮาจุนด้วยแขนข้างเดียวแล้วดึงกางเกงลงตามอำเภอใจ ร่างกายท่อนล่างขาวนวลของฮาจุนที่สวมกางเกงผ้ายืดเพื่อให้สะดวกต่อการเก็บของเผยสู่สายตาในทันที มูคยอมโยนกางเกงที่ถอดออกมาทิ้งไปลวกๆ แล้วถึงปล่อยเอวฮาจุนให้เป็นอิสระ
“จัดของอยู่ดีๆ ทำแบบนี้ทำไม”
ฮาจุนขมวดคิ้วเล็กน้อยและมองมูคยอมด้วยสีหน้าว่างเปล่า เขายังคงไม่เข้าใจจุดประสงค์ของมูคยอมเลยสักนิดเดียว มูคยอมจับไหล่ฮาจุนไว้แล้วเอียงคอซ้ายขวาราวกับกำลังมองชุดที่ดูดีอยู่พลางอุทานออกมา
“ว้าว… ฉันไม่เคยเข้าใจพวกคนที่มีอารมณ์ตอนเปลี่ยนเสื้อผ้ามาจนถึงทุกวันนี้เลย อันนั้นอ่ะ คอสเพลย์”
“คอส… อะไรนะ?”
“ไม่รู้เลยว่าอีฮาจุนตอนใส่ชุดบอลของฉันจะเซ็กซี่ขนาดนี้ เหมือนว่าตอนนี้ฉันจะเข้าใจคนพวกนั้นแล้วละ”
ฮาจุนรู้จุดประสงค์มูคยอมแล้ว แต่ก็ไม่เข้าใจอีกฝ่ายอยู่ดี
เขารู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจินตนาการภาพแบบไหนอยู่ แต่ตัวเขาไม่สูงโย่งเกินไปที่จะใส่เสื้อหลวมๆ ตัวเดียวแล้วถูกบอกว่าเซ็กซี่เหรอ ฮาจุนได้แต่สงสัยอยู่อย่างนั้น แต่แล้วความร้อนจากมูคยอมก็ค่อยๆ แผ่ซ่านมาที่ริมฝีปาก
ปลายแขนแกร่งโอบเอวและหลังฮาจุนเข้ามาจูบอย่างกะทันหัน ฮาจุนลังเลอยู่ชั่วครู่แล้วกำลังจะหันศีรษะออกเพราะรู้สึกกังวล แม้จะรู้อยู่แล้วว่าภายในบ้านมีแค่พวกเขาสองคน แต่มือของฮาจุนที่พยุงหลังเอาไว้กลับเลื่อนขึ้นมาตรงต้นคอแล้วประคองที่ท้ายทอยของเขา ศีรษะของฮาจุนถูกรั้งไว้จนแทบจะกดลงไป ส่วนริมฝีปากล่างก็ถูกมูคยอมใช้ฟันขบเม้ม
ฟันเรียบลื่นขบลงมาเบาๆ พลางบดขยี้ริมฝีปากของเขาแล้วดูดกลืนทั่วทั้งริมฝีปาก ร่างกายที่เคยเครียดเกร็งอ่อนแรงลงในทันที ฮาจุนเปิดปากรับลิ้นที่สอดเข้ามาข้างใน เขาขยับไปไหนไม่ได้และเอาแขนพาดไว้บนไหล่มูคยอมเพื่อพิงตัว
ไม่นานเสียงครางอันร้อนแรงก็ดังเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปาก
“อือ อื้ม”
พอเห็นว่าฮาจุนไม่ได้ต่อต้าน มือที่ประคองอยู่ตรงศีรษะก็ค่อยๆ เลื่อนผ่านต้นคอกับสะบักลงไปโอบรอบเอวไว้แล้วสอดเข้าไปด้านในชั้นในอย่างรวดเร็ว มือหนารีบร้อนบีบขยำกล้ามเนื้อและก้อนเนื้อบนบั้นท้ายของอีกฝ่ายอย่างจาบจ้วง
ระหว่างนั้นมูคยอมก็ผละออกมาจากริมฝีปากที่กำลังขบเม้มและดูดดุนอย่างอ้อยอิ่ง ฮาจุนพยายามดิ้นอย่างอ่อนแรงด้วยสีหน้าลำบากใจบวกกับความไม่พอใจ
“เฮ้อ… ไหนนายบอกว่าจะช่วยเก็บของ มาขัดขวางแท้ๆ”
