Half Line ข้ามเส้นนี้ไป ระวังตกหลุมรัก - ตอนที่ 69
ความรู้สึกตกใจที่ได้ยินคำพูดอันไม่คาดคิด และความรู้สึกงงงวยไปชั่วขณะเพราะตัวเองทำท่าทีต่างกับที่ตั้งใจไว้ เมื่อความรู้สึกทั้งสองถาโถมเข้าใส่ การยอมรับข้อเสนอของมูคยอมจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไรขนาดนั้น ที่จะคุยกัน เอาไว้หลังจากทำเรื่องที่มูคยอมต้องการก่อนก็ยังไม่สาย หากดูจากประสบการณ์ หลังจากมีเซ็กส์กันแล้ว มูคยอมจะค่อนข้างอารมณ์ผ่อนคลาย เพราะฉะนั้นค่อยคุยกันตอนนั้นอาจจะดีกว่าก็ได้
แต่พอเอาเข้าจริง มูคยอมซึ่งเป็นคนเอ่ยปากชวนกลับมีสีหน้าไม่ยินดีอะไรขนาดนั้นกับการยินยอมของฮาจุน คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เขาไม่ได้ขยับตัวเลยแม้แต่นิดเดียว เพียงแค่จ้องฮาจุนเขม็งทั้งที่ยังยืนสะพายกระเป๋าอยู่หน้า
ชวนให้ทำก็เลยบอกว่าจะทำ แล้วไม่ชอบใจอะไรอีกแล้วล่ะ ฮาจุนสังเกตท่าทีของเขาอยู่ตรงหน้า เหมือนเดี๋ยวนี้จะเริ่มรู้ถึงความคิดของคิมมูคยอมก็จริง คิดว่าตัวเองคุ้นเคยมากๆ กับการหาคำตอบให้ตรงกับโจทย์ที่เขาตั้งขึ้นมา แต่วันนี้กลับไม่เป็นแบบนั้น เรื่องนี้เข้าใจยากมากเกินไป
“ถ้างั้นก็ถอด”
มูคยอมเดินก้าวเท้าหนักๆ เข้ามาวางกระเป๋าไว้บนโต๊ะเสียงดังตึงด้วยความรู้สึกสับสนพลางพูดซ้ำ
ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย จู่ๆ มูคยอมก็เมินเฉยใส่กันโดยไม่แม้แต่จะบอกเหตุผล ท่าทีของเขามันกะทันหันมากเกินไปจนใช้เวลาสักพักกว่าจะยอมรับได้ แต่สถานการณ์ในตอนนี้กลับน่างุนงงมากกว่าหลายเท่า
ถึงอย่างนั้น ฮาจุนก็รีบถอดกางเกงกับชั้นในลงแล้วเหลือบมองมูคยอม เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา สุดท้าย มือที่เลิกเสื้อเชิ้ตขึ้นจนสุดก็สั่นเล็กน้อย ในขณะที่ฮาจุนถอดเสื้อผ้าออกจนหมด เขากลับไม่ถอดอะไรเลยแม้แต่เสื้อเชิ้ตตัวเดียว
“ขึ้นไป”
คำสั่งรอบที่สองทำให้ฮาจุนยกก้นขึ้นนั่งพาดกับโต๊ะซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังอย่างซวนเซ ความเย็นจากไม้เคลือบเงาสัมผัสลงบนผิวเปลือยเปล่าที่ร้อนรุ่มกว่าปกติจนทำให้ขนลุกเกรียว
ประสาทสัมผัสของฮาจุนเหมือนรู้สึกได้ถึงความเย็นในตอนนั้นอีกครั้ง ตอนที่ฮาจุนถูกมูคยอมลากตัวไปแล้วจับนอนลงบนโต๊ะ ในวันที่ตกอยู่ในความตื่นตระหนกเล็กน้อยเพราะนึกว่าไฟไหม้ ฮาจุนเวียนหัว ท้องไส้ก็รู้สึกปั่นป่วน เขานึกสงสัยว่าจะทำให้มูคยอมพอใจได้หรือไม่ แต่วันนั้นเขาก็อดทนเพราะอยากกลับมาได้รับความใจดีจากมูคยอมในสถานะที่เคยทำข้อตกลงกันเช่นเดิม
