Half Line ข้ามเส้นนี้ไป ระวังตกหลุมรัก - ตอนที่ 50
“อ๊ะ!”
“ทำไมนายถึงอยู่เฉยล่ะ ปล่อยออกมาจริงๆ ได้ยังไง”
คำพูดบ่นราวกับไม่อยากจะเชื่อพรั่งพรูออกมาระหว่างที่ฮาจุนยังคงทำท่าจะร้องไห้ แก่นกายของมูคยอมก็หลุดออกมาจากกายของเขา
“…”
ฮาจุนจึงร้องไห้สูดน้ำมูกพร้อมกับเงยหน้าขึ้น ตอนนี้มูคยอมกำลังยิ้มอย่างขมขื่น ฮาจุนรีบลดสายตาลงเพราะดูเหมือนว่าสีหน้าแบบนั้นจะเป็นการสมเพชตัวเขา ฉี่ออกมาระหว่างมีเซ็กส์เนี่ยนะ ไม่ใช่เด็กห้าหกขวบสักหน่อย คิดเองยังเหลือเชื่อจริงๆ
ทั้งหัวใจที่แห้งเหี่ยวเพราะกลัวว่ามูคยอมจะโมโห ทั้งความกังวลที่กลัวว่าแชฮุนจะจับได้ ทั้งการที่เขากังวลและเริ่มร้องไห้เพราะเรื่องนั้น สลายหายไปจากความทรงจำเหมือนเรื่องที่ผ่านพ้นไป พฤติกรรมบ๊องๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนอย่างการฉี่ออกมาระหว่างมีเซ็กส์ ได้กลายเป็นความจริงที่ไม่สามารถลบออกไปได้ระหว่างมูคยอมและเขา
“ปล่อยฉันได้แล้ว…”
พอรวบรวมความกล้าอ้อนวอนออกไปด้วยเสียงอันไร้เรี่ยวแรง มูคยอมก็กลับกอดเอวเอาไว้แน่นกว่าเดิม
“ทำไมล่ะ อายเหรอ”
เขาไม่มีแรงที่จะตอบจึงสูดน้ำมูกเบาๆ มูคยอมพลิกตัวฮาจุนโดยที่ยังกอดเอาไว้ แล้วพาเดินไปเหมือนกับคนที่วางเด็กน้อยเอาไว้บนหลังเท้าของตัวเองแล้วเดินไปทีละก้าว
ทั้งสองยังคงยืนอยู่ใต้ฝักบัวขนาดใหญ่ที่กำลังปล่อยน้ำออกมาในพื้นที่ที่ไม่มีผู้คนอยู่ น้ำที่ถูกปล่อยออกมาจากฝักบัวกลมๆ ขนาดใหญ่ทำให้ร่างกายของทั้งสองเปียกไปพร้อมกัน ถึงน้ำจะอุ่นจนรู้สึกได้ถึงความอุ่นที่เหมาะสมจนรู้สึกดี แต่ฮาจุนก็ยังอดที่จะอายไม่ได้ จึงซบหน้าลงบนไหล่ของมูคยอมและไม่ยอมสบตากับอีกฝ่าย
เหมือนกับเทคนิคการสวมกอดของศิลปะการต่อสู้ ยืนประกบตัวเอาไว้เพื่อป้องกันการโจมตีจะได้ไม่เกิดช่องว่างที่จะมาทำร้าย แต่รูปแบบการต่อสู้ที่มูคยอมใช้กับฮาจุน ไม่ใช่หมัดอันแข็งแกร่งหรือขาที่มีพลังการเตะอันน่ากลัว แต่มักจะเป็นปากของเขาอยู่เสมอ เขาจึงท้อแท้อยู่ในใจและได้แต่รอเพราะไม่รู้ว่าจะโดนแกล้งอะไรอีก แต่มูคยอมก็ไม่พูดอะไรออกมาเลย อีกฝ่ายกอดฮาจุนไปสักพักราวกับตั้งใจจะให้ร่างกายเปียกน้ำ แล้วก็ให้เขานั่งลงที่ขอบอ่างอาบน้ำเท่านั้น