“ถ้าวันนี้ทำไม่เสร็จค่อยเรียกคนมาก็ได้”
มูคยอมแค่ตื๊อที่จะมาเท่านั้นเอง แต่ทีแรกมันก็ไม่ใช่งานที่พวกเขาต้องทำกันสองคนอยู่แล้ว เพราะงั้นถึงจะออกนอกลู่นอกทางไปสักครู่ก็ไม่ใช่ว่าจะเก็บภายในวันนี้ไม่หมด
มูคยอมเอานิ้วเกี่ยวตรงขอบกางเกงบ็อกเซอร์และสุดท้ายก็ถอดออกไปจนหมด ขณะเดียวกันก็ผละออกจากริมฝีปากที่กำลังขบเม้มเอาไว้ เขาโอบเอวฮาจุนเอาไว้หลวมๆ แล้วทอดสายตาลงไปมองอีกฝ่ายราวกับกำลังเชยชม
ส่วนฮาจุนรู้สึกแค่ว่าตัวเองเหมือนเด็กอายุ 5 ขวบ ไม่ก็เด็กโข่งที่อยู่ในสภาพที่ท่อนบนสวมแค่เสื้อบอลตัวเดียวกับท่อนล่างที่ว่างเปล่า
มาคิดดูแล้วตอนที่มีอะไรกับมูคยอมครั้งแรกเขาก็ใส่แค่เสื้อยืดตัวเดียวแบบนี้ ตอนนั้นพวกเขาเริ่มมีอะไรกันทันที แต่ตอนนี้พอยืนอยู่ตรงข้ามกับมูคยอมที่แต่งตัวเต็มยศแล้วถูกอีกฝ่ายมองราวกับเป็นภาพที่น่าตื่นเต้นเขาก็เริ่มรู้สึกอายขึ้นมา
“จะทำอะไรก็รีบทำ เอาแต่มองอยู่ได้”
“ตามันไปเองจะให้ทำไงล่ะ”
น้ำเสียงขี้เล่นแฝงความร้อนแรง ฮาจุนหายใจรับความเร่าร้อนจากอุณหภูมิร่างกายของมูคยอมที่ทวีคูณขึ้นมากกว่าเมื่อสักครู่โดยอัตโนมัติ
แรงแขนที่โอบรัดเอวเขาไว้เพิ่มขึ้น สุดท้ายพวกเขาสองคนก็ล้มลงไปบนเตียงนอนทั้งอย่างนั้น
“เคยได้ยินว่าอาหารที่ดูน่ากินมักจะอร่อย”
ฮาจุนได้ยินอีกฝ่ายพูดกับตัวเองเบาๆ แล้วเหลือบมองไปข้างหลัง ชุดบอลหลายชุดที่มูคยอมหยิบมาไว้บนเตียงถูกทับจนยับอยู่ใต้ร่างของเขา
แม้จะรู้สึกกังวล แต่ไม่นานเขาก็ยอมแพ้ มันคือเสื้อผ้าที่เขาเก็บรักษามาอย่างดี แต่แน่นอนชุดบอลของคิมมูคยอมนั้นไม่สำคัญไปกว่าตัวคิมมูคยอมอยู่แล้ว นอกจากนั้นคิมมูคยอมยังบอกเองว่าจะเอาตัวใหม่ให้ ในเมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ เขาก็คงต้องขอให้อีกฝ่ายเซ็นลายเซ็นบนเสื้อให้ด้วย
เตียงในห้องของฮาจุน เป็นเตียงเดี่ยวธรรมดาสำหรับให้ผู้ชายหนึ่งคนสามารถนอนได้แบบสบายๆ และราคาไม่แพงเท่าเตียงที่มูคยอมใช้ แค่นอนด้วยกันเฉยๆ สองคนเสียงสปริงก็ดังเอี๊ยดอ๊าดแล้ว ฮาจุนเลยรู้สึกกังวลไปล่วงหน้าว่าเตียงจะหักระหว่างที่พวกเขามีอะไรกัน พอจะทำกันที่ห้องตัวเอง กลับไม่ได้มีแค่เรื่องสองเรื่องที่ต้องกังวล
แต่ดูเหมือนว่าจะมีแค่ฮาจุนที่รู้สึกกังวล เพราะมูคยอมนั้นประทับริมฝีปากลงบนซอกคอของเขาและดูดดุนจนเกิดเสียง อีกฝ่ายออกแรงดูดดุนมากกว่าปกติ ฮาจุนรู้สึกกังวลอยู่ครู่หนึ่งว่ามูคยอมจะทิ้งรอยเอาไว้ แต่มือของอีกฝ่ายกลับสอดเข้ามาใต้เสื้อบอลแล้วบดขยี้ตรงยอดอกเสียก่อน
ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่มูคยอมจะเข้าหาก่อน และทุกครั้งก็จะผ่อนคลายกว่าฮาจุนอยู่เสมอ แต่วันนี้อีกฝ่ายกลับเริ่มออกแรงมืออย่างดุดันตั้งแต่ตอนที่บีบนวดบั้นท้ายของเขา ฮาจุนหดไหล่แล้วส่งเสียงครางออกมาเพราะความเสียวซ่านจากอีกฝ่ายที่ใช้ปลายนิ้วบดขยี้ตุ่มไตอย่างหยาบโลนแล้วบีบเคล้นมันขึ้นมาเล็กน้อย
“ฮึก เจ็บ เบาๆ หน่อย…”
“จะบ้าตาย พอนอนตรงนี้ก็เลยได้กลิ่นนายด้วย”
ฮาจุนรู้สึกเหมือนได้กลิ่นผ้าใหม่จากชุดบอลที่กระจัดกระจายอยู่เท่านั้น จมูกของคิมมูคยอมเป็นจมูกหมาหรือยังไง
ระหว่างคิดริมฝีปากที่เคล้าคลออยู่ตรงซอกคอก็เลื่อนลงมาถึงแผ่นอกแล้ว มูคยอมดูดเลียตุ่มไตจนเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบแล้วขบกัดเนื้อบางรอบๆ ให้อีกฝ่ายรู้สึกเจ็บ
“อา อึก”
ริมฝีปากค่อยๆ เคลื่อนลงมาตามผิวหนัง คลอเคลียบนกล้ามหน้าท้องและวนเวียนอยู่รอบๆ เชิงกราน เมื่อมูคยอมลามเลียและดูดดุนไปทั่วผิวหนัง เขาก็รู้สึกแสบเล็กน้อยตรงจุดที่ลิ้นของอีกฝ่ายสัมผัสโดน แม้จะไม่หนักหน่วงแต่ก็ทำให้ความรู้สึกวาบหวามค่อยๆ ก่อตัวขึ้นและแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างกาย ดูเหมือนว่าความรู้สึกนึกคิดของเขาเองก็ค่อยๆ เลือนหายไปเหมือนกัน
อะพาร์ตเมนต์เก่าๆ ไม่ได้เก็บเสียงได้ดีขนาดนั้น ฮาจุนกังวลว่าจะส่งเสียงดังเลยปิดปากแน่นและส่งเสียงครางด้วยความทรมาน ส่วนมูคยอมยกขาของเขาที่แผ่อยู่บนเตียงขึ้นพาดไว้บนไหล่ของตัวเอง หลังจากนั้นมูคยอมก็เริ่มลามเลียและดูดเม้มต้นขาด้านในของเขาอย่างรุนแรงราวกับจะทิ้งรอยห้อเลือดเอาไว้
ร่างกายของฮาจุนกระตุกขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวเมื่อมูคยอมขบกัดตรงซอกขาด้านในใกล้กับขาหนีบเข้ามาอย่างเต็มที่ จนส้นเท้าของเขาเกือบจะเตะโดนมูคยอมอย่างแรง
“อะ อึก อย่ากัดสิ…”
“เจ็บเหรอ โทษที”
“อะ อือ ฮ้าา”
ทันทีที่เขาท้วงมูคยอมก็ยื่นลิ้นออกมาลามเลียตามรอยฟัน ความเจ็บแปรเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่านไปทันทีโดยที่เขาไม่รู้ตัว มือที่บีบเค้นอยู่ตรงต้นขาเลื่อนไปที่ด้านหลังและลูบไล้บั้นท้ายเปลือยเปล่า
