Half Line ข้ามเส้นนี้ไป ระวังตกหลุมรัก - ตอนที่ 133
“อื๊อ อ๊ะ พอ พอแล้ว…!”
ตอนนี้ฮาจุนถึงได้รู้ว่าผิวส่วนที่ใกล้กับแกนกายมันไวต่อความรู้สึกมากถึงขนาดนั้น
เดิมทีเขาได้ยินมาว่า เส้นขนของคนเราจะขึ้นมาตรงจุดที่จำเป็นต้องได้รับการปกป้อง ทุกครั้งที่อีกฝ่ายใช้ฟันครูดลงบนผิวบอบบางที่จำเป็นต้องได้รับการปกป้องอย่างรุนแรงและดูดดุนหนักๆ ฮาจุนจะรู้สึกเหมือนกระแสไฟฟ้าวิ่งพล่านจากกระดูกก้นกบไปตามกระดูกสันหลังจนเสียวแปลบปลาบ เอวของฮาจุนสั่นระริก และในที่สุด เขาก็พรูลมหายใจออกมาและทำท่าจะร้องไห้
“ฮึก อะ อึก…”
บริเวณหัวไหล่รู้สึกขัดตึงเพราะถูกยึดไว้ในท่าเดิมอย่างต่อเนื่องจนชูขึ้นด้านบนตลอดเวลา ฮาจุนทรมานกับสัมผัสอันหนักหน่วงและเนิ่นนานราวกับกำลังทารุณกัน พร้อมทั้งแรงกระตุ้นที่มากเกินไปซึ่งถูกมอบให้ในตอนนี้ เขาพยายามจะอดทน เพราะถ้าทำเสร็จรอบหนึ่งแล้ว มูคยอมก็น่าจะหัวเย็นลงด้วย แต่การอดทนนั้นไม่ง่ายเลย
การกระทำของมูคยอมดำเนินต่อไปอย่างไร้จุดหมายและคาดเดาไม่ได้ว่าจะเสร็จสิ้นลงเมื่อไร มีเพียงแผ่นอกที่ขยับขึ้นลง ฮาจุนกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ แต่แล้วมูคยอมก็ยกใบหน้าที่เคยมุดอยู่ตรงหว่างขาของเขาขึ้นมา อีกฝ่ายชันร่างกายท่อนบนแล้วเท้ามือลงกับเตียงเพื่อคลานตัวขึ้นมาจนมองหน้ากันได้อีกครั้ง
“…ร้องไห้เหรอ”
มือของมูคยอมลูบตรงแก้มกับขอบตา เมื่ออีกฝ่ายแสดงออกว่ารับรู้ น้ำตาก็ยิ่งไหลออกมากกว่าเดิม ฮาจุนหลุดเสียงร้องไห้ฮักๆ แต่ก็กัดฟันไว้พลางส่ายหน้า มูคยอมถามขึ้นอีกครั้ง
“เกลียดฉันหรือเปล่า”
“…ไม่เกลียด”
เมื่อเสียงตอบปฏิเสธฟังดูอู้อี้อย่างน่าอาย ฮาจุนจึงปิดปากเงียบ มูคยอมก้มหน้าลง ลากลิ้นเลียสันกรามชัดได้รูปที่เชื่อมระหว่างคางกับใบหู จากนั้นก็พูดต่อราวกับบ่นพึมพำ
“ฮาจุน นี่เป็นความลับนะ…”
“…”
“ฉันอยากให้นายอยู่แค่ที่บ้าน สถาบันเรียนภาษาก็ไม่ต้องไป สนามฝึกก็ไม่ต้องไป มหาวิทยาลัยก็ด้วย… ไม่ต้องเฉียดเข้าไปใกล้คนอื่น ไม่ต้องเจอใคร อยากให้นายอยู่กับฉันแค่คนเดียว”