จากนั้นก็บีบแชมพูลงบนมือ ฮาจุนเหม่อมองการกระทำของอีกฝ่าย แต่แล้วมูคยอมก็ยื่นมือมาหาฮาจุนและเริ่มสระผม ฮาจุนสะดุ้งตกใจเพราะความใจดีที่ไม่ทันตั้งตัว เขารู้สึกจั๊กจี้เมื่อปลายนิ้วถูลงไปบนหนังศีรษะ ฮาจุนถดหัวไปข้างหลังและพูดออกมา
“ฉัน”
“เงียบสักทีเถอะน่า”
อีกฝ่ายพูดออกมาแบบนั้น ถึงมือที่สระผมให้ก็ตั้งใจจะดูแลเป็นอย่างดี แต่ก็ไร้ฝีมือเหลือเกิน ถึงฮาจุนจะอยากให้ถูแชมพูไปที่หลังศีรษะฝั่งซ้ายอีกหน่อยแต่ก็พูดออกไปไม่ได้ ตอนที่ล้างน้ำก็อยากจะล้างตรงหน้าผากอีกสักหน่อย แต่ก็พูดออกไปไม่ได้เหมือนกัน ด้วยความที่กลัวว่าฟองแชมพูที่ไหลลงมาบนหน้าจะเข้าตาจึงหลับตาปี๋ และรอจนกว่ามูคยอมจะถูศีรษะของเขาตามอำเภอใจจนเสร็จ แต่ถึงจะสระผมเสร็จแล้ว มูคยอมก็ยังฉีดน้ำและถูสบู่ไปตามส่วนต่างๆ ทั่วร่างกาย ด้วยความที่อีกฝ่ายใช้น้ำล้างออกอีกครั้ง ฟองที่ยังหลงเหลืออยู่จึงถูกชำระล้างออกไปจนหมด
“เสร็จแล้ว ออกไปก่อนเลย”
ฮาจุนที่ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ อีกฝ่ายถึงทำแบบนี้ได้แต่กะพริบตาที่แดงขึ้นมาเท่านั้น แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่ส่ายหน้า
“…ฉันจะอาบน้ำก่อนแล้วค่อยออกไป นายไปจัดการให้เรียบร้อยก่อนแล้วออกไปเลย”
“ทำไมล่ะ ผมก็สระแล้ว ทำความสะอาดตัวแล้วไม่ใช่เหรอ”
ฮาจุนกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ วันนี้จะต้องขายหน้าต่อหน้าคิมมูคยอมกี่ครั้งกันนะ เขาแกล้งทำสีหน้าเรียบเฉยเหมือนไม่รู้สึกอะไรให้ได้มากที่สุดและอธิบายออกไป
“ฉันต้องล้างข้างในด้วย”
“ข้างใน?”
“มันอยู่ข้างในไงละ น้ำอสุจิ…”
มูคยอมขมวดคิ้วเข้าหากัน ฮาจุนที่พูดในสิ่งที่ไม่อยากพูดออกไปทนความละอายใจที่สะสมเอาไว้ไม่ไหวจึงหลบสายตาอีกฝ่าย
“ต้องล้างออกด้วยเหรอ มันไม่ได้ออกมาเองเหรอ”
“… ฉันจะล้างออก นายออกไปก่อนเลย”
“ตอบฉันมาสิ”
“ถ้าไม่ล้างออกเดี๋ยวก็จะปวดท้องไงละ”
ฮาจุนที่ยอมแพ้และอธิบายออกไปทั้งหมดในคราวเดียวสบตากับมูคยอมด้วยสีหน้าที่ยืนยันว่า ‘เข้าใจแล้วใช่ไหม’
“เพราะฉะนั้น นายอาบน้ำก่อนแล้วออกไปเลย”
มูคยอมยิ่งขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม จิตใจที่สงบลงกลับมาว้าวุ่นอีกครั้งเพราะสีหน้าแบบนั้น อารมณ์เสียอะไรอีกหรือเปล่าถึงได้มีท่าทีแบบนั้น มูคยอมขึ้นเสียงเล็กน้อยขณะที่กำลังเดาความคิดในใจฮาจุน
“ปวดท้องงั้นเหรอ”
“…อืม”
“ประท้วงกันอีกแล้วเหรอ ทำไมเพิ่งมาบอกกันตอนนี้ล่ะ?”