นิ้วแห้งๆ ที่ไม่ได้ผ่านการทาอะไร ลูบบนปากช่องทางไปมาหลายครั้งจนช่องทางเริ่มร้อนผ่าวเหมือนกำลังจะบวมพองในอีกไม่ช้า ระหว่างที่เสียงหายใจหอบระรัวปะปนกันจนแยกไม่ออกว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร มูคยอมก็ถามขึ้นด้วยความเร่งรีบ
“ไม่มีอะไรให้ทาเหรอ”
“อา จะ จะมีได้ไง…”
ฮาจุนที่ไม่ได้เตรียมเจลหล่อลื่นเอาไว้พร้อมเหมือนกับมูคยอม หันศีรษะที่สติเลือนรางกวาดสายตามองไปรอบห้อง เขาน่าจะมีเจลนวดที่ไม่ได้เตรียมเอาไว้สำหรับมีเซ็กส์อยู่ที่ไหนสักแห่ง แต่เพราะห้องที่เขาจัดไว้อย่างกลับหัวกลับหางทำให้มองไม่เห็นว่ามันอยู่ตรงไหน
ระหว่างที่ฮาจุนกำลังสับสน มูคยอมก็ยื่นมือออกไปก่อน ขวดโลชั่นบนชั้นหนังสือแบบติดผนังที่อยู่ไม่ไกลจากเตียงที่ฮาจุนใช้ทาหลังล้างหน้าเสร็จก่อนออกไปข้างนอกในทุกๆ เช้า อยู่ในมือของมูคยอม
“ใช้อันนี้แล้วกัน”
มูคยอมขอความเห็นด้วยเหมือนกำลังพูดกับตัวเองแล้วบีบโลชั่นใส่มือ ฮาจุนไม่ชอบความรู้สึกเหนอะหนะ ดังนั้นโลชั่นที่ใช้เลยเป็นแบบเจลเนื้อบางเบา
มูคยอมหัวเราะคิกคักขณะที่ทาโลชั่นเนื้อลื่นสีขุ่นคล้ายกับเยื่อเมือกตรงร่องก้นของอีกฝ่ายจนมือเหนียวเหนอะหนะ
“เหมือนจะเสร็จแล้วเลย”
“เอาโลชั่นที่ทาหน้า อ๊ะ…!”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ นิ้วที่เปียกชุ่มก็แทรกเข้ามาด้านในช่องทางโดยไม่รีรอ ฮาจุนหายใจหอบพลางกัดฟันแน่นเพื่อเก็บเสียง อาจเพราะเพิ่งเคยทำกันที่นี่เป็นครั้งแรกเลยให้ความรู้สึกเหมือนกำลังมีเซ็กซ์ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยแม้ว่าจะเป็นห้องของตัวเองก็ตาม
ส่วนใหญ่พวกเขาจะทำกันที่บ้านของมูคยอม ไม่ก็ที่บ้านเก่าของฮาจุนที่กลายมาเป็นบ้านใหม่ของเขา ทั้งที่รู้ว่าแม่เพิ่งจะออกไป ดังนั้นคงจะยังไม่กลับมาในไม่กี่ชั่วโมงนี้ และมินคยองกับฮาคยองก็จะกลับมาเมื่อถึงเวลามื้อเย็น แต่ฮาจุนก็ยังใจเต้นตึกตัก มีแค่มูคยอมที่เอ่ยถามด้วยใบหน้าไม่สะทกสะท้าน
“ทำไมไม่มีเจลอยู่แถวเตียงล่ะ ไม่ได้ช่วยตัวเองเลยเหรอ”
“อ๊ะ มะ ไม่ได้ทำ”
ห้องนี้เป็นห้องที่คนในครอบครัวเขาเข้าออกอยู่ตลอดเวลา เพราะว่าตัวเขาเองก็เป็นมนุษย์ แน่นอนว่าต้องมีช่วยตัวเอง แต่ก็เป็นแค่การใช้มือกระตุ้นตอนอาบน้ำ ไม่เคยถึงขั้นใช้เจลและทำอย่างที่อีกฝ่ายกำลังจินตนาการอยู่
ฮาจุนหน้าแดงกับคำถามที่ตรงไปตรงมา แต่มูคยอมกลับพยักหน้าเหมือนนึกอะไรได้