มูคยอมพูดแบบนั้นแล้วก้มลงมองฮาจุน แม้อยู่ใกล้แค่ปลายจมูก แต่เพราะมีเพียงแสงไฟกับแสงสะท้อนในห้องนอนอันมืดมิด จึงมองเห็นใบหน้าของมูคยอมได้แค่รางๆ ฮาจุนอยากสบตากับอีกฝ่ายแต่ก็มองเห็นดวงตาที่มีเงาปกคลุมได้ไม่ชัดเจนนัก
ถึงอย่างนั้น ฮาจุนก็จินตนาการสีหน้าของอีกฝ่ายออก เขารู้สึกหายใจไม่ออกราวกับมีน้ำสีดำๆ ท่วมขึ้นมาจนถึงคอ
“นายคงจะอึดอัดนิดหน่อย… แต่บ้านก็กว้าง แถมยังมีสวนด้วยนี่… แล้วนายก็ออกไปนอกบ้านกับฉันเป็นบางครั้งได้…”
“…ทำไมล่ะ”
มูคยอมไม่ตอบเอาแต่เงียบ รู้สึกได้ถึงสายตาที่สบกันในความมืดมิด ฮาจุนจึงถามอีกครั้ง
“นายไม่เชื่อใจฉันเหรอ”
ฮาจุนไม่เคยเสียดายเวลาสิบปีที่ใช้ไปกับรักข้างเดียวโดยไม่เคยคบหาใครเป็นคนรักอย่างที่ใครเขาพูดๆ กัน ในช่วงที่กักเก็บอีกฝ่ายไว้ในใจโดยไม่ให้คนอื่นรู้ แม้พูดไม่ได้ว่ามีความสุข แต่ก็ไม่ใช่ช่วงเวลาที่รู้สึกว่าโชคร้ายเลยแม้แต่นิดเดียว กระทั่งในตอนที่มูคยอมจดจำมนุษย์ที่ชื่อว่าอีฮาจุนไม่ได้ เขาก็ยังคงมีมูคยอมเพียงคนเดียวเสมอมา
ตัวเขาจะไม่เชื่อใจคิมมูคยอมที่เคยเป็นคนเจ้าสำราญผู้เลื่องชื่อมาก่อนก็ไม่แปลก แต่เหตุผลที่มูคยอมไม่ไว้วางใจเขาถึงขนาดนี้คืออะไรกัน
ต่อให้ไม่ใช่มาร์โค ถ้ามีใครคนไหนเข้ามา เขาก็มั่นใจว่าตัวเองจะไม่เปลี่ยน เขาไม่เคยปันใจให้คนอื่นเลยสักครั้งด้วยซ้ำ แม้แต่เศษเสี้ยวเล็กๆ เท่าคลื่นน้ำในบ่อเวลาแมลงตัวจ้อยแหวกว่ายก็ยังไม่เคย จนตัวเองยังรู้สึกอึดอัด
“ไม่เชื่อใจคนอื่นต่างหาก”
มูคยอมตอบเสียงห้วน อีกฝ่ายเงียบไปครู่หนึ่งแล้วหัวเราะอย่างหม่นหมอง เหมือนเงามืดที่ทาบทับอยู่บนพื้น
“อีกอย่าง… คิมมูคยอมที่นายเคยชอบมาสิบปีน่ะ เป็นคนละแบบกับฉันไม่ใช่เหรอ”
“…”
“คิมมูคยอมที่อีฮาจุนชอบ ทั้งดูดี กล้าหาญ แล้วก็ไม่น่าหงุดหงิดแบบนี้ด้วย… ตอนกลางวันเตะบอลทำคะแนนอย่างเท่ ส่วนตอนกลางคืนก็ไปเจอผู้หญิงสวยๆ น่าจะเป็นผู้ชายยอดเยี่ยมแบบนั้นที่ใช้ชีวิตไปตามใจต้องการโดยไม่หวาดกลัวอะไรเลยสักอย่าง ใช่ไหมล่ะ”
“นายพูด…”
ความรู้สึกที่คล้ายคลึงกับความโมโหกำลังจะเดือดพล่านขึ้นมา แต่มือหนาและใหญ่ของอีกฝ่ายก็เลื่อนมาปิดปากไว้ มูคยอมถอนหายใจแล้วพูดต่อไปเรื่อย
“เพราะอย่างนั้น ถ้ามีคนที่ดีกว่าคิมมูคยอมปรากฏตัวขึ้นมา ใจของนายจะเปลี่ยนไปหรือเปล่า… พูดตามตรงว่าฉันไม่มั่นใจเลย”