มันต่างกับตอนนั้น แม้รู้ว่าสภาพร่างกายแย่ลงแต่ก็ยังฝืนตัวเอง แต่สุดท้ายแล้ว กระทั่งในวันนั้นซึ่งเขาทนไม่ไหวก็ยังไม่ได้รู้สึกแบบนี้เลย
จะมีเซ็กส์กันก็ไม่เป็นไรหรอก แต่บรรยากาศรอบตัวมูคยอมออกจะ… น่ากลัวไปสักหน่อย
มูคยอมเปิดประเป๋าหยิบเจลออกมา เขาก้มลงมองเจลในมือครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเดินเข้ามาใกล้โต๊ะแล้ววางมันลงตรงหว่างขาของฮาจุนซึ่งนั่งอยู่ ดวงตาสีดำกลอกมองตามการเคลื่อนไหวของมือตัวเองแล้วหยุดลงที่เจล มูคยอมพูดขึ้น
“นายขยายเองสิ”
“…”
“ก่อนหน้านี้ก็เคยให้ดูครั้งหนึ่งนี่ ของแถมไง”
มูคยอมปล่อยมือออกจากเจลที่วางไว้แล้วลากเก้าอี้ตัวหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ โต๊ะมานั่ง เขาจับพนักพิงมาไว้ด้านหน้าแล้วนั่งเท้าแขนลงบนนั้น จากนั้นก็ก้มตัวลงพร้อมกับพูดขึ้น
“ที่วันนั้นทำแล้วเลิกไป ลองทำซะวันนี้สิ ฉันเพิ่งแข่งเสร็จมา จะเตรียมให้ก็เหนื่อยน่ะ”
‘ของแถมงั้นเหรอ’ ตัวเขาเคยทำแบบนั้นเมื่อไรกันนะ ฮาจุนนึกย้อนไปในความทรงจำเพราะคำบอกเล่าที่เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย จากนั้นจึงนึกถึงวันที่มูคยอมเคยพูดแบบเดียวกันขึ้นมาได้อย่างเลือนราง
จำได้ว่าเป็นตอนที่มีเซ็กส์กันครั้งที่สอง วันที่บอกว่าไม่เป็นไรไปแบบสุ่มสี่สุ่มห้าโดยไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย แล้วมีเซ็กส์กับเขาครั้งแรก สัมผัสที่เหมือนกับด้านหลังถลอกและฉีกขาดมันเจ็บมากเกินกว่าที่เคยจินตนาการไว้ เพราะอย่างนั้น ก่อนถึงครั้งที่สอง เขาจึงหาข้อมูลพอสมควรแล้วเตรียมตัวไว้ล่วงหน้า
แน่นอนว่าตอนนั้นเขาสอดนิ้วเข้าทางด้านหลังเพราะคิดว่าต้องทำด้วยตัวเอง ตอนนี้ถึงเพิ่งนึกออกว่ามูคยอมเคยพูดเรื่องของแถมอย่างนู้นอย่างนี้ พอตอบว่าถ้าไม่ขยายออกก่อนก็จะเจ็บ มูคยอมก็ทำท่าโกรธฮึดฮัดพร้อมกับพูดว่าก็บอกมาสิ ทำไมต้องทำเหมือนประท้วงด้วย หลังจากนั้นเป็นต้นมา มูคยอมก็คอยขยายให้ตลอด เขาจึงลืมเรื่องนี้ไป
ฮาจุนก้มลงมองหลอดกึ่งโปร่งแสงที่วางอยู่ตรงหว่างขาของตัวเองแล้วหยิบมันขึ้นมาอย่างเชื่องช้า ‘ป๊อก’ เสียงเปิดฝาพลาสติกดังก้องเป็นพิเศษภายในห้องอันเงียบงัน เขาบีบของเหลวหนืดๆ ไร้สีสันใส่มืออีกข้างเป็นทาง บีบไม่หยุดจนคิดว่าเยอะเกินไปหรือเปล่า
ตอนนั้นฮาจุนไม่นึกอายเพราะคิดว่าเป็นขั้นตอนที่ต้องทำอย่างแน่นอน แต่วันนี้กลับรู้สึกกระดากอายในเรื่องที่เคยทำเมื่อวันก่อนๆ ขึ้นมาแบบที่ไม่เคยเป็น เมื่อเจลเยอะจนล้นอยู่บนมือ ฮาจุนจึงวางหลอดนั้นลง
ฮาจุนก้มลงมองมือเฉอะแฉะเป็นเงาวาววับด้วยแววตาลุกลน จากนั้นก็ขยับมือลงไปยังจุดที่อยู่ลึกตรงระหว่างขาอย่างเชื่องช้า