“ฝีมือจากการทำคนเดียวเลยเป็นแบบนั้นเองสินะ คุณโค้ชของผม คุณต้องฝึกหน่อยนะ”
“จะฝึกไปเพื่ออะไร”
“ก็มันเซ็กซี่นี่”
มูคยอมค่อยๆ สอดนิ้วกลางเข้าไป แม้จะบอกว่าแค่นิ้วเดียว แต่รูปร่างของนิ้วซึ่งทั้งหนาและยาวกับข้อต่ออันเด่นชัดของอีกฝ่ายก็ทำให้รู้สึกตราตรึงทุกครั้งที่เคลื่อนตัวอยู่ภายในร่างกาย
การสอดใส่ครั้งแรกนั้นไม่เคยง่าย ไม่ว่าจะเป็นแก่นกายหรือว่านิ้วหนึ่งนิ้ว ฮาจุนปล่อยลมหายใจยาวๆ ออกมาโดยไม่รู้ตัวในขณะที่นิ้วเรียวสอดเข้ามาจนสุดข้อเริ่มขยับเข้าออกในช่องทางอย่างช้าๆ
“บางครั้งฉันก็นึกถึงครั้งแรกที่นายสอดนิ้วเข้าไปต่อหน้าฉัน”
ฮาจุนห่อไหล่เหมือนคนหนาวเมื่อเสียงทุ้มต่ำของมูคยอมดังขึ้นในหูราวกับเสียงสะท้อนในถ้ำ ฮาจุนรู้สึกเหมือนลมหายใจติดขัดเมื่ออีกฝ่ายทำให้หวนนึกถึงการกระทำที่ไร้ยางอายในตอนนั้น
ทันทีที่รู้สึกว่าข้อนิ้วแกร่งเริ่มคุ้นชินกับการขยับเข้าออกด้านใน มูคยอมก็เพิ่มเป็นสองนิ้วแล้วขยับหมุนวนในช่องทางอย่างอดกลั้น
ถึงแม้ว่าจะทาไปเยอะก็ตาม แต่โลชั่นก็แห้งเร็วและให้ความรู้สึกฝืดเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเจล ฮาจุนรู้สึกเจ็บนิดหน่อย แต่ความเจ็บปวดก็ถูกแทนด้วยความตื่นเต้น ร่างกายท่อนล่างมีนิ้วที่ขยับกระแทกเข้าออกจากปลายนิ้วลึกไปจนถึงข้อต่อหลังมือ ส่วนท่อนบนก็มีริมฝีปากของมูคยอมที่ขบกัดคอและหูของเขาอย่างต่อเนื่อง ฮาจุนทนไม่ไหวและส่งเสียงครางดังลอดไรฟันออกมาเบาๆ
“อื้อ ฮะ อา อึก”
“เดี๋ยวนี้ด้านหลังนายขยายออกได้เร็วมากเลย คงเพราะทำบ่อย”
มูคยอมกระแทกนิ้วเข้าไปลึกจนฝ่ามือกระทบกับบั้นท้ายราวกับจะพิสูจน์คำพูดนั้น
ฮาจุนสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่และเกร็งตัวอยู่ในอ้อมแขนของมูคยอมจากการสอดใส่ที่เหมือนการโจมตีทำให้เขาตัวสั่นและชาวาบไปทั้งตัว
“เมื่อก่อนเวลาทำสองสามวันติดกันก็บอกว่าเหนื่อย แต่เดี๋ยวนี้ไม่พูดอย่างนั้นแล้ว”
“อ๊ะ อา ตะ ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว…”
“ฉันเลยจะเป็นบ้าอยู่นี่ไง เพราะอีฮาจุนรับแก่นกายของฉันเข้าไปได้เต็มความยาวเลย”
พอนิ้วที่ตอกเข้าไปภายในขยับขึ้นลงตามอำเภอใจ เสียงเสียดสีก็ดังออกมากระตุ้นหูอย่างหยาบโลน ฮาจุนสะดุ้งตัวขึ้น เขาคาดหวังให้มูคยอมสัมผัสตรงจุดกระสันโดยไม่รู้ตัว ฮาจุนจิกปลายเท้าบนผ้าปูที่นอน มีเพียงเสียงลมหายใจพวยพุ่งออกมา
“ฮึก อือ… แฮก…!”