ฮาจุนเพียงแค่พรูลมออกจมูกมากระทบฝ่ามือของอีกฝ่ายแทนการโต้เถียง มูคยอมอยู่ในท่านั้นพักหนึ่ง จนลมหายใจของฮาจุนที่เคยถี่กระชั้น กลับมาสม่ำเสมอขึ้น อีกฝ่ายจึงค่อยๆ ปล่อยมือออกจากปากของเขา
ถึงแม้ว่าปากจะเป็นอิสระแล้ว ฮาจุนก็ยังไม่พูดอะไรออกมาสักคำเดียว ทำได้แค่เพ่งมองใบหน้าที่เศร้าสร้อยของมูคยอมเพียงเท่านั้น มูคยอมแหวกเสื้อคลุมที่สวมอยู่แล้วดึงเชือกผูกเอวที่มัดไว้หลวมๆ ให้หลุดออก
“ได้โปรด…..อย่ามองด้วยสายตาแบบนั้น”
อีกฝ่ายพูดคำที่คล้ายคลึงกับเมื่อก่อนหน้านี้เป็นคำสุดท้าย แล้วอะไรนุ่มๆ ก็ถูกวางทับลงบนดวงตา ในตอนที่ฮาจุนตระหนักได้ว่ามันคือเชือกผูกเอวซึ่งถูกดึงออกมาจากชุดคลุมที่มูคยอมสวมใส่ ปมเชือกก็ถูกมัดไว้อย่างแน่นหนาตรงด้านหลังศีรษะเสียแล้ว
ดวงไฟเปิดสว่างขึ้นแล้วก็จริง แต่ฮาจุนกลับถูกกักขังไว้ในความมืดมิดอีกครั้ง แม้รู้ว่าไม่มีประโยชน์ แต่เขาก็ยังคงเขย่าแขนจนเสียงโลหะดัง จากนั้นฮาจุนก็ได้ยินเสียงเปิดปิดลิ้นชัก ไม่นาน เขาก็สัมผัสได้ถึงเจลหล่อลื่นที่ทำให้ด้านหลังของเขาเปียกชุ่ม
“อ๊ะ…”
อุณหภูมิภายในห้องน่าจะเท่าเดิม แต่ฮาจุนกลับรู้สึกว่าเจลมันเย็นกว่าปกติ เพราะอย่างนั้นเอวของเขาจึงเด้งขึ้นเหนือผ้าปูเตียง ร่างกายของฮาจุนเริ่มร้อนรุ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อครู่นี้เพราะสัมผัสอันต่อเนื่องและยาวนานของอีกฝ่าย เมื่อนิ้วลื่นๆ คลำตรงช่องทางด้านหลัง ความเสียวสยิวก็ตีรวนขึ้นมาจนขนลุกเกรียวในทันที
ฮาจุนอยากขยับ ถึงแม้ว่าตอนมีเซ็กส์จะไม่ต้องใช้มือหรือแขนของเขาก็จริง แต่ไม่ว่าจะเป็นการจิกมือกับผ้าปูที่นอน การกอดหมอน หรือการกอดรั้งไหล่กับลำคอของมูคยอม ตอนนี้เขาต้องการทำการเคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่มีความหมายพวกนั้นอย่างรุนแรง
“คิมมูคยอม ปล่อยมือฉันออกหน่อย”
ถ้าเป็นไปได้ ฮาจุนก็ตั้งใจจะรอจนกว่าอีกฝ่ายจะปลดให้ก่อน แต่เขาทนไม่ไหวจึงพูดแบบนี้ออกมา ทว่ามูคยอมกลับใช้เจลทำให้ด้านหลังของเขาเปียกแฉะแทนคำตอบแล้วสอดนิ้วลึกเข้าไปด้านในทันที
ฝ่ามืออัดกระแทกกับพวงเนื้อและผิวข้างใต้แกนกาย ความเจ็บแสบแผ่ซ่านขึ้นมาถึงท้อง
“อื๊อ…!”