“…ฮึก…”
ของเหลวหนืดและเย็นที่เพิ่งบีบลงบนมือสัมผัสลงตรงจุดที่ถูกซ่อนเอาไว้อย่างมิดชิดที่สุดในร่างกาย
ทั้งโต๊ะ ทั้งเจล ทุกอย่างที่สัมผัสกับร่างกายของเขาช่างเย็นเยียบ ร่างกายที่เคยร้อนรุ่มและคึกคักเพราะความเร่าร้อนจากชัยชนะจนถึงเมื่อครู่นี้กลับเย็นลงราวกับไม่เคยเป็นแบบนั้นมาก่อน ไม่ใช่แค่มือ แต่ฮาจุนรู้สึกเหมือนกับว่าทั่วทั้งร่างกายของเขากำลังสั่นขึ้นทีละนิด
ฮาจุนให้เจลลื่นๆ ช่วยนำพานิ้วให้แหวกเข้าไปในร่างกายหนึ่งนิ้ว และสองนิ้วตามลำดับ แม้เป็นนิ้วของตัวเขาเองแต่กลับรู้สึกไม่คุ้นเคยราวกับเป็นของคนอื่น ภายในร่างกายซึ่งถูกปิดไว้และไม่ได้รับการรุกล้ำมานาน ผนังด้านในที่ร้อนและชื้นแฉะกำลังบีบหดตัวอย่างเชื่องช้าราวกับจะดันสิ่งที่รุกล้ำเข้ามาให้หลุดออกไป
‘ไม่ใช่อันนี้ ผิดแล้ว’
ร่างกายของตัวเองเหมือนกำลังเตือนเขาแบบนั้น บอกว่าเขาเองก็รู้ ว่าสิ่งที่ควรต้องเข้ามาในตัวเขาไม่ใช่สิ่งนี้ เสียงครางเล็ดลอดออกมา ไม่ใช่เพราะรู้สึกดีแต่เป็นเพราะมีสิ่งแปลกปลอมรุกล้ำเข้าไป
“อึก อา…”
ฮาจุนกำลังแหวกขาแล้วใช้มือของตัวเองสอดใส่เข้าไปในช่องทางด้านหลังอยู่ตรงหน้า มูคยอมเพียงแค่นั่งมองฮาจุนโดยไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมา ราวกับกำลังประเมินหรือไม่ก็สังเกตการณ์อยู่
เพราะไม่เคยทำแบบนี้อย่างจริงจังเลยสักครั้งก็ต้องเก้ๆ กังๆ ไม่น้อยอยู่แล้ว มือของมูคยอมใหญ่กว่าของฮาจุนอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาสูงต่างกันประมาณสิบเซนติเมตร แต่น้ำหนักตัวกลับต่างกันยิ่งกว่า เพราะอย่างนั้นแน่นอนว่าสัมผัสของกล้ามเนื้อมูคยอมย่อมแตกต่างกับฮาจุนตั้งแต่เค้าโครงร่างกายแล้ว
มือก็ใหญ่กว่า นิ้วก็ยาวและหนากว่า มือของมูคยอมห้อยอยู่บนพนักพิงเก้าอี้อย่างนิ่งเฉย ฮาจุนส่งสายตาไปมองที่มือของเขาโดยไม่รู้ตัว
ถึงแม้ว่าจะถูกมือใหญ่ขนาดนั้นสอดใส่เข้ามา แต่เมื่อเป็นมูคยอมที่สัมผัสกับด้านหลัง ช่องทางที่เคยปิดสนิทก็จะอ่อนนุ่มขึ้นทันที ไม่รู้ว่าเขาหาจุดที่ทำให้รู้สึกได้ง่ายขนาดนั้นได้อย่างไร ทั่วทั้งร่างจึงร้อนรุ่มขึ้นในชั่วพริบตา เมื่อมือใหญ่ๆ ของเขาเข้ามาจนเกือบหมดทุกนิ้วแล้วขยับเข้าออก มันก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บเลยแต่กลับดีเสียจนดวงตาพร่ามัว
เป็นร่างกายของตัวเขาเอง แน่นอนว่าเขาควรจะต้องรู้เกี่ยวกับภายในร่างกายของตัวเองเป็นอย่างดีมากกว่ามูคยอมแต่มือของเขากลับไม่สามารถทำให้ร่างกายร้อนรุ่มขึ้นได้ แม้สอดเข้าไปจนสุดนิ้ว มันก็เข้าไปไม่ถึงจุดที่ลึกเท่ากับตอนที่มูคยอมทำให้ และถึงแม้จะลองบีบเค้นทั่วทุกจุดแล้ว ความสุขสมเหมือนตอนมูคยอมสัมผัสก็ไม่ก่อตัวขึ้นเลย