แต่วันนี้นิ้วที่ปกติจะกดจิ้มเข้ามาแถวๆ ต่อมลูกหมากอย่างไม่ลังเลจนทำให้เขารู้สึกคล้ายกับปวดปัสสาวะกลับกดนวดไปทั่ว แล้วถึงจะแตะโดนแต่ก็พยายามเลี่ยงจุดที่ไวต่อความรู้สึก ไม่มีทางที่มูคยอมจะหาจุดนั้นไม่เจอ แต่อีกฝ่ายจงใจหลีกเลี่ยงมัน
เพราะตั้งใจจะแกล้งเขาต่างหาก ฮาจุนกัดริมฝีปากแล้วบิดเอวด้วยความอ่อนแรงเมื่อรู้เจตนาของอีกฝ่าย ถึงจะกำลังขยับสะโพกไปตามนิ้วของอีกฝ่ายที่ควานอยู่ภายในช่องทาง แต่เขาก็ขยับไม่ได้อย่างเต็มที่เพราะความอับอายกับความต้องการอันชัดเจนของตัวเอง
“อ๊ะ ฮ้าา!”
ตอนนั้นเองที่นิ้วของมูคยอมเลื่อนไปกดโดนจุดไวสัมผัสราวกับมือพลาด ปลายเท้าของฮาจุนหงิกงอ บั้นท้ายและขาเกร็งขึ้นทันทีที่ความเสียวซ่านที่เขาเคยต้องการนั้นแล่นผ่าน ราวกับต้องการจะรั้งความรู้สึกนั้นเอาไว้
ฮาจุนรับรู้ได้ด้วยความรู้สึกภายในท้องที่เริ่มบีบรัด ผนังด้านในตอดรัดเข้ามาอย่างรวดเร็วแล้วพยายามจะรั้งนิ้วของอีกฝ่ายเอาไว้
แต่นิ้วของมูคยอมกลับเลื่อนออกไปด้านข้างเล็กน้อยแล้วเลี่ยงตรงแถวต่อมลูกหมากอีกครั้ง มูคยอมโน้มศีรษะลงมาถึงใบหูของอีกฝ่ายแล้วกระซิบขณะที่มือด้านล่างยังคงขยับต่อไป
“ฮาจุน บอกฉันหน่อยว่าตรงไหนที่นายรู้สึกดี”
“อื้อ ฮือ อะ อึก…”
“หืม นายต้องบอกฉันถึงกดถูกนะ”
“อะ อือ อึก ทั้งที่ รู้ อยู่แล้ว… จู่ๆ มาถาม อะไร…”
นิ้วมือที่เคยเติมเต็มอยู่ภายในช่องทางถอนพรวดออกมา ก่อนที่ปากทางที่ขยายออกจะหุบลงและบางอย่างที่อวบหนากว่านั้นก็แทรกเข้ามา ความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยแทรกเข้ามาทางด้านหลัง
สิ่งที่เข้ามาข้างในช่องทางขยายรอยจีบตรงปากทางออกแล้วหมุนวนไปรอบๆ ผนังด้านในราวกับจะวาดลวดลายวงกลม เอวของฮาจุนสั่นสะท้านเมื่อถูกกระตุ้นอย่างรุนแรงจากความวาบหวามตรงปากทางที่ไวต่อสัมผัส
“อา อ๊า! ฮ้า!”
“ให้ฉันทำตามใจตัวเองเลยเหรอ”
“ฮือ อื้อ อา”
“งั้นแค่ขยายตรงนี้ไปส่งๆ แล้วตอกเข้าไปเลยดีไหม”
ภายในช่องทางร้อนวูบวาบ ฮาจุนได้เรียนรู้หลายเรื่องเกี่ยวกับเซ็กซ์จากมูคยอม แต่ไม่ได้เรียนรู้วิธีอดกลั้นหรืออ้อนวอนเพื่อให้ได้รับความหฤหรรย์ เพราะเขาไม่จำเป็นที่จะต้องรอ
ฮาจุนรู้สึกอ่อนแรงเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคยและโต้ตอบอะไรไม่ได้ นิ้วโป้งที่เคยทำให้ปากทางอ้ากว้างผละออกไปแล้ว ส่วนนิ้วกลางและนิ้วนางยาวๆ ก็ถูกดันกลับเข้ามาอีกครั้ง แค่สัมผัสที่เคลื่อนผ่านเข้ามาก็ทำให้เขาเสียสติแล้ว แต่มูคยอมกลับถามขึ้นราวกับหยอกล้อในขณะที่กดนวดผนังด้านในซ้ำอยู่จุดเดียว