มูคยอมชอบใส่นิ้วเข้ามาในด้านหลังของเขา ตอนแรก อีกฝ่ายทำแบบนี้เพื่อขยายปากช่องทางและโพรงเนื้อด้านในก่อนสอดใส่ แต่ช่วงหลังมานี้ ฮาจุนรู้ว่ามูคยอมสนุกกับการทำแบบนั้น
แต่ในตอนนี้ มูคยอมไม่ได้กำลังรู้สึกสนุกเลย อีกฝ่ายกำลังกดสอดช่องทางด้านหลังของเขาด้วยสัมผัสที่ทำเพื่อช่วยให้สอดใส่ของจริงเขาไปได้เท่านั้น ทั้งที่ไม่ได้ทำแบบนี้มานานแล้ว
เจลหล่อลื่นชุ่มมากพอ และร่างกายก็ร้อนรุ่มขึ้นจนไม่รู้สึกเจ็บ แต่ฮาจุนก็ต้องกัดฟันเพราะความรู้สึกขัดแย้งถึงขีดสุดที่ต่างกับตอนปกติ สัมผัสที่เหมือนกับเล็บและข้อนิ้วแข็งๆ วันนี้มันแตกต่างออกไปเป็นอย่างมาก
ช่วงเวลาที่มักจะยาวต่อเนื่องไปหลายสิบนาที ตอนนี้กลับจบลงอย่างรวดเร็วกว่าที่เคย ฮาจุนรู้สึกได้ท่ามกลางความมืด ว่ามือใหญ่ช้อนตรงข้อพับเข่าแล้วจับให้ขาแยกออกจากกัน มูคยอมแทรกตัวเข้ามาตรงกลางโคนขาเกร็งแน่นที่ถูกจับอ้ากว้าง แกนกายที่ผงาดจนแข็งขืน เสียดแทงเข้ามาตรงกลางบั้นท้ายเพื่อพยายามที่จะสอดใส่
“ฮู่ว ฮ้า…!”
ไหล่ของเขาสั่น ฮาจุนรู้สึกได้ถึงทุกอย่างมากเกินไปจนประหลาดเพราะตามองไม่เห็นอะไรเลย
แน่นอนว่ามูคยอมตัวสูงกว่าเขา แต่ถ้าเหลือบตาขึ้นมองเพียงนิดเดียวก็จะสามารถสบตากับอีกฝ่ายได้ ไหล่กับแผ่นอกของอีกฝ่ายกว้างและหนา แผ่นหลังเต็มไปด้วยมัดกล้ามราวกับแผนที่แสดงแนวเทือกเขา กล้ามเนื้อหลังและกล้ามเนื้อบริเวณซี่โครงแน่นหนา หน้าท้องกับเอวโค้งเว้าไปด้วยมัดกล้ามใหญ่และเล็ก ขาแข็งแกร่งราวก้อนหินที่ไม่มีความรู้สึกนุ่มหยุ่นเลยแม้ใช้นิ้วกด
ฮาจุนเห็นหลายรอบและสัมผัสมันมาแล้วหลายครั้งจึงนึกภาพออกแม้ถูกปิดตา แต่ถึงแม้ว่าจะอยู่ต่อหน้าร่างกายแบบนั้นของอีกฝ่าย ฮาจุนก็ไม่เคยรู้สึกเหมือนตัวเองตัวเล็กเลยสักครั้งเดียว
ถึงแม้จะคิดว่ามูคยอมคงไม่กักตัวเขาไว้แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ แต่ความรู้สึกกระวนกระวายว่าอาจเป็นแบบนั้นกลับเกิดขึ้นเสี้ยวหนึ่งในใจ ทำให้ร่างกายของฮาจุนถดหนีอยู่เรื่อย ปากช่องทางที่ขยายออกมากพอแล้ว พลันหุบลงก่อนแกนกายจะเข้ามาได้อย่างเต็มที่