“อา อึก”
เมื่อบรรยากาศตึงเครียดและกดดันทำให้ร่างกายไม่เป็นไปดั่งใจต้องการ ฮาจุนจึงใจร้อนขึ้นเรื่อยๆ แล้วในที่สุด การขยับนิ้วของฮาจุนก็รุนแรงขึ้น
อย่างไรซะ มันก็แค่ขั้นตอนขยายช่องทางให้เปิดออกก่อนสอดใส่แกนกายเข้ามาเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นจะรู้สึกดีหรือไม่ดี แค่บรรลุตามเป้าหมายก็พอแล้ว เมื่อฮาจุนหมุนข้อมืออย่างแรงด้วยความเลินเล่อทั้งที่ยังสอดนิ้วเข้ามาอยู่ น้ำตาของเขาก็คลอขึ้นเต็มหน่วยในชั่วพริบตาเพราะความเจ็บปวดจากช่องทางด้านหลังที่ถูกฝืนให้แยกออกกว้าง
มูคยอมลุกพรวดขึ้นแทบจะในขณะเดียวกันกับการกระทำนั้น เขาก้าวฉับๆ เข้ามาถึงตัวฮาจุนด้วยฝีเท้าเพียงไม่กี่ก้าวแล้วฉวยข้อมือของฮาจุนออกไป นิ้วมือที่เติมเต็มภายในร่างกายหลุดออกอย่างรวดเร็ว
เป็นเวลาเพียงครู่เดียวเท่านั้น แต่ปากช่องทางและโพรงเนื้อด้านในที่ถูกรุกล้ำตามอำเภอใจกลับเจ็บแสบ ฮาจุนดิ้นเบาๆ พลางเงยหน้าขึ้นมองมูคยอมทั้งที่ถูกจับข้อมือไว้ เขาขมวดคิ้วมองฮาจุนราวกับสับสนเล็กน้อย มูคยอมเผยอปากขึ้นนิดหน่อยราวกับจะพูดอะไรบางอย่างแล้วหลังจากนั้นครู่หนึ่งเขาจึงพูดเชิงต่อว่าออกมา
“…นายทำอะไร แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวยังทำแบบถูกวิธีไม่ได้อีกเหรอ”
‘ใช่ ฉันทำไม่ได้ ทุกวันนายทำให้ แล้วจู่ๆ จะให้ทำเก่งๆ ได้ยังไงล่ะ’
แต่เพราะบรรยากาศดูไม่ควรตอบแบบนั้นออกไป ฮาจุนจึงกล้ำกลืนเสียงบ่นที่เต็มไปด้วยความรู้สึกไม่ยุติธรรมเอาไว้ในใจ ไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้งที่ฮาจุนได้ฟังคำว่ากล่าวจากเขาตอนหลับนอนกัน มูคยอมตรวจดูปากช่องทางอย่างระมัดระวังแล้วบ่นพึมพำออกมา
“มันบวมก่อนจะใส่เข้าไปอีกนะ”
มูคยอมจิ๊ปากแล้วก้มลงมองฮาจุน ไม่นานก็เบนสายตาไป ครั้งนี้ฮาจุนก็ยังคงไม่สามารถอ่านสีหน้าของเขาได้
รู้สึกคล้ายกับมูคยอมตอนเจอที่สนามฝึกนอกสถานที่อยู่นิดหน่อยเหมือนกัน มูคยอมในวันนั้นโกรธฮาจุน เพราะตกใจที่เห็นเขาเดินริมทะเลตอนกลางคืน ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้ว มูคยอมจะส่งยิ้มมาให้เขาทีหลังราวกับความโกรธนั้นมันปลิวหายไปอย่างรวดเร็วก็ตาม…
มูคยอมในตอนนี้ดูคล้ายกับตอนนั้นแต่ก็ยังแตกต่าง รู้สึกเหมือนว่าเขาโกรธ แต่กลับไม่รู้สึกว่าความโกรธนั้นมีต่อตัวฮาจุนเลย รู้สึกเหมือนคนที่จิตใจบอบช้ำแต่แกล้งทำเป็นโกรธด้วย ถ้าไม่ใช่แบบนั้น…
“อ๊ะ!”