“ถ้าไม่ล้างออกก็จะปวด แต่ถ้าล้างออกก็ไม่ปวด”
“เพิ่งจะมาบอกกันตอนนี้เนี่ยนะ”
เหมือนจะอารมณ์ดีขึ้นแล้ว แต่ทำไมโมโหอีกแล้วล่ะเนี่ย เขาไม่รู้เลยว่าปัญหาคืออะไร ถ้าไม่ล้างออกก็จะปวด แต่ถ้าล้างออกก็ไม่มีปัญหาอะไร ก็แค่นั้นเอง ก็ขั้นตอนการล้างมันน่าอายเลยไม่อยากพูดก็แค่นั้น
เพราะไม่รู้สาเหตุที่เขาโมโห ฮาจุนจึงแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องและปิดปากเงียบด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แต่แล้วมูคยอมก็ถอนหายใจออกมาหนึ่งครั้ง และนั่งคุกเข่าอยู่ด้านล่างของฮาจุนเหมือนตอนที่ใช้ปากทำก่อนหน้านี้ ฮาจุนที่สะดุ้งตกใจก้าวถอยหลังในทันที
“หันหลังแล้วยื่นก้นออกมา”
“ช่างเถอะ ฉันบอกว่าจะทำเองไง”
“จะทำให้หัวร้อนไปตลอดหรือไง”
“ไม่เอา”
‘ทำไมนายถึงหัวร้อนล่ะ’ เขาอยากจะถามออกไปแบบนั้นแต่ก็ได้แค่กัดปากเอาไว้ไม่พูดออกไป วันนี้คิมมูคยอมโมโหตั้งแต่แรกเริ่มเลย ดูเหมือนจะไม่พอใจที่คิดไปเองว่าฮาจุนตกลงไปในทะเลเลยกระโดดลงน้ำด้วยความตกใจ
แต่ถึงไม่ใช่เรื่องนั้น เขาก็อายแทบตายที่เมื่อกี้เอาปากไปดูดตรงนั้น แล้วยังจะมาทำแบบนั้นอีกงั้นเหรอ แถมยังมีเซ็กส์กันจนเสร็จแล้วด้วย
“ไม่สิ… ทำไมเพิ่งจะมาอายเอาตอนนี้ล่ะ”
ฉันอายเสมอนั่นแหละ ฮาจุนเก็บคำพูดนั้นเอาไว้ในใจ ส่วนมูคยอมก็ลุกขึ้นราวกับยอมแพ้แล้ว ทันทีที่ถอนหายใจด้วยความโล่งใจออกมาเบาๆ มูคยอมก็ดึงเอวของฮาจุนมากอดไว้
หน้าอกของทั้งสองติดกันเหมือนเมื่อสักครู่อีกครั้ง ฮาจุนที่เดาออกว่ามูคยอมตั้งใจจะทำอะไรดิ้นไปดิ้นมา
“อย่านะ ฉัน ฉันบอกว่าจะทำเองไง!”