ฮาจุนไม่ได้รู้สึกไม่อยากมีเซ็กส์กับมูคยอม ถึงแม้จะเป็นเซ็กส์แนวนี้ก็ตาม แต่ไม่รู้ทำไม ปลายเท้าของเขาถึงถีบผ้าปูเตียงและตั้งใจจะหลีกหนีการสอดใส่ราวกับเป็นสัญชาตญาณ ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกว่ามือใหญ่ของอีกฝ่ายยึดกระดูกเชิงกรานของเขาไว้แน่น
“เฮือก ฮึก!”
จากนั้น ท่อนเนื้อที่รู้สึกได้ถึงขนาดอันใหญ่โตก็สอดเข้ามาด้านในราวกับตอกเข้ามาอย่างแรง
ฮาจุนใจหล่นฮวบพร้อมทั้งรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าโพรงเนื้อที่ยังแห้งเหือดถูกบังคับให้เปิดออก บริเวณเชิงกราน ก้น และต้นขาเกิดอาการกระตุกเกร็งและตัวสั่นเทิ้ม ไม่ใช่เพราะรู้สึกดี แต่ร่างกายของฮาจุนกำลังเกร็งเครียดเกินขีดจำกัด
ริมฝีปากของเขาสั่นระริก อยากบอกว่าทำไม่ไหว หรือไม่ก็เหนื่อย หรือไม่ก็บอกว่าเจ็บ รู้สึกว่าต้องพูดอะไรสักอย่างที่พอจะหยุดยั้งมูคยอมได้ แต่แม้กระทั่งเสียงของเขาก็ยังถูกปิดกั้นเพราะแรงกระเทือนจากการกดตัวสอดลึกอย่างหุนหัน นอกเหนือจากเสียงหายใจถี่เร็วและหอบรัวก็ไม่มีเสียงอื่นใดดังขึ้นมา
เมื่อร่างกายตึงเครียด ผนังด้านในก็บีบหดเข้ามาแน่นเช่นกัน เขาได้ยินเสียงมูคยอมผ่อนลมหายใจยาว
“ผ่อนคลายหน่อยสิ”
มูคยอมฝังร่างเข้ามาในตัวเขาราวกับเสาเข็มตามที่อีกฝ่ายเคยพูดครั้งหนึ่ง จากนั้นก็ขยับโยกเอวราวกับเร่งเร้า ทุกครั้งที่มูคยอมขยับตัว ห่วงเหล็กที่คล้องอยู่กับหัวเตียงก็กวัดแกว่งเสียงดังตามไปด้วย
เสียงที่ไม่นุ่มนวลนั้นทำให้ทั่วทั้งร่างสะท้าน ตัวของฮาจุนสั่นเกร็งอยู่ตลอดจึงไม่มีทางที่เขาจะผ่อนคลายลงได้
“บ้าฉิบ…”
มูคยอมสบถออกมาเบาๆ ด้วยเสียงแหบพร่า ถ้าอีกฝ่ายอารมณ์พลุ่งพล่านหรือใจร้อนขึ้นบนเตียงก็มักจะสบถแบบนี้ออกมาเป็นครั้งคราวเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้