ฮาจุนกำลังมองใบหน้าของมูคยอมพร้อมกับลองอ่านสีหน้าของเขา แต่แล้วความคิดของฮาจุนก็แตกกระเจิงในชั่วพริบตา ริมฝีปากของมูคยอมสัมผัสลงมาเหนือเข่าที่ตั้งชันไว้ บนขาที่ยังอ้าค้างไว้อยู่ ริมฝีปากลื่นกับลิ้นที่แตะลงมาไล้เลียลงบนผิวอย่างกะทันหันส่งผ่านสัมผัสวาบหวามไปทั่วทั้งร่างอย่างรวดเร็วพร้อมกับครอบงำร่างกายของฮาจุน
ริมฝีปากของมูคยอมสัมผัสลงบนหัวเข่าแล้วซอกซอนเข้าไปจนถึงต้นขาด้านในราวกับน้ำที่ไหลไปเรื่อยอย่างไม่หยุดพัก เขาแลบลิ้นออกมาครึ่งหนึ่งแล้วกดลิ้นลงไล้เลียผิวขาวผ่องนุ่มนิ่ม มูคยอมทิ้งร่องรอยชื้นแฉะไว้บนผิวที่เขาเคลื่อนผ่านไปราวกับจุดที่หอยทากคลานผ่าน
มูคยอมหยุดเคลื่อนริมฝีปากเป็นครั้งคราว เมื่อเขาหยุดแล้วดูดดุนผิวเนื้อตรงตำแหน่งเดียวย้ำๆ ตรงนั้นก็รู้สึกราวกับมีประกายไฟเล็กๆ ดีดเปรี๊ยะๆ กระเด็นออกมาจากกองไฟ ขาที่ถูกยึดไว้สั่นระริก
“อา อือ… อึก”
มูคยอมดูดดึงเนื้อด้านในต้นขาอยู่พักหนึ่งแล้วจึงประทับริมฝีปากลงไปเหนือพื้นที่ตรงนั้น จากนั้นริมฝีปากที่คลอเคลียร่างกายอย่างเชื่องช้าจึงปัดผ่านกระดูกเชิงกรานแล้วสัมผัสลงตรงหน้าท้อง ริมฝีปากและลิ้นของมูคยอมดูดดุนผิวบริเวณนั้นอีกครั้งพลางสัมผัสอย่างนุ่มนวลแล้วขยับต่อจนมาถึงหน้าอก
ฮาจุนเอนตัวลงนอนบนโต๊ะตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ เขาใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดก้มลงมองภาพของคนที่ซุกหน้าลงตรงหว่างขาของตัวเองพร้อมกับหลับตาคลอเคลียพื้นผิวเหนือร่างกายของตน เมื่อมูคยอมเกร็งลิ้นกดขยี้ลงบนยอดอก ภาพตรงหน้าก็พร่ามัวแล้วเอวของเขาก็กระเด้งขึ้นตั้งแต่ตอนนี้
ตอนสอดใส่และควานเข้าไปด้วยมือของตัวเอง ร่างกายของเขาได้แต่สงบนิ่ง แต่แล้วสัมผัสจากมูคยอมซึ่งไม่ได้รับมานานก็ทำให้ร่างกายจอมเจ้าเล่ห์ตอบสนองอย่างรวดเร็ว บรรยากาศไม่ได้ดีขนาดนั้นแต่ดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกมากเกินไปจนน่าอาย ฮาจุนกัดฟันกลั้นเสียงครางแต่พอมูคยอมโฉบริมฝีปากครอบวงปานหน้าอกพร้อมดูดดุนจนเสียงดังจ๊วบจ๊าบ ความพยายามของฮาจุนก็พังทลายลงอย่างสูญค่า
“อื๊อ! ฮา อ๊า!”