“อยู่เฉยๆ หน่อยเถอะน่า”
น้ำที่ไหลลงมาจากฝักบัวทำให้ร่องระหว่างสะโพกเปียกชุ่ม นิ้วของมูคยอมแทรกเข้ามาตรงทางเข้าที่ยังคลายตัวอย่างอ่อนนุ่มอยู่ ฮาจุนฝังหน้าที่แดงขึ้นมาลงไปบนไหล่ของมูคยอมอย่างช่วยไม่ได้ และรอให้ขั้นตอนใหม่นี้สิ้นสุดลง
ทำไมถึงได้มีแต่เรื่องน่าอายเกิดขึ้นตลอดเลยนะ พอเริ่มจะทำใจให้ชินได้แล้วก็เกิดเรื่องขึ้นมาอีก แล้วพอจะทำใจให้ชินได้อีกก็ดันเกิดขึ้นอีก แต่ร่างกายที่ตึงเครียดของฮาจุนเองก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลงทีละนิดระหว่างที่นิ้วของมูคยอมแตะสัมผัสข้างใน ไม่ว่าจะเป็นการกดหรือถูบริเวณที่รู้สึก หรือสอดนิ้วเข้าไปหลายๆ นิ้วแล้วกวัดแกว่งหรือดึงเข้าดึงออก
มูคยอมไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นเลย เพียงแค่เขี่ยผนังด้านในลงมาอย่างระมัดระวังราวกับตั้งใจเอาน้ำอสุจิที่ตัวเองปล่อยเอาไว้ข้างในออกมาจริงๆ แต่แล้วก็ยิ่งรู้สึกแปลกมากกว่าเดิม ทุกครั้งที่ข้อต่อที่ทั้งยาวและแข็งสอดผ่านเข้าไปด้านในที่ปูดบวมขึ้นมา จะรู้สึกจั๊กจี้ต่างกับอารมณ์ทางเพศที่รู้สึกได้เวลาที่ถูกรังแกทางด้านหลัง และความรู้สึกแปลกประหลาดได้คืบคลานขึ้นมาบนร่างกายไปถึงหัวใจของเขา มูคยอมก็แค่ล้างออกให้เท่านั้นเอง ฮาจุนที่ไม่อยากจะรู้สึกแปลกๆ แบบนี้อยู่คนเดียวจึงกัดริมฝีปากเอาไว้ วันนี้น่ะ มีแต่เรื่องน่าอายตั้งแต่ต้นจนจบเลยจริงๆ
ขาที่เกือบจะกลับมามีแรงดันสั่นขึ้นมา เขาเกร็งแขนที่กอดมูคยอมเอาไว้และพยายามทนต่อไป แต่ก็รู้สึกได้ว่านิ้วที่สัมผัสด้านหลังค่อยๆ หลุดออกมาแล้ว
“น่าจะออกมาหมดแล้วนะ”
ได้ยินเสียงที่พูดออกมาแบบนั้น ฮาจุนที่เบื้องหน้าพร่ามัวไปหมด ไม่สามารถยกหัวขึ้นมาจากไหล่ของมูคยอมได้ มูคยอมกอดเอวของฮาจุนเอาไว้ราวกับช่วยพยุงและถามขึ้นมา
“ทำแบบนี้ถูกแล้วใช่ไหมเนี่ย”
ฮาจุนถอนหายใจยาวพลางพยักหน้าพร้อมกับลุกขึ้น เขาอยากจะออกจากห้องน้ำร้อนๆ ห้องนี้เร็วๆ พอออกห่างจากมูคยอมแล้ว ผ้าขนหนูผืนแห้งก็ตกลงมาบนหัว จึงรีบเอาผ้าผืนนั้นลงมาปิดหน้าเอาไว้
“ฉันออกไปก่อนนะ”
“โอเค”
ฮาจุนรีบก้าวเท้าออกมาทันที ในตอนที่วุ่นอยู่กับการหมุนลูกบิดประตูห้องน้ำโดยที่ทิ้งมูคยอมเอาไว้ข้างหลัง แกร๊ก ประตูก็ปลดล็อก เสียงเบาๆ นั่นดังสะท้อนในหูฮาจุนราวกับเสียงกระดิ่ง