จนถึงตอนนี้ ฮาจุนไม่เคยใส่ใจกับคำพูดหยาบคายแบบนี้ของมูคยอมเท่าไรนัก แต่คงเพราะสถานการณ์ กระทั่งคำพูดนั้นก็ยังทำให้เขารู้สึกถูกขู่เข็ญ ร่างกายของฮาจุนเกร็งแข็งยิ่งขึ้นกว่าเดิม
“อื๊อ อึก…”
เหงื่อไคลไหลหยดพร้อมด้วยเสียงครวญคราง แต่แล้วแกนกายที่เสียบลึกราวกับจะฝังรากลงด้านในก็ถูกถอนออกไปอย่างรวดเร็ว ฮาจุนรู้สึกราวกับร่างกายถูกทะลวงเป็นรูกลวงขึ้นมาชั่วขณะ ในขณะที่เขาสูดหายใจอย่างร้อนรนราวกับตั้งใจจะรีบเติมเต็มส่วนที่ว่างโล่งนั้น มือใหญ่ก็ลูบคลำไปตามร่างกายตามอำเภอใจ
ฝ่ามือแข็งกระด้างฟอนเฟ้นลงบนผิวที่ไวต่อความรู้สึก จากนั้นก็ทั้งบีบทั้งบิดยอดอกบวมเต่งเพราะถูกขบกัดและดูดดึงอยู่พักใหญ่เมื่อครู่นี้ สัมผัสด้วยความใจร้อนเพียงแต่สร้างความทรมานให้เขาเท่านั้น ฮาจุนส่ายหน้าพร้อมกับส่งเสียงครวญครางปนสะอึกสะอื้นออกมา
“อ๊า อึก เจ็บ เจ็บ…!”
เขาได้ยินเสียงถอนหายใจสั้นๆ แทนคำตอบ มือใหญ่ดันร่างกาย ทำท่าจะพลิกตัวเขา แล้วฮาจุนก็กลายมาอยู่ในท่าคว่ำตัวลง
มือที่เคยถูกล็อคเรียงไว้ข้างกัน ถูกจับไขว้ ส่วนข้อมือก็ถูกจับวางซ้อนทับกันไว้ วงล้อกุญแจมือที่ทั้งเย็นและแข็งกระทบกันทำให้เกิดเสียงดังแกร๊ง ฮาจุนแนบคางลงกับหมอนพลางหายใจเสียงดัง แล้วฟันแข็งๆ ก็ครูดเขี่ยบนบริเวณกระดูกก้นกบของเขา ฮาจุนส่ายเอวหนีด้วยความตกใจกลัว
“ฮึก ไม่เอา! อย่าทำ…”
ฮาจุนอ่อนไหวมากไม่ว่ามูคยอมจะทำอะไรก็ตาม เขาเหนี่ยวข้อมือที่ถูกล็อกไว้แล้วชันเข่าเพื่อยกร่างกายท่อนล่างขึ้นไป แต่ต่อให้เขาหนี ร่างกายของเขาก็ยังถูกกักขังไว้อยู่ดี และต่อให้เตียงกว้างแค่ไหน เขาก็ยังคงอยู่บนเตียง มือของมูคยอมจับข้อพับเข่าที่ตั้งขึ้นแล้วกดมันลงอย่างรวดเร็ว เมื่ออีกฝ่ายทำแบบนั้น ฮาจุนจึงขยับเขยื้อนไปไหนได้เลยแม้แต่น้อยเพราะถูกยึดไว้ทั้งมือและขา
ริมฝีปากของมูคยอมฝังลงตรงปากช่องทางของเขาราวกับบดเบียดริมฝีปากจนเกิดเสียงดังจุ๊บจั๊บ การกระทำที่จงใจทำให้เกิดเสียงดังอย่างชัดเจน ทำให้ใบหน้าของฮาจุนร้อนวูบวาบ
“อ๊า ขอร้อง ฉันขอร้อง! อย่าทำแบบนั้น ไม่เอา ไม่… ฮึก อื๊อ!”