น้ำเสียงที่เร่าร้อนอย่างเต็มที่ถูกเปล่งออกมานอกริมฝีปากอย่างเมินเฉยต่อความกระดากอาย ลิ้นกับริมฝีปากของมูคยอมสลับไปมาระหว่างเม็ดเล็กสองข้างพร้อมหยอกเย้าดูดดึงและใช้ฟันขบย้ำ เมื่อการกระตุ้นอย่างรุนแรงทำให้รู้สึกเจ็บแปลบเล็กน้อยจนบิดร่างกายท่อนบนโดยไม่รู้ตัว ลิ้นของมูคยอมก็แผ่ออกไล้เลียเหนือจุดที่ขึ้นสีแดงจัดอย่างอ่อนโยน
เช่นเดียวกับที่ฮาจุนคาดไม่ถึงกับข้อเสนอของเขา วันนี้ก็ไม่ได้จินตนาการไว้ว่าจะได้รับสัมผัสอันอ่อนโยนแบบนี้จากเขาเช่นกัน ในขณะที่ฮาจุนดิ้นพล่านอย่างไร้สติ ปลายนิ้วลื่นของมูคยอมซึ่งไม่รู้ว่าทาเจลตั้งแต่เมื่อไรก็คลำอยู่เหนือปากช่องทาง
ส่วนคับแคบบวมขึ้นเล็กน้อยเพราะใช้มือตัวเองควานเข้าไปอย่างรุนแรงเมื่อครู่นี้ ปลายนิ้วโป้งทู่ๆ กดนวดลงบนส่วนนั้นอย่างเชื่องช้าครั้งแล้วครั้งเล่า ในระหว่างที่ทำแบบนั้น มูคยอมซึ่งไม่ได้พูดอะไรมาพักหนึ่งจึงถามออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ไม่เจ็บ…เหรอ”
วิธีการพูดของเขาฟังดูสงสัยและลังเลราวกับกำลังถามเรื่องที่ไม่ควรถาม ฮาจุนส่ายหน้า
“ไม่เจ็บ ไม่เลย”
เพียงแค่บวมนิดเดียวเท่านั้น ไม่แม้แต่จะเจ็บแสบและไม่มีกระทั่งความปวดร้อน คำตอบนั้นทำให้มูคยอมทอดสายตามองใบหน้าของฮาจุน
ในวันนี้ แม้ว่าจะลูบไล้เล้าโลมให้แต่มูคยอมก็ไม่ยอมสบตาง่ายๆ ฮาจุนมองเหม่อสบตาเขาซึ่งทอดมองมาหลังจากที่รออยู่นาน ความหวาดกลัวชั่วขณะซึ่งรู้สึกได้ในตอนแรกปลิวหายไปหมดแล้วเมื่อเขาขยับเข้ามาใกล้ ฮาจุนคิดว่าเขาตั้งใจสะสางความสัมพันธ์หลังจากที่อะไรบางอย่างทำให้เขาไม่ชอบตนเองขึ้นมาแล้วจู่ๆ ก็เมินเฉยใส่กัน แต่ไม่ว่าภายในใจจะเป็นเช่นไร ชายคนนี้ผู้ซึ่งสัมผัสตัวฮาจุนอยู่ในความเป็นจริง ยังคงเป็นคิมมูคยอมผู้คุ้นเคยซึ่งไม่จำเป็นจะต้องหวาดกลัวคนเดิม
นิ้วโป้งทู่ๆ ที่เคยลูบคลำตรงปากช่องทางผละออกไปครู่หนึ่ง แล้วนิ้วหนายาวก็เริ่มสอดแทรกเข้ามาด้านในอย่างเชื่องช้า มันสร้างสัมผัสวาบหวามด้านในโพรงเนื้อจนขนลุกและรู้สึกได้ถึงข้อนิ้วนูนราวกับตาเห็น เมื่อนิ้วที่แทรกเข้ามาจนสุดโคนออกแรงเล็กน้อยแล้วกดลงตรงผนังด้านใน ตรงเอวก็เสียววาบขึ้น ริมฝีปากฮาจุนอ้าออกตามแรงอารมณ์
“ฮ้า! อา อ๊า…!”