พอยืนนิ่งด้วยความอึ้งไปชั่วขณะ ก็ได้ยินเสียงพูดที่เจือเสียงหัวเราะของมูคยอมดังมาจากด้านหลัง
“ตกใจอะไรกัน กลัวว่าฉันจะเปิดทิ้งเอาไว้จริงๆ เหรอ”
เหนื่อยเกินกว่าจะเถียงแล้ว ฮาจุนเดินโซเซออกมาจากห้องน้ำโดยไร้คำพูดใดๆ หลังจากสวมเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นที่เป็นชุดนอนลงบนร่างกายที่ยังไม่แห้งดีแล้วก็ทรุดตัวลงไปบนเตียง เขารู้สึกว่าห้องที่เย็นด้วยลมเย็นๆ ของแอร์เย็นมากขึ้นเพราะร่างกายที่เปียกชื้น หลังจากห่มผ้าห่มแล้ว เขาก็ดึงหมอนมาหนุนหัวและนอนทั้งอย่างนั้น
ทุกครั้งหลังจากที่มีเซ็กส์กับมูคยอมเสร็จ สุดท้ายเขาก็จะหมดแรง แต่วันนี้กลับเหนื่อยล้าด้วยสาเหตุที่ต่างออกไปจากเดิมนิดหน่อย เป็นความรู้สึกที่ตัวเองกลายเป็นใบไม้ร่วงที่ปลิวไปปลิวมาอยู่ในอากาศอยู่หลายต่อหลายครั้งและตกลงมาบนพื้นเปียกๆ
ยังได้ยินเสียงน้ำดังมาจากห้องน้ำอยู่รางๆ มูคยอมยังอยู่ในนั้น แต่ยังไงมูคยอมก็ยังอยู่ใกล้กัน บ้านของมูคยอมกว้างมาก แค่ชั้นหนึ่งก็มีห้องน้ำตั้งสามห้องแล้ว ถ้าออกจากห้องเพื่อไปอาบน้ำ ก็จะไม่รู้เลยว่ามูคยอมอยู่ในบ้านหรือเปล่า ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงเบาๆ เลย
พอมาคิดดูแล้ว การที่เขาเหนื่อยแบบนี้ก็เป็นเพราะมูคยอม แต่ระหว่างนั้นก็ยังได้ยินเสียงของอีกฝ่าย ยังไงมันก็ดีกว่าการอยู่คนเดียว เขาคิดว่าพักสักหน่อย แล้วไว้อีกฝ่ายกลับห้องไปเมื่อไหร่ก็ต้องซักเสื้อผ้าที่เปียกน้ำทะเล แล้วก็เอาไปตากไว้ที่ไหนสักที่ แล้วค่อยนอนแล้วกัน
เสียงน้ำเงียบลงระหว่างที่กำลังเหม่อคิดถึงเรื่องที่จะทำ ได้ยินเสียงเปิดประตูพร้อมกับรู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวเข้ามาในห้อง ถึงจะไม่มีความคิดที่จะแกล้งหลับ แต่ฮาจุนก็นอนนิ่งอยู่บนเตียงไม่ขยับไปไหน
ตามมาด้วยเสียงมูคยอมเดินลากเท้าที่ใส่สลิปเปอร์ เสียงเปิดตู้เสื้อผ้าดังแอ๊ดด้วย จะว่าไปแล้วห้องนี้ก็ไม่มีชุดให้เปลี่ยนเลยต้องใส่เสื้อคลุมกลับไปตามที่ตัวเองเป็นคนพูดไปเมื่อกี้ เสียงเสื้อสะบัดกระทบกับอากาศทำให้ความเงียบสั่นสะเทือนในช่วงสั้นๆ หลังจากนั้นก็เงียบไปสักพัก แล้วก็ได้ยินเสียงมูคยอมเดินอีกครั้ง เสียงนั้นไม่ได้ไปทางประตู แต่กำลังเข้ามาใกล้เตียงที่ฮาจุนกำลังนอนอยู่