เดิมทีมันเป็นการกระทำที่เขาไม่ชอบเพราะรู้สึกขัดเขินอยู่แล้ว ในเวลาแบบนี้ก็ยิ่งไม่ชอบเข้าไปใหญ่
ถึงแม้ว่าจะถูกสอดใส่เป็นเวลาสั้นๆ แล้ว แต่ปากช่องทางก็หดแคบลงเพราะความเครียดเกร็งจนกลับไปเป็นเหมือนตอนแรก ก้อนเนื้อเปียกชื้นสัมผัสกับปากทางรัก ลิ้นของอีกฝ่ายร้อนกว่าปกติ และฮาจุนรู้สึกได้ถึงความสากราวกับปุ่มบนผิวลิ้นตั้งชันขึ้นมา แต่นั่นก็เป็นไปไม่ได้ น่าจะเป็นเพียงเพราะประสาทสัมผัสของร่างกายอ่อนไหวขึ้นกว่าเดิมด้วยความตึงเครียดเท่านั้น
ลิ้นของมูคยอมลากเลียปากช่องทางสั้นๆ เบาๆ เหมือนเวลาแมวเลียฝ่ามือ สัมผัสนั้นทำให้ฮาจุนขนลุกเกรียวตั้งแต่หัวจรดเท้า ฮาจุนสั่นระริกตั้งแต่ตรงข้อเท้า ปลายเท้าของเขาขดงอ แม้รู้ว่ามันไม่มีประโยชน์ แต่ฮาจุนก็ดึงข้อมือลงมาอยู่เรื่อยเพื่อที่จะยกตัวขึ้นไป
“อย่าเอาแต่ดึงข้อมือลงมา… ทำแบบนั้นเดี๋ยวเจ็บนะ”
มูคยอมโพล่งขึ้นราวกับกล่าวเตือน จากนั้นก็ฝังใบหน้าลงตรงกลางบั้นท้ายแล้วกดริมฝีปากให้แนบชิดอย่างลึกซึ้ง รู้สึกได้ถึงลมหายใจจากจมูกของอีกฝ่ายตรงแถวๆ ก้นกบ
เมื่อลิ้นแลบยาวออกมาสัมผัสและบดบี้ปากทางรัก ฮาจุนก็ร้อนรุ่มขึ้นทันทีราวกับมีไฟแผดเผาทั้งร่างกาย ใบหน้า รวมไปถึงอวัยวะภายใน
“…ฮื้อ! ฮึก ฮ้า พอ พอแล้ว… อ๊าาา!”
มูคยอมมอบความร้อนรุ่มให้ร่างกายที่สั่นกลัวแล้วบังคับให้มันผ่อนคลาย ทั้งความตึงเครียดและความหวาดผวา ไม่สามารถเอาชนะสัมผัสจากก้อนเนื้อนุ่มหยุ่นที่ล่วงล้ำเข้ามาทางด้านหลังจนแทบคลั่งได้ และก่อเกิดเป็นความสับสน
ประสาทสัมผัสและประสาทรับรู้ทั่วทั้งร่างที่ลุกฮือขึ้นมา ไม่สามารถทนรับความรู้สึกถูกลูบไล้นี้ได้ ลิ้นของอีกฝ่ายกำลังกวาดเลียกระทั่งความรู้สึกกระสับกระส่ายออกไป “อ๊าาา อ๊ะ” เสียงครางหวิวปะปนกับเสียงสะอื้นไห้พรั่งพรูออกมาจากปากที่ปิดไม่ลงอย่างต่อเนื่อง
สายโซ่กุญแจมือที่ขอบเขตสั้นลงกว่าเมื่อครู่เพราะบิดไปแล้วครั้งหนึ่งเนื่องจากพลิกตัวคว่ำลง รั้งข้อมือที่ถูกไขว้เป็นกากบาทให้ใกล้กับหัวเตียงยิ่งขึ้น มือของฮาจุนแทบจะชิดกับหัวเตียง ทั้งที่ระยะห่างเพียงไม่กี่เซนติเมตรลดน้อยลงเท่านั้น แต่เขากลับรู้สึกเหมือนถูกจองจำอย่างแน่นหนากว่าเมื่อครู่ ความปรารถนาที่จะหนีจึงเบาบางลงไปด้วย