สะโพกของฮาจุนเกร็งขึ้นโดยอัตโนมัติ ปลายเท้าที่ยกขึ้นวางอยู่ขอบโต๊ะในท่าอ้าขาค่อยๆ จิกเข้าหากัน ความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วกับตอนที่สอดนิ้วของตัวเองเข้าไปทำให้ลมหายใจที่เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากอ้าร้อนขึ้นในชั่วขณะเดียว
เมื่อนิ้วที่เลอะเจลจนชุ่มแทรกเข้ามา ไม่นานเสียงของเหลวเหนียวแฉะก็ดังขึ้นจากด้านล่าง แผ่นหลังของฮาจุนแนบไปกับโต๊ะอย่างเต็มที่ โต๊ะที่เย็นจนทำให้ตัวของเขาเย็นไปด้วยในตอนแรก ตอนนี้กลับกำลังอุ่นขึ้นเพราะอุณหภูมิร่างกายของฮาจุน
จำนวนนิ้วที่สอดใส่เพิ่มเป็นสองนิ้ว และสามนิ้วโดยไม่มีคำเตือนใดๆ นิ้วที่ขยับเข้าออกอย่างเชื่องช้าในตอนแรก ตอนนี้กลับขยับไปจนถึงข้อมือแล้วสั่นสะเทือนไปทั้งโพรงเนื้อด้านในจนเกิดเสียงน่าอาย
“อา อึก! อือ… อึ ฮึก…”
เสียงบดบี้ดังออกมาอย่างหยุดไม่อยู่พร้อมกับปลายนิ้วที่กระทุ้งช่องทางรัก ขาไร้เรี่ยวแรงราวกับกล้ามเนื้อด้านในต้นขาที่แยกกว้างหลอมละลายหายไปหมด ฮาจุนจึงต้องจิกเท้าที่ยกขึ้นไว้ตรงขอบโต๊ะ เพราะถ้าไม่ทำแบบนั้น ขาน่าจะสั่นจนลื่นตกลงไปด้านล่าง
‘ทำไมมือของฉันเองถึงไม่ได้แบบนี้นะ อันนี้ก็เป็นเพราะชำนาญต่างกันเหรอ’
ในตอนที่สมองอันมึนเบลอเสี้ยวหนึ่งคิดเรื่องไร้สาระแบบนั้น ปลายนิ้วของมูคยอมก็กดเน้นลงมาตรงจุดรวมความรู้สึกอย่างรุนแรง ความสุขกระสันระเบิดออกมา ในขณะเดียวกัน ความคิดที่เคยอยู่ในหัวก็ไหลออกไปพร้อมเสียงอ่อนระโหย
“อะ อา ฮึก! คิม มูคยอม มือนาย ดี…”
“…บ้าเอ๊ย เงียบปากซะ”
มูคยอมถอนหายใจพลางพึมพำแล้วถอนมือออก เมื่อสิ่งที่สั่นคลอนภายในร่างกายถูกเอาออกไปตามใจชอบ ความแจ่มชัดก็ค่อยๆ กลับมาในหัวของฮาจุนซึ่งเลือนรางราวกับมีหมอกปกคลุม
มูคยอมกำลังดึงกางเกงด้านหน้าลง ท่อนเนื้อใหญ่ซึ่งตื่นเต็มตัวในขณะที่สัมผัสและไล้เลียฮาจุนดีดตัวออกมาชูชันขึ้นไปทางหน้าท้อง เป็นภาพที่เห็นอยู่ตลอด แต่คงเพราะคิดว่าจะไม่ได้เห็นภาพมูคยอมเกิดความใคร่ในตัวเขาอีกครั้งแล้ว ฮาจุนจึงรู้สึกผ่อนคลายอย่างประหลาดเพราะข้อเท็จจริงที่ว่ามูคยอมแข็งตัวขึ้นอย่างเต็มที่