“หลับแล้วเหรอ”
ถึงฮาจุนจะไม่ได้ตอบ แต่ก็ไม่ได้หลับตาเช่นกัน ที่นอนเอนไปฝั่งหนึ่งเล็กน้อยเมื่อมีสิ่งหนักๆ นั่งทับลงมา มูคยอมที่นั่งอยู่ข้างๆ สบตากับฮาจุนที่กำลังนอนอยู่ อาจจะอารมณ์ดีขึ้นมาอีกครั้งระหว่างที่อาบน้ำอยู่คนเดียว ใบหน้าของมูคยอมจึงสงบนิ่งและมีรอยยิ้มบางๆ ปรากฏอยู่
วันนี้อารมณ์แปรปรวนเก่งจริงๆ เลยนะ ฮาจุนโมโหขึ้นมาโดยไร้เหตุผลเพราะสีหน้าแบบนั้น ถึงจะอารมณ์เสียแค่ไหนก็เถอะ แต่ก็ทำมาเป็นพูดว่าหายโมโหแล้ว แล้วดันมาทำให้ตัวเขาเหนื่อยแบบนี้ ตอนนี้ก็จะมาบอกว่าหายโมโหแล้วงั้นเหรอ
“วันนี้ค่อนข้างเหนื่อยเลยใช่ไหม”
อีกฝ่ายกระแอมออกมาหนึ่งครั้งและถามราวกับรู้สึกผิดอยู่หน่อยๆ น่าอายเหลือเกินที่เมื่อกี้หัวใจของเขายังห่อเหี่ยวอยู่เลย แต่ฮาจุนกลับหลุดยิ้มออกมาเพราะสีหน้าของอีกฝ่ายที่แอบสังเกตเขาอยู่ ดันยิ้มออกไปซะแล้ว จะแกล้งโมโหให้มากกว่าเดิมก็ไม่ได้ แต่ยังไงการที่มูคยอมเป็นฝ่ายสังเกตก่อนก็ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยๆ เขาจึงลองพูดออกไป
“นายคิดว่าฉันไม่เหนื่อยมาตลอดเลยเหรอ”
มูคยอมก้มตัวลงและยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฮาจุนมากกว่าเดิม
“ก็นายไม่บอก ฉันก็ไม่รู้สิว่าถ้าปล่อยข้างในนายจะปวดท้อง”
“แล้วถ้าบอกล่ะ จะไม่ปล่อยข้างในหรือไง”
“ถึงจะรับปากไม่ได้ก็เถอะ… แต่ก็จะล้างออกให้เหมือนเมื่อกี้”
“ฉันไม่เป็นไรเลยจริงๆ ให้ฉันทำเองมันสบายกว่ามากเลย”
แค่คิดว่าจะฝากบั้นท้ายให้มูคยอมล้างน้ำอสุจิที่อยู่ในร่างกายออกให้ก็ปวดหัวแล้ว มูคยอมไม่ได้ลุกขึ้น เขาจ้องมองฮาจุนพร้อมกับถามขึ้นมาทันที
“ตอนที่นายทำกับคนอื่น นายเคยปล่อยน้ำพุออกมาไหม”
“…น้ำพุ”
“ทำไมแกล้งทำเป็นไม่รู้อีกแล้วล่ะ เมื่อกี้นายปล่อยใส่มือฉันไง”
โอ๊ย ข้ามเรื่องนั้นไปเถอะน่า ใบหน้าของฮาจุนแดงขึ้นมาในพริบตา
เรียกฉี่ที่ปล่อยออกมาระหว่างมีเซ็กส์ว่าน้ำพุเหรอเนี่ย การฟังคำศัพท์ที่ฟังไม่เข้าใจก็เป็นเรื่องยากอยู่แล้ว และเขาก็ไม่สามารถตอบกลับไปได้เพราะความอาย พอฮาจุนไม่รู้ว่าควรจะมองไปที่ไหนดี จึงหลบสายตาอีกฝ่าย มูคยอมจึงแค่นยิ้มออกมาและลุกขึ้น
“ไม่เคยใช่ไหม?”