เมื่อฮาจุนเลิกล้มที่จะคลานไปข้างหน้ามากกว่านี้ มือที่เคยกดลงตรงท้องน่องด้านหลังหัวเข่าจึงผละออกไป มือใหญ่เลิกยึดขาอีกฝ่ายไว้แล้วจับก้นทั้งสองข้างแหวกออกให้รูรักปรากฏเห็นชัดยิ่งขึ้น
ฮาจุนส่ายเอวเพื่อที่จะสะบัดมือของอีกฝ่ายให้หลุดออกโดยอัตโนมัติ แต่ก็เปล่าประโยชน์ ลิ้นเปียกชื้นลากเลียยาวๆ ลงบนปากทางที่เผยให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่า
“อ๊าาา! ฮ้า! อา…! ฮึกก อื๊อออ…!”
ในขณะที่ครวญครางออกมาอย่างไม่มีสติ ไม่นานน้ำตาก็ไหลซึมลงมาบนแก้มที่ซุกไว้กับหมอน ร่างกายของฮาจุนดิ้นพล่านโดยอัตโนมัติทำให้โลหะกระทบกันเสียงดัง แต่ตอนนี้ กระทั่งเสียงนั้นก็ไม่เข้าหูของเขาอีกต่อไป
เมื่อมือถูกยึดไว้และการมองเห็นถูกปิดกั้น ประสาทสัมผัสก็ว่องไวขึ้นแม้ถูกกระตุ้นเพียงจุดเดียว ราวกับในร่างมีปลาตัวจิ๋วแตกฝูงแล้วแหวกว่ายอย่างรวดเร็ว ความหฤหรรษ์ที่แผ่ลามเข้ามาในหัว ทำให้ความนึกคิดของฮาจุนหยุดนิ่ง
ลิ้นที่เคยกวาดเลียด้านหลังอยู่พักใหญ่หยุดเคลื่อนไหว แล้วคราวนี้ ความรู้สึกถูกดูดดุนก็ถาโถมเข้ามา เนื้อเยื่อบอบบางบริเวณปากช่องทางที่ไวต่อความรู้สึกสั่นเทิ้ม และสะเทือนจนถึงในท้องอย่างควบคุมไม่อยู่ ความหวาดกลัวที่ปลุกเร้าอารมณ์เพราะรู้สึกราวกับเนื้อด้านในจะปลิ้นออกมาด้านนอก และความรู้สึกที่ส่วนลึกด้านในสั่นระริกอย่างประหลาด โหมซัดเข้ามาในหัว
“อ๊า อ๊า อ๊า…!”
ปลายเท้าของฮาจุนถีบไถลไปบนเตียงครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับจะยันเท้าขึ้นทั้งที่อยู่ในท่าคว่ำหน้าลง เอวกับแผ่นหลังสั่นกระตุกไม่หยุด ก้นก็แข็งเกร็ง เมื่อมือของมูคยอมซึ่งสัมผัสอยู่บนสะโพก ไถลลงไปด้านหน้าเพื่อลูบไล้ส่วนอ่อนไหวที่ตื่นตัวแล้วขึ้นลง เสียงร้องสั้นๆ ก็ระเบิดออกมาอีกครั้ง
เหงื่อผุดพรายออกมาบนผิวขาวนุ่มลื่น ร่างกายที่สั่นระรัวทำให้นึกสภาพเมื่อครู่ที่เคยเกร็งเครียดราวกับผ้าติดกาวไม่ออกเลย