“ก็ใช่น่ะสิ! ไม่เคยเลยสักครั้ง แล้วก็จะไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีกด้วย”
“ทำไมล่ะ ถ้ามันจะออกมาก็อย่าอั้นเอาไว้”
“โอ๊ย เลิกพูดสักทีเถอะ”
พอไม่ใช่เรื่องของตัวเองนี่พูดเก่งจังนะ พอจ้องมองด้วยความไม่พอใจ อีกฝ่ายก็หรี่ตาจ้องมองลงมาที่ฮาจุนราวกับกำลังกวนประสาท แล้วก็พูดอะไรบางอย่างออกมาด้วยท่าทีสนุกสนานเหมือนพูดคนเดียว
“ถึงจะคบกับพวกไร้นำยามามากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ เพราะไม่ว่าอะไรก็ตามมักจะเน้นที่คุณภาพมากกว่าปริมาณอยู่แล้ว”
พูดเรื่องอะไรอีกแล้วเนี่ย…
แต่ก็ดูจะอารมณ์ดีกว่าเมื่อกี้อย่างเห็นได้ชัด ฮาจุนที่กังวลมาตลอดจึงถามออกมาอย่างระมัดระวัง
“หายโมโหแล้วเหรอ”
พอฮาจุนถามออกไป มูคยอมก็มีท่าทีประหม่าเล็กน้อย คงจะรู้สึกได้ว่าโมโห แต่แล้วมูคยอมก็กลับจ้องมองเขาพลางบ่นพึมพำด้วยคำพูดที่ตั้งใจจะโยนความรับผิดชอบเรื่องที่โมโห
“ไม่มีใครไม่ตกใจหรอกที่เห็นนายเดินลงทะเลไปซะลึกแบบนั้นในตอนกลางคืนมืดๆ”
“…นายพูดถูก ขอโทษนะ ฉันว่ายน้ำเก่ง ก็เลยไม่ได้คิดอะไร”
สระว่ายน้ำกับทะเลมันต่างกันตามที่มูคยอมพูด ถึงจะเป็นคนที่ว่ายน้ำเก่งแค่ไหน แต่ถ้าเกิดพลาดขึ้นมา ในทะเลที่มืดมิดก็อาจจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นได้ อย่าว่าแต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเลย นั่นเป็นสถานการณ์ที่ไม่มีใครอยู่ในบริเวณนั้นเลยสักคน ถ้าเกิดพลาดขึ้นมาก็ขอให้ใครช่วยไม่ได้
พอคิดแบบนั้นแล้วก็รู้สึกผิดต่อมูคยอมที่ตกใจ และรู้สึกตกใจกับความคิดของตัวเองที่ก่อนหน้านี้ทำเรื่องอันตรายโดยที่ไม่คิดให้ดีอยู่นิดหน่อย
ตอนแรกเขาตั้งใจจะไปเดินเล่นถึงสถานที่ที่ค่อนข้างเงียบสงบเพียงเท่านั้น ไม่ได้คิดที่จะว่ายน้ำเลย แต่พอยืนมองดูทะเลแล้วก็เกิดอยากจะลงไปในน้ำขึ้นมาราวกับถูกหลอกล่อไปชั่วขณะ เป็นเวทมนตร์ของทะเลยามค่ำคืนและเสียงคลื่นหรือเปล่านะ ทำไมตอนนั้นถึงไม่ได้คิดเลยว่ามันอันตราย
“อีฮาจุน”
มูคยอมที่ไม่ได้พูดอะไรไปชั่วขณะ เอ่ยเรียกฮาจุน เป็นน้ำเสียงที่แข็งกระด้างแปลกๆ
“ทำไม”
“ในความสัมพันธ์ที่มีเพียงแค่เซ็กส์น่ะ ไม่ควรมีการสัญญาหรือการผูกมัดกัน เรื่องนั้นฉันรู้ดี แต่ยังไงก็ควรจะสบายใจกันทั้งสองฝ่าย… ระหว่างที่มาเจอกัน เราทำกันแค่สองคนดีไหม”
ฮาจุนกะพริบตาให้กับคำพูดที่ไม่ทันตั้งตัว ไม่เข้าใจเลยว่าหมายความว่ายังไง พอเขาไม่สามารถตอบกลับไปได้ มูคยอมก็พูดต่อด้วยท่าทีที่รีบร้อนกว่าเดิมเล็กน้อย